ผี....บ่อหอย 1/2

กระทู้สนทนา


 
คำขู่

               เรื่องต่อไปนี้ไม่เหมาะกับคนที่คิดว่าตัวเองอยู่ ในโลกแห่งความเป็นจริงตลอดเวลา ไม่เหมาะกับคนไร้จินตนาการ หรือคนเอาจริงเอาจังในทุกเรื่อง  ไม่ต้องใช้วิจารณญาณใด ๆ  หรือเหตุผลตรรกะ  เพราะแม้แต่คนเขียนก็ไม่ต้องการมัน

 
               เราจะคั่นรายการนี้เพื่อนำท่านสู่ เคอเรจ เจ้าตูบจอมขลาด นำแสดงโดย เคอเรจ เจ้าตูบจอมขี้ขลาด ลูกหมาที่ถูกทอดทิ้ง ซึ่งเมอเรียลไปพบเข้า เธออยู่ในเมืองโนแวร์ กับสามีของเธอที่ชื่อ อูสทีซ แบ็ก แต่เรื่องน่าขนลุกมักจะเกิดขึ้นในโนแวร์ เคอเรจจะต้องปกป้องบ้านใหม่ไว้...“เจ้าหมาโง่ แกทำให้ฉันดูแย่!”
 
               ข้อความที่กล่าวมาข้างบน ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเรื่องต่อไปนี้
               (เออ แล้วจะเอามาใส่ไว้ทำไม)
               ก็อยากใส่...
 
 
 
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
 
               มีเรื่องเล่าในหมู่นักแสวงโชคและพวกหาของป่าว่าป่าทางภาคตะวันออก สมัยนั้นมีการขุดค้นหาบ่อหอย เป็นที่นิยมในหมู่นักล่าสมบัติใต้พื้นพิภพ คนไหนโชคดีหน่อยได้หอยและไข่มุกเม็ดงาม ๆ เปลี่ยนฐานะตัวเอง จากคนไม่มีจะกิน กลายเป็นเศรษฐีไปในชั่วพริบตา

               ตะวันชิงพลบ เสียงลมเอื่อยแผ่ว นกกาโบยบินกลับรวงรัง

               ในป่าดงดิบแห่งหนึ่งแถวภาคตะวันออก ผู้ใหญ่วัยค่อนคนหนึ่ง เด็กชายหนึ่ง  เดินลัดเลาะตามช่องทางที่พอเดินผ่านได้ เป็นช่องทางเฉพาะสำหรับพวกเดินป่าใช้สัญจรเท่านั้น

               คนเดินนำหน้ารูปร่างผอม แต่ยังดูแข็งแรงเกินวัย สะพายย่ามเฉียงติดบ่า มือหนึ่งถือมีดดาบคอยฟันกิ่งไม้ที่เกะกะขัดขวางการเดินทาง เด็กเดินตามวัยสิบกว่าขวบ รูปร่างผอมแบบเด็กชนบท แววตาส่อความแสนรู้ สะพายย่ามใบใหญ่กว่าย่ามของผู้นำทาง เรียกว่ารับภาระหนักเกินวัย

               เฒ่าคง หรืออาจารย์คงเรืองเวท กับเจ้าเอ้ ศิษย์เอกตัวน้อย ลงทุนเดินทาง รอนแรมบุกป่าฝ่าดงมานาน  เพื่อหาบ่อหอยในตำนาน  คนส่วนใหญ่ไม่เคยรู้ว่า มีบ่อหอยบรรพกาลซุกซ่อนในป่าแห่งนี้ เพราะผู้คนสนใจบ่อเพชรบ่อพลอยมากกว่า
 
               ณ ช่วงเวลาย้อนหลังไกลโพ้น มนุษย์รู้จักทำ ‘บ่อหอย’ เพื่อการค้าขาย กีฬา หรือแลกเปลี่ยนสินค้า มีเรื่องเล่ามากมายในหมู่นายพรานป่าเกี่ยวกับบ่อหอยที่เต็มไปด้วยของมีค่าอาถรรพ์ ไม่ใช่เพียงแค่มุกเท่านั้น ยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเปลือกหอยมีลวดลายละเอียดอ่อนงดงามพิสดารราวเทพเนรมิตวิจิตรสร้าง 
 
               สิ่งที่อาจารย์คงต้องการไม่ใช่หอย แต่คือไข่มุกพันปี ที่ว่ากันว่า อยู่ในบ่อหอยพันปี  ราคาของมันทำให้คนขายกลับกลายเป็นเศรษฐีได้ เพราะมีคนชั้นสูงของสังคม วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์มากมายยอมจ่ายเงินเพื่อการครอบครอง 

              ไข่มุก หรือมุก จัดว่าเป็นอัญมณีอินทรีย์ชนิดหนึ่ง แต่มีรูปแบบการเกิดแตกต่างจากอัญมณีทั่วไป  มีสีขาว เงินยวง ชมพูและสีทอง เกิดจากสัตว์จำพวกหอย ส่วนคนปากหอยปากปู ไม่เคยมีรายงานว่าพบมุกในปาก คนที่เชื่อทฤษฎีสมคบคิดและต้องการมุกอาถรรพ์ พากันเดินทางไปทั่วโลกเพื่อค้นหาขุมหอยสุดขอบฟ้า ขุมหอยฮันโซโลมอน  และอื่น ๆ อีกมายมาย จนตำนานการผจญภัยเหล่านั้น ถูกนำมาดัดแปลงต่อเติม สร้างเป็นภาพยนตร์อินดี้ในยุคหลัง ๆ  มากมาย เช่น

               ผ่าขุมหอยทะเลโหด   
               ผจญภัยล่าขุมหอยมฤตยู  
               อะลาดินน้ำลมไฟกับหอยวิเศษ   
               ลาร่าครอล หอยเรเดอร์กู้วิกฤต  
               ล่าหอยปริศนา
               ตามล่าตามรักหอยมหาภัย
               หอยสั่งมาเกิด  
               วิ่งสู้หอย  
               ผจญหอยมหัศจรรย์เอลโดมิโด้   
               หอยกระแทกหอย
               เดอะหอยคืนชีพคำสาปนรกล้างโลก  
               ล่าหอยมรกตมหาภัย  
               หอยชีวะ  
               ลอร์ดออฟเดอะหอย  
               ย้อนเวลาหาหอย  
               Insidious หอยตามติด  
               หอยซัดดิบ
               หอยแมน
               คุกเดือดหอยเหลือเดน  
               หอยบลอนด์ สวยกระจุย  
               สวยแค้นหอย
               หอยประหาร
               คนธรรมดานรกเรียกหอย  
               หอยข้าใครอย่าแตะ

               และอื่น ๆ อีกมายมาย
 
               “อาจารย์แน่ใจนะว่ามาถูกทาง”   เจ้าเอ้ถามอาจารย์คงเป็นครั้งแรก หลังจากเดินทางมาได้หนึ่งสัปดาห์ วนเวียนไปมาอยู่ในป่าเขา ไม่มีวี่แววจะเห็นทะเลเลยสักนิด

               “แน่ใจได้เลย แผนที่นี่ได้มาจากเรือแบล็กเบิร์น เชียวนะโว้ย  ว่ากันว่ากัปตัน เดวิดโบวี่โจนส์  เขียนขึ้นมาเองเชียวนา สมัยไปเดวิดโบวี่โจนส์ไปเที่ยวเทศกาลวูดสต็อก ว่าแต่เอ็งคงไม่รู้จักหรอก  ข้าตรวจสอบอักขระโบราณแล้ว เป็นของจริงแท้แน่นอน ฮ่า ฮ่า ฮา”

               “ชื่อแต่ละชื่อมันแปลก ๆ ผิด ๆ เพี้ยน ๆ พิลึก เชื่อดีไหมนี่...” เสียงเจ้าเอ้บ่นอุบ  “แล้วเราจะมาหาหอยในป่าในดงนี่นะอาจารย์ ปกติหอยต้องอยู่ในน้ำไม่ใช่เหรอครับ เอ หรือว่าจะเป็นหอยภูเขา หรือหอยกลิ้งดง”

               “แกอย่ามาทำเป็นอวดรู้  ยังเด็กยังเล็ก”  อาจารย์คงปรายตามองก่อนพูดเสียงห้วน   “สมัยก่อนยังไม่มีประเทศไทย ภาคกลางที่ปัจจุบันเป็นหลายจังหวัด เคยถูกน้ำทะเลท่วมมาก่อน ดังนั้นจะแปลกอะไรถ้ามีบ่อหอยแถวนี้  ในอวกาศยังมีคนคิดว่ามีหอยอวกาศเลย ไม่ต้องกังวลน่า พลังจิตของข้าบอกว่าเรากำลังใกล้เป้าหมายเข้าไปเต็มทีแล้ว  เราจะรวย ไม่ใช่สิ ข้าจะรวย ส่วนแกไม่ต้องรวยก็ได้ ยังเด็กยังเล็ก รวยแล้วจะเสียคน”

               “อ้าว ทำไมพูดสุนะขะสุนะขะแบบนั้นล่ะครับ เจอหอยแล้วทำไมต้องรวยด้วยล่ะครับ หอยทำให้รวยได้ยังไงครับ”

               “เอ็งมันโง่ ไม่ศิวิไลซ์เสียเลย ที่ข้าต้องการจริง ๆ คือไข่มุกโว้ย หอยบางชนิดสร้างไข่มุกได้ ของดีมีราคาในหอยเชียวนะแก”

               “อ๋อ...ไข่มุก”  เจ้าเอ้พยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ  “ฟามจริง เอ้ย ความจริงมันก็เป็นแคลเซียมคาร์บอเนตหรือหินปูนเท่านั้นนี่นา ไม่ต่างจากเปลือกหอย แล้วมันจะเป็นของดีมีราคาได้ยังไงครับ”

               “เจ้าหมาโง่ แกทำให้ฉันดูแย่!  ไม่รู้อะไรเอาเสียเลย ถึงมันจะเป็นอะไรเซี่ยม ๆ เนต ๆ ที่แกว่า แต่มันสวยโว้ย   คนเราชอบของสวย ๆ งาม ๆ กันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ถ้าสวยแล้วมักจะถือว่าเป็นของดีมีราคากันทั้งนั้น  ขอให้เจอหอย แล้วเราก็อาจจะเจอไข่มุก ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

               พูดจบอาจารย์คงก็หัวเราะเสียงดัง เพราะนิสัยเป็นคนชอบหัวเราะอยู่แล้ว 

               “ขอให้จริงเถอะ แม่เจ้าประคุณรุนช่องเอ้ย  สวยก็สวย รวยก็รวย  หอยก็หอย ไข่มุกก็ไข่มุก แต่ว่าขนาดในอวกาศยังมีหอยอวกาศ เชื่อดีไหมนี่”   

               “เออ  อย่าว่าแต่หอยอวกาศเลย หอยต่างมิติยังมี  ไป ๆ เดินต่อไป อย่ามัวเสียเวลามาพูดนั่นคุยนี่โน่น ข้ารู้สึกว่าเรากำลังเข้าใกล้จุดหมายเต็มทีแล้ว ข้าสัมผัสได้ถึงออร่าหอย”

               “สงสัยหอยขึ้นสมองอาจารย์แล้ว อะไร ๆ ก็หอย”

               โป้ก!

               มะเหงกอาคม สับลงหัวของเจ้าเอ้ทันที ทำเอาเด็กชายร้องเจี๊ยก หลับตาปี๋ทำคอย่น แต่ไม่กล้าโวยวาย เพราะถ้ายังขืนโวยวายออกอาการ อาจเจอ ‘บาทาอาคม’ ของอาจารย์ตามมาเป็นแน่แท้
 
               เดินมาจนตะวันคล้อยต่ำ อาจารย์คงเริ่มมองหาสถานที่นอนพัก หันไปมองเจ้าเอ้ที่ทำท่าอ่อนระโหยโรยแรงลงทุกที มองตอบมาเหมือนจะบอกให้รู้ว่า ใจยังสู้อยู่เต็มที่ อาจารย์คงจึงยิ้มให้ลูกศิษย์ตัวน้อยอย่างเมตตาปรานี  บอกว่าพรุ่งนี้ค่อยออกสำรวจ ขุมหอยน่าจะอยู่แถวนี้ เห็นมีต้นตะแบกใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง จึงพาเจ้าเอ้ไปปูผ้าขาวม้าตั้งหลักใต้ต้นไม้ หลังจากพักกินน้ำท่ากันแล้ว ก็พากันไปเก็บท่อนฟืนมาก่อกองไฟ จากนั้นเอ้ก็ผล็อยหลับไป
สิงที่ทั้งสองไม่รู้คือ ห่างออกไปในแนวป่า มีบ่อน้ำโบราณอยู่แห่งหนึ่ง ปากบ่อน้ำก่อด้วยอิฐเก่าแก่ สูงจากพื้นประมาณเกือบเมตร รอบบ่อไม่ปรากฏมีพืชพรรณไม้ใด  ราวกับว่าเกรงกลัวพลังบางอย่าง

               บริเวณนี้สภาพแปลกตา ค่อนข้างออกไปทางเป็นป่าโปร่ง ไม่ได้มีต้นไม้ยืนต้นหนาแน่นแบบป่าดงดิบทั่วไป  ทั้งยังมีบรรยากาศแปลกประหลาดพิสดารชนิดหนึ่งที่ทำให้รู้สึกถึงความไม่น่าไว้วางใจ  ปีกม่านรัตติกาลคลี่ขยายลงมาปกคลุม ป่าทั้งป่าเงียบวังเวงไม่มีแม้เสียงหรีดหริ่งเรไรหรือนกกลางคืนกู่ร้องให้ได้ยิน สร้างความอึดอัดไร้สภาพอย่างบอกไม่ถูก
 
               ทั้งสองใช้น้ำตะไคร้หอมลงอาคมที่เตรียมมา ทาตามเนื้อตัวป้องกันแมลงป่าโจมตี  นอนเอาหัวชนกัน ปลายเท้าชี้ไปคนละทาง เพื่อจะได้สังเกตเห็นสองด้าน

               “ได้ยินเสียงอะไรแปลก ๆ ก็อย่าได้สนใจ ข้าลงอักขระอาคมล้อมรอบบริเวณนี้ไว้แล้ว ไม่ต้องกลัวผีสางนางไม้ที่ไหน รีบหลับเอาแรง พรุ่งนี้จะได้ค้นหาบ่อหอยกัน ข้าว่ามันต้องอยู่แถว ๆ นี่ละ”

               อาจารย์คงบอกกับศิษย์เอ้อย่างมั่นใจ  ไม่แน่จริงคงไม่บุกป่าผ่าดงมาถึงได้ขนาดนี้  เจ้าเอ้รับคำแบบอ้อมอ้อมเพราะในใจยังรู้สึกว่าคืนนี้แตกต่างจากคืนอื่น ๆ แต่ไม่กล้าพูดอะไรมากนัก กลัวจะถูกหาว่าขี้ขลาด หลับ ๆ ไปเดี๋ยวก็เช้าแล้ว
 
               กองไฟที่สองศิษย์อาจารย์ช่วยกันก่อขึ้น ใช้ฟืนขนาดใหญ่ทำให้สว่างได้นานพอสมควร เจ้าเอ้มีหน้าที่ลุกขึ้นเติมฟืนเป็นระยะ เพื่อไม่ได้กองไฟมอดดับลง  ส่วนอาจารย์คงนอนหลับอย่างสบายใจเพราะไม่ต้องมีหน้าที่พิเศษอะไร  ในขณะที่ศิษย์เองหลับ ๆ ตื่น ๆ จดจ่ออยู่กับไฟฟืน

               ช่วงหนึ่งเจ้าเอ้รู้สึกเคลิ้ม ๆ ก็ต้องสะดุ้งนอนลืมตาโพลง ยังไม่กล้ากระดุกกระดิกเมื่อได้ยินเสียงบางอย่าง ดังออกมาจากแนวป่าด้านข้าง ไม่ใช่เสียงนกกลางคืน  แต่คล้ายเป็นเสียงหัวเราะแว่วดังพอได้ยิน

               แห...แฮ่ะ ๆ ๆ
               แห...แฮ่ะ ๆ ๆ
               แห...แฮ่ะ ๆ ๆ

               พยางค์แรกลากเสียงแหลมสูงยาวระคายความรู้สึก  แล้วตามด้วยพยางค์สั้น ๆ สามพยางค์ วนลูปไปมาอยู่เช่นนั้น เจ้าเอ้ผ่อนลมหายใจไม่กล้าลุกขึ้นดู เสียงหัวเราะประหลาดยิ่งนานยิ่งฟังดูใกล้เข้ามาทุกที ทั้งยังมีการเปลี่ยนรูปแบบเสียงหัวเราะไปด้วย

               หา...ฮ่ะ ๆ ๆ
               หา...ฮ่ะ ๆ ๆ
               หา...ฮ่ะ ๆ ๆ

               หางตาของเจ้าเอ้คล้ายเห็นเป็นแสงไฟวูบวาบไหวออกมาจากแนวป่า ลอยวนเวียนไปมา ประหนึ่งกำลังหยั่งท่าทีอย่างไม่รีบร้อน เจ้าเอ้เริ่มเหงื่อซึม ใจเต้นแรง ทั้งที่อากาศเย็นยะเยือก ส่วนอาจารย์คงยังคงนอนนิ่งไม่รู้ไม่เห็นสิ่งผิดปกติ
 
               แสงไฟกลมเรืองแสงสีเขียวอ่อนลอยตรงมาทางปลายเท้าเจ้าเอ้อย่างช้า ๆ พร้อมกับเสียงหัวเราะเขย่าประสาทดังชัดเจนและดังมากขึ้นทุกที นี่

               มันผีโป่งหรืออะไรกัน
               ไม่ใช่ แถวนี้ไม่ใช่ป่าโป่ง ไม่ควรจะมีผีโป่ง
               ผีกระสือ  ไม่ใช่ แถวนี้ไม่มีบ้านเรือนแหล่งชุมชน ผีกระสือไม่ควรจะออกมาไกลขนาดนี้

               ถ้าเช่นนั้น...

               หอยกระสือ  จะต้องเป็นหอยกระสือ เพราะอาจารย์คงบอกว่าบ่อหอยอยู่แถวนี้ จะต้องเป็นหอยกระสือแน่นอน

               ความคิดพอพุ่งวาบ สายตาก็เบิกโพลงจ้องมองไปทางปลายเท้าอย่างลืมตัว

               คุณพระคุณเจ้า...ดวงไฟสีเขียวเรืองลอยห่างปลายเท้าเจ้าเอ้ออกไปไม่ถึงสามวา มองเห็นชัดเจนว่าภายในดวงไฟนั้นเป็นหอยแครงขนาดใหญ่ขนาดเท่าศีรษะมนุษย์   แต่ภายในปากของหอยแครงที่แสยะอ้าดูว่างเปล่า ไม่มีเนื้อตัวหอย  

               นี่คือหอยกระสือ ถอดเปลือกออกมาจากร่างหอย ล่องลอยล่าหาเหยื่อ  ฝาหอยดูคล้ายปากอ้าขยับไหวส่งเสียงพูดเยือกเย็นสลับเสียงหัวเราะอันน่าขนลุก

               เลือด   เลือด
               ข้าอยากได้เลือด
               เลือด   ข้าอยากได้เลือด
               เลือดสดสด เลือดสดสด
               เลือดทุกหยดข้าอยากได้   ทั้งไส้พุง ทั้งตับไต
               เลือดอยู่ไหนร่างกายข้าหิวเหลือเกิน

               แห แฮ่ะ ๆ  ๆ
               แห แฮ่ะ ๆ  ๆ
 

...มีต่อ...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่