อาการแพ้ท้องมักเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 8–13 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับฮอร์โมน hCG ในร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอย่างชัดเจน คุณแม่หลายท่านจึงเริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน โดยเฉพาะในช่วงที่ท้องว่าง
แล้วจะมีวิธีรับมือย่างไรได้บ้างสำหรับคุณแม่มือใหม่
ในช่วง 3 เดือนแรก แนะนำว่า
ควรรับประทานอาหารที่สามารถรับประทานได้ แม้อาจไม่ได้รู้สึกอยากอาหารมากนักก็ตาม เพราะร่างกายยังต้องการพลังงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
จากเดิมที่อาจเคยรับประทานวันละ 3 มื้อ (เช้า กลางวัน เย็น) อาจเปลี่ยนเป็น
แบ่งมื้อย่อย ๆ วันละ 5–6 มื้อ โดยรับประทานทีละน้อย แต่บ่อยครั้ง เพื่อไม่ให้ท้องว่าง เพราะช่วงที่ท้องว่างมากเกินไปอาจกระตุ้นให้รู้สึกคลื่นไส้ได้มากขึ้น
ควรเลือกอาหารที่
ปรุงสุก สะอาด และมีคุณค่าทางโภชนาการ ระมัดระวังการท้องเสีย เนื่องจากหากเกิดอาการท้องเสีย อาจทำให้มดลูกบีบตัวได้ ซึ่งเป็นภาวะที่ควรหลีกเลี่ยง
ดื่มน้ำขิงอุ่นๆ เป็นทางเลือกที่ดีในการบรรเทาอาการคลื่นไส้และอาเจียน เพราะขิงมีสรรพคุณช่วยลดอาการคลื่นไส้และบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและทำให้ร่างกายอบอุ่น
แต่หากคุณแม่พยายามปรับพฤติกรรมการกินแล้ว แต่อาการแพ้ท้องยังคงรุนแรง แนะนำให้
เข้ามาปรึกษาแพทย์ เพราะแพทย์สามารถจ่ายยาในกลุ่มที่ช่วยบรรเทาอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ หรืออาเจียนได้ รวมถึงอาจให้ยาลดกรด ซึ่งจะช่วยให้อาการโดยรวมดีขึ้น
แพ้ท้อง…เราจะรับมืออย่างไรได้บ้าง?
แล้วจะมีวิธีรับมือย่างไรได้บ้างสำหรับคุณแม่มือใหม่
ในช่วง 3 เดือนแรก แนะนำว่า ควรรับประทานอาหารที่สามารถรับประทานได้ แม้อาจไม่ได้รู้สึกอยากอาหารมากนักก็ตาม เพราะร่างกายยังต้องการพลังงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
จากเดิมที่อาจเคยรับประทานวันละ 3 มื้อ (เช้า กลางวัน เย็น) อาจเปลี่ยนเป็น แบ่งมื้อย่อย ๆ วันละ 5–6 มื้อ โดยรับประทานทีละน้อย แต่บ่อยครั้ง เพื่อไม่ให้ท้องว่าง เพราะช่วงที่ท้องว่างมากเกินไปอาจกระตุ้นให้รู้สึกคลื่นไส้ได้มากขึ้น
ควรเลือกอาหารที่ ปรุงสุก สะอาด และมีคุณค่าทางโภชนาการ ระมัดระวังการท้องเสีย เนื่องจากหากเกิดอาการท้องเสีย อาจทำให้มดลูกบีบตัวได้ ซึ่งเป็นภาวะที่ควรหลีกเลี่ยง
ดื่มน้ำขิงอุ่นๆ เป็นทางเลือกที่ดีในการบรรเทาอาการคลื่นไส้และอาเจียน เพราะขิงมีสรรพคุณช่วยลดอาการคลื่นไส้และบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและทำให้ร่างกายอบอุ่น
แต่หากคุณแม่พยายามปรับพฤติกรรมการกินแล้ว แต่อาการแพ้ท้องยังคงรุนแรง แนะนำให้ เข้ามาปรึกษาแพทย์ เพราะแพทย์สามารถจ่ายยาในกลุ่มที่ช่วยบรรเทาอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ หรืออาเจียนได้ รวมถึงอาจให้ยาลดกรด ซึ่งจะช่วยให้อาการโดยรวมดีขึ้น