JJNY : 5in1 ปชน.ข้องใจ ไร้แผนรับมือ│วิโรจน์ลั่นยอมทัวร์ลง│กมธ.ทหารเชิญแจงอวัยวะหาย│โต้สื่อกัมพูชา│รัสเซีย“รัวโจมตี”เคียฟ

สภา ถกด่วนผลกระทบภาษีทรัมป์ ปชน.เสนอแนะ 5 ข้อ ข้องใจทุ่ม 100 ล้าน จ้างล็อบบี้ยิสต์ แต่ไร้แผนรับมื
https://www.matichon.co.th/politics/news_5301933
.
.
สภาฯ ถกญัตติด่วนผลกระทบภาษีทรัมป์ ‘ณัฐพงษ์’ เสนอ 5 ข้อ แนะ ‘รัฐบาล’ ทำงานเชิงรุก บอก เปิดงบฯ 69 ไร้แผนรับมือผลกระทบจริงจัง มีแต่ทุ่มร้อยล้านจ้างล็อบบี้ยิสต์ ชงปรับแผนใหม่ ถาม รบ.เอาอะไรไปแลก
.
เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 31 กรกฎาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เมื่อเข้าสู่วาระการประชุม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายระวี เล็กอุทัย ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย (พท.) นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี พรรคกล้าธรรม (กธ.) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และนายอัคร ทองใจสด ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอด่วนด้วยวาจาเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาการออกมาตรการและดำเนินนโยบายเพื่อรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากข้อตกลงในการเจรจาอัตราภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ระหว่างไทย– สหรัฐอเมริกาเพื่อส่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการต่อไป
.
โดยนายณัฐพงษ์ อภิปรายว่า ข่าวที่ได้รับทราบมานั้น คือในการเจรจาวันที่ 1 สิงหาคม อาจจะไม่ได้เกิดผลลัพธ์ในกรณีเลวร้ายที่สุด ซึ่งเราไม่สามารถทราบผลลัพธ์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในมุมหนึ่งอาจจะเป็นข่าวดีสำหรับประชาชนคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการ เกษตรกร และผู้ใช้แรงงานทั่วทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จำเป็นมากกว่าในวันนี้คือสิ่งที่เราต้องรับรู้และรับทราบตรงกันว่ารัฐบาลได้นำอะไรเข้าไปแลกในการเจรจาครั้งนี้บ้าง เพื่อประชาชนรับรู้และรู้ว่าเขาต้องเตรียมตัวรับมืออย่างไร โดยในวันที่ 1 สิงหาคมจะเป็นจุดเปลี่ยนอีกจุดที่จะเป็นจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทยที่เราพูดกันมาระยะใหญ่ว่าระเบียบโลกใหม่ได้เกิดแล้ว แต่ที่ผ่านมาคนไทยหลายคนยังไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ เพราะผลกระทบยังมาไม่ถึง เราเห็นแต่ข่าวประเทศมหาอำนาจไม่ว่าจะเป็นจีนหรือสหรัฐอเมริกาที่เขาทำสงครามการค้ากัน เขาทะเลาะกัน บางวันก็ดีกัน แต่เขากลับมาเจรจาต่อรองกัน
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เรายังเห็นข่าวเรื่องตัวเลขการเจรจาภาษีที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้ตั้งกำแพงภาษีกับประเทศไทยไว้สูงถึง 36 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งวันที่ 1 สิงหาคม เราจะได้รับทราบผลลัพธ์ว่าสรุปแล้วทีมไทยแลนด์ไปเจรจาแล้วสุดท้ายได้กลับคืนมาเท่าไหร่ และหลังจากวันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป คลื่นสึนามิที่แต่ก่อนคนไทยยังไม่รู้สึกเพราะรู้สึกว่ายังห่างตัวเรามาก ตอนนี้กำลังจะเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว สิ่งที่ตนอยากสื่อสารกับประชาชนรวมถึง ครม. คือวันนี้เราไม่จำเป็นต้องมาพูดถึงเรื่องตัวเลขแล้ว เนื่องจากผ่านขั้นตอนนั้นไปแล้ว แต่สิ่งที่เราต้องมาถกเถียงกันในสภาฯ วันนี้คือ การชวนให้ทุกฝ่ายกลับมามองอีกหนึ่งขั้นข้างหน้าว่าตกลงแล้วผลกระทบที่จะเกิดขึ้น คลื่นสึนามิทางเศรษฐกิจลูกใหม่นี้ จะถาโถมเข้ามากระทบคนไทยในภาคส่วนใดบ้าง ท่านจะช่วยให้พวกเราลดแรงกระแทก ช่วยชี้ช่องให้อพยพคนหนีจากคลื่นสึนามิได้อย่างไรบ้าง
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้เราคงไม่ได้มาบอกรัฐบาลว่าเราจะเมคดีลอย่างไร เพราะผ่านขั้นตอนมาหมดแล้ว แต่เราอยากทราบว่ารัฐบาลได้เตรียมทางออกไว้อย่างไรบ้าง ทั้งนี้ สำหรับสินค้าที่จะได้รับผลกระทบหนักคือ อุตสาหกรรมยางล้อและชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ และอื่นๆ เนื่องจากอัตราภาษีที่เราได้รับขณะนี้มีอัตราที่สูงกว่า และตนทราบว่าผลการเจรจาในวันที่ 1 สิงหาคม เราจะได้รับการปรับลดอัตราภาษีที่ต่ำกว่า 36 เปอร์เซ็นต์ แต่หากการเจรจาล้มเหลว เกิดฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุด นี่จะเป็นคลื่นสึนามิลูกใหญ่ที่จะถาโถมเข้ามาซัดหลายภาคส่วนในเศรษฐกิจของไทย นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายภาคส่วนที่รัฐบาลนำไปแลกกับดีลภาษีในครั้งนี้ เราจึงมีความจำเป็นที่ต้องมีการพูดถึงบุคคลที่จะได้รับผลกระทบทางอ้อมด้วยเช่นกันนั่นคือเกษตรกรทั่วประเทศ
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า วันนี้เรายังไม่ได้รับความชัดเจนว่าตกลงแล้วดีลที่รัฐบาลเอาไปแลกคืออะไรบ้าง อาจต้องบีบให้เกษตรกรไทยต้องแข่งขันกับเกษตรกรต่างประเทศที่เขามีศักยภาพสูงกว่า และท่านนำรายได้ของใครไปแลกกับสหรัฐฯ กลับมาบ้าง วันนี้รัฐบาลหรือใครออกมาบอกเกษตรกรบ้างแล้วหรือไม่ว่าสึมามิลูกใหญ่ลูกนี้จะพาเขาไปในทิศทางใด มีใครออกมาชี้ช่องบอกเขาแล้วหรือไม่ว่าเขาต้องอพยพหนีสึนามินี้อย่างไร ควรมุ่งหน้าอย่างไรให้เกิดความปลอดภัย การตัดสินใจเรื่องใหญ่เช่นนี้ ไม่ควรเป็นการตัดสินใจจากคนใดคนหนึ่งหรือรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง แต่ควรเป็นภารกิจร่วมกันที่ทั้งรัฐบาลและภาคประชาชนต้องทำงานร่วมกันตั้งแต่ต้น และที่ผ่านมาพวกตนเรียกร้องมาโดยตลอดว่ารัฐบาลควรตั้งคณะทำงานหรือภาคีที่มาองค์ประกอบจากทุกภาคส่วนเพื่อที่ก่อนรัฐบาลจะไปเมคดีลนั้นต้องมาหารือกันอย่างรอบด้าน มีใครในห่วงโซ่ที่ได้รับผลกระทบบ้าง แต่เราก็ไม่เคยเห็นการดำเนินการเช่นนั้น ซึ่งหลังจากนี้รัฐบาลควรมีการรายงานเป็นสาธารณะเพื่อให้คนได้รับทราบและการใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นไปอย่างคุ้มค่า โปร่งใส อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มผู้ใช้แรงงานได้รับผลกระทบอีกด้วย แล้วรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานอย่างไร เรามีข้อมูลของกลุ่มเปราะบางที่พร้อมส่งให้รัฐบาล เหลือแค่การทำงานเชิงลุกของผู้มีอำนาจที่วันนี้อยากได้ยินความชัดเจนจาก ครม.
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ตนมีข้อเสนอ 5 ข้อที่อยากส่งต่อให้รัฐบาลในการทำงานเชิงลุกในเวทีระหว่างประเทศ ได้แก่
.
1. ไทยต้องเริ่มเปลี่ยนการวางตัวจากรูลเทคเกอร์ หรือการที่เราเป็นประเทศที่คอยทำตามคนอื่นที่คนอื่นเขียนให้ไปเป็นรูลเชปเปอร์ หรือเข้าไปเป็นผู้ที่ร่วมเขียนกติกากับประเทศอื่นในเวทีภูมิภาค
.
2. ทำตัวให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยในเวทีการค้าระหว่างการค้าให้นักลงทุนที่เขาอยากย้ายฐานการผลิตจากจีน หรือกระจายความเสี่ยงออกจากสหรัฐฯ​ หันมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งการที่เราจะทำเช่นนี้ได้ก็ขจัดกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค หรือทำกิโยตินกฎหมาย ทำให้เขาสะดวกที่สุดในการที่จะให้เขามาลงทุนในประเทศ
.
3. ความกล้าหาญในการเปิดเวทีเจรจากับประเทศมหาอำนาจอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่ไปเป็นลูกไล่ของพวกเขา
.
4. ยกระดับมาตรบานของประเทศไทยให้ทัดเทียมกับประเทศที่พัฒนาแล้วโดยเร็วที่สุด
.
และ 5. การที่เรามองไปด้านบน เราต้องมองไปด้านข้างด้วย ไม่ใช่ว่าเราจะหันไปเจรจากับประเทศมหาอำนาจหรือประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างเดียว แต่การมองไปข้างๆ คือประเทศที่เป็นโกลบอลด์เซาท์ เราจะทำอย่างไรที่จะกำหนดบทบาทให้เรากลายมาเป็นผู้นำในการทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศที่กำลังพัฒนาด้วยกันเอง โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน

สิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเดินเกมแบบไหน ต้องใช้การเดินบนหลักการทางการทูต เพื่อไม่ให้มองว่าไทยเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ผมขอให้รัฐบาลสร้างความตระหนักต่อการสื่อสารกับประชาชน ในการเจรจาที่จะมีผลกระทบต่อประชาชน” นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมในการรับมือภาษีสหรัฐฯ เมื่อพิจารณาจากการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า เป็นงบประมาณ 3 ไม่มีกับการรับมือภาษีทรัมป์ คือ 1.ไม่ระบุชัดเจนว่าโครงการหรือแผนงานใดรับมือหรือเยียวยาผู้ได้ร้บผลกระทบจากภาษีทรัมป์อย่างไรบ้าง แต่มีเพียงการตั้งงบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อจ้างล็อบบี้ยิสต์ในสหรัฐฯ 2.ไม่มีการเชื่อมโยงโครงการของหน่วยงานต่างๆ เพื่อรับมือกับผลกระทบ หรือตามอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบและ 3.ไม่มีตัวชี้วัดหรือเป้าหมายใดๆ ในการเปลี่ยนผ่านห่วงโซ่อุปทาน

ซึ่งกรณีดังกล่าว สะท้อนภาพที่ประชานบอกว่า ไม่มีการเตรียมรับมือจริงจังและการรับมือล่วงหน้า รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดเป็นวงกว้าง ทั้งนี้ผมมีข้อเสนอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการในระยะสั้นคือ การตั้งกลุ่มภาคี ภาครัฐและเอกชน ที่ติดตามสถานการณ์รวมถึงผลกระทบระยะยาว รวมถึงรัฐบาลต้องเปิดเผยข้อมูลการเจรจา ว่าสหรัฐมีข้อเรียกร้องอะไรและไทยให้อะไรบ้าง นอกจากนั้นแล้วต้องวางกรอบการเงินเผื่อเยียวยาแรงงานผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ รวมไปถึงต้องบังคับใช้กฎหมาย กำกับอย่างเข้มงวด ต่อประเด็นการนำเข้าสินค้าของประเทศอื่น” นายณัฐพงษ์ กล่าว
.

.
วิโรจน์ ลั่นยอมทัวร์ลงดีกว่า เห็นไทยเพลี่ยงพล้ำบนเวทีโลก เชื่อเขมรวางเส้นเรื่องไว้หมดแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_5301667
.
‘วิโรจน์’ บอก ยอมทัวร์ลงดีกว่าเห็นไทยเพลี่ยงพล้ำบนเวทีโลก เชื่อ ‘กัมพูชา’ จัดฉากวางเส้นเรื่องไว้หมดแล้ว หวัง ‘ไทย’ เดินสายแจงประเทศสมาชิก UNSC ลั่น แค่ตอบโต้อย่างเดียวไม่พอ ต้องเป็นผู้นำการสื่อสารต่อประชาคมโลกได้แล้ว
.
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 31 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการยึดพื้นที่ประสาทตาควายของกองทัพกัมพูชา ว่า ตอนนี้ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทำงาน และเชื่อว่า จะมีการวางแนวในการปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยแน่ๆ ในเรื่องภาพถ่าย ตนคิดว่า ต้องมีการพิสูจน์ทราบว่า มีการถ่ายเมื่อไหร่อย่างไร และให้เจ้าหน้าที่ทหารดำเนินการก่อน ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องแถลงการณ์ของรัฐบาล และต้องระมัดระวังข้อมูลที่กระจัดกระจายตามโซเชียลมีเดีย
.
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ประเทศกัมพูชาเชิญทูต และผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ลงพื้นที่ตามแนวชายแดน นายวิโรจน์ กล่าวว่า การดำเนินการของกัมพูชามีการจัดฉาก และวางเส้นเรื่องไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว รัฐบาลไทยไม่เพียงต้องตอบโต้อย่างรวดเร็ว แต่ต้องชิงความเป็นผู้นำในการสื่อสารกับโลกและประชาคมโลก ไม่เช่นนั้นก็จะตามหลังกัมพูชาอยู่ดี ใครกำลังเผชิญกับการจัดฉากหลาย เรื่องมีการวางแนวทางไว้อยู่แล้ว ไม่เช่นนั้น คงไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทันที
.
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ข้อผิดพลาดระหว่างประเทศ เรื่องความชอบธรรมและการสื่อสารกับประชาคมโลกสำคัญอย่างมาก และไทยอย่าไปตกหลุมพรางที่กัมพูชายั่วยุ หรือวางเอาไว้จนไทยดำเนินการ ในสิ่งที่ผิดกับหลักมนุษยชน หรือละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
.
ผมพูดแบบนี้ หลายคนถามว่า วิโรจน์ไม่กลัวทัวร์ลงหรือ สิ่งที่พวกเราต้องการที่สุดคืออะไรคือการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติปกป้องอธิปไตยของประเทศใช่หรือไม่ แต่หากผมรู้อยู่แก่ใจว่า เรากำลังเดินเข้าไปสู่หลุมพรางที่กัมพูชาวางเอาไว้ และกัมพูชาจะหยิบยกว่า ไทยละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ เมื่อถึงปลายทางปรากฏว่า ข้อต่อสู้ต่างๆ ไทยเพลี่ยงพล้ำเราเสียเปรียบ เสียผลประโยชน์ที่พึงจะมี ผมไม่อยากให้ตัวผมหรือใครเสียใจ ผมเข้าใจความเดือดดาล เข้าใจโทสะของพี่น้องประชาชน แต่ผมก็ยืนยันว่า เรากำลังสู้กับคนที่เส้นเรื่องเอาไว้แล้ว จัดฉากทุกอย่างไว้แล้ว” นายวิโรจน์ กล่าว
.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่