สมัครเพื่อเรื่องนี้ อึดอัดและไม่รู้จะคุยกับใครจึงอยากลงกระทู้ในพันทิป แทกผิดถูกอย่างไรต้องขออภัยด้วยครับ
.
.
.
ตัวผมเองจบช้ากว่ารุ่นเดียวกันถึงสามปีด้วยกันเนื่องจากโดนรีไทล์ จบมาเกรดไม่สูงมากในสายงานวิศวกรรม (ประมาณ 2.5) หลังจบมาว่างงานอยู่ราว4-5เดือน หลังจากนั้นจึงได้งานที่บริษัทในจังหวัดชลบุรี มันเริ่มจากตรงนี้ครับ ผมเริ่มนอนไม่หลับและนอนหลับยาก คล้ายๆว่าถึงเหนื่อยก็นอนไม่หลับความคิดแล่นตลอดเวลา คิดเรื่องต่างๆจนไม่อาจหลับลงได้ประมาณนั้นครับ ก่อนหน้านี้นอนดึกอยู่แล้วและหลับยากเล็กน้อย แต่พอมาทำงานเหมือนอาการต่างๆมันเห็นได้ชัดขึ้นเพราะต่อให้นอนดึกแค่ไหนก็ต้องไปทำงาน พอนึกภาพออกไหมครับ กลายเป็นว่าบางวันที่แย่ๆผมไม่ได้นอนติดกันสองคืน จึงตัดสินใจไปหาหมอทั่วไปเพื่อขอยานอนหลับ ประกอบกับเริ่มมีความคิดว่าเราจะอยู่ไปทำไม (ไม่เชิงว่าเศร้าหนักเสียทีเดียว มันคล้ายๆว่าพอนึกถึงอนาคตในช่วงใดก็ตามรู้สึกว่าจะอยูไปก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่น่าอยู่ต่อ ผสมกับความรู้สึกหน่วงๆผมไม่กล้าฟันธงว่ามันคือความเศร้าเสียทีเดียว คือมีเหตุผลประกอบกับความรู้สึกต่างๆ) จึงโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต ซึ่งได้ทำแบบทดสอบคำถามเก้าข้อและแบบทดสอบว่ามีแนวโน้มฆ่าตัวตายมากแค่ไหน ได้ผลว่าซึมเศร้ารุนแรงแต่ฆ่าตัวตายต่ำ เนื่องจากผมไม่ได้มีความคิดวางแผนจะทำและไม่กล้าทำ หลายครั้งยืนอยู่ตรงระเบียงด้วยความคิดว่าจะทำ แต่ก็จบลงที่ผมยังอยู่จนมาตั้งกระทู้นี้ได้ จากทั้งหมดนี้มันก็ดูไม่น่าห่วงเท่าไร
.
เรื่องที่น่าห่วงคือผมไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ งานไม่ยากเท่าไรแต่พออดนอนแล้วสมองมันตื้อจนคนอื่นสามารถเห็นได้ชัด พี่ที่ทำงานเรียกเข้าไปคุยก่อนหน้าที่ผมจะไปหาหมอรอบหนึ่ง และในรอบสุดท้ายผมตัดสินใจลาออกเพราะกลัวว่าเราจะทำให้งานเสียและไม่ไหวอีกแล้วถึงตอนนั้นร้องไห้ออกมาเองทั้งที่ยังอยู่ในออฟฟิศแบบน่าสมเพชระดับหนึ่ง หลังออกจากงานผมจึงตัดสินใจหาหมอเพื่อให้ส่งตัวคุยกับจิตแพทย์ตามคำแนะนำของสายด่วนสุขภาพจิต
.
นี่คือเรื่องราวคร่าวๆ ประเด็นคือตลอดการรักษาผมไม่มั่นใจเลย ผมไม่รู้ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าผมเศร้าขนาดนั้นเลยหรือ คนอื่นยังทนได้แล้วผมจะรู้ได้อย่างไรว่านี่คือความเศร้าที่สมควรรักษา ผมเองไม่สามารถอดทนได้เองหรือเปล่า ผมไม่อยากทำอะไรเลยเป็นเพราะขี้เกียจไฟม ไม่ยอมปรับปรุงตัวเองหรือไม่ กล่าวง่ายๆคือ ผมเป็นคนห่วยแตกเองหรือเปล่า ผมเองไม่ชอบที่พ่อและแม่รู้และทำเหมือนว่าเขารู้ว่าผมเป็นยังไง เคยได้ยินคำว่านอนไปเดี๋ยวก็หลับเองไหมครับ ก็มันไม่หลับผมไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ทั้งเรื่องทำใจให้สงบเอยอะไรเอยผมรำคาญมาก บางครั้งก็โมโหและเศร้าใจว่าเรามันห่วยขนาดไหนกัน ผมมีงานๆหนึ่งที่ทำ ได้เงินเดือนระดับหนึ่งในขณะนี้ และพยายามออกค่าใช้จ่ายในบ้าน ผมก็จะรู้สึกว่าพี่น้องไม่เคยให้เงินพ่อแม่เลยแท้ๆ ทำไมเขาถึงมาผิดหวังกับเราคนเดียว ผมรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบจากแม่ และสัมผัสได้ว่าพ่อมองว่าผมไม่พยายามมากพอ
.
ทั้งหมดนี้ รวมถึงความคิดน่ารังเกียจต่างๆอีกมากมายในหัวผมมันทำให้รู้สึกปะปนกันไป ทั้งโกรธ เศร้า รังเกียจตัวเอง เฉื่อยชากับชีวิต
.
แต่ในการรักษาล่าสุดมียาตัวหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าดีสำหรับผมมากกล่าวคือหากเหนื่อย/ง่วงก็หลับไปเลยโดยไม่ต้องกินยานอนหลับช่วย แต่นัดคุยครั้งล่าสุดผมรอหมอตามนัดแต่จรดเย็นหมอก็ยังไม่มา หลังจากวันนัดผมจำไม่ได้ว่าถกเถียงกับพ่อแม่เรื่องอะไรบ้าง จำได้เพียงคร่าวๆว่าผมมีความคิดว่าถ้าไม่เห็นด้วยกับการกินยานักก็ไม่กินมันแล้ว ซึ่งจริงๆแล้วเขาทั้งคู่อาจจะไม่ได้หมายความแบบนั้น เพียงแต่ในการคุยกันนั้นเป็นการพูดคุยกับพ่อแม่ที่ผมรู้สึกว่าเขาไม่ฟังเราเลยมันเลยออกมาเป็น fault memory หรือเปล่า และผมก็หยุดยาและไม่ติดต่อขอนัดกับหมออีกครั้งนับแต่นั้นจนวันนี้ทุกอย่างมันกลับมาหมดทั้งความคิดฆ่าตัวตาย ความคิดเพ้อฝันสมองแล่นไปเรื่อย นอนไม่หลับ รวมถึงอื่นๆ จริงๆแล้วทางความรู้สึกผมไม่รู้สึกว่ามันต่างกันมากมายนัก เพียงแค่ในหัวมันสงบลง แต่เรื่องการนอนเห็นได้ชัดจริงๆครับ
.
ใครมีประสพการณ์ได้โปรด จะด่าก็ได้ผมไม่ติดใจใดใดทั้งสิ้นหากเป็นเพียงเพราะว่าผมไร้ความสามารถที่จะอยู่ในโลกในสังคมนี้ได้เหมือนคนอื่นๆ
ไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ไม่รู้เหตุผล
.
.
.
ตัวผมเองจบช้ากว่ารุ่นเดียวกันถึงสามปีด้วยกันเนื่องจากโดนรีไทล์ จบมาเกรดไม่สูงมากในสายงานวิศวกรรม (ประมาณ 2.5) หลังจบมาว่างงานอยู่ราว4-5เดือน หลังจากนั้นจึงได้งานที่บริษัทในจังหวัดชลบุรี มันเริ่มจากตรงนี้ครับ ผมเริ่มนอนไม่หลับและนอนหลับยาก คล้ายๆว่าถึงเหนื่อยก็นอนไม่หลับความคิดแล่นตลอดเวลา คิดเรื่องต่างๆจนไม่อาจหลับลงได้ประมาณนั้นครับ ก่อนหน้านี้นอนดึกอยู่แล้วและหลับยากเล็กน้อย แต่พอมาทำงานเหมือนอาการต่างๆมันเห็นได้ชัดขึ้นเพราะต่อให้นอนดึกแค่ไหนก็ต้องไปทำงาน พอนึกภาพออกไหมครับ กลายเป็นว่าบางวันที่แย่ๆผมไม่ได้นอนติดกันสองคืน จึงตัดสินใจไปหาหมอทั่วไปเพื่อขอยานอนหลับ ประกอบกับเริ่มมีความคิดว่าเราจะอยู่ไปทำไม (ไม่เชิงว่าเศร้าหนักเสียทีเดียว มันคล้ายๆว่าพอนึกถึงอนาคตในช่วงใดก็ตามรู้สึกว่าจะอยูไปก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่น่าอยู่ต่อ ผสมกับความรู้สึกหน่วงๆผมไม่กล้าฟันธงว่ามันคือความเศร้าเสียทีเดียว คือมีเหตุผลประกอบกับความรู้สึกต่างๆ) จึงโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต ซึ่งได้ทำแบบทดสอบคำถามเก้าข้อและแบบทดสอบว่ามีแนวโน้มฆ่าตัวตายมากแค่ไหน ได้ผลว่าซึมเศร้ารุนแรงแต่ฆ่าตัวตายต่ำ เนื่องจากผมไม่ได้มีความคิดวางแผนจะทำและไม่กล้าทำ หลายครั้งยืนอยู่ตรงระเบียงด้วยความคิดว่าจะทำ แต่ก็จบลงที่ผมยังอยู่จนมาตั้งกระทู้นี้ได้ จากทั้งหมดนี้มันก็ดูไม่น่าห่วงเท่าไร
.
เรื่องที่น่าห่วงคือผมไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ งานไม่ยากเท่าไรแต่พออดนอนแล้วสมองมันตื้อจนคนอื่นสามารถเห็นได้ชัด พี่ที่ทำงานเรียกเข้าไปคุยก่อนหน้าที่ผมจะไปหาหมอรอบหนึ่ง และในรอบสุดท้ายผมตัดสินใจลาออกเพราะกลัวว่าเราจะทำให้งานเสียและไม่ไหวอีกแล้วถึงตอนนั้นร้องไห้ออกมาเองทั้งที่ยังอยู่ในออฟฟิศแบบน่าสมเพชระดับหนึ่ง หลังออกจากงานผมจึงตัดสินใจหาหมอเพื่อให้ส่งตัวคุยกับจิตแพทย์ตามคำแนะนำของสายด่วนสุขภาพจิต
.
นี่คือเรื่องราวคร่าวๆ ประเด็นคือตลอดการรักษาผมไม่มั่นใจเลย ผมไม่รู้ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าผมเศร้าขนาดนั้นเลยหรือ คนอื่นยังทนได้แล้วผมจะรู้ได้อย่างไรว่านี่คือความเศร้าที่สมควรรักษา ผมเองไม่สามารถอดทนได้เองหรือเปล่า ผมไม่อยากทำอะไรเลยเป็นเพราะขี้เกียจไฟม ไม่ยอมปรับปรุงตัวเองหรือไม่ กล่าวง่ายๆคือ ผมเป็นคนห่วยแตกเองหรือเปล่า ผมเองไม่ชอบที่พ่อและแม่รู้และทำเหมือนว่าเขารู้ว่าผมเป็นยังไง เคยได้ยินคำว่านอนไปเดี๋ยวก็หลับเองไหมครับ ก็มันไม่หลับผมไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ทั้งเรื่องทำใจให้สงบเอยอะไรเอยผมรำคาญมาก บางครั้งก็โมโหและเศร้าใจว่าเรามันห่วยขนาดไหนกัน ผมมีงานๆหนึ่งที่ทำ ได้เงินเดือนระดับหนึ่งในขณะนี้ และพยายามออกค่าใช้จ่ายในบ้าน ผมก็จะรู้สึกว่าพี่น้องไม่เคยให้เงินพ่อแม่เลยแท้ๆ ทำไมเขาถึงมาผิดหวังกับเราคนเดียว ผมรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบจากแม่ และสัมผัสได้ว่าพ่อมองว่าผมไม่พยายามมากพอ
.
ทั้งหมดนี้ รวมถึงความคิดน่ารังเกียจต่างๆอีกมากมายในหัวผมมันทำให้รู้สึกปะปนกันไป ทั้งโกรธ เศร้า รังเกียจตัวเอง เฉื่อยชากับชีวิต
.
แต่ในการรักษาล่าสุดมียาตัวหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าดีสำหรับผมมากกล่าวคือหากเหนื่อย/ง่วงก็หลับไปเลยโดยไม่ต้องกินยานอนหลับช่วย แต่นัดคุยครั้งล่าสุดผมรอหมอตามนัดแต่จรดเย็นหมอก็ยังไม่มา หลังจากวันนัดผมจำไม่ได้ว่าถกเถียงกับพ่อแม่เรื่องอะไรบ้าง จำได้เพียงคร่าวๆว่าผมมีความคิดว่าถ้าไม่เห็นด้วยกับการกินยานักก็ไม่กินมันแล้ว ซึ่งจริงๆแล้วเขาทั้งคู่อาจจะไม่ได้หมายความแบบนั้น เพียงแต่ในการคุยกันนั้นเป็นการพูดคุยกับพ่อแม่ที่ผมรู้สึกว่าเขาไม่ฟังเราเลยมันเลยออกมาเป็น fault memory หรือเปล่า และผมก็หยุดยาและไม่ติดต่อขอนัดกับหมออีกครั้งนับแต่นั้นจนวันนี้ทุกอย่างมันกลับมาหมดทั้งความคิดฆ่าตัวตาย ความคิดเพ้อฝันสมองแล่นไปเรื่อย นอนไม่หลับ รวมถึงอื่นๆ จริงๆแล้วทางความรู้สึกผมไม่รู้สึกว่ามันต่างกันมากมายนัก เพียงแค่ในหัวมันสงบลง แต่เรื่องการนอนเห็นได้ชัดจริงๆครับ
.
ใครมีประสพการณ์ได้โปรด จะด่าก็ได้ผมไม่ติดใจใดใดทั้งสิ้นหากเป็นเพียงเพราะว่าผมไร้ความสามารถที่จะอยู่ในโลกในสังคมนี้ได้เหมือนคนอื่นๆ