ความมืดหนาทึบโอบล้อมร่างของเขาอีกครั้ง
ห้องไม้เก่า ๆ ส่งกลิ่นอับชื้นเหม็นสาบจนแทบคลุ้งไปทั่วจมูก
ทุกลมหายใจคือการฝืนทน
เสียงไม้ลั่นเอี๊ยดอ๊าดทุกครั้งที่เขาขยับกายเหมือนคุกที่คอยตอกย้ำว่า—
เขาไม่มีวันออกไปจาก
ห้อง 205
พลบนั่งคุดคู้อยู่ข้างผนัง ดวงตาเหม่อมองบานประตูไม้เก่า ๆ ที่เป็นเพียงทางเดียวสู่โลกภายนอก
เขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว
เวลาละลายหายไป—เหลือเพียงการนับลมหายใจไปทีละเฮือก ทีละเฮือก
แล้ว
ครั้งแรก ที่เขาเห็นเธอ…
ช่องว่างเล็ก ๆ ตรงกรอบประตูสว่างขึ้นราง ๆ ราวกับมีแสงลอดเข้ามาจากอีกโลก
เงาร่างหญิงสาวปรากฏขึ้นตรงนั้น—
อุษา
พลบอยากจะเรียกชื่อเธอออกมาเต็มเสียง แต่เขากลับกรีดร้องอยู่เพียงในใจ
ริมฝีปากเขาเม้มแน่นจนเลือดซึม เพราะรู้ดีว่าที่นี่…ที่ที่เขาติดอยู่นี้ ไม่เหมาะที่จะออกเสียงเรียกใคร
เพราะทุกสิ่งที่เคยเห็น ทุกคนที่เคยผ่านเข้ามา—
ต่างหายไปในความเงียบหรือจบลงด้วยความวิปลาส
เขาเคยอยู่มานานพอที่จะเห็น
ผู้คนเดินหลงเข้ามา
จากหลากหลายสถานที่ หลากหลายเวลา ประตูที่แตกต่างแต่เชื่อมถึงกัน
บางคนตะโกนจนเสียงหาย บางคนพยายามเปิดทางหนีแต่ถูกกลืนหาย
มีเพียงส่วนน้อยนักที่จะได้
กลับออกไป
เขาจำทุกหน้าได้ แม้เพียงเสี้ยววินาทีที่พวกเขาปรากฏ
แต่ครั้งนี้—คือ น้องสาวของเขา
ดวงตาพลบสั่นระริก เขาอยากเอื้อมมือไปแตะบานประตู
แต่ก่อนที่เสียงใด ๆ จะเล็ดลอดจากริมฝีปากออกมา ความมืดเบื้องหลังพลบก็
ไหวกระเพื่อม
เสียงฝีเท้าแผ่ว ๆ ดังก้องขึ้นเหมือนก้าวมาจากที่ไกลลิบ ก่อนจะใกล้เข้ามาทีละก้าว ทีละก้าว
จนในที่สุด ชายคนหนึ่งก็ก้าวออกมาจากเงามืด
ชายชุดขาว
สูทสีซีดสะอาดตัดกับบรรยากาศราวกับไม่ใช่สิ่งที่ควรอยู่ในโลกนี้
เขายืนพิงกรอบเงามืด มุมปากยกขึ้นเพียงเล็กน้อย
“จะไม่ทักทายน้องสาวหน่อยหรือไง…พลบ”
น้ำเสียงนั้นราบเรียบ แต่กลับกระแทกเข้ามาในอกเหมือนเข็มแหลม
พลบหันขวับไปมองด้วยดวงตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
กรามขบแน่น ร่างกายสั่นเทา แต่ทำอะไรไม่ได้
ชายชุดขาวหัวเราะ
เสียงหัวเราะนั้นไม่ใช่เสียงมนุษย์ แต่เป็นเหมือนเสียงกรีดร้องนับพันที่ซ้อนทับกัน ดังลึก ๆ มาจากขุมนรก
เสียงที่ทำให้ขนบนต้นคอลุกชัน และกระดูกสันหลังเย็นเฉียบ
เขาหยุดหัวเราะในทันที ริมฝีปากกลับมาเรียบเฉย
ดวงตาเย็นเยียบจ้องตรงมาที่พลบ
“หรือว่านาย…กลัวว่าน้องสาวจะมาติดอยู่ที่นี่แทนนาย?”
เขาเอนศีรษะเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นอีกครั้ง
“แล้วถ้า…เธอเลือกประตูผิดล่ะ”
พลบกัดฟันจนเลือดไหลซึมที่มุมปาก น้ำตาเอ่อคลอ ดวงตาแดงกล่ำ
โกรธ เกลียด หวาดกลัว—ทุกอย่างผสมปนเปจนไม่เหลือคำพูดใด ๆ
ชายชุดขาวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะย่อตัวลงเล็กน้อย มองหน้าเขาใกล้ ๆ
แล้วเผยรอยยิ้มเย็นชาจนเลือดในกายพลบแข็งเป็นน้ำแข็ง
“เอาเถอะ…”
เสียงทุ้มนั้นแผ่วเบา แต่กลับดังชัดในโสตประสาท
“ในฐานะที่บันทึกหมายเลข 205 เป็นเล่มโปรดของฉัน…”
เขาหยุดเว้นจังหวะ จ้องเข้าไปในดวงตาพลบ
“…ฉันจะเอากุญแจให้นาย ดีไหม”
ทันใดนั้น
ควันดำหนาทึบ ก็พวยพุ่งออกมาจากช่องว่างรอบกายชายชุดขาว
กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง—ทั้งห้อง ทั้งแสง ทั้งเสียงร้องในใจของพลบ
ภาพทั้งหมดดับวูบลง เหลือเพียงความมืดสนิท...........................
บันทึกฝันที่ 404 ตอนที่ 13 บันทึกหมายเลข 205
ห้องไม้เก่า ๆ ส่งกลิ่นอับชื้นเหม็นสาบจนแทบคลุ้งไปทั่วจมูก
ทุกลมหายใจคือการฝืนทน
เสียงไม้ลั่นเอี๊ยดอ๊าดทุกครั้งที่เขาขยับกายเหมือนคุกที่คอยตอกย้ำว่า—
เขาไม่มีวันออกไปจาก ห้อง 205
พลบนั่งคุดคู้อยู่ข้างผนัง ดวงตาเหม่อมองบานประตูไม้เก่า ๆ ที่เป็นเพียงทางเดียวสู่โลกภายนอก
เขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว
เวลาละลายหายไป—เหลือเพียงการนับลมหายใจไปทีละเฮือก ทีละเฮือก
แล้ว ครั้งแรก ที่เขาเห็นเธอ…
ช่องว่างเล็ก ๆ ตรงกรอบประตูสว่างขึ้นราง ๆ ราวกับมีแสงลอดเข้ามาจากอีกโลก
เงาร่างหญิงสาวปรากฏขึ้นตรงนั้น—
อุษา
พลบอยากจะเรียกชื่อเธอออกมาเต็มเสียง แต่เขากลับกรีดร้องอยู่เพียงในใจ
ริมฝีปากเขาเม้มแน่นจนเลือดซึม เพราะรู้ดีว่าที่นี่…ที่ที่เขาติดอยู่นี้ ไม่เหมาะที่จะออกเสียงเรียกใคร
เพราะทุกสิ่งที่เคยเห็น ทุกคนที่เคยผ่านเข้ามา—
ต่างหายไปในความเงียบหรือจบลงด้วยความวิปลาส
เขาเคยอยู่มานานพอที่จะเห็น ผู้คนเดินหลงเข้ามา
จากหลากหลายสถานที่ หลากหลายเวลา ประตูที่แตกต่างแต่เชื่อมถึงกัน
บางคนตะโกนจนเสียงหาย บางคนพยายามเปิดทางหนีแต่ถูกกลืนหาย
มีเพียงส่วนน้อยนักที่จะได้ กลับออกไป
เขาจำทุกหน้าได้ แม้เพียงเสี้ยววินาทีที่พวกเขาปรากฏ
แต่ครั้งนี้—คือ น้องสาวของเขา
ดวงตาพลบสั่นระริก เขาอยากเอื้อมมือไปแตะบานประตู
แต่ก่อนที่เสียงใด ๆ จะเล็ดลอดจากริมฝีปากออกมา ความมืดเบื้องหลังพลบก็ ไหวกระเพื่อม
เสียงฝีเท้าแผ่ว ๆ ดังก้องขึ้นเหมือนก้าวมาจากที่ไกลลิบ ก่อนจะใกล้เข้ามาทีละก้าว ทีละก้าว
จนในที่สุด ชายคนหนึ่งก็ก้าวออกมาจากเงามืด
ชายชุดขาว
สูทสีซีดสะอาดตัดกับบรรยากาศราวกับไม่ใช่สิ่งที่ควรอยู่ในโลกนี้
เขายืนพิงกรอบเงามืด มุมปากยกขึ้นเพียงเล็กน้อย
“จะไม่ทักทายน้องสาวหน่อยหรือไง…พลบ”
น้ำเสียงนั้นราบเรียบ แต่กลับกระแทกเข้ามาในอกเหมือนเข็มแหลม
พลบหันขวับไปมองด้วยดวงตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
กรามขบแน่น ร่างกายสั่นเทา แต่ทำอะไรไม่ได้
ชายชุดขาวหัวเราะ
เสียงหัวเราะนั้นไม่ใช่เสียงมนุษย์ แต่เป็นเหมือนเสียงกรีดร้องนับพันที่ซ้อนทับกัน ดังลึก ๆ มาจากขุมนรก
เสียงที่ทำให้ขนบนต้นคอลุกชัน และกระดูกสันหลังเย็นเฉียบ
เขาหยุดหัวเราะในทันที ริมฝีปากกลับมาเรียบเฉย
ดวงตาเย็นเยียบจ้องตรงมาที่พลบ
“หรือว่านาย…กลัวว่าน้องสาวจะมาติดอยู่ที่นี่แทนนาย?”
เขาเอนศีรษะเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นอีกครั้ง
“แล้วถ้า…เธอเลือกประตูผิดล่ะ”
พลบกัดฟันจนเลือดไหลซึมที่มุมปาก น้ำตาเอ่อคลอ ดวงตาแดงกล่ำ
โกรธ เกลียด หวาดกลัว—ทุกอย่างผสมปนเปจนไม่เหลือคำพูดใด ๆ
ชายชุดขาวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะย่อตัวลงเล็กน้อย มองหน้าเขาใกล้ ๆ
แล้วเผยรอยยิ้มเย็นชาจนเลือดในกายพลบแข็งเป็นน้ำแข็ง
“เอาเถอะ…”
เสียงทุ้มนั้นแผ่วเบา แต่กลับดังชัดในโสตประสาท
“ในฐานะที่บันทึกหมายเลข 205 เป็นเล่มโปรดของฉัน…”
เขาหยุดเว้นจังหวะ จ้องเข้าไปในดวงตาพลบ
“…ฉันจะเอากุญแจให้นาย ดีไหม”
ทันใดนั้น ควันดำหนาทึบ ก็พวยพุ่งออกมาจากช่องว่างรอบกายชายชุดขาว
กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง—ทั้งห้อง ทั้งแสง ทั้งเสียงร้องในใจของพลบ
ภาพทั้งหมดดับวูบลง เหลือเพียงความมืดสนิท...........................