ช่วงนี้ได้รับสินค้าจำพวกของทะเลจากเพจอาหารทะเล --> คลังมหาสมุทรทองคำ
ล่าสุดทางเพจจัดส่งสารพัดอาหารทะเลแช่แข็งและอาหารทะเลแปรรูปมาให้มากมาย
หนึ่งนั้น คือ "เนื้อปลาเห็ดโคน หรือ เนื้อปลาทรายแก้ว" แล่เนื้อปลามาแล้วพร้อมปรุง
เมื่อเอ่ยถึงปลาสองชนิดนี้ มักเกิดคำถามตามมา "มันคือปลาคนละชนิด ใช่หรือไม่??"
เมื่อมีคำถามและเกิดความสงสัย??? ดิฉันจึงต้องไปสอบถามเอาความจากชาวประมง
และคำตอบที่ได้ คือ ปลาชนิดเดียวกัน บ้างเรียกปลาช่อนทราย / ปลาช่อนทรายแก้ว
เมื่อได้ปลาเห็ดโคน/ปลาทรายแก้วมาแล้ว เมนูที่นึกถึงก่อนคือ...แกงป่าปลาเห็ดโคน
เมื่อเอ่ยถึง "พริกแกงป่า" ผู้คนมักนึกถึงพริกแกงป่าของดีจากกาญจนบุรี และจันทบุรี
พริกแกงแสนตุ้ง ของดีจากจังหวัดจันทบุรี เรื่องลือว่าเด็ดนัก เผ็ดร้อนและมีกลิ่นหอม
เมื่อหาซื้อพริกแกงป่าสูตรเด็ดเจ้าดังไม่ได้ เราก็ต้องออกแรงโขลกพริกแกงเองกับมือ
+ ส่วนผสมพริกแกงป่า +
* เม็ดผักชีคั่ว 2 ช้อนชา
* พริกไทยขาว 10 เม็ด
* รากผักชี 3-4 ราก
* ตะไคร้ซอย 3 ช้อนโต๊ะ
* ผิวมะกรูดซอย 1/2 ช้อนโต๊ะ
* ข่าแก่ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
* พริกชี้ฟ้าแห้ง 8 เม็ด (แช่น้ำให้นุ่ม)
* พริกขี้หนูสวน 20-30 เม็ด (ไม่กินเผ็ดลดพริก)
* หอมแดง 8 หัว
* กะเทียมเล็ก 20 กลีบ
* เกลือไทย 1 ช้อนชา
* กะปิแกง 1 ช้อนชา
ส่วนผสมอื่น ๆ
* มะเขือพวง 80 กรัม
* มะเขือเปราะ 80 กรัม
* ถั่วฝักยาว 80 กรัม
* เม็ดพริกไทยสด
ผักสดอื่นๆ ตามชอบ
* หัวกระชายซอย 50 กรัม
* ใบกะเพรา หรือ ใบโหระพา หรือ ใบยี่หร่า
* พริกชี้ฟ้าเหลือง / พริกชี้ฟ้าแดง หั่นแฉลบ
วิธีทำพริกแกงป่า
ขั้นตอนการเตรียมและการทำพริกแกงป่ามีขั้นตอนเหมือนการทำพริกแกงเผ็ด
ใส่เครื่องที่โขลกยากลงก่อน เริ่มจากตำพริกไทยเม็ดและลูกผักชี คั่วให้ละเอียด
ใส่รากผักชี ผิวมะกรูด ข่า ตะไคร้ ลงโขลก - ใส่พริกแห้งสองชนิดลงโขลกรวม
ใส่หอมแดง กระเทียม เติมเกลือไทยเพื่อให้โขลกง่ายและส่วนผสมไม่กระเด็น
สุดท้ายใส่กะปิลงโขลกรวมให้เข้ากันดี เสร็จสิ้นการเตรียมพริกแกงป่าปลา
ปลาเห็ดโคน / ปลาทรายสด ต้องระวังเรื่องก้างปลาที่คมและแข็งมาก
แล่ตัวปลาเอาแต่เนื้อล้วน ๆ แบบนี้ ไร้ก้าง กินสะดวก ก้างไม่ติดคอ
+ วิธีทำแกงป่าปลาเห็ดโคน +
ตั้งหม้อหรือกระทะทรงลึก ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย ใส่พริกแกงป่าลงผัดจนหอม
ค่อย ๆ เติมน้ำซุปหรือน้ำเปล่าลงไป 2–3 ถ้วย คนให้พริกแกงละลายเข้ากันกับน้ำ
ใส่พริกแกงแล้วเร่งไฟให้แรง ใส่ผักที่สุดยากลงไปต้มก่อน มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว
** ใครชอบผักสดชนิดอื่น ๆ ข้าวโพดอ่อน เม็ดพริกไทยอ่อน มะเขือพวงก็ใส่ไป
หมายเหตุ - ผักต่างๆ ไม่ควรต้มให้สุกจนนิ่มมาก ทานผักกรุบกรอบอร่อยกว่า
ใส่ผักแล้วต้มต่อไปเรื่อย ๆ เมื่อผักเริ่มสุกทั่ว ใส่เนื้อปลาเห็ดโคน โดยทยอยใส่
ใส่ปลาแล้วห้ามคนแรง จะทำให้เนื้อปลาเละ ค่อยๆ ใช้ทัพพีเกลี่ยปลาให้กระจาย
จากนี้รอให้ปลาสุกเองในน้ำแกง เมื่อผักทั้งหมดสุกและนิ่มแล้ว ปรุงรสด้วยน้ำปลา
ใส่น้ำตาลทรายเล็กน้อย ( หากไม่ชอบแกงป่าออกรสหวาน ไม่ต้องใส่น้ำตาล )
** ชอบผงชูรส ผงปรุงรสชนิดต่าง ๆ เพิ่มความนัวรสชาติอูมามิให้กับแกงก็ใส่ไป
ชิมให้มีรสเค็มปะแล่ม ๆ แกงป่าควรมีรสเผ็ดนำ เพื่อลดความคาวของเนื้อปลา
สุดท้ายเร่งไฟให้แรง ใส่ใบกะเพรา คนแกงเบา ๆ รอให้ผักสลบแล้วปิดไฟเตาทันที
เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการทำแกงป่าปลาเห็ดโคน / แกงป่าปลาทรายแก้ว
พร้อมเสิร์ฟ
ตักแกงป่าปลาใส่ในถ้วย เสิร์ฟขณะที่แกงยังร้อน ๆ พร้อมข้าวสวยร้อน ๆ
หรือทานกับเส้นขนมจีนก็อร่อย เข้ากันมากเหมือนทานขนมจีนน้ำยาป่า
นอกจากใบกะเพรา ใบโหระพา ใส่กะเพราควาย หรืออีกชือเรียก "ใบยี่หร่า" ให้กลิ่นหอมร้อนแรง
❤ แกงป่าปลาเห็ดโคน (ปลาทรายแก้ว) ❤