โรคที่ห้ามกินขิง มีโรคอะไรบ้าง กินแล้วมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร

"ขิง" เป็นสมุนไพรที่หลายคนชื่นชอบ ไม่ว่าจะใช้ชงดื่ม แก้ท้องอืด ลดคลื่นไส้ หรือบรรเทาอาการแน่นท้อง แต่แม้ขิงจะมีประโยชน์มากมาย แต่ยังมีบางกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยง หรือควรระวังการกินขิงเป็นพิเศษ เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้ 

โรคอะไรห้ามกินขิง รู้จัก 2 โรคที่ห้ามกินขิง อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

1. ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกผิดปกติ หรือเลือดแข็งตัวยาก
     ขิงมีฤทธิ์ลดการแข็งตัวของเลือด เมื่อรับประทานในปริมาณมากอาจทำให้เลือดหยุดไหลช้า หรือเสี่ยงเลือดออกมากขึ้น การกินขิงร่วมกับยาเหล่านี้อาจทำให้ฤทธิ์ของยารุนแรงขึ้นและเสี่ยงอันตรายได้ ดังนั้นผู้ที่มีภาวะดังต่อไปนี้ควรเลี่ยงการกินขิงเป็นประจำ
     มีปัญหาการแข็งตัวของเลือด
     มีเลือดออกง่าย เช่น เลือดกำเดาไหลบ่อย และหยุดยาก
     ผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยาละลายลิ่มเลือดอื่นๆ

2. ผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดี
     ขิงสามารถกระตุ้นการหลั่งและการไหลเวียนของน้ำดี ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีนิ่วในถุงน้ำดี เพราะการหลั่งน้ำดีมากขึ้นอาจทำให้เกิดอาการปวด หรือกระตุ้นให้นิ่วเคลื่อนตัวจนเกิดการอุดตันได้ ดังนั้นผู้ป่วยโรคนิ่วควรหลีกเลี่ยงการกินขิงในปริมาณที่มาก โดยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ

"ขิง" ดีต่อร่างกาย แต่ไม่ได้เหมาะกับทุกคน
     แม้ขิงจะมีประโยชน์มากมาย ช่วยแก้ท้องอืด คลื่นไส้ ลดการหลั่งน้ำย่อย และบรรเทาแผลในกระเพาะอาหาร แต่สุขภาพของแต่ละคนไม่เหมือนกัน หากคุณมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินขิง เพื่อให้ปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพร่างกายที่สุด

"ขิง" มีประโยชน์และสรรพคุณอย่างไรบ้าง
     บรรเทาอาการท้องอืด แน่นท้อง ขิงช่วยขับลม ลดแก๊สในทางเดินอาหาร ทำให้รู้สึกสบายท้องมากขึ้น
     ลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการเวียนหัวเมารถ ผู้ตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้อง (ควรปรึกษาแพทย์ก่อน) รวมถึงผู้ที่ได้รับเคมีบำบัด
     ลดการหลั่งของน้ำย่อยเกินจำเป็น ช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร ลดความระคายเคืองของกระเพาะอาหาร
     บรรเทาอาการแผลในกระเพาะอาหารด้วยฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยให้แผลดีเร็วขึ้น

     อย่างไรก็ตาม ขิงเป็นสมุนไพรที่ให้ประโยชน์มาก ทั้งช่วยย่อยอาหาร ลดอาการท้องอืด และบรรเทาคลื่นไส้ได้อย่างดีเยี่ยม แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเลือดออกง่าย ผู้ป่วยที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือด และผู้ที่มีนิ่วในถุงน้ำดี การเลือกกินขิงอย่างเหมาะสมและปลอดภัยจะช่วยให้ได้รับคุณประโยชน์เต็มที่โดยไม่เสี่ยงต่อสุขภาพ

ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่