วิถีแห่งอรหันต์

“ฌาน” โดยตัวมันเองยังไม่ใช่ที่สุดของการหลุดพ้น แต่ถ้าใช้ฌานร่วมกับปัญญาในการพิจารณา “รูป-นาม” ตามความเป็นจริง ก็สามารถนำไปสู่ นิพพานและความสิ้นอาสวะ ได้ ดังพระพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ว่า

“ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ ในธรรมวินัยนี้ บรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ เธอย่อมพิจารณา เห็นธรรมทั้งหลาย คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันมีอยู่ในขณะ แห่งจตุตถฌานนั้น โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ... ว่างเปล่า เป็น อนัตตา เธอย่อมยังจิตให้ตั้งอยู่ด้วยธรรมเหล่านั้น ครั้นแล้ว ย่อมน้อมจิตไปเพื่ออมตธาตุว่า นั่นสงบ นั่นประณีต คือ ธรรมเป็นที่สงบแห่งสังขารทั้งปวง ...นิพพาน เธอตั้งอยู่ในจตุตถฌานนั้น ย่อมถึงความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย”

แปลและอธิบายทีละช่วง

“ภิกษุ… บรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อน ๆ ได้”

กล่าวถึงผู้ปฏิบัติที่เข้าถึง ฌานที่ 4 ซึ่งเป็น ฌานสูงสุดในรูปฌาน ลักษณะของจตุตถฌานคือ ไม่มีสุข ไม่มีทุกข์ จิตสงบเย็น ละเอียดมากมีแต่ “อุเบกขา” และ “สติบริสุทธิ์” – เป็นความรู้สึกกลาง ๆ เย็น ๆ

“มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่”
อุเบกขา ในที่นี้คือ อุเบกขาญาณสังขาร – ไม่ใช่เฉยเมย แต่คือ จิตเป็นกลางด้วยปัญญาจิตที่สงบและตั้งมั่นในจตุตถฌาน จะมีสติบริสุทธิ์ พร้อมสำหรับการเจริญปัญญา

“เธอย่อมพิจารณาเห็นธรรมทั้งหลาย คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ… โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์… เป็นอนัตตา”
หลังได้จตุตถฌานแล้ว ภิกษุ ไม่หยุดอยู่แค่ความสงบแต่ใช้จิตอันตั้งมั่นนั้น พิจารณาขันธ์ 5 ได้แก่
รูป (กาย)
เวทนา (ความรู้สึก)
สัญญา (การจำหมายรู้)
สังขาร (ความคิดปรุงแต่ง)
วิญญาณ (การรับรู้อารมณ์)
โดยเห็นว่าทั้งหมดนี้ว่า
ไม่เที่ยง (อนิจจัง)
เป็นทุกข์ (ทุกขัง)
ไม่ใช่ตัวตน (อนัตตา)

“เธอย่อมยังจิตให้ตั้งอยู่ด้วยธรรมเหล่านั้น”
คือ การ ตั้งจิตอยู่ในการพิจารณาไตรลักษณ์ เป็นการ ไม่คลายสมาธิ แต่ใช้สมาธิเป็นฐานของการเจริญปัญญา

“ครั้นแล้ว ย่อมน้อมจิตไปเพื่ออมตธาตุ ว่า… นั่นสงบ นั่นประณีต คือ ธรรมเป็นที่สงบแห่งสังขารทั้งปวง… นิพพาน”

เมื่อเห็นไตรลักษณ์ในขันธ์ 5 ชัดเจน จิตจะ เกิดความเบื่อหน่าย (นิพพิทา) แล้ว คลายกำหนัด (วิราคะ) จิตจะน้อมไปสู่ “อมตธาตุ” หรือ นิพพาน คือ
• ไม่เกิด ไม่ดับ
• ไม่ปรุงแต่ง
• ไม่มีขันธ์ ไม่มีสังขาร
• เป็นธรรมชาติที่สงบประณีตที่สุด

“เธอตั้งอยู่ในจตุตถฌานนั้น ย่อมถึงความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย”
ฌานไม่ใช่เป้าหมายสุดท้าย แต่เป็นเครื่องมือถ้าใช้ฌานเป็นฐานในการพิจารณาไตรลักษณ์อย่างถูกต้อง ก็สามารถนำไปสู่ อรหัตผล คือ การสิ้นอาสวะ กิเลสละเอียด ได้แก่ กามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ

ฌาน + ปัญญา = วิมุติ (การหลุดพ้น)
การเข้าสู่จตุตถฌาน แล้วใช้จิตอันบริสุทธิ์พิจารณาขันธ์ 5 ตามความเป็นจริง จนเกิดนิพพิทา วิราคะ และนำจิตเข้าสู่นิพพาน – นี่คือ วิถีแห่งอรหันต์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่