เตือน! ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A กลับมาอีกครั้ง

เตือน !  ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ระบาดอีกครั้ง [img]https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/t32/1/16/1f637.png[/img] อาการคล้ายโควิด-19 ไข้สูง ไอ เจ็บคอ อย่าชะล่าใจ
เสี่ยงมากสำหรับเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว

วันนี้พี่หมอฝั่งธน..จะมาให้ความรู้ ideaตือน! ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A กลับมาอีกครั้ง idea

ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza virus)
ซึ่งสามารถติดต่อได้ง่าย และระบาดได้เป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในฤดูฝนหรือฤดูหนาว
เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แบ่งออกเป็นหลายสายพันธุ์ ได้แก่ A, B, C และ D โดยสายพันธุ์ A ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่รุนแรงที่สุด
และสามารถก่อให้เกิดการระบาดใหญ่ระดับโลกได้

ลักษณะของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A
ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A เป็นไวรัส RNA แบบมีเปลือกหุ้ม (enveloped RNA virus)
จัดอยู่ในตระกูลOrthomyxoviridae เชื้อไวรัสชนิดนี้มีความสามารถในการกลายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะที่โปรตีนพื้นผิวสองชนิดคือ
Hemagglutinin (HA): ช่วยให้ไวรัสเกาะติดและเข้าสู่เซลล์ของมนุษย์
Neuraminidase (NA): ช่วยในการปล่อยไวรัสออกจากเซลล์ที่ติดเชื้อ เพื่อไปแพร่เชื้อสู่เซลล์อื่น
การกลายพันธุ์ที่ HA และ NA ทำให้เกิดชนิดย่อยของสายพันธุ์ A ที่แตกต่างกัน เช่น H1N1, H3N2 เป็นต้น
ซึ่งการกลายพันธุ์นี้มีผลต่อความรุนแรงของโรคและความสามารถในการแพร่กระจายของไวรัส



ideaไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A แพร่กระจายได้ง่ายผ่านทางละอองฝอยจากการไอ จาม หรือพูดคุย
และยังสามารถติดผ่านการสัมผัสกับพื้นผิวที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสได้
เช่น มือ ลูกบิดประตู โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น แล้วนำเข้าร่างกายผ่านทางตา จมูก หรือปาก
ไวรัสสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ 1 วันก่อนเริ่มมีอาการ และต่อเนื่องอีกประมาณ 5-7 วัน
โดยเด็กเล็กหรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำอาจแพร่เชื้อได้นานกว่านั้น

ideaอาการของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A
อาการของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A มักเริ่มฉับพลัน และรุนแรงกว่าหวัดทั่วไป โดยมีอาการหลัก ได้แก่:
ไข้สูงเฉียบพลัน (มากกว่า 38 องศาเซลเซียส) ปวดศีรษะ
ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ไอแห้ง เจ็บคอ น้ำมูกไหล หนาวสั่น
อ่อนเพลียอย่างมาก เบื่ออาหาร
ในบางราย โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ปอดบวม หัวใจอักเสบ หรือแม้กระทั่งเสียชีวิต

ideaกลุ่มเสี่ยงที่ควรระวัง
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A สามารถติดได้กับคนทุกเพศทุกวัย
แต่มีบางกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอาการรุนแรงหรือภาวะแทรกซ้อน ได้แก่:
เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี (โดยเฉพาะต่ำกว่า 2 ปี)
ผู้สูงอายุ (มากกว่า 65 ปี)
หญิงตั้งครรภ์
ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ ปอด หอบหืด ไตวาย
ผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ติดเชื้อ HIV หรือผู้ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
บุคลากรทางการแพทย์หรือผู้ดูแลผู้ป่วย

การวินิจฉัยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ทำได้ทั้งจากการซักประวัติและตรวจร่างกาย ร่วมกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น:
Rapid Influenza Diagnostic Test (RIDT): ตรวจหาแอนติเจนของไวรัส รู้ผลใน 15-30 นาที แต่ความไวต่ำ
RT-PCR: ตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัส มีความแม่นยำสูง ใช้ยืนยันชนิดของไวรัส
Viral culture: เพาะเชื้อไวรัส ใช้ในงานวิจัยหรือเพื่อเฝ้าระวังโรค

ส่วนใหญ่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A เป็นโรคที่สามารถหายได้เองในคนที่สุขภาพแข็งแรง
โดยการรักษาจะเน้นไปที่การบรรเทาอาการ เช่น พักผ่อน ดื่มน้ำมาก ๆ รับประทานยาลดไข้และยาแก้ไอตามอาการ
ในกรณีที่มีความเสี่ยงสูง หรือเริ่มมีอาการรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาให้ยาต้านไวรัส เช่น:
Oseltamivir (Tamiflu)
Zanamivir (Relenza)
ซึ่งยานี้จะได้ผลดีที่สุดหากเริ่มให้ภายใน 48 ชั่วโมงหลังเริ่มมีอาการ

ideaการป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
การฉีดวัคซีนประจำปีถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A
โดยวัคซีนจะครอบคลุมไวรัสสายพันธุ์ที่คาดว่าจะระบาดในปีนั้น ๆ เช่น H1N1, H3N2
ควรได้รับวัคซีนเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ซึ่งในประเทศไทยมักจะเริ่มฉีดช่วงก่อนฤดูฝน (ประมาณพฤษภาคม-มิถุนายน)
พฤติกรรมลดความเสี่ยง
หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้ป่วยที่มีอาการไข้ ไอ หรือจาม
สวมหน้ากากอนามัยในที่แออัด
ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล
ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์


****  ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A เป็นโรคติดเชื้อที่แม้ดูเหมือนธรรมดา แต่สามารถรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง
การตระหนักรู้ถึงอาการ การป้องกัน และการเข้ารับวัคซีนเป็นประจำทุกปี
ถือเป็นสิ่งสำคัญในการลดการแพร่ระบาดและผลกระทบร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น****

ความรู้เพิ่มเติม
https://www.thonburihospital.com/package/flu-vaccine-and-high-dose-vaccine/
https://www.tiktok.com/@thonburi_hospital/video/7472652568347430151

lovelovelove
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่