บทความทุกตอนคลิกที่นี้..................
บทความก่อนหน้าคลิกที่นี้................
ตอนที่ 14 หาดใหญ่สงขลากับหมุดการท่องเที่ยวระดับโลก - สถานีรถไฟกลางหาดใหญ่ 4 ชั้น
แรงบันดาลใจ ในการเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับสถานีรถไฟกลางหาดใหญ่ เกิดขึ้นจากรูปข้างบนนี้ ซึ่งรูปนี้คือ รูปสถานีรถไฟฟ้าโมโนเรล ที่ออกแบบโดย อบจ.สงขลา
....แต่ทว่าผู้เขียนกลับรู้สึกว่า มีบางอย่างที่ไม่เข้าใจ และอาจมีปัญหาหลายเรื่อง และเนื่องจาก เป็นบทความที่ค่อนข้างเขียนยาก
ดังนั้น ผู้เขียนจึงขอแบ่ง บทความเกี่ยวกับสถานีรถไฟกลางหาดใหญ่ ไว้ 6 ตอนย่อย และในตอนนี้ ผู้เขียนขอตั้งชื่อบทความย่อยนี้ว่า "สถานีรถไฟกลางหาดใหญ่ 4 ชั้น"
จากรูปข้างบน เราก็จะพบปัญหาอย่างแรกคือ ....1. การเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างสถานีรถไฟกลางหาดใหญ่ และสถานนีรถไฟฟ้าโมโนเรล ที่ห่างกันถึง 500 เมตร
.....ปัญหาที่ 2 คือ สถานีรถไฟกลางหาดใหญ่ เป็นสถานีรถไฟขนาดใหญ่ และเป็น "จุดศูนย์กลางของเมือง" อาจจะเรียกได้ว่าเป็น "สถานีกลาง" ก็ว่าได้ ที่ในอนาคต จะมีรถไฟ และรถไฟฟ้า หลากหลายระบบมาเชื่อมต่อกันที่นี้ เช่น รถไฟทางไกล รถไฟขนส่งสินค้า รถไฟฟ้าชานเมือง รถไฟฟ้า ETS รถไฟฟ้าโมโนเรล รถไฟความเร็วสูง และแถมด้วยระบบถนนที่คับแคบ ซึ่งเป็นความท้าท้ายในการออกแบบตัวสถานีเป็นอย่างมาก
.....ปัญหาที่ 3 คือปัญหาเรื่องของการเวนคืนที่ดิน เพราะหากดูจากรูปข้างบน จะพบว่า รถไฟฟ้าโมโนเรล จะต้องเว้นที่ว่างให้กับ สะพานลอยข้ามทางรถไฟ หน้าโรงแรม VL ทำให้ตัวราง และสถานีรถไฟฟ้าโมโนเรล จำเป็นต้องมีการเวนคืนพื้นที่ ทางด้านทิศเหนือของถนนเพชรเกษม หรือด้านขวาของรูปนี้ ซึ่งเรื่องการออก พรฎ การเวณคืนที่ดินนั้น เป็นเรื่องยุ่งยาก และมีหลายขั้นตอนมากๆ อีกทั้งยังสร้างปัญหาให้กับประชาชนรอบๆโครงการ จนอาจถูกต่อต้านจากประชาชนได้
เมื่อเป็นดังนี้ .... เราจะมาแก้ปัญหาทั้ง 3 อย่างข้างต้นไปด้วยกัน ด้วยแบบอย่างการแก้ปัญหา ที่ใช้ได้ผลมาแล้วในสถานีรถไฟกลาง "กรุงเทพอภิวัฒน์" นั้นคือ กำหนดให้สถานีรถไฟหาดใหญ่ เป็นสถานีขนาดใหญ่ ซึ่ง มี 4 ชั้น และเอาสะพานรถไฟหน้า โรงแรม VL ลงใต้ดิน ในลักษณะ "คลองแห้ง"
ซึ่งจากรูปดาวเทียมจะพบว่า พื้นที่จริงของสถานีรถไฟหาดใหญ่ มีจำนวนมากถึง 380 ไร่ แบ่งเป็นทางทิศเหนือ 180 ไร่ และทางทิศใต้ อีก 200 ไร่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟหาดใหญ่ในปัจจุบัน ซึ่งสามารถแบ่งพื้นที่ ใน 200 ไร่ได้เป็น 2 ส่วน นั้นคือ ส่วนของการเดินรถ และสถานี ในรูปคือทิศตะวันตก และส่วนของพื้นที่บ้านพักพนักงานการรถไฟ และพื้นที่ให้เช่า ซึ่งในรูปคือทิศตะวันออก ในขั้นนี้เราจะมาพิจราณา ในส่วนด้านการเดินรถ และสถานีรถไฟหาดใหญ่ก่อน
ในพื้นที่ด้านทิศตะวันตกนั้น จะสร้างเป็นสถานีขนาดใหญ่ 4 ชั้น ครอบคุมพื้นที่นี้ทั้งหมด โดยมี สถานีรถไฟฟ้าโมโนเรลอยู่ทางด้านทิศเหนือ บริเวณถนนเพชรเกษม โดยทำให้อยู่ในสถานีขนาดใหญ่นี้ด้วยกันกับระบบรถไฟอื่นๆ
ระบบรถไฟในชั้นที่ 1 (ระดับดินเดิม) คือ รถไฟทางไกล และรถไฟขนส่งสินค้า เป็นรถไฟแบบเก่า มีรางขนาด 1.00 เมตร โดยเราไม่ต้องไปยุ่งกับระบบราง และระบบอาณัติสัญญาณของรถไฟเลย อาจจะมีปัญหาเรื่องของควันรถไฟเพราะยังใช้น้ำมันดีเซลอยู่ ซึ่งต้องสร้างระบบระบายควัน เช่นเดียวกับ สถานนีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ แต่ทว่า ในอนาคต ปัญหานี้จะหมดไป เมื่อมีการเปลี่ยนมาใช้ระบบไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งมีความคุ้มค่ามากกว่า อีกปัญหาคือ หากจะสร้างสถานี 4 ชั้น จุดตำแหน่งการวางเสาอาคารจะทำอย่างไร คำตอบคือ เราสามารถออกแบบโดยใช้พื้นที่ว่างระหว่างรางรถไฟได้เลย เพราะการก่อสร้างสมัยใหม่ ใช้เสาเข็มแบบเจาะ ที่รับน้ำหนักได้มาก ใช้เสาจำนวนน้อย และไม่มีแรงสั่นเสทือนระหว่างการก่อสร้าง
ระบบรถไฟในชั้นที่ 2 คือ ระบบรถไฟชานเมืองหาดใหญ่ (แบบสายสีแดงในกทม.) และระบบ ETS ของมาเลเซีย ที่วิ่งบนราง 1.00 เมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า และในระดับชั้นที่ 2 นี้ จะมีการเชื่อมต่อด้วย ทางเดินลอยฟ้า หรือ Skywalk แม้ว่าการเดินจะช้า แต่ก็เป็น "รูปแบบการดินทาง" ที่มีประสิทธิภาพมาก ในกรุงเทพฯได้พิสูจน์มาแล้ว ส่วนพื้นที่อาคารที่เหลือ จะเป็นส่วนจำหน่ายตั๋วโดยสาร สำนักงาน ที่พัก หรือร้านค้า ที่จะสร้างรายได้ให้กับการรถไฟเจ้าของพื้นที่ได้อย่างมาก
ระบบรถไฟในชั้นที่ 3 เป็นระบบรถไฟฟ้าโมโนเรล โดยจำนวนรางโมโนเรลภายในอาคารสถานี จะมี 4-8 ราง เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับส่งผู้โดยสาร และรางโมโนเรลจะอยู่เหนือถนนเพชรเกษม แต่ก็อยู่ภายในอาคารขนาดใหญ่ ร่วมกับทุกระบบการขนส่ง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ เป็นอาคารรถไฟขนาดใหญ่ที่สร้างคร่อมถนนเพชรเกษม อีกทั้งยังมีพื้นที่ว่างจำนวนมากที่อาจจะสร้างเป็นหอประชุม หรือ จัดงานออกบู๊ตขายสินค้า หรือ งานนิทรรศการต่างๆ
ระบบรถไฟในชั้นที่ 4 เป็นระบบรถไฟความเร็วสูง เช่นเดียวกับสถานนีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ ที่ได้สร้างรางรถไฟขนาดราง 1.435 (standard gauge) ไว้บนชั้นที่ 4 ของอาคาร เพราะหากมาสร้างในภายหลัง จะก่อสร้างยากมาก ถึงขั้นสร้างไม่ได้เลย ดังนั้นสถานนีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ จึงได้สร้างเผื่อเอาไว้แล้ว จนปัจจุบัน ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ไปแล้ว
... ผู้เขียนจึงอยากให้สถานีรถไฟหาดใหญ่ สร้างรางรถไฟความเร็วสูงเผื่อเอาไว้เลยในชั้นที่ 4 เพราะหากจะมาสร้างในภายหลัง จะเป็นสิ่งที่ทำยากมากในทางวิศวกรรม หรือจะอาจก่อสร้างไม่ได้เลย
.....และเนื่องจากอาคารสถานีรถไฟหาดใหญ่แห่งนี้เป็นอาคารขนาดใหญ่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด การรถไฟเจ้าของพื้นที่ ควรดึงเอกชนเข้ามาพัฒนาพื้นที่เชิงพานิชย์ ในรูปแบบ PPP ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
แต่ถึงกระนั้น หากมีปัญหาด้านงบประมาณ ก็อาจจะสร้างอาคาร 4 ชั้นแบบไม่เต็มก็ได้ โดยเฟสแรก ให้สร้างในส่วนของการเดินรถ และชานชาลาก่อน ตามรูปคือ เป็นอาคารรูปตัว L ส่วนสถานีรถไฟฟ้าโมโนเรล จะอยู่ในชั้นที่ 3 ของอาคารเหนือถนนเพชรเกษม ส่วนอาคารในเฟสที่ 2 นั้น อาจมาสร้างทีหลังได้ เพราะเป็นส่วนของพื้นที่ธุรกิจ และการพัฒนาเชิงพานิชย์
ตอนต่อไปคลิกที่นี้......................
ตอนที่ 14 หาดใหญ่สงขลากับหมุดการท่องเที่ยวระดับโลก - สถานีรถไฟกลางหาดใหญ่ 4 ชั้น
บทความก่อนหน้าคลิกที่นี้................
ตอนที่ 14 หาดใหญ่สงขลากับหมุดการท่องเที่ยวระดับโลก - สถานีรถไฟกลางหาดใหญ่ 4 ชั้น
แรงบันดาลใจ ในการเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับสถานีรถไฟกลางหาดใหญ่ เกิดขึ้นจากรูปข้างบนนี้ ซึ่งรูปนี้คือ รูปสถานีรถไฟฟ้าโมโนเรล ที่ออกแบบโดย อบจ.สงขลา
....แต่ทว่าผู้เขียนกลับรู้สึกว่า มีบางอย่างที่ไม่เข้าใจ และอาจมีปัญหาหลายเรื่อง และเนื่องจาก เป็นบทความที่ค่อนข้างเขียนยาก
ดังนั้น ผู้เขียนจึงขอแบ่ง บทความเกี่ยวกับสถานีรถไฟกลางหาดใหญ่ ไว้ 6 ตอนย่อย และในตอนนี้ ผู้เขียนขอตั้งชื่อบทความย่อยนี้ว่า "สถานีรถไฟกลางหาดใหญ่ 4 ชั้น"
จากรูปข้างบน เราก็จะพบปัญหาอย่างแรกคือ ....1. การเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างสถานีรถไฟกลางหาดใหญ่ และสถานนีรถไฟฟ้าโมโนเรล ที่ห่างกันถึง 500 เมตร
.....ปัญหาที่ 2 คือ สถานีรถไฟกลางหาดใหญ่ เป็นสถานีรถไฟขนาดใหญ่ และเป็น "จุดศูนย์กลางของเมือง" อาจจะเรียกได้ว่าเป็น "สถานีกลาง" ก็ว่าได้ ที่ในอนาคต จะมีรถไฟ และรถไฟฟ้า หลากหลายระบบมาเชื่อมต่อกันที่นี้ เช่น รถไฟทางไกล รถไฟขนส่งสินค้า รถไฟฟ้าชานเมือง รถไฟฟ้า ETS รถไฟฟ้าโมโนเรล รถไฟความเร็วสูง และแถมด้วยระบบถนนที่คับแคบ ซึ่งเป็นความท้าท้ายในการออกแบบตัวสถานีเป็นอย่างมาก
.....ปัญหาที่ 3 คือปัญหาเรื่องของการเวนคืนที่ดิน เพราะหากดูจากรูปข้างบน จะพบว่า รถไฟฟ้าโมโนเรล จะต้องเว้นที่ว่างให้กับ สะพานลอยข้ามทางรถไฟ หน้าโรงแรม VL ทำให้ตัวราง และสถานีรถไฟฟ้าโมโนเรล จำเป็นต้องมีการเวนคืนพื้นที่ ทางด้านทิศเหนือของถนนเพชรเกษม หรือด้านขวาของรูปนี้ ซึ่งเรื่องการออก พรฎ การเวณคืนที่ดินนั้น เป็นเรื่องยุ่งยาก และมีหลายขั้นตอนมากๆ อีกทั้งยังสร้างปัญหาให้กับประชาชนรอบๆโครงการ จนอาจถูกต่อต้านจากประชาชนได้
เมื่อเป็นดังนี้ .... เราจะมาแก้ปัญหาทั้ง 3 อย่างข้างต้นไปด้วยกัน ด้วยแบบอย่างการแก้ปัญหา ที่ใช้ได้ผลมาแล้วในสถานีรถไฟกลาง "กรุงเทพอภิวัฒน์" นั้นคือ กำหนดให้สถานีรถไฟหาดใหญ่ เป็นสถานีขนาดใหญ่ ซึ่ง มี 4 ชั้น และเอาสะพานรถไฟหน้า โรงแรม VL ลงใต้ดิน ในลักษณะ "คลองแห้ง"
ซึ่งจากรูปดาวเทียมจะพบว่า พื้นที่จริงของสถานีรถไฟหาดใหญ่ มีจำนวนมากถึง 380 ไร่ แบ่งเป็นทางทิศเหนือ 180 ไร่ และทางทิศใต้ อีก 200 ไร่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟหาดใหญ่ในปัจจุบัน ซึ่งสามารถแบ่งพื้นที่ ใน 200 ไร่ได้เป็น 2 ส่วน นั้นคือ ส่วนของการเดินรถ และสถานี ในรูปคือทิศตะวันตก และส่วนของพื้นที่บ้านพักพนักงานการรถไฟ และพื้นที่ให้เช่า ซึ่งในรูปคือทิศตะวันออก ในขั้นนี้เราจะมาพิจราณา ในส่วนด้านการเดินรถ และสถานีรถไฟหาดใหญ่ก่อน
ในพื้นที่ด้านทิศตะวันตกนั้น จะสร้างเป็นสถานีขนาดใหญ่ 4 ชั้น ครอบคุมพื้นที่นี้ทั้งหมด โดยมี สถานีรถไฟฟ้าโมโนเรลอยู่ทางด้านทิศเหนือ บริเวณถนนเพชรเกษม โดยทำให้อยู่ในสถานีขนาดใหญ่นี้ด้วยกันกับระบบรถไฟอื่นๆ
ระบบรถไฟในชั้นที่ 1 (ระดับดินเดิม) คือ รถไฟทางไกล และรถไฟขนส่งสินค้า เป็นรถไฟแบบเก่า มีรางขนาด 1.00 เมตร โดยเราไม่ต้องไปยุ่งกับระบบราง และระบบอาณัติสัญญาณของรถไฟเลย อาจจะมีปัญหาเรื่องของควันรถไฟเพราะยังใช้น้ำมันดีเซลอยู่ ซึ่งต้องสร้างระบบระบายควัน เช่นเดียวกับ สถานนีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ แต่ทว่า ในอนาคต ปัญหานี้จะหมดไป เมื่อมีการเปลี่ยนมาใช้ระบบไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งมีความคุ้มค่ามากกว่า อีกปัญหาคือ หากจะสร้างสถานี 4 ชั้น จุดตำแหน่งการวางเสาอาคารจะทำอย่างไร คำตอบคือ เราสามารถออกแบบโดยใช้พื้นที่ว่างระหว่างรางรถไฟได้เลย เพราะการก่อสร้างสมัยใหม่ ใช้เสาเข็มแบบเจาะ ที่รับน้ำหนักได้มาก ใช้เสาจำนวนน้อย และไม่มีแรงสั่นเสทือนระหว่างการก่อสร้าง
ระบบรถไฟในชั้นที่ 2 คือ ระบบรถไฟชานเมืองหาดใหญ่ (แบบสายสีแดงในกทม.) และระบบ ETS ของมาเลเซีย ที่วิ่งบนราง 1.00 เมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า และในระดับชั้นที่ 2 นี้ จะมีการเชื่อมต่อด้วย ทางเดินลอยฟ้า หรือ Skywalk แม้ว่าการเดินจะช้า แต่ก็เป็น "รูปแบบการดินทาง" ที่มีประสิทธิภาพมาก ในกรุงเทพฯได้พิสูจน์มาแล้ว ส่วนพื้นที่อาคารที่เหลือ จะเป็นส่วนจำหน่ายตั๋วโดยสาร สำนักงาน ที่พัก หรือร้านค้า ที่จะสร้างรายได้ให้กับการรถไฟเจ้าของพื้นที่ได้อย่างมาก
ระบบรถไฟในชั้นที่ 3 เป็นระบบรถไฟฟ้าโมโนเรล โดยจำนวนรางโมโนเรลภายในอาคารสถานี จะมี 4-8 ราง เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับส่งผู้โดยสาร และรางโมโนเรลจะอยู่เหนือถนนเพชรเกษม แต่ก็อยู่ภายในอาคารขนาดใหญ่ ร่วมกับทุกระบบการขนส่ง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ เป็นอาคารรถไฟขนาดใหญ่ที่สร้างคร่อมถนนเพชรเกษม อีกทั้งยังมีพื้นที่ว่างจำนวนมากที่อาจจะสร้างเป็นหอประชุม หรือ จัดงานออกบู๊ตขายสินค้า หรือ งานนิทรรศการต่างๆ
ระบบรถไฟในชั้นที่ 4 เป็นระบบรถไฟความเร็วสูง เช่นเดียวกับสถานนีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ ที่ได้สร้างรางรถไฟขนาดราง 1.435 (standard gauge) ไว้บนชั้นที่ 4 ของอาคาร เพราะหากมาสร้างในภายหลัง จะก่อสร้างยากมาก ถึงขั้นสร้างไม่ได้เลย ดังนั้นสถานนีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ จึงได้สร้างเผื่อเอาไว้แล้ว จนปัจจุบัน ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ไปแล้ว
... ผู้เขียนจึงอยากให้สถานีรถไฟหาดใหญ่ สร้างรางรถไฟความเร็วสูงเผื่อเอาไว้เลยในชั้นที่ 4 เพราะหากจะมาสร้างในภายหลัง จะเป็นสิ่งที่ทำยากมากในทางวิศวกรรม หรือจะอาจก่อสร้างไม่ได้เลย
.....และเนื่องจากอาคารสถานีรถไฟหาดใหญ่แห่งนี้เป็นอาคารขนาดใหญ่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด การรถไฟเจ้าของพื้นที่ ควรดึงเอกชนเข้ามาพัฒนาพื้นที่เชิงพานิชย์ ในรูปแบบ PPP ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
แต่ถึงกระนั้น หากมีปัญหาด้านงบประมาณ ก็อาจจะสร้างอาคาร 4 ชั้นแบบไม่เต็มก็ได้ โดยเฟสแรก ให้สร้างในส่วนของการเดินรถ และชานชาลาก่อน ตามรูปคือ เป็นอาคารรูปตัว L ส่วนสถานีรถไฟฟ้าโมโนเรล จะอยู่ในชั้นที่ 3 ของอาคารเหนือถนนเพชรเกษม ส่วนอาคารในเฟสที่ 2 นั้น อาจมาสร้างทีหลังได้ เพราะเป็นส่วนของพื้นที่ธุรกิจ และการพัฒนาเชิงพานิชย์
ตอนต่อไปคลิกที่นี้......................