สัสสตทิฏฐิ...แบบที่-1...ระลึกชาติได้.. 1 - 100,000 ชาติ =>
https://pantip.com/topic/41616024
สัสสตทิฏฐิ...แบบที่-2...ระลึกชาติได้.. 1 - 10 สังวัฏฏวิวัฏฏกัป =>
https://pantip.com/topic/41616814
สัสสตทิฏฐิ...แบบที่-3...ระลึกชาติได้.. 10 - 40 สังวัฏฏวิวัฏฏกัป =>
https://pantip.com/topic/41618523
สัสสตทิฏฐิ...แบบที่-4...ระลึกชาติไม่ได้...แต่คิดเอา.. =>
https://pantip.com/topic/41619968
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องนี้ตถาคตรู้ชัดว่า ฐานะที่ตั้งแห่งทิฏฐิเหล่านี้
บุคคลถือไว้อย่างนั้นแล้ว ยึดไว้อย่างนั้นแล้ว ย่อมมีคติอย่างนั้น มีภพเบื้องหน้าอย่างนั้น
และ..
.ตถาคตย่อมรู้เหตุนั้นชัด ทั้งรู้ชัดยิ่งกว่านั้น
ทั้งไม่ยึดมั่นความรู้ชัดนั้นด้วย
เมื่อไม่ยึดมั่น ก็ทราบความเกิดขึ้นความดับไป
คุณและโทษของเวทนาทั้งหลาย กับอุบายเป็นเครื่องออกไปจากเวทนาเหล่านั้นตามความเป็นจริง
จึงทราบความดับเฉพาะตน เพราะไม่ถือมั่น ตถาคตจึงหลุดพ้น.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมเหล่านี้แลที่ลึกซึ้ง เห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก สงบ ประณีต
จะคาดคะเนเอาไม่ได้ ละเอียด รู้ได้เฉพาะบัณฑิต ซึ่งตถาคตทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง
แล้วสอนผู้อื่นให้รู้แจ้ง ที่เป็นเหตุให้กล่าวชมตถาคตตามความเป็นจริงโดยชอบ.
สรุป..
1. พระศาสดาท่าน..ทรงทราบว่า
"
พวกที่บัญญัติ..อัตตา - โลก..และ..สัตว์ว่าเป็นสิ่งที่เที่ยง โดยมีสัตว์เป็นผู้ท่องไปในภพต่างๆ..อยา่างไม่มีที่สิ้นสุด "
อันเป็นความจริง.. แต่เป็นความจริงแค่ส่วนเดียว.. คือ..สัตว์นะ..ท่องเที่ยวไปในวัฏฏะอย่างไม่มีที่สิ้นสุด..นะ ถูกต้อง..
แต่มันก็มีวิธิในการที่จะหลุดจากวัฏฏะนี้..
ดังนั้นการไปบัญญัติว่า "
สัตว์เที่ยงจึงผิด..และไม่เป็นไปเพื่อการประพฤติพรหมจรรย์ในธรรมวินัยนี้ "
แม้นพระผู้มีพระภาคก็กล่าวว่า "
สัตว์ท่องไปในวัฏฏะ.. โดยไม่อาจจะหลุดพ้นได้เองเลย " ...ว่า
2. สมณพราหมณ์พวกที่ 1 - 3 ..พวกเขาระลึกชาติได้จริง.. เห็นจริง..
(ไม่ต้องพูดถึงแบบที่4..ซึ่งไม่มีความสามารถระลึกชาติได้)
เห็นสัตว์..หรือ..เขาเองไปเกิดตายในแต่ละชาติ.. เพียงแต่..ระลึกจำนวนชาติไม่เท่ากัน
แต่อย่างไรฏ็ตาม.. ก็ไม่สามารถระลึกไดจนถึง..1 กัปป์.. คือต้นกัปป์..จนถึงกัปป์พินาสไป
ด้วยเหตุนี้.. พวกเขาจึงเห็นว่า "
โลกมันดำรงอยู่มาตลอด.. เที่ยงแท้ "...
ก็เลยไปบัญญัติว่า "
โลกเที่ยง "
3. พุทธศาสนาต่างกับ.. สมณพราหมณ์ทั้ง 4 พวกตรงที่..
"
สัตว์มันไม่เที่ยง..." เราสามารถทำให้ความเป็นสัตว์สิ้นไปได้.. ด้วยการรู้อริยสัจจ4
และการปฏิบัติมรรคอันมีองค์8...
" สัตว์ "ตอนที่ 35 :ทิฏฐิ62..เห็นสัตว์ในอตีต.. ปุพพันตกัปปิกาทิฏฐิ ๑๘ =>พระศาสดาท่านทรงกล่าวถึง..สัสสตทิฏฐิทั้ง 4 แบบ
สัสสตทิฏฐิ...แบบที่-1...ระลึกชาติได้.. 1 - 100,000 ชาติ => https://pantip.com/topic/41616024
สัสสตทิฏฐิ...แบบที่-2...ระลึกชาติได้.. 1 - 10 สังวัฏฏวิวัฏฏกัป => https://pantip.com/topic/41616814
สัสสตทิฏฐิ...แบบที่-3...ระลึกชาติได้.. 10 - 40 สังวัฏฏวิวัฏฏกัป => https://pantip.com/topic/41618523
สัสสตทิฏฐิ...แบบที่-4...ระลึกชาติไม่ได้...แต่คิดเอา.. => https://pantip.com/topic/41619968
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องนี้ตถาคตรู้ชัดว่า ฐานะที่ตั้งแห่งทิฏฐิเหล่านี้
บุคคลถือไว้อย่างนั้นแล้ว ยึดไว้อย่างนั้นแล้ว ย่อมมีคติอย่างนั้น มีภพเบื้องหน้าอย่างนั้น
และ...ตถาคตย่อมรู้เหตุนั้นชัด ทั้งรู้ชัดยิ่งกว่านั้น
ทั้งไม่ยึดมั่นความรู้ชัดนั้นด้วย
เมื่อไม่ยึดมั่น ก็ทราบความเกิดขึ้นความดับไป
คุณและโทษของเวทนาทั้งหลาย กับอุบายเป็นเครื่องออกไปจากเวทนาเหล่านั้นตามความเป็นจริง
จึงทราบความดับเฉพาะตน เพราะไม่ถือมั่น ตถาคตจึงหลุดพ้น.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมเหล่านี้แลที่ลึกซึ้ง เห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก สงบ ประณีต
จะคาดคะเนเอาไม่ได้ ละเอียด รู้ได้เฉพาะบัณฑิต ซึ่งตถาคตทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง
แล้วสอนผู้อื่นให้รู้แจ้ง ที่เป็นเหตุให้กล่าวชมตถาคตตามความเป็นจริงโดยชอบ.
สรุป..
1. พระศาสดาท่าน..ทรงทราบว่า
" พวกที่บัญญัติ..อัตตา - โลก..และ..สัตว์ว่าเป็นสิ่งที่เที่ยง โดยมีสัตว์เป็นผู้ท่องไปในภพต่างๆ..อยา่างไม่มีที่สิ้นสุด "
อันเป็นความจริง.. แต่เป็นความจริงแค่ส่วนเดียว.. คือ..สัตว์นะ..ท่องเที่ยวไปในวัฏฏะอย่างไม่มีที่สิ้นสุด..นะ ถูกต้อง..
แต่มันก็มีวิธิในการที่จะหลุดจากวัฏฏะนี้..
ดังนั้นการไปบัญญัติว่า " สัตว์เที่ยงจึงผิด..และไม่เป็นไปเพื่อการประพฤติพรหมจรรย์ในธรรมวินัยนี้ "
แม้นพระผู้มีพระภาคก็กล่าวว่า " สัตว์ท่องไปในวัฏฏะ.. โดยไม่อาจจะหลุดพ้นได้เองเลย " ...ว่า
2. สมณพราหมณ์พวกที่ 1 - 3 ..พวกเขาระลึกชาติได้จริง.. เห็นจริง..
(ไม่ต้องพูดถึงแบบที่4..ซึ่งไม่มีความสามารถระลึกชาติได้)
เห็นสัตว์..หรือ..เขาเองไปเกิดตายในแต่ละชาติ.. เพียงแต่..ระลึกจำนวนชาติไม่เท่ากัน
แต่อย่างไรฏ็ตาม.. ก็ไม่สามารถระลึกไดจนถึง..1 กัปป์.. คือต้นกัปป์..จนถึงกัปป์พินาสไป
ด้วยเหตุนี้.. พวกเขาจึงเห็นว่า " โลกมันดำรงอยู่มาตลอด.. เที่ยงแท้ "...
ก็เลยไปบัญญัติว่า " โลกเที่ยง "
3. พุทธศาสนาต่างกับ.. สมณพราหมณ์ทั้ง 4 พวกตรงที่..
" สัตว์มันไม่เที่ยง..." เราสามารถทำให้ความเป็นสัตว์สิ้นไปได้.. ด้วยการรู้อริยสัจจ4
และการปฏิบัติมรรคอันมีองค์8...