ตอนที่ 13 บ้านฟ้า
“สวัสดีค่ะ”
เสียงหญิงแปลกหน้าเอ่ยคำทักทาย ครั้งนี้ดูเหมือนเสียงจากฟ้าจะดังมากกว่าครั้งก่อน
“เดี๋ยวนะ”
เสียงหญิงอีกคนตอบกลับ คนในสนามคุ้นเคยเสียงหญิงมีอายุคนนี้เเป็นอย่างดี ทุกคนกำลังลุ้นผู้มาเยือนคนนี้เป็นใคร
เอี๊ยด [เสียงคล้ายวัตถุประเภทหนึ่งกำลังเสียดสีกัน
ผู้คนคุ้นเคยความหมายของเสียงนี้ ต่างปรบมือเพราะนั้นคือเสียงประตูที่ถูกเปิด
“ขอโทษนะคะ คุณยายเป็นเจ้าของบ้านใช่ไหมคะ ดิฉันสนใจป้ายที่ประกาศไว้ค่ะ”
เฮ..................... (เสียงในสนาม)
ป้ายที่ประกาศ!ลำโพงป่าดักฟังได้ คนในหมู่บ้านของแม่เฒ่าดีใจกันยกใหญ่ ซิสแนปเปอร์ที่รายล้อมอยู่ด้านนอกสนามกีฬา ต่างวิ่งกรูเข้าช่องว่างสนาม ตามทำนองเสียงกระดิ่งที่มีผู้เฒ่าเคาะเป็นจังหวะ
สนามกีฬาของที่นี่ไม่เหมือนสนามของมนุษย์ที่พวกเขาเห็นในทีวี แต่เป็นสนามที่ออกแบบให้มีช่องทางเดินได้หลายช่องทาง ที่นั่งอัฒจรรย์ถูกออกแบบเป็นชั้นๆ คล้ายกลีบดอกไม้ ซึ่งแต่ละกลีบดอกถูกวางซ้อนกันโดยมีช่องว่างให้คนเดินผ่านเข้าออกได้ หากมองจากด้านบนจะเห็นเป็นรูปดอกไม้
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
ตอนนี้ซิสแนปเปอร์แทรกตัวระหว่างผู้คนที่กำลังยืนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบกลางสนาม
“ใช่ค่ะ ยายเป็นเจ้าของบ้าน เธอสนใจทีวีหรือคะ”
“ค่ะ ดิฉันชื่อไดแอนน่าค่ะ เป็นนักศึกษาต่างชาติจากกรีก”
“เชิญเข้ามาก่อนแต่ทีวีมันไม่ค่อยดีนะหลาน”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงค่ะ แต่ขอดูสภาพก่อนนะคะ”
เอี้ยด [เสียงประตูเปิด-ปิดดังเข้ามายังสนามเหมือนเดิม]
ผู้คนในสนามเงียบจนได้ยินเสียงคนหนึ่งบนอัฒจรรย์ “เธอเดินเข้าบ้านแล้วใช่ไหม” เพื่อนที่นั่งข้างเอานิ้วชี้ไว้ที่ปากแล้วร้อง “ชู่ววววว” เพื่อให้เพื่อนเงียบ...อย่าส่งเสียง
“ทีวีเครื่องนี้ของยายเอง ลูกชายจะทำบ้านนี้เป็น hostel ยายจะย้ายไปอยู่ที่อื่น”
“เหรอคะ ดูจากภายนอกทีวีสวยใช้ได้นะคะ”
“สวยจนยายรู้สึกเสียดายหากต้องทิ้ง แต่มันไม่ค่อยดีแล้วนะ เคยเอาให้ช่างซ่อม ช่างบอกให้ซื้อเครื่องใหม่ดีกว่า”
“ยายน่าจะซื้อใหม่นะคะ”
“เสียดายตามภาษาคนแก่ มันเหมือนเป็นเครื่องแห่งความทรงจำของบ้านหลังนี้”
“ฟังดูโรแมนติกมากค่ะ แล้วคุณตาของยายอยู่ไหนคะ” เธอกระโดดโลดเต้นเขย่าเท้าเพื่อดูว่าคุณตาอยู่ภายในตัวบ้านหรือเปล่า
“ท่านเสียนานแล้วหลาน มาเหอะ ยายจะเปิดทีวีให้ดู”
คุณยายหยิบปลั๊กแล้วเสียบเข้าจากนั้นกดสวิทช์
คลิก [เสียงดังไปทั่วสนาม]
ทุกคนในสนามลุ้นระทึก นักแสดงบันไดรีบหยุดและเก็บอุปกรณ์ พวกเขาไม่ต้องเปิดม่านฟ้าเพราะคนบนฟ้าสนทนาใกล้ทีวี จนพวกเขาได้ยินชัดเจน แม้นพวกคนด้านล่างจะไม่เห็นคนบนฟ้าก็ตาม
“ยายขอโทษนะทีวีใช้นานแล้ว บางทีเปิดติดบ้างไม่ติดบ้าง”
คราวนี้คุณยายลองกดสวิทซ์อีกครั้ง
ครั้งนี้จีน่าและเพื่อนในสนามต่างกางแขนออกเพื่อสัมผัสผิวของซิสแนปเปอร์ เจ้าไซแนปเพื่อนซี้ซาร่ายืนอยู่ข้างคู่ซี้เหมือนครั้งก่อน มือเมื่อสัมผัสกับผิวซิสแนปเปอร์ เจ้าตัวน้อยรับรู้การสื่อสารจากคนเป็นอย่างดี ตัวมันพองใหญ่ขึ้นและผู้คนที่สัมผัสมัน มือแปลงสภาพกลายเป็นเส้นใยโปร่งแสง
คลิก [เสียงกดสวิทช์ทีวีอีกครั้ง]
ผู้คนในสนามต่างรับรู้ภาพของผู้ที่ต้องการสื่อได้จากจีน่า เธอยืนกลางสนามและส่งกระแสไฟไฟ้าไปทั่วสนาม กระแสไฟฟ้าวิ่งไปวิ่งมา เพียงเสียววินาที เกิดภาพหนึ่งบนท้องฟ้า
เมื่อลอยขึ้นจากพื้นสนามสู่อากาศ คุณจะพบภาพที่อยู่บนท้องฟ้าและเมื่อคุณเข้าใกล้ภาพเรื่อยๆ คุณจะเห็นภาพที่สองซ้อนหลังภาพแรก
ภาพแรกเป็นภาพที่ถูกปล่อยจากผู้คนในสนาม
ภาพสองเป็นภาพเงาคนของหญิงสองคนกำลังยืนอยู่
เมื่อทะลุผ่านภาพซ้อนทับดังกล่าว จะหลุดจากชั้นบรรยากาศโลกทีวี คุณจะพบบรรยากาศของบ้านหลังหนึ่ง เมื่อหันหลังมองจะพบทีวีตั้งอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ด้านบนทีวีเห็นออดเรียกที่ถูกติดตั้งไว้บนกำแพง
เมื่อหันไปด้านหน้าจะพบหญิงวัยชราคนหนึ่งสวมฮิญาบยืนคุยกับเด็กสาวคนหนึ่ง ดูเธอคล่องแคลวด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง
“ถึงภาพจะเสียบางจุดแต่พอใช้ได้ค่ะ เอ๋...ภาพไม่เคลื่อนไหวนะคะ” เธอยื่นหน้าเข้าหาทีวีเหมือนจะดูภาพให้ชัดยิ่งขึ้น
สิ่งที่เธอทำเป็นเหตุให้ผู้คนในสนามเห็นเงาของเธอ ปรากฏเป็นภาพเงาซ้อนบนท้องฟ้าอย่างเห็นได้ชัด
“ทีวีไม่ค่อยดีนะไดแอนน่า เปิดทุกครั้งจะแบบนี้ทุกที” คุณยายไม่อยากหลอกขายทีวี
ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังสนทนา เสียงเปิดประตูดังขึ้น [เอียด] “แม่ครับ” ชายวัยกลางคน คนหนึ่งกำลังรีบเดินเข้ามา แต่เห็นแม่ตนกำลังต้อนรับแขกอยู่ จึงชะงักลงด้วยความตกใจ “ขอโทษครับ ไม่คิดมีแขกมาเยี่ยม”
“ไดแอนน่าคนนี้ชื่อมาร์ค ลูกชายยายที่ยายเล่าให้ฟังไง”
“สวัสดีคุณมาร์ค ที่นี่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวมากเลยนะคะ”
“คุณตาแหลมนะครับ กรุงอิสตันบลูเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดี แถมบ้านหลังนี้อยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวด้วย”
“เช่นกันค่ะ ดิฉันกำลังหาอุปกรณ์ตกแต่งร้านอาหารค่ะ”
“จังหวะที่ดีมากนะครับ”
“ลูกมีเรื่องอะไรหรือ” แม่สังเกตุเห็นมาร์ครีบเหมือนมีเรื่องอะไรสักอย่าง
“คืองี้
ผมทำเรื่องกู้จากธนาคารผ่านแล้ว ผมขอให้แม่รีบย้ายเร็วขึ้นได้ไหมครับ”
“ไหนบอกจะให้เวลาแม่สามเดือน”
“คืองี้ครับ ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี แบงค์กำหนดปล่อยเงินภายในหนึ่งอาทิตย์ครับ”
“รอขายทีวีให้ได้ก่อนไม่ได้รึมาร์ค” น้ำเสียงดูดังและดุขึ้น
“แม่เห็นไอ้ทีวีเฮงซวยดีกว่าอนาคตของลูกหรือครับ แม่หัวโบราณไม่เข้าใจธุรกิจ รอถึงสามเดือน ยิ่งทำเร็วโอกาสยิ่งมาเร็วนะครับ”
“แต่คนอิสลามหัวโบราณอย่างแม่ เป็นคนรักษาคำพูด”
“สัญญาต้องมีเหตุผลด้วยนะครับ ผมบอกเหตุผลให้แม่ฟังแล้ว”
มาร์คดูไม่ลดราวาศอก การโต้เถียงระหว่างแม่กับลูกทำให้ไดแอนน่าดูอึดอัดและผู้คนในทีวีรู้สึกแย่กับคำพูดที่ไม่รักษาสัญญาของลูกชาย ในสนามต่างเชียร์คุณยายให้ชนะมาร์คให้ได้
“แม่ไม่เข้าใจเหตุผลของแก ลูกจะเก็บทีวีเครื่องนี้ไว้ไม่ได้หรือไง”
“แม่มันเสียแล้ว แล้วทีที่เราจะย้ายไม่มีที่ว่างให้วางเฟอร์นิเจอร์แล้วนะแม่”
คุณยายหันมองไดแอนน่า การทะเลาะกันนำความอับอายมาให้เธอ
“วันนี้รู้สึกคุณยายไม่สะดวก ไว้ดิฉันมาใหม่ดีกว่านะคะ”
“ยายต้องขอโทษที่หลานมาเห็นสภาพแย่ๆ ของพวกเรานะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันเข้าใจดี”
ไดแอนน่ารีบเดินออกจากบ้านทันที เมื่อเดินถึงประตูบ้าน ซึ่งยังคงได้เสียงคุณยายพูดเสียงดังขึ้น “ได้...ฉันยอมแกถ้าแกพูดแบบนี้ อาทิตย์หน้าฉันย้ายออก”
เธอไม่อยากรับรู้เรื่องส่วนตัว เพียงเพราะมาหาซื้อทีวีเก่าเท่านั้น ในขณะที่กำลังออกจากบ้าน เธอได้ยิ่งเสียงลูกชายกับแม่ทะเลาะกัน แม้เสียงจะแผ่วเบาลงแล้ว แต่จับความรู้สึกได้ถึงการโต้เถึยงของแม่ลูกคู่นี้ยังไม่จบลง
ไดแอนน่าเดินออกมาจากบ้านคุณยายเพื่อไปยังปากซอยต้นทางที่เข้ามา หยิบโทรศัพท์แล้วพิมพ์คำว่า
“ขายโทรทัศน์โบราณ เก่า”
สักพักข้อมูลมากมายที่ต้องการปรากฏขึ้น ไดแอนน่ายืนอ่านอยู่ได้ไม่นาน ปิดโปรแกรมแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า เพื่อมุ่งตรงไปสถานีรถไฟฟ้าในเมืองที่อยู่ไม่ห่างมากนัก
ในขณะที่ด้านหลังของเธอเป็นภาพบลูมอสก์ กำลังบังแสงของพระอาทิตย์ตกดิน

ภาพจากอินเตอร์เน็ต
7.5 ตอนที่ 13 เรื่อง Meeting point นิยายดีที่อยากแนะนำ
“สวัสดีค่ะ”
เสียงหญิงแปลกหน้าเอ่ยคำทักทาย ครั้งนี้ดูเหมือนเสียงจากฟ้าจะดังมากกว่าครั้งก่อน
“เดี๋ยวนะ”
เสียงหญิงอีกคนตอบกลับ คนในสนามคุ้นเคยเสียงหญิงมีอายุคนนี้เเป็นอย่างดี ทุกคนกำลังลุ้นผู้มาเยือนคนนี้เป็นใคร
“ขอโทษนะคะ คุณยายเป็นเจ้าของบ้านใช่ไหมคะ ดิฉันสนใจป้ายที่ประกาศไว้ค่ะ”
ป้ายที่ประกาศ!ลำโพงป่าดักฟังได้ คนในหมู่บ้านของแม่เฒ่าดีใจกันยกใหญ่ ซิสแนปเปอร์ที่รายล้อมอยู่ด้านนอกสนามกีฬา ต่างวิ่งกรูเข้าช่องว่างสนาม ตามทำนองเสียงกระดิ่งที่มีผู้เฒ่าเคาะเป็นจังหวะ
สนามกีฬาของที่นี่ไม่เหมือนสนามของมนุษย์ที่พวกเขาเห็นในทีวี แต่เป็นสนามที่ออกแบบให้มีช่องทางเดินได้หลายช่องทาง ที่นั่งอัฒจรรย์ถูกออกแบบเป็นชั้นๆ คล้ายกลีบดอกไม้ ซึ่งแต่ละกลีบดอกถูกวางซ้อนกันโดยมีช่องว่างให้คนเดินผ่านเข้าออกได้ หากมองจากด้านบนจะเห็นเป็นรูปดอกไม้
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
“ใช่ค่ะ ยายเป็นเจ้าของบ้าน เธอสนใจทีวีหรือคะ”
“ค่ะ ดิฉันชื่อไดแอนน่าค่ะ เป็นนักศึกษาต่างชาติจากกรีก”
“เชิญเข้ามาก่อนแต่ทีวีมันไม่ค่อยดีนะหลาน”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงค่ะ แต่ขอดูสภาพก่อนนะคะ”
ผู้คนในสนามเงียบจนได้ยินเสียงคนหนึ่งบนอัฒจรรย์ “เธอเดินเข้าบ้านแล้วใช่ไหม” เพื่อนที่นั่งข้างเอานิ้วชี้ไว้ที่ปากแล้วร้อง “ชู่ววววว” เพื่อให้เพื่อนเงียบ...อย่าส่งเสียง
“ทีวีเครื่องนี้ของยายเอง ลูกชายจะทำบ้านนี้เป็น hostel ยายจะย้ายไปอยู่ที่อื่น”
“เหรอคะ ดูจากภายนอกทีวีสวยใช้ได้นะคะ”
“สวยจนยายรู้สึกเสียดายหากต้องทิ้ง แต่มันไม่ค่อยดีแล้วนะ เคยเอาให้ช่างซ่อม ช่างบอกให้ซื้อเครื่องใหม่ดีกว่า”
“ยายน่าจะซื้อใหม่นะคะ”
“เสียดายตามภาษาคนแก่ มันเหมือนเป็นเครื่องแห่งความทรงจำของบ้านหลังนี้”
“ฟังดูโรแมนติกมากค่ะ แล้วคุณตาของยายอยู่ไหนคะ” เธอกระโดดโลดเต้นเขย่าเท้าเพื่อดูว่าคุณตาอยู่ภายในตัวบ้านหรือเปล่า
“ท่านเสียนานแล้วหลาน มาเหอะ ยายจะเปิดทีวีให้ดู”
คุณยายหยิบปลั๊กแล้วเสียบเข้าจากนั้นกดสวิทช์
ทุกคนในสนามลุ้นระทึก นักแสดงบันไดรีบหยุดและเก็บอุปกรณ์ พวกเขาไม่ต้องเปิดม่านฟ้าเพราะคนบนฟ้าสนทนาใกล้ทีวี จนพวกเขาได้ยินชัดเจน แม้นพวกคนด้านล่างจะไม่เห็นคนบนฟ้าก็ตาม
“ยายขอโทษนะทีวีใช้นานแล้ว บางทีเปิดติดบ้างไม่ติดบ้าง”
คราวนี้คุณยายลองกดสวิทซ์อีกครั้ง
ครั้งนี้จีน่าและเพื่อนในสนามต่างกางแขนออกเพื่อสัมผัสผิวของซิสแนปเปอร์ เจ้าไซแนปเพื่อนซี้ซาร่ายืนอยู่ข้างคู่ซี้เหมือนครั้งก่อน มือเมื่อสัมผัสกับผิวซิสแนปเปอร์ เจ้าตัวน้อยรับรู้การสื่อสารจากคนเป็นอย่างดี ตัวมันพองใหญ่ขึ้นและผู้คนที่สัมผัสมัน มือแปลงสภาพกลายเป็นเส้นใยโปร่งแสง
ผู้คนในสนามต่างรับรู้ภาพของผู้ที่ต้องการสื่อได้จากจีน่า เธอยืนกลางสนามและส่งกระแสไฟไฟ้าไปทั่วสนาม กระแสไฟฟ้าวิ่งไปวิ่งมา เพียงเสียววินาที เกิดภาพหนึ่งบนท้องฟ้า
ภาพสองเป็นภาพเงาคนของหญิงสองคนกำลังยืนอยู่
“ถึงภาพจะเสียบางจุดแต่พอใช้ได้ค่ะ เอ๋...ภาพไม่เคลื่อนไหวนะคะ” เธอยื่นหน้าเข้าหาทีวีเหมือนจะดูภาพให้ชัดยิ่งขึ้น
สิ่งที่เธอทำเป็นเหตุให้ผู้คนในสนามเห็นเงาของเธอ ปรากฏเป็นภาพเงาซ้อนบนท้องฟ้าอย่างเห็นได้ชัด
“ทีวีไม่ค่อยดีนะไดแอนน่า เปิดทุกครั้งจะแบบนี้ทุกที” คุณยายไม่อยากหลอกขายทีวี
ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังสนทนา เสียงเปิดประตูดังขึ้น [เอียด] “แม่ครับ” ชายวัยกลางคน คนหนึ่งกำลังรีบเดินเข้ามา แต่เห็นแม่ตนกำลังต้อนรับแขกอยู่ จึงชะงักลงด้วยความตกใจ “ขอโทษครับ ไม่คิดมีแขกมาเยี่ยม”
“ไดแอนน่าคนนี้ชื่อมาร์ค ลูกชายยายที่ยายเล่าให้ฟังไง”
“สวัสดีคุณมาร์ค ที่นี่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวมากเลยนะคะ”
“คุณตาแหลมนะครับ กรุงอิสตันบลูเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดี แถมบ้านหลังนี้อยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวด้วย”
“เช่นกันค่ะ ดิฉันกำลังหาอุปกรณ์ตกแต่งร้านอาหารค่ะ”
“จังหวะที่ดีมากนะครับ”
“ลูกมีเรื่องอะไรหรือ” แม่สังเกตุเห็นมาร์ครีบเหมือนมีเรื่องอะไรสักอย่าง
“คืองี้ ผมทำเรื่องกู้จากธนาคารผ่านแล้ว ผมขอให้แม่รีบย้ายเร็วขึ้นได้ไหมครับ”
“ไหนบอกจะให้เวลาแม่สามเดือน”
“คืองี้ครับ ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี แบงค์กำหนดปล่อยเงินภายในหนึ่งอาทิตย์ครับ”
“รอขายทีวีให้ได้ก่อนไม่ได้รึมาร์ค” น้ำเสียงดูดังและดุขึ้น
“แม่เห็นไอ้ทีวีเฮงซวยดีกว่าอนาคตของลูกหรือครับ แม่หัวโบราณไม่เข้าใจธุรกิจ รอถึงสามเดือน ยิ่งทำเร็วโอกาสยิ่งมาเร็วนะครับ”
“แต่คนอิสลามหัวโบราณอย่างแม่ เป็นคนรักษาคำพูด”
“สัญญาต้องมีเหตุผลด้วยนะครับ ผมบอกเหตุผลให้แม่ฟังแล้ว”
มาร์คดูไม่ลดราวาศอก การโต้เถียงระหว่างแม่กับลูกทำให้ไดแอนน่าดูอึดอัดและผู้คนในทีวีรู้สึกแย่กับคำพูดที่ไม่รักษาสัญญาของลูกชาย ในสนามต่างเชียร์คุณยายให้ชนะมาร์คให้ได้
“แม่ไม่เข้าใจเหตุผลของแก ลูกจะเก็บทีวีเครื่องนี้ไว้ไม่ได้หรือไง”
“แม่มันเสียแล้ว แล้วทีที่เราจะย้ายไม่มีที่ว่างให้วางเฟอร์นิเจอร์แล้วนะแม่”
คุณยายหันมองไดแอนน่า การทะเลาะกันนำความอับอายมาให้เธอ
“วันนี้รู้สึกคุณยายไม่สะดวก ไว้ดิฉันมาใหม่ดีกว่านะคะ”
“ยายต้องขอโทษที่หลานมาเห็นสภาพแย่ๆ ของพวกเรานะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันเข้าใจดี”
ไดแอนน่ารีบเดินออกจากบ้านทันที เมื่อเดินถึงประตูบ้าน ซึ่งยังคงได้เสียงคุณยายพูดเสียงดังขึ้น “ได้...ฉันยอมแกถ้าแกพูดแบบนี้ อาทิตย์หน้าฉันย้ายออก”
เธอไม่อยากรับรู้เรื่องส่วนตัว เพียงเพราะมาหาซื้อทีวีเก่าเท่านั้น ในขณะที่กำลังออกจากบ้าน เธอได้ยิ่งเสียงลูกชายกับแม่ทะเลาะกัน แม้เสียงจะแผ่วเบาลงแล้ว แต่จับความรู้สึกได้ถึงการโต้เถึยงของแม่ลูกคู่นี้ยังไม่จบลง
ไดแอนน่าเดินออกมาจากบ้านคุณยายเพื่อไปยังปากซอยต้นทางที่เข้ามา หยิบโทรศัพท์แล้วพิมพ์คำว่า
สักพักข้อมูลมากมายที่ต้องการปรากฏขึ้น ไดแอนน่ายืนอ่านอยู่ได้ไม่นาน ปิดโปรแกรมแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า เพื่อมุ่งตรงไปสถานีรถไฟฟ้าในเมืองที่อยู่ไม่ห่างมากนัก
ในขณะที่ด้านหลังของเธอเป็นภาพบลูมอสก์ กำลังบังแสงของพระอาทิตย์ตกดิน
ภาพจากอินเตอร์เน็ต