หลายคนคงเคยมีอาการคอแห้ง เวียนหัว รองเท้าคับเพราะเท้าบวม หรือปวดปัสสาวะบ่อยหลังกินอาหารหรือขนมใช่ไหม? อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณว่าคุณกินโซเดียมมากเกินไป ทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะโซเดียมในเลือดสูง ซึ่งอันตรายกว่าที่คิด
รู้ไหมว่า การกินเค็มจัดเป็นเวลานานไม่เพียงเพิ่มความเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุหลักของโรคไตเรื้อรังในไทยอีกด้วย ภาวะโซเดียมในเลือดสูงยังอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคเกาต์ นิ่วในไต กระดูกพรุน มะเร็งกระเพาะอาหาร เบาหวาน และภาวะสมองเสื่อมได้อีกด้วย
โซเดียมในเลือดสูงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ โดยปกติ ร่างกายคนเราควรมีระดับโซเดียมในเลือดอยู่ที่ 135-145mEq/L แต่ถ้าสูงกว่า 145mEq/L ถือว่าอันตรายมาก มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 60-70% เลยทีเดียว ภาวะนี้ส่งผลให้หัวใจทำงานหนักขึ้น กล้ามเนื้อสั่น กระสับกระส่าย และอาจถึงขั้นหมดสติและเสียชีวิตได้
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) แนะนำว่า ผู้ใหญ่ไม่ควรกินโซเดียมเกิน 2,400 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งเท่ากับเกลือประมาณ 6 กรัม แต่จากข้อมูลของกรมอนามัย พบว่า คนไทยกินโซเดียมเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ถึง 2 เท่า
อาหารที่ไม่เค็มแต่โซเดียมสูงปรี๊ด เป็นเรื่องที่หลายคนอาจไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะเรามักจะเชื่อมโยงความเค็มเข้ากับโซเดียมโดยตรง แต่จริงๆ แล้ว โซเดียมสามารถซ่อนตัวอยู่ในอาหารได้หลายรูปแบบ และไม่จำเป็นต้องมีรสเค็มเสมอไป
ทำไมอาหารที่ไม่เค็มถึงมีโซเดียมสูงได้?
โซเดียมแฝง: โซเดียมมักถูกเติมลงไปในอาหารแปรรูปต่างๆ เพื่อยืดอายุการเก็บรักษา ปรับปรุงรสชาติ และเพิ่มความอร่อย เช่น ซอสปรุงรสต่างๆ น้ำซุปสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง
วัตถุปรุงแต่งรส: วัตถุปรุงแต่งรสหลายชนิด เช่น ผงชูรส ผงปรุงรสต่างๆ มีโซเดียมเป็นส่วนประกอบหลัก แม้ว่าจะไม่ได้ให้รสเค็มชัดเจน แต่ก็เพิ่มปริมาณโซเดียมในอาหารได้อย่างมาก
อาหารแปรรูป: อาหารแปรรูปส่วนใหญ่ เช่น ขนมปัง เบเกอรี่ ซีเรียล มักมีการเติมโซเดียมเพื่อปรับปรุงรสชาติและโครงสร้างของอาหาร
มาดูกันว่ามีอาหาร 7 ชนิดใดบ้างที่แฝงโซเดียมสูงแบบไม่คนคิดไม่ถึง
1.ขนมปังปิ้ง: 100 กรัม มีโซเดียม 443 มิลลิกรัม
2.ชีสแผ่น: 100 กรัม มีโซเดียม 1,594 มิลลิกรัม
3.คุกกี้: 100 กรัม มีโซเดียม 700 มิลลิกรัม
4.น้ำสลัดซีซาร์: 100 กรัม มีโซเดียม 1,275 มิลลิกรัม
5.เครื่องดื่มเกลือแร่: 600 มล. อาจมีโซเดียม 252 มิลลิกรัม
6.น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น: ครึ่งชาม (300 กรัม) มีโซเดียม 615 มิลลิกรัม
7.บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบแห้ง: 1 ซอง มีโซเดียม 1,200 มิลลิกรัม
เห็นไหมว่า อาหารบางอย่างอาจดูไม่เค็ม แต่โซเดียมสูงปรี๊ดเลย

เราสามารถลดความเสี่ยงจากโซเดียมส่วนเกินได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ เพื่อช่วยขับโซเดียมออกทางปัสสาวะ
- เพิ่มอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย กีวี แคนตาลูป ผักโขม เพื่อช่วยปรับสมดุลโซเดียมในร่างกาย
- ออกกำลังกายและอาบน้ำอุ่นพอประมาณ เพื่อช่วยเพิ่มการขับเหงื่อและกำจัดโซเดียมส่วนเกิน แต่อย่าหักโหมจนเกินไป เพราะอาจทำให้เสียเหงื่อมากและโซเดียมต่ำเกินไปได้
อาหารที่ไม่เค็มแต่มีโซเดียมสูงนั้นมีอยู่จริง และซ่อนตัวอยู่ในอาหารที่เราบริโภคกันอยู่ทุกวัน การตระหนักถึงปัญหาโซเดียมแฝง และการเลือกอาหารที่มีโซเดียมต่ำ จะช่วยให้เราสามารถดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น
แหล่งที่มา
https://thethaiger.com/th/news/1199616/
อาหาร 7 ชนิดนี้ไม่เค็ม แต่โซเดียมสูงปรี๊ด
รู้ไหมว่า การกินเค็มจัดเป็นเวลานานไม่เพียงเพิ่มความเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุหลักของโรคไตเรื้อรังในไทยอีกด้วย ภาวะโซเดียมในเลือดสูงยังอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคเกาต์ นิ่วในไต กระดูกพรุน มะเร็งกระเพาะอาหาร เบาหวาน และภาวะสมองเสื่อมได้อีกด้วย
โซเดียมในเลือดสูงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ โดยปกติ ร่างกายคนเราควรมีระดับโซเดียมในเลือดอยู่ที่ 135-145mEq/L แต่ถ้าสูงกว่า 145mEq/L ถือว่าอันตรายมาก มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 60-70% เลยทีเดียว ภาวะนี้ส่งผลให้หัวใจทำงานหนักขึ้น กล้ามเนื้อสั่น กระสับกระส่าย และอาจถึงขั้นหมดสติและเสียชีวิตได้
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) แนะนำว่า ผู้ใหญ่ไม่ควรกินโซเดียมเกิน 2,400 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งเท่ากับเกลือประมาณ 6 กรัม แต่จากข้อมูลของกรมอนามัย พบว่า คนไทยกินโซเดียมเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ถึง 2 เท่า
อาหารที่ไม่เค็มแต่โซเดียมสูงปรี๊ด เป็นเรื่องที่หลายคนอาจไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะเรามักจะเชื่อมโยงความเค็มเข้ากับโซเดียมโดยตรง แต่จริงๆ แล้ว โซเดียมสามารถซ่อนตัวอยู่ในอาหารได้หลายรูปแบบ และไม่จำเป็นต้องมีรสเค็มเสมอไป
ทำไมอาหารที่ไม่เค็มถึงมีโซเดียมสูงได้?
โซเดียมแฝง: โซเดียมมักถูกเติมลงไปในอาหารแปรรูปต่างๆ เพื่อยืดอายุการเก็บรักษา ปรับปรุงรสชาติ และเพิ่มความอร่อย เช่น ซอสปรุงรสต่างๆ น้ำซุปสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง
วัตถุปรุงแต่งรส: วัตถุปรุงแต่งรสหลายชนิด เช่น ผงชูรส ผงปรุงรสต่างๆ มีโซเดียมเป็นส่วนประกอบหลัก แม้ว่าจะไม่ได้ให้รสเค็มชัดเจน แต่ก็เพิ่มปริมาณโซเดียมในอาหารได้อย่างมาก
อาหารแปรรูป: อาหารแปรรูปส่วนใหญ่ เช่น ขนมปัง เบเกอรี่ ซีเรียล มักมีการเติมโซเดียมเพื่อปรับปรุงรสชาติและโครงสร้างของอาหาร
มาดูกันว่ามีอาหาร 7 ชนิดใดบ้างที่แฝงโซเดียมสูงแบบไม่คนคิดไม่ถึง
1.ขนมปังปิ้ง: 100 กรัม มีโซเดียม 443 มิลลิกรัม
2.ชีสแผ่น: 100 กรัม มีโซเดียม 1,594 มิลลิกรัม
3.คุกกี้: 100 กรัม มีโซเดียม 700 มิลลิกรัม
4.น้ำสลัดซีซาร์: 100 กรัม มีโซเดียม 1,275 มิลลิกรัม
5.เครื่องดื่มเกลือแร่: 600 มล. อาจมีโซเดียม 252 มิลลิกรัม
6.น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น: ครึ่งชาม (300 กรัม) มีโซเดียม 615 มิลลิกรัม
7.บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบแห้ง: 1 ซอง มีโซเดียม 1,200 มิลลิกรัม
เห็นไหมว่า อาหารบางอย่างอาจดูไม่เค็ม แต่โซเดียมสูงปรี๊ดเลย
เราสามารถลดความเสี่ยงจากโซเดียมส่วนเกินได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ เพื่อช่วยขับโซเดียมออกทางปัสสาวะ
- เพิ่มอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย กีวี แคนตาลูป ผักโขม เพื่อช่วยปรับสมดุลโซเดียมในร่างกาย
- ออกกำลังกายและอาบน้ำอุ่นพอประมาณ เพื่อช่วยเพิ่มการขับเหงื่อและกำจัดโซเดียมส่วนเกิน แต่อย่าหักโหมจนเกินไป เพราะอาจทำให้เสียเหงื่อมากและโซเดียมต่ำเกินไปได้
อาหารที่ไม่เค็มแต่มีโซเดียมสูงนั้นมีอยู่จริง และซ่อนตัวอยู่ในอาหารที่เราบริโภคกันอยู่ทุกวัน การตระหนักถึงปัญหาโซเดียมแฝง และการเลือกอาหารที่มีโซเดียมต่ำ จะช่วยให้เราสามารถดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น
แหล่งที่มา
https://thethaiger.com/th/news/1199616/