ข้าวผัดกิมจิ (Kimchi Fried Rice - 김치볶음밥) สูตรทำง่าย อร่อยเด็ด

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)

ภาพโดย Sharon Ang จาก Pixabay

วัตถุดิบหลัก
1. ข้าวสวยหุงสุกแช่เย็น (ข้าวเย็น): 2 ถ้วย (ข้าวที่หุงทิ้งไว้ข้ามคืน หรือแช่เย็นจะผัดขึ้นเม็ดสวยกว่า)
2. กิมจิ (Kimchi - 김치): 1 ถ้วย (สับหยาบๆ ใช้กิมจิที่เปรี้ยวแล้วจะอร่อยมาก)
3. น้ำกิมจิ: 2-3 ช้อนโต๊ะ (จากถ้วยกิมจินั่นแหละ เพิ่มรสชาติและสีสัน)
4. หมูสามชั้น: 100 กรัม (หั่นชิ้นเล็กๆ ผัดแล้วจะหอมมัน อร่อยมาก!)
5. เนื้อหมูสับ/ไก่สับ: 100 กรัม
6. ทูน่ากระป๋อง: 1 กระป๋อง (สะเด็ดน้ำมัน)
7. แฮม/ไส้กรอก: 100 กรัม (หั่นเต๋าเล็กๆ)
8. ต้นหอมซอย: 2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับผัดและโรยหน้า)
9. กระเทียมสับ: 1 ช้อนโต๊ะ

เครื่องปรุงรส (ปรุงง่ายๆ):
10. โคชูจัง (Gochujang - 고추장 - ซอสพริกเกาหลี): 1-2 ช้อนโต๊ะ (ปรับตามชอบ)
11. น้ำมันงา: 1-2 ช้อนชา (เพิ่มความหอมเป็นเอกลักษณ์)
12. น้ำมันพืช: 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับผัด)
13. น้ำตาลทราย: 1/2 - 1 ช้อนชา (ถ้ากิมจิเปรี้ยวมาก ให้เพิ่มน้ำตาลเล็กน้อย)
14. สาหร่ายปรุงรสแบบเกาหลี (Kimjaban - 김자반): สำหรับโรยหน้า (ถ้ามี)
15. งาขาวคั่ว: สำหรับโรยหน้า (ถ้ามี)

สำหรับตกแต่ง (เพิ่มความน่ากิน):
16. ไข่ดาว: 2 ฟอง (ทอดแบบไข่แดงเยิ้มๆ จะอร่อยเข้ากัน)

ขั้นตอนการทำ (ง่ายมากๆ ไม่กี่นาทีก็ได้กินแล้ว)
1. เตรียมวัตถุดิบ: สับกิมจิ หั่นเนื้อสัตว์ ซอยต้นหอม เตรียมข้าวเย็นไว้ให้พร้อม
2. ผัดเนื้อสัตว์และกระเทียม:
   2.1 ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืช (9) พอร้อน
   2.2 ใส่เนื้อสัตว์ (4) ที่เลือกไว้ลงไปผัดจนสุก และมีน้ำมันออกมา (ถ้าใช้หมูสามชั้น ผัดจนเหลืองกรอบเล็กน้อยจะหอมมาก)
   2.3 ใส่กระเทียมสับ (6) ลงไปผัดจนหอม กลิ่นกระเทียมหอมๆ คลุกเคล้ากับเนื้อหมูที่ผัดส่งกลิ่นหอมยั่วใจ!
3. ผัดกิมจิและโคชูจัง:
   3.1 ใส่ กิมจิสับ (2) และ น้ำกิมจิ (3) ลงไปในกระทะ ผัดคลุกเคล้ากับเนื้อสัตว์และกระเทียม
   3.2 ใส่ โคชูจัง (7) และ น้ำตาลทราย (10) ลงไป ผัดให้เข้ากันดี ผัดจนกลิ่นหอมของกิมจิและโคชูจังโชยขึ้นมาทั่วครัว สีสันของกิมจิจะแดงสดใสขึ้น
4. ใส่ข้าวและผัด:
   4.1 ใส่ ข้าวสวยหุงสุกแช่เย็น (1) ลงในกระทะ ใช้ตะหลิวบี้ๆ ให้เม็ดข้าวแยกออกจากกัน และผัดคลุกเคล้ากับส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี
   4.2 ผัดไปเรื่อยๆ จนเม็ดข้าวเคลือบด้วยซอสกิมจิทั่วถึง และข้าวเริ่มแห้งขึ้นเล็กน้อย ข้าวจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีส้มแดงสวยงาม น่าทานสุดๆ!
5. ปรุงรสสุดท้าย:
   5.1 ปิดไฟ ใส่น้ำมันงา (8) และต้นหอมซอย (5) ลงไป คนให้เข้ากันอย่างรวดเร็ว
   5.2 ชิมรสชาติ สามารถปรับเพิ่มโคชูจัง น้ำปลา หรือน้ำตาลได้ตามชอบ รสชาติจะออกเปรี้ยว เผ็ด หวาน กลมกล่อมลงตัว
6. จัดเสิร์ฟ:
   6.1 ตักข้าวผัดกิมจิใส่จาน จัดทรงให้สวยงาม
   6.2 วาง ไข่ดาว (13) ที่ทอดแบบไข่แดงเยิ้มๆ ไว้ด้านบน ไข่แดงเยิ้มๆ เมื่อคลุกกับข้าวผัดกิมจิจะเพิ่มความนุ่มละมุนและมันนัวสุดๆ!
   6.3 โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย (5) เพิ่มเติม, สาหร่ายปรุงรส (11) และงาขาวคั่ว (12) (ถ้ามี) พร้อมเสิร์ฟความอร่อยได้ทันที!

แหล่งซื้อวัตถุดิบ:
กิมจิ, โคชูจัง, น้ำมันงา, สาหร่ายปรุงรส, งาขาวคั่ว:
ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ: เช่น Foodland, Tops Supermarket, Gourmet Market, Lotus's, Big C (ในแผนกอาหารต่างประเทศ หรือโซนอาหารเกาหลี)
ร้านขายของชำเกาหลี: มีอยู่หลายที่ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ๆ เช่น โคเรียนทาวน์ สุขุมวิท 12 หรือร้านเล็กๆ ที่นำเข้าสินค้าเกาหลีโดยเฉพาะ
Makro: มีกิมจิขนาดใหญ่และโคชูจังให้เลือกซื้อ
ออนไลน์: Shopee, Lazada มีร้านค้าเกาหลีให้เลือกซื้อมากมาย สะดวกมากๆ
ข้าวสวย, เนื้อสัตว์, ต้นหอม, กระเทียม, น้ำมันพืช, น้ำตาลทราย, ไข่ไก่: หาซื้อได้ทั่วไปตามตลาดสด หรือซูเปอร์มาร์เก็ตทุกแห่ง

เคล็ดลับความอร่อย:
ใช้ข้าวเย็น: ข้าวที่หุงทิ้งไว้ข้ามคืน หรือนำข้าวสวยแช่เย็นก่อนนำมาผัด จะทำให้เม็ดข้าวร่วน ไม่แฉะ และขึ้นเม็ดสวยงาม
ใช้กิมจิที่เปรี้ยวแล้ว: กิมจิที่เปรี้ยวแล้วจะมีรสชาติที่เข้มข้นและกลมกล่อมกว่ากิมจิใหม่ๆ เหมาะกับการนำมาผัด
ผัดกิมจิให้หอม: ผัดกิมจิกับเนื้อสัตว์และโคชูจังให้หอม และซอสเคลือบกิมจิได้ดี จะทำให้รสชาติเข้มข้นขึ้น
ไข่ดาวเยิ้มๆ: ไข่ดาวที่ไข่แดงยังเป็นยางมะตูม เมื่อคลุกเคล้ากับข้าวผัดกิมจิจะเพิ่มความหอมมันและรสชาติที่นุ่มนวล
ปรับรสตามชอบ: รสชาติข้าวผัดกิมจิสามารถปรับได้ตามความชอบส่วนตัว หากชอบเผ็ดเพิ่มโคชูจัง หรือพริกป่นเกาหลี หากชอบเปรี้ยวเพิ่มน้ำกิมจิ หรือน้ำส้มสายชูเล็กน้อย

ข้าวผัดกิมจิจานนี้ จะทำให้คุณได้สัมผัสรสชาติเกาหลีแท้ๆ ทั้งเผ็ดร้อน เปรี้ยวกลมกล่อม หอมมัน ทานพร้อมไข่ดาวเยิ้มๆ แล้วจะฟินจนต้องร้อง "มาสชิซซอโย (맛있어요)" ที่แปลว่า "อร่อย" เลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่