13 มิ.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.00 น. ที่กรมสรรพสามิต กลุ่มผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยี่ห้อ NETA จากทั่วประเทศประมาณ 18 ราย ได้เข้าพบและยื่นหนังสือต่อ นายภาณุพงศ์ ศรีเกตุ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต เพื่อขอรับทราบข้อเท็จจริงและหารือแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานของบริษัท เนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด
โดยสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ บริษัท เนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนในช่วงต้นเดือน มิ.ย. 2568 ว่า “ยังไม่เคยได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐตามมาตรการ EV 3.0 และ EV 3.5 แม้แต่คันเดียว
ทั้งนี้ กลุ่มผู้แทนจำหน่ายมีความประสงค์จะขอข้อมูลยืนยันจากกรมสรรพสามิตว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวเป็นจริงหรือไม่ เนื่องจากบริษัท เนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ค้างชำระต่อกลุ่มผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ ซึ่งประเมินว่ามีมูลค่ารวมกันมากกว่า 400 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังต้องการหารือเรื่องการรับประกันคุณภาพสินค้า แบตเตอรี่ของรถยนต์ รวมถึงอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งบริษัท เนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด เคยได้สื่อสารกับลูกค้าว่าจะดูแลรับประกันคุณภาพสินค้าแบตเตอรี่นาน 5-8 ปี ความพร้อมเรื่องของอะไหล่ที่ต้องใช้ ว่าจะมีมาตรการดูแลลูกค้าอย่างไร หากเนต้าไปจากประเทศไทย
“กลุ่มผู้แทนจำหน่ายมีความกังวลถึงผลกระทบต่อผู้บริโภค หากกลุ่มผู้แทนจำหน่ายไม่ได้รับการชำระหนี้ และไม่มีวงเงินรองรับการรับประกันคุณภาพสินค้าตามที่กล่าวไว้ อาจส่งผลให้ผู้แทนจำหน่ายไม่สามารถให้บริการหลังการขายแก่ผู้ลูกค้าเจ้าของรถยนต์ NETA ซึ่งมีอยู่มากกว่า 20,000 คันทั่วประเทศได้อย่างเต็มที่ และต่อเนื่อง” กลุ่มผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า NETA ระบุ
นายฉัตรดนัย คมฤทัย ตัวแทนผู้จำหน่าย บริษัท เนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า สิ่งที่เป็นความกังวล คือ ความเดือดร้อนที่ลูกค้าจะได้รับ ทั้งเรื่องอะไหล่ และการรับประกันชิ้นส่วนต่าง ๆ จึงอยากทราบข้อเท็จจริงว่า บริษัทได้มีการเบิกเงินอุดหนุนตามมาตรการสนับสนุนจากกรมสรรพสามิตไปจริงหรือไม่ และยอมรับว่าปัจจุบันไม่มีความเชื่อมั่นในตัวบริษัทแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงชุดผู้บริหาร
“ก่อนหน้านี้บริษัทมีการขอเลื่อนการจ่ายเงินให้กับดีลเลอร์ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2567 เลื่อนมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดถึงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ก็ยังขอเลื่อนอยู่ โดยอ้างว่ายังไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากทางกรมสรรพสามิต ทำให้บริษัทไม่มีเงินมาดำเดินการจ่ายให้ในส่วนนี้ จึงอยากขอให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรมสรรพสามิต เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องเงินที่ทางผู้จำหน่ายยังไม่ได้รับ โดยวันนี้รวมตัวกันมาราว 18 ราย มีค่าความเสียหายเฉพาะในส่วนที่มาวันนี้ประมาณ 200 ล้านบาท แต่ถ้ารวมความเสียหายในส่นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก็สูงถึง 400 ล้านบาท โดยตรงนี้ยังไม่รวมกับตัวแทนผู้จำหน่ายรายใหญ่อีก 2-3 ราย ซึ่งมีปริมาณการขายรถเนต้าปีละไม่ต่ำกว่า 3-4 พันคันต่อราย” นายฉัตรดนัย กล่าว
ด้าน นายภาณุพงศ์ ศรีเกตุ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรมฯ รับทราบประเด็นปัญหาดังกล่าวไม่แตกต่างกัน โดยยืนยันว่าในฐานะที่กรมสรรพสามิตดูแลเรื่องมาตรการทางภาษี ที่ผ่านมาได้ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อให้การใช้เม็ดเงินภาษีเป็นไปอย่างคุ้มค่าและถูกต้องตามมาตรการที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการคนไทยที่อาจจะได้รับผลกระทบจากประเด็นดังกล่าวอย่างเต็มที่ด้วย
ทั้งนี้ ยืนยันว่าก่อนหน้านี้กรมฯ ได้ดำเนินการจ่ายเงินอุดหนุนตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนดตามลำดับ ซึ่งบริษัท เนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีการรับเงินอุดหนุนส่วนใหญ่ไปแล้ว จนถึงช่วงหนึ่งที่พบว่าสภาพคล่องชองบริษัทมีปัญหา จนทำให้กำลังการผลิตชดเชยไม่เป็นไปตามแผน กรมฯ จึงได้ชะลอการจ่ายเงินอุดหนุนส่วนหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นส่วนน้อยเอาไว้ก่อน เนื่องจากบริษัทได้มีการส่งหนังสือแจ้งมาชัดเจนว่า “ไม่สามารถผลิตชดเชยได้ตามแผน”
โดยกรมฯ จึงได้มีการส่งหนังสือแจ้งให้ทางบริษัท เนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด นำหนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร (Bank Guarantee) มาวาง เพื่อเป็นการรับประกันความเสี่ยงเพิ่มเติม ซึ่งตรงนี้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด แต่จนถึงขณะนี้ทางบริษัทก็ไม่ได้เข้ามายื่น Bank Guarantee แต่อย่างใด ดังนั้นกรมฯ จึงยังไม่ได้มีการจ่ายเงินอุดหนุนส่วนที่ชะลอไว้ โดยยืนยันว่าเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
"ในมิติของงานด้านภาษี กรมฯ ต้องใช้ความรอบคอบ ระมัดระวัง และพิจารณาอย่างเป็นธรรมที่สุด เพื่อให้ทุกคนได้ประโยชน์ แต่ในภาคธุรกิจในบางประเด็นอาจจะพ้นวิสัยของกรมฯ ที่จะเข้าไปช่วยเหลือ ดูแล เพราะบางสิ่งก็เป็นเรื่องของสัญญาทางธุรกิจ เป็นข้อผูกพันทางการค้า ซึ่งในส่วนนี้เชื่อว่าทุกคนจะใช้มาตรการของตัวเองดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนเงินอุดหนุนที่ค้างอยู่นั้น หากบริษัท เนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด จะรับก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายให้ครบถ้วน” นายภาณุพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ปัจจุบัน มีผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ยี่ห้อ NETA ประมาณ 40 ดีเลอร์ จากเริ่มต้น 60 ดีเลอร์
จี้สรรพสามิต แจงเงินอุดหนุนอีวี ดีลเลอร์ แห่ทวงเงิน NETA 400 ล้าน