ไม่กี่วันที่ผ่านมาผมเดินทางจากสนามบินดอนเมืองไปยังจังหวัดหนึ่ง
ซึ่งก็เป็นการเดินทางตามปกติเข้าแถวตามคิวปกติไม่ได้มีอะไรพิเศษ
แต่ที่ไม่ปกติก็คือผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าผมตัดผมสั้นเกรียน ร่างกายสมส่วนกำยำล่ำสัน สะพายกระเป๋าสีเขียวเข้ม
ที่กระเป๋าด้านล่างมีตัวอักษรปักสีทองเป็นตัว G และตามด้วย ripen สีเขียวเหมือนสีของกระเป๋า
พอเดินผ่านเข้าเกทไปจะมีเวลาไม่กี่อึดใจก็จะถึงเครื่องบิน ผมจึงรวบรวมความกล้าทักเขาขึ้นมา
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าเป็นนักบินเครื่องบินขับไล่ใช่ไหมครับ”
ชายคนนั้นชะงัก มองผมนิ่ง เหมือนคิดอะไรบางอย่าง ผมจึงถามต่อ
“เป็นนักบินเครื่องกริพเพ่นใช่ไหมครับ ผมสังเกตจากกระเป๋าที่สะพายอยู่”
“ใช่ครับ” ชายคนนั้นตอบด้วยคำพูดที่ระวังท่าที
“ขอบคุณที่ปกป้องประเทศไทยนะครับ” ผมรีบกล่าว
“ครับ” ชายคนนั้นตอบ น้ำเสียงราบเรียบ เพราะคนไม่รู้จักมาทักมาชวนคุยแบบนี้เขาก็คงไม่ไว้ใจ
“ขอถามได้ไหมครับ” ผมถามชายคนนั้น เขายืนมองผมนิ่ง “ขับเครื่องบินรบนี่ยากไหมครับ?”
“ไม่ยากครับ”
“เพราะเรียนมา?“
“หลังจากที่จบเตรียมทหารเมื่อปี XX ก็มาต่อที่โรงเรียนนายเรืออากาศเมื่อปี XX” เขาเริ่มเล่าช้าๆ “จากนั้นก็เข้าอบรมที่ XX เป็นระยะเวลา YY แล้วก็ไปเรียนภาคทฤษฎีที่ XX แล้วก็เริ่มฝึกจากเครื่องบินใบพัดที่ XX จนกระทั่งปี YY แล้วก็ไปต่อที่ XX เมื่อปี YY-ZZ ก่อนที่จะมาที่ XX เพื่อประจำการครับ”
“แล้วใช่ชุดที่ทำภารกิจที่ชายแดนหรือเปล่าครับ”
ชายคนนั้นไม่ตอบ แต่ไม่หลบสายตา
“โอเค ผมเข้าใจครับ ขอโทษที่ถาม” เขายิ้ม
“ถ้าคำถามไหนตอบไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ” ... “ยินดีครับ”
“ก่อนทำภารกิจ ไม่ทราบว่ามีการทราบล่วงหน้าไหมครับ?“
”เฉพาะส่วนงานที่เกี่ยวข้องครับ“
”ใช้เวลานานไหมครับในการทำภารกิจ ตั้งแต่ทราบ จนถึงออกปฏิบัติการ?“
”บอกไม่ได้ครับ“
”แสดงว่านักบินก็ไม่ได้ทราบทุกคน?“
”ถูกต้องครับ“
”มันเหมือนในหนังไหมครับ ที่พอประธานาธิบดีมีคำสั่งปุ๊บ ก็ออกปฏิบัติการทันทีเลย?“
”มันจะมีเวลาเตรียมการครับ คือมันไม่ได้ปุ๊บปั้บแบบนั้น แต่มันจะมีเวลาให้เตรียมการ ส่วนระยะเวลาก็ make sense ครับ ไม่เหมือนในหนัง“
”ตื่นเต้นไหมครับ?“
”...“ เขายิ้ม
และเราทั้งสองก็มาถึงหน้าประตูเครื่องบินพอดี
”ขอบคุณมากนะครับ“ ผมกล่าว
ชายคนนั้นยิ้ม ... และเราก็แยกย้าย
เมื่อผมได้เจอนักบินเครื่องบินขับไล่...