ปชน. ย้ำจุดยืนเดิม ถกนิรโทษกรรม ไม่ควรมีเงื่อนไข ชงตั้ง คกก.กลั่นกรองคดี 112
https://www.matichon.co.th/politics/news_5262157
.
.
ปชน. ย้ำจุดยืนเดิม ถกนิรโทษกรรม ไม่ควรมีเงื่อนไข ชงตั้ง คกก.กลั่นกรองนักโทษคดี 112
.
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม 4 ร่าง ที่จะเตรียมเข้าสู่สภา ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ หลังรัฐบาลเตรียมเลื่อน ร่าง พ.ร.บ.การประกอบกิจการสถานบันเทิงครบวงจร ออกไปก่อนว่า เป้าหมายของการนิรโทษกรรม คือการให้อภัย ฟื้นฟูความสัมพันธ์และเดินหน้ากันใหม่ ดังนั้น หากเดินหน้านิรโทษกรรมแบบมีเงื่อนไข ก็จะอธิบายต่อสังคมยาก พรรคประชาชนจึงยืนยันว่าเรา ย้ำในจุดยืนเดิม คือต้องมีคณะกรรมการ ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเปิดเผยและโปร่งใส ขึ้นมาพิจารณานักโทษในคดีที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 อย่างลงรายละเอียดและกลั่นกรองก่อน และเราก็ยินดีรับหลักการของทุกร่าง เพราะเราเชื่อว่าการให้อภัยกัน ไม่ควรมีการลักลั่นหรือตั้งเงื่อนไขต่อกัน และเชื่อว่าข้อเสนอของเรา ไม่น่าจะมีใครปฏิเสธหากพิจารณาโดยวางอคติลง
.
ส่วนที่หลายพรรคมีธงอยู่แล้วว่า ไม่นิรโทษกรรมให้กับนักโทษในคดี 112 นาย
วิโรจน์ กล่าวว่า ต้องหารือกันในการอภิปรายวาระหนึ่ง ซึ่งทางฝั่งที่เห็นด้วยก็ต้องแสดงความจริงใจ และคิดบนหลักให้อภัยกัน เพราะการให้อภัยหากเราเลือกปฏิบัติมันก็ผิดวัตถุประสงค์ และเราก็ทราบดีถึงความผิดในมาตรานี้ จึงไม่เลือกนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง แต่เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมากลั่นกรอง พร้อมยอมรับว่าเรื่องนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่น เพราะเข้าใจว่า ร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ จะเข้ามาก่อน
.
ส่วนการเดินหน้านิรโทษกรรม หลายคนก็มองหน้าตาของผู้ที่จะได้รับอานิสงส์ ซึ่งก็รวมถึงนาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตส.ส.พรรคก้าวไกล ส.ส.พรรคประชาชนด้วย นาย
วิโรจน์ กล่าวว่า คณะกรรมการคงไม่ได้หยิบยกว่าหน้าตาใคร จะเป็นอย่างไร แต่คงดูที่พฤติการณ์เป็นหลัก แต่คดีมาตรา 112 ต้องยอมรับว่า เข้าข่ายเป็นคดีการเมือง เพราะแต่ละห้วงเวลามีมาตรฐานการดำเนินคดีที่แตกต่างกัน ถึงต้องมีคณะกรรมการขึ้นมากลั่นกรอง เนื้อหาสาระ องค์ประกอบทางนิตินัย พฤตินัย เจตนา โดยไม่ต้องสนใจว่าหน้าตาใครเป็นอย่างไร
.
.
วิโรจน์ เย้ย พท. ไม่มั่นใจเสียงรบ. จนถอยกม.คอมเพล็กซ์ไม่เป็นท่า เชื่อ ภูมิธรรมยังตอบไม่ได้มีกี่เสียง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5262043
.
“วิโรจน์” เหน็บ เพื่อไทย เลื่อน กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ แบบไม่เป็นท่า ย้อนถาม หากวันนี้เสียงฝั่งรัฐบาลเท่าเดิม จะถอยหรือไม่ เย้ย “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ก็ยังไม่รู้ รัฐบาลมีกี่เสียง
.
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรียมพิจารณาเลื่อนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน ว่า ไม่คิดพรรคเพื่อไทย จะถอย พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แบบไม่เป็นท่า กำลังจับจ้องว่าเหตุผลของพรรคเพื่อไทยคืออะไร และต้องถามว่าจะเลื่อนการพิจารณา เลื่อนวาระ หรือถอนออกไป เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลยืนยันถึงความจำเป็นที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ และคิดว่าสังคมก็ต้องการคำตอบเรื่องนี้เช่นกัน ว่าเป็นเพราะรัฐบาลที่ไร้เสถียรภาพหรือไม่ จึงต้องถอนออกไปก่อน ซึ่งตนคิดว่าสังคมอยากจะฟังเหตุผลจากจอมเทคนิค ทั้งเทคนิคการหาเสียง เทคนิคการเจรจา จนมาสู่เทคนิคการถอนร่างในสภา ว่ามีข้อเท็จจริงประการใด
.
“
ส่วนมุมมองของผม คิดเหมือนของทุกคน ว่าจะเปลี่ยนท่าทีอะไรเร็วแบบนี้ แต่เดิมบอกคิดดีแล้ว สังคมบอกให้ตรวจทานอะไรก็ไม่ตรวจทาน ใครทัดทานอะไรก็ไม่ฟัง”
.
“
ถ้าวันนี้เสียงของฝั่งรัฐบาลเท่าเดิม คิดว่าจะถอยหรือไม่ แต่วันนี้ถอยด้วยเหตุผลอะไรก็จินตนาการกันเอง แต่ผมคิดว่าไม่ใช่ด้วยเหตุผล แต่เป็นเพราะความไม่มั่นใจว่าเสียงที่อยู่ฝั่งตนเองนั้นมีอยู่กี่เสียงกันแน่ เพราะแม้แต่พรรคประชาชาติเองก็ชัดเจน ว่าจะไม่โหวตให้ และยังมี ส.ส.ที่อยู่ในฝ่ายมุสลิมที่ยืนยันว่า ไม่ยกมือให้ วันนี้เชื่อว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่รักษาการนายกรัฐมนตรี ก็ไม่สามารถตอบได้ว่ารัฐบาลมีกี่เสียง” นาย
วิโรจน์กล่าว
.
.
วิโรจน์ แจงส.ส.ปชน.คุยอนุทิน ไม่แอบเหมือนโทรหาอังเคิลแน่ ยันชื่อชัยเกษม รับเงื่อนไขก็โหวตให้
https://www.matichon.co.th/politics/news_5262390
.
“วิโรจน์” ลั่น ปชน.พร้อมยกมือโหวต “นายกฯ ชั่วคราว” หากรับเงื่อนไขได้ รอ งบฯ 69 ผ่าน-ยุบสภา ไม่ติดว่าเป็นใคร พรรคไหน ขอให้อยู่ภายใต้กติกา
.
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2568 ที่รัฐสภา นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีชั่วคราว เพื่อมาแก้วิกฤตบ้านเมืองว่า เราลืมหน้าตานายกฯ-พรรค ไปได้เลย ว่าพรรคไหนหน้าตาเป็นอย่างไร พรรคประชาชนยึดหลักการเป็นหลัก และยังคงยืนยันเงื่อนไขที่ดีที่สุดตอนนี้ คือ การยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน แต่กรณีเงื่อนไขที่ต้องมีนายกฯ ชั่วคราว เพื่อให้ผ่านงบประมาณปี 2569 ไม่ให้กระทบกับเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน ดังนั้น หากยังยืนเรื่องการยุบสภาอาจจะเป็นทางตัน เราจึงอยากหาทางออกภายใต้เงื่อนไขที่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และคำนึงถึงสัจวาจาที่ได้ให้ไว้กับประชาชน แต่ถ้าจำเป็นต้องมีนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งประคับประคองให้งบประมาณปี 2569 ผ่าน แล้วยุบสภา เราพร้อมที่จะยกมือให้ ถ้าจำเป็นที่จะใช้มือของเรา โดยที่เรายืนยันว่าไม่ขอร่วมรัฐบาล ไหนๆ ก็จะเลือกตั้งใหม่แล้ว จะช่วยประหยัดงบประมาณภาษีของประชาชน และเตรียมในเรื่องของการทำประชามติการตั้ง ส.ส.ร. เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่เป็นผลพวงของรัฐประหารได้เริ่มต้นแก้ไขอย่างจริงจังเสียที ไม่ใช่รำกันไปมา
.
“
ถ้าประชาชนมีมติว่าควรมี ส.ส.ร.เป็นการเริ่มต้นแล้ว และเห็นสว่างทางไปอุโมงค์ในระบอบประชาธิปไตย พร้อมยืนยันว่าจะอย่างไรก็ตาม พรรคประชาชนจะไม่สร้างทางตันให้เกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตยอย่างแน่นอน และเมื่อไหร่ที่มีทางตันพวกเราจะช่วยกันขุด เพื่อหาทางออก เลิกฝันไปเลยว่าจะเกิดรัฐประหารภายใต้การที่มีพรรคประชาชนยังอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร”
.
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าได้มีการพูดคุยกับ นาย
อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนั้น นายวิโรจน์กล่าวว่า เรายื่นเงื่อนไขต่อสาธารณะ สมมุติว่านาย
ชัยเกษม นิติสิริ รับเงื่อนไขนี้ แล้วจำเป็นต้องยกมือให้นาย
ชัยเกษม เราก็ยินดี ใครก็ได้ งบประมาณ 2569 ผ่าน ทำประชามติร่วมกับการเลือกตั้งเลย ยุบสภาภายในสิ้นปีนี้ แล้วจำเป็นต้องใช้มือเรา เราก็ยินดีที่จะยกมือให้เพื่อบ้านเมืองผ่านไปได้
.
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับ ส.ส.ที่ไปร่วมวงเจรจากับนาย
อนุทินหรือไม่ นาย
วิโรจน์กล่าวว่า การไปพบปะพูดคุยกันระหว่างนักการเมืองเป็นเรื่องปกติ และได้มีการชี้แจงออกมาแล้วว่าเป็นการพบปะกันจริง แต่เป็นการพูดคุยเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ตนคิดว่าการพูดคุยกันเป็นเรื่องปกติ แต่คงไม่มีการแอบโทรไปหา “
อังเคิล” อย่างที่ใครทำแน่นอน
.
.
วิโรจน์ จี้พิชัย เคลียร์ให้ชัด วืดครั้งแรก ถกภาษีสหรัฐ ไม่เกินคาดหมาย แต่อยากรู้ติดขัดอะไร
https://www.matichon.co.th/politics/news_5262025
.
”วิโรจน์“ จี้ “พิชัย“ ตอบให้ชัด สหรัฐ เลื่อนเดดไลน์ขึ้นภาษีให้ไทยออกไปหรือไม่ บอก ดีลล่มครั้งแรก ไม่เกินคาด อย่างน้อยได้รู้ว่าติดขัดอะไร
.
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ นาย
พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำทีมไทยแลนด์บินไปเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า ทุกคนรู้ว่าการเจรจาครั้งแรกแล้วจะประสบความสำเร็จนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ยาก อาจจะต้องมีการเจรจาครั้งที่สอง สาม สี่ แต่ปรากฏว่าล่วงเลยล่าช้า สุดท้ายบอกว่าต้องกลับมาทำให้ดีที่สุด แล้วเส้นตายของทางสหรัฐคือวันที่ 8 กรกฎาคม นั่นหมายถึงวันที่ 9 กรกฎาคม ของไทย นายพิชัยก็ไม่ได้บอกว่าทางสหรัฐได้เลื่อนเดดไลน์สำหรับประเทศไทยออกไปหรือไม่ นั่นหมายความว่า ถ้าไม่ได้เลื่อนเดดไลน์ออกไป เราจะเจอภาษีศุลกากรตอบโต้ในระดับ 36% ตนขอถามว่า ภาคการส่งออกและภาคการผลิต โรงงานที่มีการจ้างงานอยู่มากมายจะกระทบมากมายขนาดไหน ที่นายพิชัยบอกว่ากลับมาแล้วจะทำงานให้หนักกว่าเดิม ตนก็อนุโมทนา แต่ช่วยตอบก่อนว่าสหรัฐได้เลื่อนเดดไลน์ ให้กับประเทศไทยหรือไม่
.
ส่วนครั้งนี้จะถือว่าดีลล่มหรือไม่ นาย
วิโรจน์กล่าวว่า ดีลล่มครั้งแรกเป็นเรื่องที่เราจินตนาการได้อยู่แล้ว การ เจรจาเรื่องสำคัญในครั้งแรก จะผ่านฉลุยก็คงยาก ที่เราจะได้เงื่อนไขแบบ win-win ดีต่อทั้งสองฝ่าย การเจรจาครั้งแรกอย่างน้อยก็ได้รู้ว่าเงื่อนไขที่เราเสนอ ทางสหรัฐติดอะไร ก็ต้องกลับมาทำการบ้าน ถึงบอกว่าควรจะเร่งเจรจา
.
”
ปรากฏว่า เป็นเหมือนมวย เก็งหมัดขวากะว่าจะฮุคทีเดียว แล้ววืด โดนจระเข้ฟาดหางกลับมา และกรรมการนับแล้ว ตอนนี้จะมีเวลาฟื้นตัวขึ้นมาชกใหม่หรือเปล่า ตรงนี้เป็นเรื่องที่เราต้องตั้งคำถามกับนายพิชัย ชุณหวชิร“ นาย
วิโรจน์กล่าว
.
.
กัณวีร์ ชี้ ไทยต้องเดินเกมการทูต-ความมั่นคง เหนือชั้นกว่า อย่าเป็นลูกไล่ ปล่อยกัมพูชา ฟ้อง UN
https://www.matichon.co.th/foreign/news_5262442
.
กัณวีร์ ชี้ ไทยต้องเดินเกมการทูต-ความมั่นคง เหนือชั้นกว่านี้ อย่าเป็นลูกไล่ ปล่อยกัมพูชา ฟ้อง UNGA
.
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม นาย
กัณวีร์ สืบแสง ส.ส.พรรคเป็นธรรม ได้โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีกัมพูชาได้ส่งหนังสือถึงสหประชาชาติ กรณีพิพาทช่องบก ก่อนที่ไทยจะส่งหนังสือชี้แจง โดยระบุว่า
.
ไทยต้องเดินเกมทางการทูตและงานความมั่นคงอย่างรู้เท่าทัน และต้องเหนือชั้นกว่า ไม่ปล่อยให้กัมพูชานำเหตุที่ไปฟ้องสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) โดยทำตัวเป็นลูกไล่ที่เค้าไปฟ้อง UNGA และศาลโลกอย่างอ่อนเชิง
.
สุดท้ายก็จริงอย่างที่ผมได้คาดการณ์ไว้ว่ากัมพูชา ต้องการนำข้อพิพาทชายแดนไทยกัมพูชา เข้าสู่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือ UNGA โดยส่งจดหมายไปยัง UNGA เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมข้อกล่าวอ้างที่เป็นเหตุผลให้นำข้อพิพาท 4 พื้นที่ขึ้นสู่ศาลโลก
.
แต่ดีนะครับที่ไทยก็มีหนังสือชี้แจงไปอย่างทันท่วงที อันนี้ถือว่ายังทันอยู่
.
อย่างที่ทุกท่านติดตามปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่เหตุปะทะที่พื้นที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.68 จนบานปลายไปสู่มาตรการการเปิด-ปิด ด่านพรมแดน และกัมพูชานำพื้นที่พิพาททั้งที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่ช่องบก ฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ
.
ผมเคยเตือนรัฐบาลไทยไปแล้วว่า เกมทั้งหมดกัมพูชาต้องการนำข้อพิพาทนี้ไปสู่ UNGA และ UNSC ดังนั้นรัฐบาลไทยต้องมีมาตรการทางการทูตเชิงรุกที่ทั้งรับมือและจัดการปัญหานี้ทางการทูตนำการทหาร และต้องเปลี่ยนงานทหารล้วนๆ เป็นงานความมั่นคงให้ได้ !!
JJNY : 5in1 ปชน.ย้ำจุดยืนเดิม│แจงส.ส.ปชน.คุยอนุทิน│วิโรจน์เย้ย พท.│จี้พิชัยเคลียร์ให้ชัด│กัณวีร์ชี้ไทยต้องเดินเกมการฑูต
https://www.matichon.co.th/politics/news_5262157
.
ปชน. ย้ำจุดยืนเดิม ถกนิรโทษกรรม ไม่ควรมีเงื่อนไข ชงตั้ง คกก.กลั่นกรองนักโทษคดี 112
.
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม 4 ร่าง ที่จะเตรียมเข้าสู่สภา ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ หลังรัฐบาลเตรียมเลื่อน ร่าง พ.ร.บ.การประกอบกิจการสถานบันเทิงครบวงจร ออกไปก่อนว่า เป้าหมายของการนิรโทษกรรม คือการให้อภัย ฟื้นฟูความสัมพันธ์และเดินหน้ากันใหม่ ดังนั้น หากเดินหน้านิรโทษกรรมแบบมีเงื่อนไข ก็จะอธิบายต่อสังคมยาก พรรคประชาชนจึงยืนยันว่าเรา ย้ำในจุดยืนเดิม คือต้องมีคณะกรรมการ ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเปิดเผยและโปร่งใส ขึ้นมาพิจารณานักโทษในคดีที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 อย่างลงรายละเอียดและกลั่นกรองก่อน และเราก็ยินดีรับหลักการของทุกร่าง เพราะเราเชื่อว่าการให้อภัยกัน ไม่ควรมีการลักลั่นหรือตั้งเงื่อนไขต่อกัน และเชื่อว่าข้อเสนอของเรา ไม่น่าจะมีใครปฏิเสธหากพิจารณาโดยวางอคติลง
.
ส่วนที่หลายพรรคมีธงอยู่แล้วว่า ไม่นิรโทษกรรมให้กับนักโทษในคดี 112 นายวิโรจน์ กล่าวว่า ต้องหารือกันในการอภิปรายวาระหนึ่ง ซึ่งทางฝั่งที่เห็นด้วยก็ต้องแสดงความจริงใจ และคิดบนหลักให้อภัยกัน เพราะการให้อภัยหากเราเลือกปฏิบัติมันก็ผิดวัตถุประสงค์ และเราก็ทราบดีถึงความผิดในมาตรานี้ จึงไม่เลือกนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง แต่เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมากลั่นกรอง พร้อมยอมรับว่าเรื่องนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่น เพราะเข้าใจว่า ร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ จะเข้ามาก่อน
.
ส่วนการเดินหน้านิรโทษกรรม หลายคนก็มองหน้าตาของผู้ที่จะได้รับอานิสงส์ ซึ่งก็รวมถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตส.ส.พรรคก้าวไกล ส.ส.พรรคประชาชนด้วย นายวิโรจน์ กล่าวว่า คณะกรรมการคงไม่ได้หยิบยกว่าหน้าตาใคร จะเป็นอย่างไร แต่คงดูที่พฤติการณ์เป็นหลัก แต่คดีมาตรา 112 ต้องยอมรับว่า เข้าข่ายเป็นคดีการเมือง เพราะแต่ละห้วงเวลามีมาตรฐานการดำเนินคดีที่แตกต่างกัน ถึงต้องมีคณะกรรมการขึ้นมากลั่นกรอง เนื้อหาสาระ องค์ประกอบทางนิตินัย พฤตินัย เจตนา โดยไม่ต้องสนใจว่าหน้าตาใครเป็นอย่างไร
.
.
วิโรจน์ เย้ย พท. ไม่มั่นใจเสียงรบ. จนถอยกม.คอมเพล็กซ์ไม่เป็นท่า เชื่อ ภูมิธรรมยังตอบไม่ได้มีกี่เสียง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5262043
.
“วิโรจน์” เหน็บ เพื่อไทย เลื่อน กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ แบบไม่เป็นท่า ย้อนถาม หากวันนี้เสียงฝั่งรัฐบาลเท่าเดิม จะถอยหรือไม่ เย้ย “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ก็ยังไม่รู้ รัฐบาลมีกี่เสียง
.
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรียมพิจารณาเลื่อนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน ว่า ไม่คิดพรรคเพื่อไทย จะถอย พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แบบไม่เป็นท่า กำลังจับจ้องว่าเหตุผลของพรรคเพื่อไทยคืออะไร และต้องถามว่าจะเลื่อนการพิจารณา เลื่อนวาระ หรือถอนออกไป เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลยืนยันถึงความจำเป็นที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ และคิดว่าสังคมก็ต้องการคำตอบเรื่องนี้เช่นกัน ว่าเป็นเพราะรัฐบาลที่ไร้เสถียรภาพหรือไม่ จึงต้องถอนออกไปก่อน ซึ่งตนคิดว่าสังคมอยากจะฟังเหตุผลจากจอมเทคนิค ทั้งเทคนิคการหาเสียง เทคนิคการเจรจา จนมาสู่เทคนิคการถอนร่างในสภา ว่ามีข้อเท็จจริงประการใด
.
“ส่วนมุมมองของผม คิดเหมือนของทุกคน ว่าจะเปลี่ยนท่าทีอะไรเร็วแบบนี้ แต่เดิมบอกคิดดีแล้ว สังคมบอกให้ตรวจทานอะไรก็ไม่ตรวจทาน ใครทัดทานอะไรก็ไม่ฟัง”
.
“ถ้าวันนี้เสียงของฝั่งรัฐบาลเท่าเดิม คิดว่าจะถอยหรือไม่ แต่วันนี้ถอยด้วยเหตุผลอะไรก็จินตนาการกันเอง แต่ผมคิดว่าไม่ใช่ด้วยเหตุผล แต่เป็นเพราะความไม่มั่นใจว่าเสียงที่อยู่ฝั่งตนเองนั้นมีอยู่กี่เสียงกันแน่ เพราะแม้แต่พรรคประชาชาติเองก็ชัดเจน ว่าจะไม่โหวตให้ และยังมี ส.ส.ที่อยู่ในฝ่ายมุสลิมที่ยืนยันว่า ไม่ยกมือให้ วันนี้เชื่อว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่รักษาการนายกรัฐมนตรี ก็ไม่สามารถตอบได้ว่ารัฐบาลมีกี่เสียง” นายวิโรจน์กล่าว
.
.
วิโรจน์ แจงส.ส.ปชน.คุยอนุทิน ไม่แอบเหมือนโทรหาอังเคิลแน่ ยันชื่อชัยเกษม รับเงื่อนไขก็โหวตให้
https://www.matichon.co.th/politics/news_5262390
.
“วิโรจน์” ลั่น ปชน.พร้อมยกมือโหวต “นายกฯ ชั่วคราว” หากรับเงื่อนไขได้ รอ งบฯ 69 ผ่าน-ยุบสภา ไม่ติดว่าเป็นใคร พรรคไหน ขอให้อยู่ภายใต้กติกา
.
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2568 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีชั่วคราว เพื่อมาแก้วิกฤตบ้านเมืองว่า เราลืมหน้าตานายกฯ-พรรค ไปได้เลย ว่าพรรคไหนหน้าตาเป็นอย่างไร พรรคประชาชนยึดหลักการเป็นหลัก และยังคงยืนยันเงื่อนไขที่ดีที่สุดตอนนี้ คือ การยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน แต่กรณีเงื่อนไขที่ต้องมีนายกฯ ชั่วคราว เพื่อให้ผ่านงบประมาณปี 2569 ไม่ให้กระทบกับเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน ดังนั้น หากยังยืนเรื่องการยุบสภาอาจจะเป็นทางตัน เราจึงอยากหาทางออกภายใต้เงื่อนไขที่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และคำนึงถึงสัจวาจาที่ได้ให้ไว้กับประชาชน แต่ถ้าจำเป็นต้องมีนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งประคับประคองให้งบประมาณปี 2569 ผ่าน แล้วยุบสภา เราพร้อมที่จะยกมือให้ ถ้าจำเป็นที่จะใช้มือของเรา โดยที่เรายืนยันว่าไม่ขอร่วมรัฐบาล ไหนๆ ก็จะเลือกตั้งใหม่แล้ว จะช่วยประหยัดงบประมาณภาษีของประชาชน และเตรียมในเรื่องของการทำประชามติการตั้ง ส.ส.ร. เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่เป็นผลพวงของรัฐประหารได้เริ่มต้นแก้ไขอย่างจริงจังเสียที ไม่ใช่รำกันไปมา
.
“ถ้าประชาชนมีมติว่าควรมี ส.ส.ร.เป็นการเริ่มต้นแล้ว และเห็นสว่างทางไปอุโมงค์ในระบอบประชาธิปไตย พร้อมยืนยันว่าจะอย่างไรก็ตาม พรรคประชาชนจะไม่สร้างทางตันให้เกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตยอย่างแน่นอน และเมื่อไหร่ที่มีทางตันพวกเราจะช่วยกันขุด เพื่อหาทางออก เลิกฝันไปเลยว่าจะเกิดรัฐประหารภายใต้การที่มีพรรคประชาชนยังอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร”
.
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าได้มีการพูดคุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนั้น นายวิโรจน์กล่าวว่า เรายื่นเงื่อนไขต่อสาธารณะ สมมุติว่านายชัยเกษม นิติสิริ รับเงื่อนไขนี้ แล้วจำเป็นต้องยกมือให้นายชัยเกษม เราก็ยินดี ใครก็ได้ งบประมาณ 2569 ผ่าน ทำประชามติร่วมกับการเลือกตั้งเลย ยุบสภาภายในสิ้นปีนี้ แล้วจำเป็นต้องใช้มือเรา เราก็ยินดีที่จะยกมือให้เพื่อบ้านเมืองผ่านไปได้
.
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับ ส.ส.ที่ไปร่วมวงเจรจากับนายอนุทินหรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า การไปพบปะพูดคุยกันระหว่างนักการเมืองเป็นเรื่องปกติ และได้มีการชี้แจงออกมาแล้วว่าเป็นการพบปะกันจริง แต่เป็นการพูดคุยเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ตนคิดว่าการพูดคุยกันเป็นเรื่องปกติ แต่คงไม่มีการแอบโทรไปหา “อังเคิล” อย่างที่ใครทำแน่นอน
.
.
วิโรจน์ จี้พิชัย เคลียร์ให้ชัด วืดครั้งแรก ถกภาษีสหรัฐ ไม่เกินคาดหมาย แต่อยากรู้ติดขัดอะไร
https://www.matichon.co.th/politics/news_5262025
.
”วิโรจน์“ จี้ “พิชัย“ ตอบให้ชัด สหรัฐ เลื่อนเดดไลน์ขึ้นภาษีให้ไทยออกไปหรือไม่ บอก ดีลล่มครั้งแรก ไม่เกินคาด อย่างน้อยได้รู้ว่าติดขัดอะไร
.
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำทีมไทยแลนด์บินไปเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า ทุกคนรู้ว่าการเจรจาครั้งแรกแล้วจะประสบความสำเร็จนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ยาก อาจจะต้องมีการเจรจาครั้งที่สอง สาม สี่ แต่ปรากฏว่าล่วงเลยล่าช้า สุดท้ายบอกว่าต้องกลับมาทำให้ดีที่สุด แล้วเส้นตายของทางสหรัฐคือวันที่ 8 กรกฎาคม นั่นหมายถึงวันที่ 9 กรกฎาคม ของไทย นายพิชัยก็ไม่ได้บอกว่าทางสหรัฐได้เลื่อนเดดไลน์สำหรับประเทศไทยออกไปหรือไม่ นั่นหมายความว่า ถ้าไม่ได้เลื่อนเดดไลน์ออกไป เราจะเจอภาษีศุลกากรตอบโต้ในระดับ 36% ตนขอถามว่า ภาคการส่งออกและภาคการผลิต โรงงานที่มีการจ้างงานอยู่มากมายจะกระทบมากมายขนาดไหน ที่นายพิชัยบอกว่ากลับมาแล้วจะทำงานให้หนักกว่าเดิม ตนก็อนุโมทนา แต่ช่วยตอบก่อนว่าสหรัฐได้เลื่อนเดดไลน์ ให้กับประเทศไทยหรือไม่
.
ส่วนครั้งนี้จะถือว่าดีลล่มหรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า ดีลล่มครั้งแรกเป็นเรื่องที่เราจินตนาการได้อยู่แล้ว การ เจรจาเรื่องสำคัญในครั้งแรก จะผ่านฉลุยก็คงยาก ที่เราจะได้เงื่อนไขแบบ win-win ดีต่อทั้งสองฝ่าย การเจรจาครั้งแรกอย่างน้อยก็ได้รู้ว่าเงื่อนไขที่เราเสนอ ทางสหรัฐติดอะไร ก็ต้องกลับมาทำการบ้าน ถึงบอกว่าควรจะเร่งเจรจา
.
”ปรากฏว่า เป็นเหมือนมวย เก็งหมัดขวากะว่าจะฮุคทีเดียว แล้ววืด โดนจระเข้ฟาดหางกลับมา และกรรมการนับแล้ว ตอนนี้จะมีเวลาฟื้นตัวขึ้นมาชกใหม่หรือเปล่า ตรงนี้เป็นเรื่องที่เราต้องตั้งคำถามกับนายพิชัย ชุณหวชิร“ นายวิโรจน์กล่าว
.
.
กัณวีร์ ชี้ ไทยต้องเดินเกมการทูต-ความมั่นคง เหนือชั้นกว่า อย่าเป็นลูกไล่ ปล่อยกัมพูชา ฟ้อง UN
https://www.matichon.co.th/foreign/news_5262442
.
กัณวีร์ ชี้ ไทยต้องเดินเกมการทูต-ความมั่นคง เหนือชั้นกว่านี้ อย่าเป็นลูกไล่ ปล่อยกัมพูชา ฟ้อง UNGA
.
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.พรรคเป็นธรรม ได้โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีกัมพูชาได้ส่งหนังสือถึงสหประชาชาติ กรณีพิพาทช่องบก ก่อนที่ไทยจะส่งหนังสือชี้แจง โดยระบุว่า
.
ไทยต้องเดินเกมทางการทูตและงานความมั่นคงอย่างรู้เท่าทัน และต้องเหนือชั้นกว่า ไม่ปล่อยให้กัมพูชานำเหตุที่ไปฟ้องสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) โดยทำตัวเป็นลูกไล่ที่เค้าไปฟ้อง UNGA และศาลโลกอย่างอ่อนเชิง
.
สุดท้ายก็จริงอย่างที่ผมได้คาดการณ์ไว้ว่ากัมพูชา ต้องการนำข้อพิพาทชายแดนไทยกัมพูชา เข้าสู่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือ UNGA โดยส่งจดหมายไปยัง UNGA เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมข้อกล่าวอ้างที่เป็นเหตุผลให้นำข้อพิพาท 4 พื้นที่ขึ้นสู่ศาลโลก
.
แต่ดีนะครับที่ไทยก็มีหนังสือชี้แจงไปอย่างทันท่วงที อันนี้ถือว่ายังทันอยู่
.
อย่างที่ทุกท่านติดตามปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่เหตุปะทะที่พื้นที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.68 จนบานปลายไปสู่มาตรการการเปิด-ปิด ด่านพรมแดน และกัมพูชานำพื้นที่พิพาททั้งที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่ช่องบก ฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ
.
ผมเคยเตือนรัฐบาลไทยไปแล้วว่า เกมทั้งหมดกัมพูชาต้องการนำข้อพิพาทนี้ไปสู่ UNGA และ UNSC ดังนั้นรัฐบาลไทยต้องมีมาตรการทางการทูตเชิงรุกที่ทั้งรับมือและจัดการปัญหานี้ทางการทูตนำการทหาร และต้องเปลี่ยนงานทหารล้วนๆ เป็นงานความมั่นคงให้ได้ !!