รถไฟ 3 สนามบิน ทำได้อยู่ 2 อย่าง ล้มสัญญาที่แก้ใหม่กับล้มประมูล ที่ควรเร่งทำคือทางคู่+รถ brt ตะวันออก

สัญญารถไฟ 3 สนามบินก็ทำการแก้ไขกันใหม่อยู่เรื่อย ยิ่งแก้ไป ก็มีแต่รัฐที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ เอื้อประโยชน์ให้เอกชนมากกว่า จึงควรยึดสัญญาเดิม ส่วน cp จะไม่ยอมทำรถไฟจนหมดอายุความก็ไม่เป็นไร รัฐสร้างรถไฟเองได้อยู่แล้ว ราคาถูกกว่าที่ cp ทำด้วย
 
    ​เรื่องการล้มประมูลเดิม จัดการประมูลใหม่อย่างที่หลายคนร้องขอ สมมติว่าได้เจ้าใหม่มาทำรถไฟความเร็วสูงตอนนี้แทน cp แต่ยังไงก็ต้องใช้เวลาอีกนานอีกหลายปีกว่าที่รถไฟความเร็วสูงจะสร้างเสร็จ อาจเป็น 10 ปีก็ได้ ควรจะเร่งขยายทางคู่จากศรีราชาไปอู่ตะเภาให้เร็วที่สุด ไม่ต้องสนรถไฟความเร็วสูงแล้ว ซึ่งจะช่วยให้สนามบินอู่ตะเภา เมืองการบินในภาคตะวันออกมีทิศทางการทำธุรกิจที่แน่นอนขึ้นมาก

    รถไฟทางคู่นี่ ถึงจะมีรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน ก็ต้องมาทำทางคู่อยู่ดี รอดูว่ารัฐบาลชุดนี้จะเซ็นต์สร้างรถไฟทางคู่จากศรีราชาถึงอู่ตะเภามั้ย ถ้าเซ็นต์ก็จะเป็นผลดีกับหลายฝ่าย ได้ความชัดเจนมากขึ้นเยอะ

    อีกอย่างหนึ่งที่น่าทำ ก็คือให้มีช่องถนนพิเศษสำหรับรถโดยสารที่จะไปยังอู่ตะเภา เหมือนกรุงเทพที่มีบัสเลนให้รถ brt วิ่ง จะช่วยให้รถโดยสารที่จะวิ่งไปยังอู่ตะเภา พัทยา ศรีราชาทำเวลาได้ดีมากขึ้น ทำช่องบัสเลนบนมอเตอร์เวย์สาย 7 กำหนดความเร็วไม่เกิน 110 km/h รถที่จะวิ่งบนช่องบัสเลนได้ ก็มีรถตู้ รถโดยสารที่จะตรงไปศรีราชา พัทยา อู่ตะเภา ซึ่งการทำช่องบัสเลนจะกินถนนไป 1 เลนแบบ brt ในกรุงเทพ  การทำแบบนี้จะเกิดความคุ้มค่าได้ก็ต่อเมื่อคนใช้รถโดยสารกันมาก รถโดยสารวิ่งถี่ ถึงจะคุ้ม
   เรามั่นใจว่าช่องบัสเลนที่คิดนี้จะคุ้มค่าอยู่ เพราะคนกรุงเทพไปเที่ยวศรีราชาและพัทยากันเยอะมาก

    ถ้ามีช่องบัสเลนก็จะช่วยให้การเดินทางจากกรุงเทพไปยังอู่ตะเภาทำเวลาได้ดีขึ้น เดินทางเร็วขึ้น สนามบินอู่ตะเภาก็จะมีคนมาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น แก้ไขการไม่มีรถไฟความเร็วสูงได้ระดับนึง
   การมีช่องถนนพิเศษให้รถ brt วิ่งบนมอเตอร์เวย์สาย 7 จะช่วยให้รถโดยสารวิ่งถึงพัทยา-อู่ตะเภาเร็วขึ้นพอสมควรอยู่ ตอบโจทย์เวลาการเดินทางได้ระดับนึง

    เลนพิเศษสู่ภาคตะวันออก ก็ให้ทำอิฐบล็อคกั้นระหว่างถนนเลนพิเศษกับเลนรถธรรมดาทั่วไป
  ช่องเลนพิเศษที่ทำบนมอเตอร์เวย์สาย 7 น่าจะเริ่มจากแถวลาดกระบัง ใกล้ๆสถานีรถไฟฟ้าลาดกระบัง แล้วให้รถวิ่งบนเลนพิเศษไปจนถึงศรีราชา พัทยา อู่ตะเภา

    ถ้าจะให้ work ก็ทำสถานีรถเมล์ด่วนพิเศษ แบบที่ทำสถานีรถเมล์ brt ในกรุงเทพ มีสถานีดังนี้
1.สถานีลาดกระบัง   2.สถานีบางบ่อ                     3.สถานีบางปะกง 4.สถานีพนัสนิคม 5.สถานีบ้านบึง 6.สถานีบางพระ 7.สถานีหนองขาม 8.สถานีโป่ง 9.สถานีพัทยา
   ที่เรียกมาก็เป็นชื่อสมมติของสถานีต่างๆตามชื่อด่านเก็บค่าผ่านทาง แต่เวลาทำจริงจะเปลี่ยนชื่อสถานีให้เหมาะแก่พื้นที่ก็ได้ เช่น สถานีโป่งเปลี่ยนชื่อเป็นสถานีบางละมุง สถานีบ้านบึงเปลี่ยนชื่อเป็นสถานีชลบุรี 
  สถานีรถเมล์ brt ลาดกระบังจะเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าแอร์แอร์พอร์ตลิงค์ลาดกระบัง เดินถึงกันง่ายมาก

    สถานีรถ brt ตั้งแต่ลาดกระบังไปถึงอู่ตะเภา ก็จะมีรถ feeder คอยรับส่งผู้โดยสารไปยังพื้นที่สำคัญโดยรอบของสถานีต่างๆ เช่น เมื่อเดินทางไปถึงพนัสนิคม คนลงจากรถเมล์ brt ก็เดินข้ามฝั่งด้วยบันไดเลื่อน มีรถ feeder คอยรับส่งผู้โดยสารไปยังจุดสำคัญต่างๆรอบอำเภอพนัสนิคม หรือเมื่อเดินทางถึงพัทยา คนก็ลงจากรถเมล์ brt เดินข้ามฝั่งมาขึ้นรถ feeder  รถ feeder ก็พาผู้โดยสารไปส่งยังพื้นที่สำคัญๆรอบตัวเมืองพัทยา ก็จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ท่องเที่ยวได้ดี เปลี่ยนจากการต่อรถที่บขส.เพื่อเข้าตัวเมือง เป็นมาขึ้นรถ feeder ที่จอดรออยู่ข้างสถานีรถเมล์ด่วนพิเศษแทน

    รถโดยสารทั้งรถตู้และรถบัสที่วิ่งจากกรุงเทพมาพัทยามีเยอะมาก สายใต้ออกทุก 1 ชั่วโมง หมอชิตออก 1 ชั่วโมง เอกมัยออกทุก 1 ชั่วโมง ดอนเมือง 4 รอบ/วัน สุวรรณภูมิ 4 รอบ/วัน รังสิตออกทุก 40 นาที
   ถ้าทำรถเมล์ brt วิ่งจากลาดกระบังมาอู่ตะเภา รถน่าจะวิ่งถี่อยู่ ผู้โดยสารรอรถเมล์ brt ไม่เกิน 15 นาที/คันแน่ เผลอๆรอไม่เกิน 10 นาทีก็ออกจากสถานี brt ลาดกระบังแล้ว เพราะเอาจริงๆ ที่พูดมาก็เฉพาะการไปพัทยา ยังมีผู้โดยสารอีกกลุ่มที่นั่งรถโดยสารไปยังเป้าหมายเฉพาะจุดอย่างศรีราชาและบางแสน โดยรถพวกนี้จะไม่ผ่านพัทยาอยู่แล้ว การทำรถเมล์ brt ไปภาคตะวันออก น่าจะคุ้มค่ากว่ารถเมล์ brt ที่วิ่งในกรุงเทพอีก บางชั่วโมงอาจรอรถ brt สายตะวันออกแค่ 5 นาทีก็ได้ขึ้นแล้ว เพราะผู้โดยสารเยอะมาก

    สถานีรถเมล์ด่วนพิเศษ brt นี้จะเป็นการเติมเต็มการเดินทางใน eec ให้สมบูรณ์ขึ้น สถานีรถไฟความเร็วสูงนับจากสุวรรณภูมิไปถึงอู่ตะเภานับได้ 6 สถานี แต่สถานีรถเมล์ brt เริ่มจากลาดกระบังไปถึงอู่ตะเภาจะมีซัก 15 สถานีก็ได้ ทำเส้นทางให้รถเมล์ brt นี้ไปถึงระยองก็ได้ ดูแล้วคุ้มค่าที่จะทำอยู่ ทำให้การเดินทางจากกรุงเทพไปยังภาคตะวันออกสะดวกรวดเร็วขึ้น และการเดินทางภายในภาคตะวันออกด้วยกันเองก็รวดเร็วขึ้นขึ้น
    พื้นที่โดยรอบของสถานีรถเมล์ brt ก็จะมีคอนโด,ที่อยู่อาศัยประเภทต่างๆผุดขึ้น เพราะเป็นพื้นที่ที่มีการสัญจรไปไหนมาไหนสะดวก

    ส่วนรถไฟทางคู่ ถ้าทำเสร็จ ก็สามารถมีคอนโดที่พักอาศัยประเภทต่างไปผุดขึ้นได้เหมือนกัน ขอให้รถไฟให้บริการตรงต่อเวลา พื้นที่รอบรถไฟทางคู่ก็เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้สบาย ถึงเวลานั้นก็ทำระบบรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนลากยาวมาถึงอู่ตะเภา คุ้มค่าการลงทุนแน่

    น่าให้ bts มาทำโครงการรถ brt สายตะวันออก+รถไฟทางคู่ถึงอู่ตะเภา เพราะจะทำให้การเดินทางสัญจรถึงอู่ตะเภาง่าย การลงทุนต่ำกว่ารถไฟความเร็วสูงพอสมควร ส่งผลต่อธุรกิจสนามบินที่ตัวเองลงทุนโดยตรง
   ถ้าทำรถ brt ภาคตะวันออก ก็น่าทำจากลาดกระบังถึงระยอง มีสถานีรับส่งผู้โดยสารซัก 12-15 สถานี ซึ่งก็คงไม่ต้องลงทุนมาก ถนนมีอยู่แล้ว แค่ทำอิฐบล็อคกั้นเลนวิ่งระหว่างรถ brt กับรถทั่วไป
   ถ้าทำรถไฟทางคู่ก็ลงทุนต่ำกว่ารถไฟความเร็วสูงมากอยู่ เพราะรางจะอยู่ระดับดินเป็นส่วนมาก เบื้องต้นก็ขยายทางคู่จากศรีราชาถึงอู่ตะเภา เพราะมีรางเดิมอยู่แล้ว แล้วเอารถดีเซลรางมาวิ่ง ช่วยให้รถวิ่งเร็วขึ้นเยอะอยู่ สำคัญคือเรื่องเวลา เวลาต้องแน่นอน ถ้าการเดินทางด้วยรถไฟ เร็วใช้ได้ มีความตรงเวลา ผู้โดยสารก็จะประทับใจ ต่อไปพื้นที่รอบรถไฟทางคู่สายตะวันออก จะเกิดเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ ย่านเศรษฐกิจใหม่ มีคอนโด,มีร้านค้าต่างๆเกิดขึ้นโดยรอบ ถึงเวลานั้นก็ค่อยทำเป็นแบบระบบรถไฟฟ้าสายสีแดง วิ่งจากลาดกระบังถึงอู่ตะเภาด้วยความเร็ว 145-160 km/h
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่