คลังปิดหีบรายได้ปี’68 ‘3 กรมภาษี’ หืดจับ-ปีหน้าโจทย์ยาก

รัฐบาล “ปิดหีบ” เก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2568 (1 ต.ค. 67-30 ก.ย. 68) ไปแล้ว โดยคาดว่าตัวเลขจะออกมาไม่ได้ต่ำกว่าเป้ามากถึง 1.2 แสนล้านบาท
อย่างที่เคยมีการคาดการณ์ไว้ โดยเบื้องต้นมีตัวเลข 2 กรมภาษี คือ กรมสรรพากรและกรมสรรพสามิต ซึ่งถือว่าเป็นกรมรายได้หลัก อันดับที่ 1 และ 2 ที่ผลจัดเก็บรายได้ แม้จะต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ แต่หากเทียบกับเป้าหมายใหม่ที่มีการตกลงกับกระทรวงการคลัง ก็สามารถทำได้เข้าเป้า

นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ในส่วนของกรมสรรพากร จัดเก็บรายได้ภาษีในปีงบประมาณ 2568 ออกมาต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณที่ตั้งไว้ที่ 2,372,500 ล้านบาท ประมาณ 37,000 ล้านบาท แต่หากเทียบกับเป้าหมายใหม่ที่ตกลงกับทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง เก็บได้สูงกว่าเป้าหมายประมาณ 20,000 ล้านบาท

“ภาษีสรรพากรที่เก็บได้ลดลงก็คือ ภาษีนิติบุคคล กับภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว” นายปิ่นสายกล่าว

แหล่งข่าวจาก “กรมสรรพสามิต” มีรายงานการจัดเก็บรายได้เบื้องต้นว่า สามารถจัดเก็บรายได้ภาษีในภาพรวมได้กว่า 537,500 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณไป 72,100 ล้านบาท หรือต่ำเป้า 11.8% อย่างไรก็ดี จัดเก็บได้สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 13,900 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.7% และสูงกว่าเป้าหมายที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งตกลงกับกระทรวงการคลังแล้วกว่า 2,500 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้า 0.47%

ทั้งนี้ ภาษีที่เก็บต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณมากสุด อันดับแรก คือ ภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้ 56,500 ล้านบาท จากประมาณการที่ตั้งไว้ 107,300 ล้านบาท ต่ำเป้าไป 50,700 ล้านบาท หรือต่ำเป้า 47% เนื่องจากมาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และยอดขายรถยนต์ที่ชะลอตัว อันดับที่ 2 รองลงมาคือ ภาษียาสูบ จัดเก็บได้ 47,400 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการไป 11,500 ล้านบาท หรือต่ำเป้า 19.5%

อันดับที่ 3 ภาษีสุรา จัดเก็บได้ 58,800 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการไปกว่า 7,700 ล้านบาท หรือต่ำเป้า 11.5% ส่วนภาษีเบียร์จัดเก็บได้กว่า 90,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับประมาณการตามเอกสารงบประมาณ

ด้านภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ซึ่งมีสัดส่วนในรายได้สรรพสามิตสูงสุด สามารถจัดเก็บได้ 243,600 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วกว่า 33,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16% และเมื่อเทียบกับประมาณการตามเอกสารงบประมาณ จัดเก็บได้ทั้งสิ้น 244,100 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าไปเพียง 419 ล้านบาท หรือต่ำเป้า 0.17%

“ภาษีน้ำมันเก็บได้ใกล้เคียงเป้าหมาย หลังจากมีการเพิ่มอัตราภาษี เป็นลิตรละ 1 บาท ช่วยให้มีรายได้กลับเข้ามาเดือนละราว ๆ 3,000 ล้านบาท จนใกล้เคียงกับเป้าที่ประมาณการไว้” แหล่งข่าวกล่าว

ส่วน “กรมศุลกากร” ผลการจัดเก็บรายได้เมื่อตอน 11 เดือนแรก ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณไป 7,955 ล้านบาท หรือต่ำเป้า 7.1% และต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 4,365 ล้านบาท หรือลดลง 4% จากการใช้สิทธิประโยชน์จากเขตปลอดอากรเพิ่มขึ้น และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

ด้าน นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2568 สคร.มีเป้าหมายในการจัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดิน/เงินปันผลจากรัฐวิสาหกิจและกิจการที่รัฐถือหุ้นต่ำกว่า 50% (เงินนำส่งรายได้แผ่นดิน) จำนวน 176,500 ล้านบาท โดย สคร.สามารถจัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดิน สะสม รวมทั้งสิ้น จำนวน 177,379 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายการจัดเก็บทั้งปีอยู่ที่จำนวน 879 ล้านบาท หรือคิดเป็น 100.5%

ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้แผ่นดิน หรือเงินปันผลสูงสุด 10 อันดับแรก มีดังนี้

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 49,993 ล้านบาท
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 35,849 ล้านบาท
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 18,979 ล้านบาท
ธนาคารออมสิน 16,489 ล้านบาท
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 11,726 ล้านบาท
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) 7,900 ล้านบาท
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 5,972 ล้านบาท
การไฟฟ้านครหลวง 5,152 ล้านบาท
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 4,190 ล้านบาท
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย 3,631 ล้านบาท

ขณะที่ในปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลจัดทำประมาณการจัดเก็บรายได้สุทธิอยู่ที่ 2,920,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากประมาณการปีงบประมาณ 2568 ที่ตั้งไว้ 2,887,000 ล้านบาท ที่ 1.2% ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจที่คาดว่าจะชะลอตัวลงกว่าปี 2568 จากสงครามการค้า และอีกหลาย ๆ ปัจจัย

ทั้งหมดนี้ สรุปได้ว่าการ “ปิดหีบ” รายได้รัฐบาลปีงบประมาณ 2568 แม้จะดูแล้ว “หืดจับ” แต่มองไปข้างหน้า การเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2569 จะมีความท้าทายมากกว่าเดิม

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/finance/news-1903517

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่