หลังจากดูทะเลหมอก กินติ่มซำ กลับไปอาบน้ำ
https://pantip.com/topic/43724804 พักแอร์เย็นๆ พอหายเหนื่อย ก็ได้เวลาไปลุยเบตงต่อค่ะ ก่อนออกก็ช่วยกันจัดการกินข้าวยำที่ซื้อมา และลองชิมทุเรียน มูซังคิง ชิมไปหน่อยเดียว เพื่อนก็ส่ายหัวค่ะ บอกว่าชิมแล้วไม่ชอบรสชาติ หมอนทองไทยอร่อยกว่า
เราจะไปจุดเช็คอิน ด่านเบตงกันค่ะ เป็นด่านพรมแดนระหว่างไทยและมาเลเซีย ฝนไม่ตก แดดร้อนดีมาก เราใส่เสื้อแขนยาวกันเพื่อขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวกลางวันรอบเมืองเบตง วันนี่จะพยายามเก็บให้หมด
เบตงก็มีรถสองแถวนะ แบ่งสีตามสายที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารตามเส้นทางหลักในตัวอำเภอ และไปยังอำเภอใกล้เคียง หรือจะจ้างเหมาก็ได้ แต่ที่สะดวกสุดๆ คือ ขี่มอเตอร์ไซค์ค่ะ ไปไหนๆ ได้สะดวกมาก

ถามทางที่พักมาแล้วค่ะ เขาก็บอกอย่างดี แต่สำหรับคนต่างถิ่น มันก็ไม่ใช่ง่าย พอไปถึงจุดหนึ่ง เราก็หาทางโดยการถามค่ะ จอดรถหน้าร้านขายของร้านหนึ่ง เจอผู้ชายอายุก็ 60+ คงได้ อธิบายว่าเรามาเที่ยว อยากจะไปด่านเพื่อถ่ายรูป เขาเดินออกมาหน้าร้านแล้วก็ชี้มือค่ะ ไปตรงนี้ เจอแยก เลี้ยวซ้าย ตรงไปอีกนิด เจอแยกแล้วเลี้ยวขวา แล้วเขาก็บอกว่า เอางี้ ขี่นำไปให้พอถึงทางหลักก็ไปต่อจะง่ายขึ้น เรารีบบอก ขอบคุณแค่บอกทางก็พอ เขาบอกว่า ไม่เป็นไรจะได้ไปถูก ตามผมมาละกัน แล้วเขาก็จูงมอไซค์ออกจากร้าน ขี่นำไปค่ะ ระหว่างขี่ก็มีหันมามองเราเป็นระยะ เผื่อหลงกัน จนถึงทางหลัก ก็บอกให้เราไปต่อ
ทำไมคนเบตงช่างดีอย่างนี้หนอ ตั้งแต่เขตยะลาและเบตง ขอความช่วยเหลือ ถามอะไร เขาก็ช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ เต็มใจ ช่วยจริงๆ ประทับใจสุดไปเลย

ถึงประตูเข้าด่านไทยแล้ว ขี่เข้าไปเลย แล้วเราก็ไปจอดที่ตึกข้างหน้าที่เห็นมีคนเยอะๆ แต่มองหาสัญญลักษณ์ใต้สุดสยามไม่เจอ ถามอีกแล้ว เขาก็ใจดีตอบว่าให้ขี่เลยไปข้างในอีกนิดเดียว

สาวเสื้อชมพูนั่นใคร อ๋อ...แม่เปป เองค่ะ 🤣

ก้าวเท้าเข้าไปก็มาเลเซียละนะ

ออกจากด่าน ก็ไปต่อ บ่อน้ำร้อนเบตง ส่วนบริเวณบ่อสีฟ้านี้คือสระน้ำขนาดใหญ่ที่กักน้ำจากน้ำพุร้อน ไว้ให้ประชาชนทั้งในเบตงและ นทท. ได้อาบหรือแช่ได้

นั่งแช่เท้าในน้ำอุ่นๆ กลางแดดอย่างสบายใจ มีคนมานั่งแช่เท้ากันเยอะแยะเลย

เมื่อออกจากบ่อน้ำร้อน ก็ขี่กลับเข้าตัวเบตง แต่ยังไม่เข้าที่พัก ขี่สำรวจถนนแยกต่างๆ ตามแถวหอนาฬิกาอีก เห็นมีสตรีทอาร์ท แต่ไม่ได้จอดค่ะ เพราะแดดร้อน แล้วก็ขี่ไป แถวสะพานคลองเบตง เพื่อจะกินหมี่แกงร้านพี่ดาว แต่เราไปถึงร้านปิดช่วงแรกไปแล้ว เพราะร้านนี้ จะเปิด 2 ช่วง คือ 6 โมงเช้า - บ่ายโมง และเปิดอีกครั้ง บ่าย 3 ถึง 4 ทุ่ม ขายอาหารเช้า พวก ไข่ดาว ไส้กรอก ก๋วยเตี๋ยว เกี๊ยวน้ำ และหมี่แกง ซึ่งหากินหมี่แกงได้ที่เบตงเท่านั้น
บ่าย 2 โมงกว่าแล้วค่ะ แต่เพื่อนบอกยังไม่หิวเพราะเรากินติ่มซำกัน เกือบ 10 โมง แถมขึ้นห้องก็ฟาดข้าวยำและทุเรียนที่ซื้อมาอีก ท้องยังย่อยไม่หมด เลยพาเข้าร้านน้ำแข็งใสยอดฮิตเบตงคลายร้อนละกัน ร้านอยู่ใกล้กับร้านพี่ดาวหมี่แกงเลย คนเบตงจะเรียกกันว่า ร้านเหลือง เขาเป็นร้านไม่มีชื่อค่ะ แต่เรียกตามสีของร้านที่ทาสีเหลือง จนติดปากว่าร้านเหลือง มีขายทั้งน้ำแข็งใส และขนมปังปิ้ง แต่งร้านด้วยต้นไม้สวยร่มรื่นเลย

แล้วก็ขี่ออกมาทางตลาดเทศบาลแถวหอนาฬิกาที่เรามาซื้ออาหารเย็นกินกันนั่นแหละค่ะ มีร้านโรตีเจ้าอร่อยขายด้วย เพื่อนสาวท่าทางเพลียแดดค่ะ เลยขี่พากลับที่พักให้คุณเธอได้แอร์เย็นๆสักหน่อยก่อน แล้วคุณเธอก็นอนหลับไปจริงๆ แม่เปป ไม่ค่อยนอนกลางวันค่ะ เคยพยายามแต่ไม่ได้ผล เลยเลิกพยายาม

แล้วฝนก็เริ่มตกค่ะ ตกต่อเนื่องและเริ่มแรงขึ้น จน 5โมง เพื่อนก็ตื่นขึ้นมา เลยคุยกันว่า เห็นข่าวว่ามรสุมเข้า เบตงจะตกทั้งวันคืนแน่ๆ เอางัยกันดี แล้วถ้าอยู่ต่อก็ต้องแจ้งที่พัก และร้านมอเตอร์ไซค์ด้วย แต่เราคงจะเที่ยวกันไม่ค่อยได้มาก เพราะขี่มอเตอร์ไซค์กลางฝนลำบาก เพื่อนถามว่า เอางัยเอากัน แม่เปปมีความคิดเห็นว่างัยบ้าง เราก็เที่ยวจุดสำคัญเกือบหมดละนะ ไม่ได้ไป คือ สวนดอกไม้และอุโมงค์ปิยะมิตร อ้อสะพานแตปูซูด้วย
เพื่อนบอกเรากลับมาเที่ยวและเก็บกันใหม่ครั้งหน้าก็ได้นะ หาเวลาให้ตรงกัน แล้วมาอีก เพื่อนชอบเบตงไปแล้ว เลยตกลงกันว่า พรุ่งนี้สายๆ เราออกจากเบตงไปลงยะลา แล้วไปแวะวัดช้างไห้ ก่อนเข้าไปปัตตานีเพื่อลุยเที่ยวต่อ วันนี้เราเลยจะกินอาหารเย็นร้านดังของเบตงอีกร้านกัน ส่วนพรุ่งนี้เช้าก่อนออก เราจะกินติ่มซำร้านที่อยู่ติดที่พักเป็นการกินอำลาเบตง

6โมงแล้ว รอให้ฝนหยุดก็ยังไม่หยุดตก พรำๆสม่ำเสมอหลายชั่วโมงละ เราเลยต้องยอมออกเดินจากที่พักไปหาอาหารกินกัน คืนสุดท้ายของเบตง ก็เลยไปภัตตาคารอาหารจีนชื่อดัง ...ต้าเหยิน...ไม่ไกลจากที่พักเช่นกันค่ะ แม้ฝนจะตก ร้านก็คนเยอะเกือบเต็ม ส่วนใหญ่เป็น คนมาเลเซียอีกเช่นกัน สั่งเมนูฮิตติดดาวของร้านเลยค่ะ แล้วระหว่างที่นั่งรออาหาร ไฟก็ดับมืด มองไปฝั่งตรงข้ามร้านต่างๆ ก็ไฟดับเช่นกัน แต่ในร้านดูเขาปกติกันดี คงจะเพราะฝนตกหนักและยาวต่อเนื่องกันหลายชั่วโมง แต่ สัก 10 นาที ไฟก็มาปกติ
ไก่สับเบตงร้านนี้ ก็อร่อยมาก ถึงมากที่สุด มาเบตง ได้กินไก่สับ 2 ร้าน ให้คะแนนไม่ถูกเลย อร่อยทั้งคู่จริงๆ

ผัดผักน้ำ คล้ายๆผักบุ้งภาคกลาง แต่ไม่เหมือนซะทีเดียว รสชาติเขา มีความกรุบ กรอบ กินเพลินอีกเช่นกัน

ถั่วเจี๋ยน ถั่วฝักยาวเหมือนถั่วภาคกลาง แต่รสชาติของเขา อร่อย หวาน กรอบ เนื้อแน่น แตกต่างกว่าที่เราเคยกินค่ะ อร่อยเช่นหัน แค่ผัดกับน้ำมันปรุงรสสูตรของร้าน ก็กินเล่นได้เพลินหมดจาน

ไก่สับ ร้านเจริญข้าวมันไก่ ที่กินเมื่อวานว่าอร่อยแล้ว ร้านนี้ก็อร่อยไม่แพ้กันเลย ไก่เขานุ่มแน่น ไม่มีกลิ่นคาวเช่นกัน ราดในจานด้วยน้ำซอสคล้ายซีอิ๊ว หวาน เค็ม กลมกล่อม คิดว่าคงสูตรเฉพาะของร้านเขา ยิ่งทำให้ไก่สับอร่อยสุดๆ แม่เปป กินไก่สับร้านนี้ได้อีกแล้ว ดีใจที่มาเบตงแล้วกินไก่อร่อย เพื่อนขอสั่งเพิ่มอีกจานเลย ลองแอบมองโต๊ะอื่นๆ ทุกโต๊ะต้องมีไก่สับเช่นกัน ยิ่งถ้าเป็นคนมาเลเซีย เขานั่งโต๊ะเดียวกัน ยังสั่งมาคนละจานเลย คือมากินไก่สับโดยเฉพาะเลย
2 สาวหนีเที่ยว เบตง ยะลา ปัตตานี สงขลา หาดใหญ่#3
เราจะไปจุดเช็คอิน ด่านเบตงกันค่ะ เป็นด่านพรมแดนระหว่างไทยและมาเลเซีย ฝนไม่ตก แดดร้อนดีมาก เราใส่เสื้อแขนยาวกันเพื่อขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวกลางวันรอบเมืองเบตง วันนี่จะพยายามเก็บให้หมด
เบตงก็มีรถสองแถวนะ แบ่งสีตามสายที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารตามเส้นทางหลักในตัวอำเภอ และไปยังอำเภอใกล้เคียง หรือจะจ้างเหมาก็ได้ แต่ที่สะดวกสุดๆ คือ ขี่มอเตอร์ไซค์ค่ะ ไปไหนๆ ได้สะดวกมาก
ถามทางที่พักมาแล้วค่ะ เขาก็บอกอย่างดี แต่สำหรับคนต่างถิ่น มันก็ไม่ใช่ง่าย พอไปถึงจุดหนึ่ง เราก็หาทางโดยการถามค่ะ จอดรถหน้าร้านขายของร้านหนึ่ง เจอผู้ชายอายุก็ 60+ คงได้ อธิบายว่าเรามาเที่ยว อยากจะไปด่านเพื่อถ่ายรูป เขาเดินออกมาหน้าร้านแล้วก็ชี้มือค่ะ ไปตรงนี้ เจอแยก เลี้ยวซ้าย ตรงไปอีกนิด เจอแยกแล้วเลี้ยวขวา แล้วเขาก็บอกว่า เอางี้ ขี่นำไปให้พอถึงทางหลักก็ไปต่อจะง่ายขึ้น เรารีบบอก ขอบคุณแค่บอกทางก็พอ เขาบอกว่า ไม่เป็นไรจะได้ไปถูก ตามผมมาละกัน แล้วเขาก็จูงมอไซค์ออกจากร้าน ขี่นำไปค่ะ ระหว่างขี่ก็มีหันมามองเราเป็นระยะ เผื่อหลงกัน จนถึงทางหลัก ก็บอกให้เราไปต่อ
ทำไมคนเบตงช่างดีอย่างนี้หนอ ตั้งแต่เขตยะลาและเบตง ขอความช่วยเหลือ ถามอะไร เขาก็ช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ เต็มใจ ช่วยจริงๆ ประทับใจสุดไปเลย
ถึงประตูเข้าด่านไทยแล้ว ขี่เข้าไปเลย แล้วเราก็ไปจอดที่ตึกข้างหน้าที่เห็นมีคนเยอะๆ แต่มองหาสัญญลักษณ์ใต้สุดสยามไม่เจอ ถามอีกแล้ว เขาก็ใจดีตอบว่าให้ขี่เลยไปข้างในอีกนิดเดียว
สาวเสื้อชมพูนั่นใคร อ๋อ...แม่เปป เองค่ะ 🤣
ก้าวเท้าเข้าไปก็มาเลเซียละนะ
ออกจากด่าน ก็ไปต่อ บ่อน้ำร้อนเบตง ส่วนบริเวณบ่อสีฟ้านี้คือสระน้ำขนาดใหญ่ที่กักน้ำจากน้ำพุร้อน ไว้ให้ประชาชนทั้งในเบตงและ นทท. ได้อาบหรือแช่ได้
นั่งแช่เท้าในน้ำอุ่นๆ กลางแดดอย่างสบายใจ มีคนมานั่งแช่เท้ากันเยอะแยะเลย
เมื่อออกจากบ่อน้ำร้อน ก็ขี่กลับเข้าตัวเบตง แต่ยังไม่เข้าที่พัก ขี่สำรวจถนนแยกต่างๆ ตามแถวหอนาฬิกาอีก เห็นมีสตรีทอาร์ท แต่ไม่ได้จอดค่ะ เพราะแดดร้อน แล้วก็ขี่ไป แถวสะพานคลองเบตง เพื่อจะกินหมี่แกงร้านพี่ดาว แต่เราไปถึงร้านปิดช่วงแรกไปแล้ว เพราะร้านนี้ จะเปิด 2 ช่วง คือ 6 โมงเช้า - บ่ายโมง และเปิดอีกครั้ง บ่าย 3 ถึง 4 ทุ่ม ขายอาหารเช้า พวก ไข่ดาว ไส้กรอก ก๋วยเตี๋ยว เกี๊ยวน้ำ และหมี่แกง ซึ่งหากินหมี่แกงได้ที่เบตงเท่านั้น
บ่าย 2 โมงกว่าแล้วค่ะ แต่เพื่อนบอกยังไม่หิวเพราะเรากินติ่มซำกัน เกือบ 10 โมง แถมขึ้นห้องก็ฟาดข้าวยำและทุเรียนที่ซื้อมาอีก ท้องยังย่อยไม่หมด เลยพาเข้าร้านน้ำแข็งใสยอดฮิตเบตงคลายร้อนละกัน ร้านอยู่ใกล้กับร้านพี่ดาวหมี่แกงเลย คนเบตงจะเรียกกันว่า ร้านเหลือง เขาเป็นร้านไม่มีชื่อค่ะ แต่เรียกตามสีของร้านที่ทาสีเหลือง จนติดปากว่าร้านเหลือง มีขายทั้งน้ำแข็งใส และขนมปังปิ้ง แต่งร้านด้วยต้นไม้สวยร่มรื่นเลย
แล้วก็ขี่ออกมาทางตลาดเทศบาลแถวหอนาฬิกาที่เรามาซื้ออาหารเย็นกินกันนั่นแหละค่ะ มีร้านโรตีเจ้าอร่อยขายด้วย เพื่อนสาวท่าทางเพลียแดดค่ะ เลยขี่พากลับที่พักให้คุณเธอได้แอร์เย็นๆสักหน่อยก่อน แล้วคุณเธอก็นอนหลับไปจริงๆ แม่เปป ไม่ค่อยนอนกลางวันค่ะ เคยพยายามแต่ไม่ได้ผล เลยเลิกพยายาม
แล้วฝนก็เริ่มตกค่ะ ตกต่อเนื่องและเริ่มแรงขึ้น จน 5โมง เพื่อนก็ตื่นขึ้นมา เลยคุยกันว่า เห็นข่าวว่ามรสุมเข้า เบตงจะตกทั้งวันคืนแน่ๆ เอางัยกันดี แล้วถ้าอยู่ต่อก็ต้องแจ้งที่พัก และร้านมอเตอร์ไซค์ด้วย แต่เราคงจะเที่ยวกันไม่ค่อยได้มาก เพราะขี่มอเตอร์ไซค์กลางฝนลำบาก เพื่อนถามว่า เอางัยเอากัน แม่เปปมีความคิดเห็นว่างัยบ้าง เราก็เที่ยวจุดสำคัญเกือบหมดละนะ ไม่ได้ไป คือ สวนดอกไม้และอุโมงค์ปิยะมิตร อ้อสะพานแตปูซูด้วย
เพื่อนบอกเรากลับมาเที่ยวและเก็บกันใหม่ครั้งหน้าก็ได้นะ หาเวลาให้ตรงกัน แล้วมาอีก เพื่อนชอบเบตงไปแล้ว เลยตกลงกันว่า พรุ่งนี้สายๆ เราออกจากเบตงไปลงยะลา แล้วไปแวะวัดช้างไห้ ก่อนเข้าไปปัตตานีเพื่อลุยเที่ยวต่อ วันนี้เราเลยจะกินอาหารเย็นร้านดังของเบตงอีกร้านกัน ส่วนพรุ่งนี้เช้าก่อนออก เราจะกินติ่มซำร้านที่อยู่ติดที่พักเป็นการกินอำลาเบตง
6โมงแล้ว รอให้ฝนหยุดก็ยังไม่หยุดตก พรำๆสม่ำเสมอหลายชั่วโมงละ เราเลยต้องยอมออกเดินจากที่พักไปหาอาหารกินกัน คืนสุดท้ายของเบตง ก็เลยไปภัตตาคารอาหารจีนชื่อดัง ...ต้าเหยิน...ไม่ไกลจากที่พักเช่นกันค่ะ แม้ฝนจะตก ร้านก็คนเยอะเกือบเต็ม ส่วนใหญ่เป็น คนมาเลเซียอีกเช่นกัน สั่งเมนูฮิตติดดาวของร้านเลยค่ะ แล้วระหว่างที่นั่งรออาหาร ไฟก็ดับมืด มองไปฝั่งตรงข้ามร้านต่างๆ ก็ไฟดับเช่นกัน แต่ในร้านดูเขาปกติกันดี คงจะเพราะฝนตกหนักและยาวต่อเนื่องกันหลายชั่วโมง แต่ สัก 10 นาที ไฟก็มาปกติ
ไก่สับเบตงร้านนี้ ก็อร่อยมาก ถึงมากที่สุด มาเบตง ได้กินไก่สับ 2 ร้าน ให้คะแนนไม่ถูกเลย อร่อยทั้งคู่จริงๆ
ผัดผักน้ำ คล้ายๆผักบุ้งภาคกลาง แต่ไม่เหมือนซะทีเดียว รสชาติเขา มีความกรุบ กรอบ กินเพลินอีกเช่นกัน
ถั่วเจี๋ยน ถั่วฝักยาวเหมือนถั่วภาคกลาง แต่รสชาติของเขา อร่อย หวาน กรอบ เนื้อแน่น แตกต่างกว่าที่เราเคยกินค่ะ อร่อยเช่นหัน แค่ผัดกับน้ำมันปรุงรสสูตรของร้าน ก็กินเล่นได้เพลินหมดจาน
ไก่สับ ร้านเจริญข้าวมันไก่ ที่กินเมื่อวานว่าอร่อยแล้ว ร้านนี้ก็อร่อยไม่แพ้กันเลย ไก่เขานุ่มแน่น ไม่มีกลิ่นคาวเช่นกัน ราดในจานด้วยน้ำซอสคล้ายซีอิ๊ว หวาน เค็ม กลมกล่อม คิดว่าคงสูตรเฉพาะของร้านเขา ยิ่งทำให้ไก่สับอร่อยสุดๆ แม่เปป กินไก่สับร้านนี้ได้อีกแล้ว ดีใจที่มาเบตงแล้วกินไก่อร่อย เพื่อนขอสั่งเพิ่มอีกจานเลย ลองแอบมองโต๊ะอื่นๆ ทุกโต๊ะต้องมีไก่สับเช่นกัน ยิ่งถ้าเป็นคนมาเลเซีย เขานั่งโต๊ะเดียวกัน ยังสั่งมาคนละจานเลย คือมากินไก่สับโดยเฉพาะเลย