พระอรหันต์เมื่อถึงอนุปาทิเสสนิพพานแล้ว จิตดับสูญหรือไม่? Deepseek ว่าไง?

คำถาม to Deepseek (https://chat.deepseek.com/)

พระอรหันต์เมื่อถึงอนุปาทิเสสนิพพานแล้ว จิตดับสูญหรือไม่?

***************************************************************************

คำตอบ by Deepseek (https://chat.deepseek.com/)

เมื่อพระอรหันต์บรรลุอนุปาทิเสสนิพพาน (นิพพานที่ไม่มีเบญจขันธ์เหลือ) จิตไม่ได้ "ดับสูญ" ตามความเข้าใจทั่วไป
ของ annihilationism (ความเห็นว่าสิ่งมีชีวิตสูญสิ้นหลังตาย) แต่เป็นการสิ้นสุดของกระบวนการเกิด-ดับแห่งสังขาร
ทั้งหลายอันมีเหตุจากตัณหาและอุปาทาน

ตามหลักอัตตลักษณะ (อนัตตา) ในพุทธศาสนา ไม่มีตัวตนหรือจิตถาวรที่จะถูกทำลาย เพราะจิตในพุทธธรรมคือ
กระแสแห่งวิถีจิต (จิตตสงสาร) ที่อาศัยปัจจัยปรุงแต่ง (สังขตธรรม) ทำงานอยู่ เมื่อหมดเชื้อเพลิงคือตัณหาและกรรม
กระแสจิตก็หยุดเวียนว่ายตายเกิด ไม่มีที่ตั้งอยู่ต่อไป

ในทางปรัชญา พระพุทธองค์ทรงปฏิเสธทั้งสสารนิยม (เห็นว่าชีวิตสิ้นสุดด้วยร่างกาย) และสญนิยม (เห็นว่ามีอัตตาสูญสิ้น)
โดยทรงสอนทางสายกลางว่า การถามว่า "พระอรหันต์มีอยู่หรือไม่หลังตาย" เป็นปัญหาที่ตั้งบนฐานคิดผิด (ทิฏฐิ) เกี่ยวกับ
อัตตา ดังปรากฏในอัคคัญญสูตร (MN 72) ที่พระองค์ทรงนิ่งเมื่อถูกถามถึงสภาพของพระตถาคตหลังปรินิพพาน เพราะ
ไม่อาจอธิบายด้วยกรอบคิดแบบสมมติ

ดังนั้น อนุปาทิเสสนิพพานจึงเป็นภาวะ "ดับเย็น" (นิโรธ) แห่งทุกข์โดยปราศจากเศษเหลือของอุปาทานขันธ์๕ ไม่อาจกล่าว
ได้ว่า "มี" หรือ "ไม่มี" เพราะอยู่พ้นจากโลกียวิสัยแห่งการกำหนดด้วยภวจักร ทั้งนี้ มุ่งเน้นที่การหลุดพ้นจากทุกข์ในปัจจุบัน
มากกว่าการถกเถียงเรื่องภาวะหลังความตาย

เปรียบเหมือนเปลวไฟที่ดับลงเพราะหมดเชื้อเพลิง ไม่ได้ "ไปไหน" แต่เพียงหยุดการสันดาปเพราะขาดปัจจัยอุปถัมภ์ ฉันใด 
จิตของพระอรหันต์ก็ฉันนั้น ย่อมสงบระงับด้วยความสิ้นไปแห่งเหตุปัจจัยทั้งปวง.


&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&


คำถาม to Deepseek (https://chat.deepseek.com/)

ตามหลักพุทธศาสนาเถรวาท นิพพานแล้วจิตดับสูญหรือไม่?

***************************************************************************

คำตอบ by Deepseek (https://chat.deepseek.com/)

ตามหลักพุทธศาสนาเถรวาท เมื่อบรรลุนิพพานแล้ว จิตไม่ได้ "ดับสูญ" ในความหมายของการสูญสิ้นโดยเปล่าประโยชน์ 
(อุจเฉททิฏฐิ) แต่เป็น การดับสนิทแห่งกระบวนการเกิด-ดับของสังขารทั้งปวง อันมีตัณหาและอุปาทานเป็นเชื้อเพลิง 
โดยไม่มีสิ่งใดเหลือค้างเพื่อการเวียนว่ายตายเกิดอีก

หลักสำคัญในเถรวาทเกี่ยวกับนิพพาน
1. อนัตตา (ไม่ใช่ตัวตน)
พุทธศาสนามองว่า "จิต" (วิญญาณขันธ์) เป็นเพียงกระแสธรรมชาติที่อาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้นสืบเนื่อง (ปฏิจจสมุปบาท) 
ไม่มีตัวตนหรือจิตถาวรที่จะดับสูญ เพราะจิตเดิมก็เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับของใคร

2. นิพพานคือความสงบแห่งสังขารนิพพานไม่ใช่การทำลาย "สิ่งมีอยู่" แต่เป็น การสิ้นสุดกระบวนการปรุงแต่ง (สังขาร) ที่ขับเคลื่อน
ด้วยตัณหา เมื่อตัณหาดับ กรรมไม่เกิด วงจรปฏิจจสมุปบาทก็หยุดลง เหมือนไฟดับเพราะหมดเชื้อเพลิง

3. ปฏิเสธทิฏฐิ ๒ ขั้วพระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธทั้ง
◦ สัสสตทิฏฐิ (เห็นว่าจิตเที่ยง)
◦ อุจเฉททิฏฐิ (เห็นว่าจิตสูญ)

โดยทรงชี้ว่า นิพพานอยู่เหนือการกำหนดด้วยภวะหรืออภวะ (มีหรือไม่มี) เพราะการถามว่า "นิพพานแล้วมีหรือไม่" 
ยังติดกรอบสมมติของอัตตา

4. เปรียบเทียบด้วยนิมิตต์
◦ เปลวไฟที่ดับ เพราะหมดเชื้อเพลิง ไม่ได้หมายความว่าไฟ "ไปไหน" แต่คือการหยุดสันดาปของกระบวนการเผาไหม้
◦ จิตของพระอรหันต์ ดับการวนเกิดเพราะหมดตัณหา แต่ไม่ใช่การสูญสิ้นของ "สิ่งใด" ที่มีอยู่เดิม

พระสูตรอ้างอิง
ใน อัคคัญญสูตร (ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค) พระพุทธองค์ทรงนิ่งเมื่อถูกถามถึงสภาพของพระตถาคตหลังปรินิพพาน 
เพราะปัญหาเช่นนี้ตั้งอยู่บนฐานความคิดผิดว่า "มีตัวตนที่จะไปสู่สภาพใดสภาพหนึ่ง"

สรุป
ในเถรวาท นิพพานคือภาวะหลุดพ้นจากทุกข์โดยสมบูรณ์ โดยไม่เหลือเชื้อ (อุปาทาน) สำหรับการเกิดใหม่ มิใช่
การดับสูญของจิต แต่เป็น การหยุดนิ่งแห่งสังขารทั้งปวง อย่างสิ้นเชิง อยู่เหนือการตีกรอบด้วยภาษาหรือแนวคิดทางโลก 
ดังนั้น การถามว่า "นิพพานแล้วจิตมีหรือไม่" จึงเป็นคำถามที่พระพุทธเจ้าทรงเว้นไม่ตอบ เพราะไม่อาจอธิบายด้วยกรอบ
ทิฏฐิแบบสมมติได้.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่