แผนแม่บทการเคหะแห่งชาติ 2540-2544

กระทู้สนทนา
สุขวิชโนมิกส์: แผนแม่บทการเคหะแห่งชาติ

บทคัดย่อ

แผนแม่บทการเคหะแห่งชาติ พ.ศ. 2540–2544 จัดทำขึ้นในยุคของ สุขวิชโนมิกส์ ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะภายใต้ปรัชญา “ประชาชนเป็นศูนย์กลาง” ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2540–2544) โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยและชุมชนแออัดในเขตเมือง ควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยในระยะยาว

แผนดังกล่าวนำเสนอแนวคิดสำคัญ ได้แก่ เมืองน่าอยู่, เคหะชนบท, บ้านเช่าราคาถูก, โครงการรับจ้างทำ, และ การแก้วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤตต้มยำกุ้ง พร้อมทั้งเน้นการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐาน การมีส่วนร่วมของประชาชน และการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค

จุดเด่นของแผนแม่บทนี้อยู่ที่การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง โดยยกระดับ “สิทธิในการอยู่อาศัย” ให้เป็นส่วนหนึ่งของสิทธิพลเมือง และเชื่อมโยงการเคหะกับการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน อันเป็นรากฐานสำคัญของนโยบายเคหะในยุคต่อมา เช่น โครงการบ้านมั่นคงของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) แผนแม่บทการเคหะแห่งชาติ 2540–2544 จึงถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการอภิวัฒน์สังคมเมืองไทย ที่ผสมผสานทั้งมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกันอย่างเป็นองค์รวม

บทนำ

ที่อยู่อาศัยเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานของคุณภาพชีวิตและความมั่นคงทางสังคม ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานคร สะท้อนให้เห็นความไม่สมดุลของการพัฒนาประเทศมาอย่างยาวนาน ตัวอย่างที่เด่นชัดคือ ชุมชนคลองเตย ซึ่งมีประชาชนกว่าหนึ่งแสนคนอาศัยอยู่ในสภาพแออัด ขาดสิทธิในที่ดิน การเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และสุขอนามัยที่เหมาะสม ปัญหาเช่นนี้ไม่เพียงเป็นความท้าทายด้านสังคม แต่ยังสะท้อนความเปราะบางของนโยบายการพัฒนาเมืองในอดีต
ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2540–2544) ประเทศไทยได้ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างครั้งสำคัญ โดยเป็นครั้งแรกที่ใช้แนวคิด “ประชาชนเป็นศูนย์กลาง” แทนการพัฒนาที่รัฐเป็นผู้กำหนดทิศทางเพียงฝ่ายเดียว ภายใต้บริบทนี้ แผนแม่บทการเคหะแห่งชาติ พ.ศ. 2540–2544 ได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยและชุมชนแออัดอย่างเป็นระบบ
แผนแม่บทการเคหะฯ ในยุคนี้ได้รับอิทธิพลจากแนวคิด “สุขวิชโนมิกส์” ของ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ซึ่งเน้นการบูรณาการนโยบายเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะการพัฒนาเมืองน่าอยู่ การจัดหาที่อยู่อาศัยที่เข้าถึงได้ และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ เช่น การปรับใช้หมู่บ้านนักกีฬาจากการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ให้เป็นที่อยู่อาศัยถาวรสำหรับผู้มีรายได้น้อย
ดังนั้น บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ แผนแม่บทการเคหะแห่งชาติ 2540–2544 ในฐานะกรณีศึกษาของการปฏิรูปนโยบายสาธารณะด้านที่อยู่อาศัย โดยเน้นบทบาทของ “สุขวิชโนมิกส์” ในการเปลี่ยนมุมมองจากการแก้ปัญหาเชิงกายภาพ ไปสู่การยกระดับสิทธิในการอยู่อาศัย และการสร้างสังคมเมืองที่มีความเท่าเทียมและยั่งยืน

ทบทวนวรรณกรรม — สุขวิชโนมิกส์: แผนแม่บทการเคหะแห่งชาติ (พ.ศ. 2540–2544)

บททบทวนวรรณกรรมนี้รวบรวมงานวิจัย เอกสารนโยบาย และรายงานโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยของไทยในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2540–2544) โดยเฉพาะประเด็นที่เชื่อมโยงกับปรัชญาสุขวิชโนมิกส์ และแผนแม่บทการเคหะแห่งชาติ

1. ภาพรวมของวรรณกรรมและแหล่งข้อมูลสำคัญ
วรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับแผนแม่บทการเคหะฯ แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลัก:
เอกสารนโยบายและรายงานของรัฐ — ได้แก่ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8, แผนแม่บทการเคหะแห่งชาติ (การเคหะแห่งชาติ), และมติ ครม. ที่เกี่ยวข้อง (ตัวอย่างเช่น มติ ครม. 19 ส.ค. 2540) ซึ่งให้กรอบยุทธศาสตร์และมาตรการปฏิบัติการเชิงสถาบัน
รายงานและเอกสารภาคประชาสังคม/องค์กรระหว่างประเทศ — เช่น รายงานของ UCDO (สำนักงานพัฒนาชุมชนเมือง), รายงาน UN-Habitat (Scroll of Honour citation) และงานวิเคราะห์ของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช./CODI)
งานวิชาการและบทความวิเคราะห์ — บทความในวารสาร ดุษฎีนิพนธ์ และบทวิเคราะห์เชิงนโยบายที่พิจารณากรณีศึกษา เช่น คลองเตย โครงการหมู่บ้านนักกีฬา และการนำโครงสร้างพื้นฐานของงานมหกรรม/กีฬาไปใช้ประโยชน์เชิงสังคม
แหล่งอ้างอิงตัวอย่าง ที่มักถูกยกมาในวรรณกรรม ได้แก่ เอกสารของ การเคหะแห่งชาติ (2540), สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (NESDB), รายงาน UCDO (1995–1998), UN-Habitat (1995), และผลงานวิชาการของผู้เชี่ยวชาญไทย เช่น Boonyabancha (งานเกี่ยวกับบ้านมั่นคง) และงานเขียน/นโยบายของ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล

2. ประเด็นเชิงทฤษฎีและแนวคิดหลักที่ปรากฏในวรรณกรรม
การพัฒนาแบบประชาชนเป็นศูนย์กลาง (People-Centered Development): วรรณกรรมชี้ว่าแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 และแผนแม่บทการเคหะฯ นำแนวคิดนี้มาแทนที่การพัฒนาที่รัฐเป็นศูนย์กลาง ซึ่งเปลี่ยนรูปแบบการออกแบบนโยบายไปสู่การมีส่วนร่วมของชุมชนและการใช้กลไกท้องถิ่น
สิทธิในการอยู่อาศัย (Right to Housing / Urban Citizenship): งานวิชาการเริ่มพูดถึงที่อยู่อาศัยในมิติของสิทธิพลเมืองมากขึ้น — ไม่เพียงเป็นสินค้าเชิงเศรษฐกิจ แต่เป็นสิทธิเบื้องต้นของพลเมืองเมือง

การจัดการโครงสร้างพื้นฐานเชิงนโยบาย (Policy-led Infrastructure Reuse): แนวคิดการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างงานเทศกาล/กีฬาหลังการใช้งาน (e.g., Athletes’ Village) เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยถาวร ถูกวิเคราะห์ในเชิงนวัตกรรมเชิงนโยบาย
การแก้วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ (Crisis Response / Socialization of Assets): วรรณกรรมบางชิ้นพิจารณาความพยายามของรัฐที่นำทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์ที่ค้างชำระ/ถูกทิ้งร้างในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ (พ.ศ. 2540) มาปรับเป็นสวัสดิการสาธารณะ

3. งานวิจัยเชิงกรณีศึกษา (Empirical studies)
กรณีชุมชนคลองเตย: งานศึกษาหลายชิ้นตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ ความไม่มั่นคงของที่ดิน และกระบวนการย้ายชุมชนที่เสนอให้ไปอยู่หมู่บ้านนักกีฬา ผลการศึกษาชี้ทั้งโอกาส (การลดการขับไล่แบบรุนแรง การปรับปรุงที่อยู่อาศัย) และข้อจำกัด (การคัดกรองไม่ครอบคลุมผู้ไม่มีเอกสาร เหตุผลเชิงเศรษฐกิจและสังคมที่ทำให้บางครัวเรือนไม่ย้าย)
โครงการนำโครงสร้างกีฬาไปใช้ประโยชน์: งานวิเคราะห์เปรียบเทียบนานาชาติพบว่าวิธีการแบบ adaptive reuse ของ Athletes’ Village เป็นตัวอย่างที่หาได้ยากในภูมิภาค แต่ต้องพิจารณาเรื่องมาตรฐานที่อยู่อาศัยและการบูรณาการบริการชุมชน
ผลต่อชุมชนและการจัดการท้องถิ่น: งานวิจัยของภาคประชาสังคม (เช่น รายงาน UCDO/CODI) ให้ข้อมูลเชิงปฏิบัติว่า การรวมกลุ่มออมทรัพย์และสหกรณ์ช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงสินเชื่อและการต่อรองกับรัฐ/เอกชน

4. การประเมินผลกระทบและข้อพิพาทเชิงนโยบาย
ผลเชิงบวก: ลดการขับไล่รุนแรง บรรเทาปัญหาที่อยู่อาศัยชั่วคราว สร้างแบบอย่างการมีส่วนร่วมของชุมชน วางรากฐานให้โครงการบ้านมั่นคงในภายหลัง
ข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่สำคัญ:

การดำเนินงานจริงอาจไม่สอดคล้องกับหลักสิทธิ (e.g., การคัดกรองผู้ได้ประโยชน์)
บางโครงการมีผลข้างเคียง เช่น การเคลื่อนย้ายชุมชนทำลายเครือข่ายอาชีพ/สังคม และการแย่งใช้พื้นที่สาธารณะ
ความยั่งยืนทางการเงินของโครงการและการบำรุงรักษาหลังการส่งมอบยังเป็นคำถามสำคัญ

5. ช่องว่างงานวิจัย (Research Gaps)
จากการทบทวนวรรณกรรม พบช่องว่างที่ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมดังนี้:
การศึกษาติดตามผลระยะยาว (longitudinal impact studies) ของผู้ได้รับการจัดสรรที่อยู่อาศัยจากโครงการหมู่บ้านนักกีฬาและโครงการอื่น ๆ
การประเมินเชิงเศรษฐศาสตร์ของมาตรการแก้วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ (cost-benefit / fiscal impact)
การวิเคราะห์การเข้าถึงสิทธิของกลุ่มเปราะบาง (เช่น คนไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ) ภายใต้นโยบายการย้ายที่อยู่อาศัย
เปรียบเทียบการใช้นโยบาย mega-event legacy ในประเทศต่าง ๆ กับกรณีไทย เพื่อสกัดบทเรียนเชิงนโยบาย

6. การรีเบรนด์เพื่อเคลมผลงานของรัฐบาลประชานิยม เป็น บ้านเอื้ออาทร
ส่งผลเสียอย่างรุนแรงในทุกมิติ และ จบลงที่ รัฐมนตรีติดคุก

7. ข้อสรุปเชิงสังเขป
วรรณกรรมเกี่ยวกับแผนแม่บทการเคหะแห่งชาติ (2540–2544) เน้นว่าแผนนี้เป็นการเปลี่ยนผ่านนโยบายสำคัญที่ส่งเสริมแนวคิดสิทธิในการอยู่อาศัยและการมีส่วนร่วมของชุมชน ภายใต้กรอบสุขวิชโนมิกส์ จุดแข็งคือการนำแนวคิดสังคมเข้ามาผสานกับมาตรการเศรษฐกิจและการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เป็นประโยชน์ ขณะเดียวกัน งานวิจัยยังชี้ให้เห็นข้อจำกัดในการปฏิบัติและความจำเป็นในการศึกษาติดตามผลเชิงลึกเพื่อประเมินความยั่งยืนและความเป็นธรรมของผลประโยชน์ที่กระจายไปยังกลุ่มผู้มีรายได้น้อย

วิธีดำเนินการวิจัย 

งานวิจัยนี้ใช้แนวทาง การศึกษาเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เพื่อวิเคราะห์แผนแม่บทการเคหะแห่งชาติ พ.ศ. 2540–2544 ภายใต้ปรัชญา สุขวิชโนมิกส์ โดยเน้นการทำความเข้าใจการออกแบบนโยบาย กระบวนการดำเนินงาน ผลกระทบต่อชุมชน และความยั่งยืนของมาตรการด้านที่อยู่อาศัย

1. แหล่งข้อมูล
เอกสารทางราชการและนโยบาย: แผนแม่บทการเคหะแห่งชาติ (2540–2544), แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8, มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และเอกสารของการเคหะแห่งชาติ
รายงานองค์กรภาคประชาสังคม/ระหว่างประเทศ: รายงานของ UCDO, UN-Habitat (Scroll of Honour citation), และรายงานของ CODI
งานวิชาการและบทความวิเคราะห์: บทความวารสาร ดุษฎีนิพนธ์ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกรณีศึกษา เช่น ชุมชนคลองเตย, หมู่บ้านนักกีฬา, โครงการบ้านมั่นคง

2. วิธีการเก็บข้อมูล
การวิเคราะห์เอกสาร (Document Analysis): ตรวจสอบและสังเคราะห์ข้อมูลเชิงนโยบาย โครงการ และบทความวิชาการเพื่อสร้างกรอบความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ ยุทธศาสตร์ และผลลัพธ์ของแผนแม่บทการเคหะฯ
การวิเคราะห์กรณีศึกษา (Case Study Analysis): เลือกชุมชนคลองเตยและโครงการหมู่บ้านนักกีฬาเอเชียนเกมส์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นกรณีศึกษาเพื่อสำรวจประสบการณ์และผลกระทบเชิงสังคม



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่