ที่มาของคำถามมาจาก 2 ข่าวนี้นะคะ (1. ข่าวโควิดกลายพันธุ์ กับ 2. ข่าวที่ WHO องค์กรอนามัยโลกออกโรงป้องกันการแพร่ระบาดของโรคจากยุงลาย)
1. จากข่าววันที่ 2 เมษายน 2022…องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ Omicron สายพันธุ์กลายพันธุ์ใหม่ 'XE' ที่อาจแพร่เชื้อได้มากกว่า COVID-19 สายพันธุ์ใด ๆ ที่เคยเห็นมาก่อน ตามรายงานของ express.co.uk. ในขณะที่ XD กับ XF กลายพันธุ์มาจากสายพันธุ์ Delta ที่ยังต้องจับตามองต่อไป
https://www.firstpost.com/health/who-warns-against-new-mutant-xe-variant-of-omicron-says-more-transmissible-than-any-strain-of-covid-19-10511292.html
2. จากข่าวที่ WHO ออกมาเปิดโครงการวันที่ 31 มีนาคม 2022 …เพื่อหยุดการระบาดของไวรัสที่มาจากยุงลาย
จาก Coronavirus ถึง Arbovirus: WHO เปิดตัวโครงการเพื่อหยุดการแพร่ระบาดครั้งใหม่ ที่เกิดจากสัตว์สายพันธุ์ Arbovirus เป็นพาหะที่คุกคามถึงชีวิต เช่น ไข้เลือดออก ไข้เหลือง ชิคุนกุนยา และซิกา “Arboviruses” อาจเป็นคำที่ไม่คุ้นเคย แต่ไวรัสกลุ่มนี้สามารถทำให้เกิดความหายนะได้กับคนเกือบสี่พันล้านคน …ยุง เห็บ หมัด อาจเป็นสัตว์กินเลือดที่เรารู้จักดี …แต่สิ่งที่ WHO กังวลคือโรคจากยุงลาย…เพราะมันกำลังเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆทั่วโลก;
“ความถี่และขนาดของการระบาดของ arboviruses เหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แพร่กระจายโดยยุงลายกำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก จากความประจวบเหมาะทางนิเวศวิทยา เศรษฐกิจ และสังคม” WHO กล่าว
…………………………………………………………………………
ขออนุญาตสรุปสั้นๆตามลักษณะโรค ที่มี 4 ตัวที่สำคัญนะคะ
ไข้เลือดออกเดงกี (dengue fever) - มีวัคซีน, อาการคล้ายไข้เลือดออกแต่ปวดข้อด้วย
ไข้เหลือง ( yellow fever) มีวัคซีน- มีโอกาสเสียชีวิต
ไข้ไวรัสซิก้า (Zika virus) - ไม่มีวัคซีน, มีโอกาสกล้ามเนื้ออ่อนแรง, ทารกศีรษะเล็ก
โรคชิคุนกุนยา- (Togaviridae) - ไม่รุนแรง แต่ทรมานปวดข้อไปนานหลายเดือน
🦟🦟🦟🦟🦟🦟🦟
ก่อนไปถึงคำถาม เราเอาข้อมูลเกี่ยวกับโรคที่มาจากไวรัส ที่เรียกว่า Arbovirus ที่ WHO กังวลมาเล่าตรงนี้นิดนึง ให้รู้อาการคร่าวๆ
🦟🦟🦟🦟🦟🦟🦟
โรคไข้เลือดออกเดงกี (dengue hemorrhagic fever) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (dengue virus) โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค มักพบในประเทศเขตร้อนและระบาดในช่วงฤดูฝนของทุกปี อาการของโรคไข้เลือดออกมีตั้งแต่ไม่มีอาการผิดปกติไปจนถึงเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
ไข้เหลือง (Yellow Fever) คือ โรคติดต่อรุนแรงที่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้เหลือง ซึ่งพบได้ในบางบริเวณของทวีปแอฟริกาและอเมริกาใต้ โดยแพร่กระจายได้จากยุงที่เป็นพาหะนำเชื้อไวรัส เชื้อไวรัสไข้เหลืองนี้ไม่สามารถแพร่จากคนสู่คนได้ ผู้ป่วยโรคไข้เหลืองมักจะมีอาการเตือน คือมีไข้, ปวดเมื่อยตัว, ตัว-ตาเหลือง, ภาวะเลือดออกง่าย และอาจมีภาวะหายใจล้มเหลว รวมทั้งไตวาย หรือตับวาย ซึ่งในรายที่เป็นรุนแรงมีโอกาสเสียชีวิตได้สูงถึง 20-50%
ไวรัสซิกา ( Zika virus) สามารถติดต่อผ่านมารดาสู่ทารกในครรภ์ และการให้นมบุตร ผ่านทางการมีเพศสันพันธุ์และสารคัดหลั่งต่างๆ รวมถคงจากผู้บริจาคโลหิตที่ติดเชื้อไวรัสซิกา แต่ไม่แสดงอาการของโรค ผู้ติดเชื้อนี้อาจไม่แสดงอาการและหายเอง อาการแสดง
เช่น โรคกิลแลง-บาร์เร (Guillain-Barre syndrome; GBS) ที่มีการอักเสบของเส้นประสาทหลายอันพร้อมๆกัน
หรือ โรคเด็กศีรษะที่เล็กผิดปกติ (Neonatal Microcephaly) ที่เกิดจากการติดเชื้อของมารดาขณะคั้งครรภ์
โรคชิคุนกุนยา (Chikungunya) หรือโรคไข้ปวดข้อ มีสาเหตุจากยุงลาย และมีอาการเช่นเดียวกับไข้เลือดออก ผู้ป่วยจะมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดข้อและกล้ามเนื้อ มีผื่นแดงตามแขนขา ตาแดง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ท้องเสีย แม่ตั้งครรภ์ที่เป็นโรคชิคุนกุนยาสามารถถ่ายทอดไปยังทารกได้
โรคชิคุนกุนยาเป็นโรคติดเชื้อไวรัสติดต่อโดยยุงลาย ผู้ป่วยจะมีอาการไ้ข้สูง และ ปวดข้ออาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะหาย
หรือ เรียกโรคไข้ปวดข้อ โรคนี้เมื่อเกิดขึ้นกับเด็ก อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและรุนแรง ต่ออวัยวะสำคัญของร่างกาย เช่น ตับ ไต และหัวใจได้
https://owsa.in/from-the-coronavirus-to-the-arbovirus-who-launches-bid-to-stop-a-new-pandemic/
https://www2.gpo.or.th/Portals/6/Newsletter/RDINewsYr24No1-3.pdf
https://www.doctorraksa.com/th-TH/blog/dengue-fever.html
https://www.phyathai.com/article_detail/3141/th/ไข้เหลือง_โรคติดต่อรุนแรงที่ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน?branch=PYT2
https://www.bangkokpattayahospital.com/th/healthcare-services/internal-medicine-center-th/medicine-articles-th/item/2639-chikungunya-disease-th.html
https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/ชิคุนกุนยา
…………………
คำถาม
ในขณะที่โควิดเริ่มมีเชื้อที่ติดง่ายขึ้นกว่าเดิม แต่ความรุนแรงยังไม่รุนแรงกว่าเดิม สำหรับเมืองไทยที่อากาศร้อนและคุมโรคได้ดี เรากลับ กลัวโรคจากยุงทากกว่า เพราะป้องกันยุงกัดมันยากเวลาที่เราต้องทำกิจกรรมนอกบ้าน และฝนตกเร็วกว่าปกติ ยุงก็จะเริ่มมาแล้ว
ที่สำคัญคือ ในขณะที่เด็กจะฟื้นตัวจากโควิดได้ง่ายกว่า หลายๆคนมีอาการแค่เล็กน้อย โรคที่มากับยุงนี้อันตรายกับเด็กมากกว่า ส่งผลตั้งแต่ในท้องเลยที่ถึงกับทำให้ศีรษะเล็กลง
ส่วนตัวเราว่ายุงปกติประจำถิ่นอาจไม่ค่อยน่ากลัวเท่ากับการที่มันไปเกิดโรคกับประเทศที่ได้ฉีดวัคซีนป้องกัน และคนไม่มีภูมิต้านทาน แล้วเกิดการกลายพันธุ์ นั่นแหละอาจจะน่ากลัว แต่เชื่อว่า WHO จะป้องกันปัญหาได้ทัน และเราก็ไม่ควรประมาทเช่นกัน
ส่วนตัวคุณคิดอย่างไรคะ มันจะมีโอกาสอันตรายมากกว่าโควิดไหม
โควิดสายพันธุ์ใหม่ XD, XE, XF กับ ยุงลาย Arbovirus คุณคิดว่าอะไรอันตรายมากกว่ากัน
1. จากข่าววันที่ 2 เมษายน 2022…องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ Omicron สายพันธุ์กลายพันธุ์ใหม่ 'XE' ที่อาจแพร่เชื้อได้มากกว่า COVID-19 สายพันธุ์ใด ๆ ที่เคยเห็นมาก่อน ตามรายงานของ express.co.uk. ในขณะที่ XD กับ XF กลายพันธุ์มาจากสายพันธุ์ Delta ที่ยังต้องจับตามองต่อไป
https://www.firstpost.com/health/who-warns-against-new-mutant-xe-variant-of-omicron-says-more-transmissible-than-any-strain-of-covid-19-10511292.html
2. จากข่าวที่ WHO ออกมาเปิดโครงการวันที่ 31 มีนาคม 2022 …เพื่อหยุดการระบาดของไวรัสที่มาจากยุงลาย
จาก Coronavirus ถึง Arbovirus: WHO เปิดตัวโครงการเพื่อหยุดการแพร่ระบาดครั้งใหม่ ที่เกิดจากสัตว์สายพันธุ์ Arbovirus เป็นพาหะที่คุกคามถึงชีวิต เช่น ไข้เลือดออก ไข้เหลือง ชิคุนกุนยา และซิกา “Arboviruses” อาจเป็นคำที่ไม่คุ้นเคย แต่ไวรัสกลุ่มนี้สามารถทำให้เกิดความหายนะได้กับคนเกือบสี่พันล้านคน …ยุง เห็บ หมัด อาจเป็นสัตว์กินเลือดที่เรารู้จักดี …แต่สิ่งที่ WHO กังวลคือโรคจากยุงลาย…เพราะมันกำลังเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆทั่วโลก;
“ความถี่และขนาดของการระบาดของ arboviruses เหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แพร่กระจายโดยยุงลายกำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก จากความประจวบเหมาะทางนิเวศวิทยา เศรษฐกิจ และสังคม” WHO กล่าว
…………………………………………………………………………
ขออนุญาตสรุปสั้นๆตามลักษณะโรค ที่มี 4 ตัวที่สำคัญนะคะ
ไข้เลือดออกเดงกี (dengue fever) - มีวัคซีน, อาการคล้ายไข้เลือดออกแต่ปวดข้อด้วย
ไข้เหลือง ( yellow fever) มีวัคซีน- มีโอกาสเสียชีวิต
ไข้ไวรัสซิก้า (Zika virus) - ไม่มีวัคซีน, มีโอกาสกล้ามเนื้ออ่อนแรง, ทารกศีรษะเล็ก
โรคชิคุนกุนยา- (Togaviridae) - ไม่รุนแรง แต่ทรมานปวดข้อไปนานหลายเดือน
🦟🦟🦟🦟🦟🦟🦟
ก่อนไปถึงคำถาม เราเอาข้อมูลเกี่ยวกับโรคที่มาจากไวรัส ที่เรียกว่า Arbovirus ที่ WHO กังวลมาเล่าตรงนี้นิดนึง ให้รู้อาการคร่าวๆ
🦟🦟🦟🦟🦟🦟🦟
โรคไข้เลือดออกเดงกี (dengue hemorrhagic fever) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (dengue virus) โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค มักพบในประเทศเขตร้อนและระบาดในช่วงฤดูฝนของทุกปี อาการของโรคไข้เลือดออกมีตั้งแต่ไม่มีอาการผิดปกติไปจนถึงเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
ไข้เหลือง (Yellow Fever) คือ โรคติดต่อรุนแรงที่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้เหลือง ซึ่งพบได้ในบางบริเวณของทวีปแอฟริกาและอเมริกาใต้ โดยแพร่กระจายได้จากยุงที่เป็นพาหะนำเชื้อไวรัส เชื้อไวรัสไข้เหลืองนี้ไม่สามารถแพร่จากคนสู่คนได้ ผู้ป่วยโรคไข้เหลืองมักจะมีอาการเตือน คือมีไข้, ปวดเมื่อยตัว, ตัว-ตาเหลือง, ภาวะเลือดออกง่าย และอาจมีภาวะหายใจล้มเหลว รวมทั้งไตวาย หรือตับวาย ซึ่งในรายที่เป็นรุนแรงมีโอกาสเสียชีวิตได้สูงถึง 20-50%
ไวรัสซิกา ( Zika virus) สามารถติดต่อผ่านมารดาสู่ทารกในครรภ์ และการให้นมบุตร ผ่านทางการมีเพศสันพันธุ์และสารคัดหลั่งต่างๆ รวมถคงจากผู้บริจาคโลหิตที่ติดเชื้อไวรัสซิกา แต่ไม่แสดงอาการของโรค ผู้ติดเชื้อนี้อาจไม่แสดงอาการและหายเอง อาการแสดง
เช่น โรคกิลแลง-บาร์เร (Guillain-Barre syndrome; GBS) ที่มีการอักเสบของเส้นประสาทหลายอันพร้อมๆกัน
หรือ โรคเด็กศีรษะที่เล็กผิดปกติ (Neonatal Microcephaly) ที่เกิดจากการติดเชื้อของมารดาขณะคั้งครรภ์
โรคชิคุนกุนยา (Chikungunya) หรือโรคไข้ปวดข้อ มีสาเหตุจากยุงลาย และมีอาการเช่นเดียวกับไข้เลือดออก ผู้ป่วยจะมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดข้อและกล้ามเนื้อ มีผื่นแดงตามแขนขา ตาแดง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ท้องเสีย แม่ตั้งครรภ์ที่เป็นโรคชิคุนกุนยาสามารถถ่ายทอดไปยังทารกได้
โรคชิคุนกุนยาเป็นโรคติดเชื้อไวรัสติดต่อโดยยุงลาย ผู้ป่วยจะมีอาการไ้ข้สูง และ ปวดข้ออาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะหาย
หรือ เรียกโรคไข้ปวดข้อ โรคนี้เมื่อเกิดขึ้นกับเด็ก อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและรุนแรง ต่ออวัยวะสำคัญของร่างกาย เช่น ตับ ไต และหัวใจได้
https://owsa.in/from-the-coronavirus-to-the-arbovirus-who-launches-bid-to-stop-a-new-pandemic/
https://www2.gpo.or.th/Portals/6/Newsletter/RDINewsYr24No1-3.pdf
https://www.doctorraksa.com/th-TH/blog/dengue-fever.html
https://www.phyathai.com/article_detail/3141/th/ไข้เหลือง_โรคติดต่อรุนแรงที่ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน?branch=PYT2
https://www.bangkokpattayahospital.com/th/healthcare-services/internal-medicine-center-th/medicine-articles-th/item/2639-chikungunya-disease-th.html
https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/ชิคุนกุนยา
…………………
คำถาม
ในขณะที่โควิดเริ่มมีเชื้อที่ติดง่ายขึ้นกว่าเดิม แต่ความรุนแรงยังไม่รุนแรงกว่าเดิม สำหรับเมืองไทยที่อากาศร้อนและคุมโรคได้ดี เรากลับ กลัวโรคจากยุงทากกว่า เพราะป้องกันยุงกัดมันยากเวลาที่เราต้องทำกิจกรรมนอกบ้าน และฝนตกเร็วกว่าปกติ ยุงก็จะเริ่มมาแล้ว
ที่สำคัญคือ ในขณะที่เด็กจะฟื้นตัวจากโควิดได้ง่ายกว่า หลายๆคนมีอาการแค่เล็กน้อย โรคที่มากับยุงนี้อันตรายกับเด็กมากกว่า ส่งผลตั้งแต่ในท้องเลยที่ถึงกับทำให้ศีรษะเล็กลง
ส่วนตัวเราว่ายุงปกติประจำถิ่นอาจไม่ค่อยน่ากลัวเท่ากับการที่มันไปเกิดโรคกับประเทศที่ได้ฉีดวัคซีนป้องกัน และคนไม่มีภูมิต้านทาน แล้วเกิดการกลายพันธุ์ นั่นแหละอาจจะน่ากลัว แต่เชื่อว่า WHO จะป้องกันปัญหาได้ทัน และเราก็ไม่ควรประมาทเช่นกัน
ส่วนตัวคุณคิดอย่างไรคะ มันจะมีโอกาสอันตรายมากกว่าโควิดไหม