ฝันหวาน (Sweet Dream) 77

กระทู้สนทนา

.

                 แปดโมงเช้าพรนภาตื่นขึ้นมาท่ามกลางฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก เปิดหน้าต่างยามเช้าออกไปมองข้างนอก สายฝนเทลงมาอย่างกับฟ้ารั่ว พรนภากลอกตาให้กับอากาศวันนี้ อุตส่าห์หยุดทั้งที อะไรกัน ฝันดันมาตกซะอย่างนั้น

              “ฝนตกอ่ะพี่เมธี เซ็งเลย นภาอุตส่าห์ได้หยุดตรงวันเสาร์กะเค้า ทำไมต้องมาตกวันนี้ด้วย ทำงานเกือบสิบวันก็ไม่ตก ฮ่วย” บ่นพร้อมทำหน้าละห้อยให้กับสามีรุ่นพ่อ ส่วนเขาเองเปิดทีวีนอนดูข่าวตอนเช้าบนเตียงนอน

              “เอ๋าน้องก็… ก็หน้าฝนนี่ค่ะ ก็สภาพอากาศ ใครจะไปบังคับกำหนดได้ ทำไมคะจะชวนเค้าไปไหนเหรอ” เขาถาม ปรายตามองภรรยารุ่นลูกอย่างนึกขัน คนอะไรงอนได้แม้กระทั่งฝนตก “ไปขึ้นเขาตะแบกอีกมั้ย ฮา ” พูดปนยิ้มให้พรนภาผู้น่ารักของเขา ทว่าโดนสาวเจ้าค้อนขวับกลับมาให้

              “เปล่า! ไม่ได้จะชวนออกไปไหน แค่รู้สึกเซ็งไง แบบอะไรวันหยุดทั้งทีกลับต้องมาติดฝนอยู่ในห้องไรงี้” เธอบ่น มันก็รู้สึกแบบนั้นจริง ๆ นี่นา โกรธฝน โกรธฟ้าบ้าไปหมดแล้ว “เค้าไปอาบน้ำก่อนนะ” จากนั้นจึงหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป

               ที่บ่นฝนบ่นฟ้าเพราะเธอจะชวนสามีไปเดินห้างต่างหาก ไม่ได้จะชวนไปร้านกาแฟ หรือ ไปเที่ยวไหน วันหยุดอยากอยู่ห้องบ้าง ทว่าช่วงบ่ายกะว่าจะชวนเมธีไปเดินห้างที่พึ่งสร้างเสร็จหมาด ๆ และ พึ่งเปิดมาได้ยังไม่ถึงเดือนเลย แค่อยากไปเดินเล่นแค่นั้น ฝนดันมาตกอีก ตกแรงด้วย ตกนานไปอีก ฟ้าหม่น ๆ เหมือนจะตกทั้งวัน

               เธออาบน้ำแบบไม่รีบร้อน เปิดน้ำอุ่นอาบแบบสบายใจ อากาศยามสาย ๆ ผนวกกับฝนตกทำให้อากาศเย็นและน้ำเย็น เธอจึงเปิดน้ำอุ่นอาบ ร้องเพลงแก้เครียดไปด้วย เครียดที่ฝนตกในวันหยุดนี่แหละ ไม่รีบร้อนอะไรทั้งนั้น วันหยุดขอใช้ชีวิตแบบช้า ๆ ก็แล้วกัน

             พออาบน้ำเสร็จก็นุ่งผ้าเช็ดตัวเดินเข้ามาในห้อง เมธีมองแบบไม่ละสายตาอีกแล้ว ทำเอาเธออดขำไม่ได้ ทุกทีเลย! ชอบที่สามีแกล้งทำเป็นมองแบบนี้นัก ซึ่งทำเป็นแกล้งมองได้สมจริงมาก มองซะหยาดเยิ้มกันเลยทีเดียว

             “ใจเย็น ๆ ลูก เดี๋ยวเมียก็แต่งตัวเสร็จแล้ว” เขาพูดลอย ๆ แต่ทว่ามันทำให้เธอหันขวับไปมองอย่างเร็ว พร้อมยิ้มให้กับเขา ส่วนเขานอนหนุนแขนตัวเองปรายตามองเธอด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้าเช่นกัน

             “ไม่ต้องเลย! อยู่ใครอยู่มันนะ ชิ!” ค้อนขวับให้สามี คิดแต่เรื่องบนเตียง วันหยุดได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็มีความสุข ได้คุยกัน หยอกล้อกันได้หัวเราะก็โอเคแล้วชีวิตคู่ ไม่จำเป็นต้องมีอะไรพิเศษมากมาย แค่มีเขาอยู่ด้วยก็เพียงพอ แค่ได้คุยด้วย ได้นอนกอด ได้หายใจร่วมกันก็เพียงพอแล้ว จากนั้นจึงรีบแต่งหน้าโดยเร็ว เพื่อจะได้สวมเสื้อผ้า ให้รอดพ้นสายตาสัปปะรดของสามี

                 เธอง่วนอยู่กับการแต่งหน้า ไม่ได้ทำอะไรมากมาย แต่ก็พิถีพิถันกว่าวันอยู่ห้องธรรมดา เพราะช่วงบ่ายจะออกไปข้างนอก ก็ต้องจัดสักหน่อย ทว่าก็ไม่ได้แต่งหน้าจัดอะไรมากมายนัก ไม่เหมือนวันทำงานที่ต้องแต่งจัดบ้าง เพราะงานนั่นแหละ ส่วนเขาก็มองเธออยู่อย่างนั้น จะมองให้มันได้อะไร มองแล้วก็ไม่ได้กินหรอก เธอไม่ให้กินค่อนขอดเขาในใจเล่น ๆ

                 พอแต่งหน้าเสร็จ ถึงขั้นตอนจะสวมเสื้อผ้า เธอจึงหยิบบาร์ปีกนกมาใส่ เนื่องจากจะใส่ชุดเดรสสายเดี่ยวตัวโปรด ใส่ไปห้างเซ็นทรัล ทว่ากลับโดนทักจากสามีเสียอย่างนั้น

              “น้องจะใส่ชุดไหน! ทำไมเอาไอ้นี่มาใส่” เขาถาม

              “อะไรไอ้นี่! เขาเรียกปีกนก” เธอหันไปตอบเรียกซะเสียของหมดเลย

              “นั่นแหละ! จะเรียกอะไรก็ตาม ใส่ไอ้นี่เมื่อไหร่ต้องเป็นชุดไม่พึงประสงค์แน่ ๆ จะใส่เสื้ออะไร จะใส่ไปไหน แล้วไหนบอกว่าไม่ออกไปไหนไงคะ” เขาถามรัว ๆ มาเป็นชุดยาวเป็นหางว่าวกันเลย ส่วนเธอหัวเราะพอใจนัก ผู้ชายนี่นะ คนแก่นี่นะ หึหึ

             เธอหัวเราะให้กับเขา น่าเอ็นดูจริง ๆ เลย เอ็นดูในความกลัวความหวงของเขา จะอะไรนักหนาหรอก หวงอย่างกับเธอสวย ถ้าเธอสวยเหมือนคนอื่นจะไม่ต้องล่ามโซ่กันเลยหรือไร ส่วนเจ้าตัวก็ยังมองค้อนเธออยู่

               “บาร์ปีกนก เขาเรียกเสื้อในปีกนกจบมั้ย แล้วก็ที่นภาใส่เพราะจะใส่เสื้อตัวนี้ไง เนี่ยตัวนี้ค่ะ พี่เมธีตัวเองพาเค้าไปเดินเซ็นทรัลนะ เค้ายังไม่เคยไปเลยอ่ะ เขาเปิดจนจะปิดแล้ว” เธออธิบายให้เขาเข้าใจ พร้อมชูชุดที่จะใส่ด้วย

                 “พี่ก็กอดไม่ได้ไง มันเหนียว!” เขาพูด เรียกรอยยิ้มของเธออีกรอบได้มากซะทีเดียว เอ็นดูในความคิดจริง ๆ “พี่ก็ล้วงไม่ได้ด้วย มันเหนียวมันติดไปกับเนื้อด้วย”

              “แล้วจะล้วงทำไมก่อน! ฮ่วย” พูดพร้อมสวมชุดไปด้วย เป็นชุดเดรสสายเดี่ยว แม้ต้นแขนจะใหญ่ก็ตาม เธอมั่นใจใส่ซะอย่าง แค่มั่นใจก็สวยแล้ว

              “น้องจะใส่ชุดนอนเนี่ยนะไปเดินห้าง” เขาท้วง ไม่พอทำหน้าตาจริงจังไปอีก ทว่ามันกลับเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเธอได้อีกครั้ง หัวเราะลั่นห้องกันเลยด้วยความตลก ดูเรียกชุดของเธอ พี่เมธีนะพี่เมธี คนแก่เนี่ยน้า ผู้ชายเนี่ยจริง ๆ เลย

               “พี่เมธี! “ เธอเรียกชื่อของเขาปนหัวเราะ “มันไม่ใช่ชุดนอน มันคือชุดสวยของนภา ชุดอยู่บ้านแหละ เออชุดอยู่ห้องแต่มันไม่ใช่ชุดนอนไง พูดซะเสียราคาหมดเลย” พูดกลัวหัวเราะอย่างตลก สวมชุดเรียบร้อยจากนั้นก็หมุนตัวดูรูปร่างตัวเองหน้าตู้กระจก

              “ก็ไม่รู้แล้ว ก็มันเหมือนชุดนอนอ่ะ มา! ใส่แล้วก็มานอนข้าง ๆ เค้ามา เร็ว ๆ รอนานแล้ว” เมธีพูดพลางตบที่นอนเบา ๆ ทำหน้าตาทะเล้นให้อีก คนอะไรไม่ค่อยจะเลย

                “ไม่เอา ไม่นอนค่ะ เดี๋ยวผมพัง นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว เราไปเซ็นทรัลกันเลยมั้ยคะ ไปหาอะไรทานที่นั่นกัน เอ้อ! แล้วก็พานภาไปตลาดหนองมนด้วยนะ อยากกินข้าวหลาม” เธอนึกขึ้นมาได้พอดี อยากกินข้าวหลามมาหลายวันแล้ว วันนี้หยุดจึงคิดจะชวนพี่เมธีพาไปซื้อสักหน่อย

              “นั่น! อะไรคะตัวเอง มองเค้าแล้วก็บอกอยากกินข้าวหลาม” เขาพูดกลั้วยิ้ม สายตาคู่นั้นคิดอะไรอยู่ คิดไปแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้ เธออยากกินข้าวหลามจริง ๆ ยังคิดเป็นอื่นไปได้อีก

                ทั้งเขาและเธอต่างหัวเราะให้กันและกัน เข้าใจในคำพูดและแววตาที่เขาจะสื่อ “ข้าวหลาม! ฮ่วย! คนอิหยังมาตะหน่ายแถะ ฮา ปะไปได้แล้ว”

             “กลับมาได้กินแท้”

              “บู้ย!” กลอกตามองบนฟาดค้อนใส่หัวให้ไปเลย พูดอะไรก็ไม่รู้ “ไปเหอะบ่ายแล้ว พี่เมธีพานภาไปเดินเซ็นทรัลก่อนนะ สักบ่ายแก่ ๆ บ่ายสามค่อยไปซื้อก็ได้”

              “โอเคค่ะ ตามนั้น” จากนั้นเขาก็พาเธอเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าที่เปิดใหม่ เปิดยังไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ ว่าจะไม่ไปก็ไปสักหน่อย เขาอุตส่าห์นำมาเปิดใกล้ ๆ ที่พัก แลดูไฮโซดีพอได้เช็กอินกับเขาบ้าง โดยส่วนตัวของเธอ ๆ ไม่ค่อยชอบเดินห้างช้อปปิ้งเท่าไหร่ ชอบเที่ยวมากกว่า

             “จะว่าไปเราก็มาเดินห้างในรอบปีเลยน้อน้อง ปีนี้จำไม่ได้เลยว่ามาเดินห้างครั้งสุดท้ายเดือนไหน” เขาชวนคุยระหว่างเดินทาง

              “ช่าย! เห็นว่ามาเปิดเฉย ๆ หรอกก็เลยมา ไม่อยากตกเทรนด์น่ะ พี่ออร์ดี้มาเดินจนเก่าละ” เธอพูดด้วยรอยยิ้ม เขาเองก็หันมายิ้มให้เธอ พร้อมยกมือขึ้นมาวางบนศีรษะของเธอด้วยก่อนจะปล่อยลง เป็นรอยยิ้มที่ละมุนและน่ารักที่สุด อบอุ่นที่สุดเลยล่ะ

               “ทุก ๆ วันหยุดไปแต่ร้านกาแฟ” เขาพูด เธอยักคิ้วให้ ก่อนจะเปิดไฟเลี้ยว ๆ เข้าห้างไป นำรถไปจอดบนชั้นจอดรถของห้างอย่างคุ้นเคยเหมือนเคยมา “น้องเชื่อมั้ยว่าที่จอดรถห้างใหม่แบบนี้ มีคนเอารถมาขูดแล้ว”

                “เชื่อ! คงจะเป็นพวกขับรถไม่แข็งไง แบบพึ่งขับรถเป็นหมาด ๆ ไรงี้ ผู้หญิงขับก็มีเปอร์เซ็นต์นะ” เธอแสดงความคิดเห็น

              “ผู้ชายนี่แหละ ขับรถมาหลาย พ.ศ. แล้วด้วย” พอเมธีพูดมาแบบนั้นเธอก็หันมาจ้องอย่างเร็ว ถามเสียงแข็งว่าใคร ถึงว่าขับรถเข้ามาชำนาญเชียว ทั้งที่เธอก็พึ่งมาครั้งแรก “เค้า!” เมธีตอบเสียงอ่อยผสมรอยยิ้ม ทำสายตารู้สึกผิดให้ ไม่ต้องมาเล่นมุกรู้สึกผิดเลย หึหึ

               “มากับใคร มาตอนไหน” เธอคาดคั้นระหว่างที่เขากำลังขับรถหาที่จอด ทำหน้าบึ้งหันไปจ้องหน้าเขาไม่ละสายตา

               “มากับพี่หนุ่มค่ะ มาทำงานนี่แหละ พี่ออกมาหาลูกค้าไง พี่ก็เลยชวนกันแวะสองคน มากับพี่หนุ่มจริง ๆ ค่ะเค้าสาบานเลย เค้าไม่เคยโกหกน้อง นภาก็รู้”

                เธอจ้องมองหน้าเขา “ให้มันเป็นพี่หนุ่มจริง ๆ เหอะ”

                “จริง! สาบานค่ะ” ยกมือขึ้นมาหยิบปลายคางของเธอ ส่วนเธอก็ยังทำหน้างอให้เขาอยู่ “ปะลงได้แล้ว ให้พี่ไปเปิดประตูให้ลงด้วยเอามั้ยคะ”

              “ไม่ต้อง! ที่ว่าขูดอ่ะรถใคร!” เธอไม่ลืมที่จะถาม เชื่อว่าเมธีมากับเพื่อนจริง ๆ เพราะก็ไม่เคยโกหกเธอสักครั้งอย่างที่เจ้าตัวพูดนั่นแหละ และ เธอก็เชื่อใจมากด้วย

              “รถพี่หนุ่มค่ะ! พี่มากับพี่หนุ่ม มาทำงานไง ก็เลยแวะสักหน่อยก่อนเข้าบริษัทอ่ะ ปะ ๆ ลงได้แล้ว เข้าไปทัวร์เซ็นทรัลกัน น้องอยากได้อะไรก็ซื้อเลยนะคะ เค้าอนุญาต อิอิ” พูดกลั้วยิ้มพร้อมเปิดประตูลงจากรถ เธอเองก็เช่นกัน ทว่าไม่ได้เดินเข้าไปในห้างโดยทันที เธอเดินวนรอบรถดูอะไรสักหน่อย “อะไรคะตัวเอง ฮา” เขาหัวเราะ “หารอยขูดเหรอ ไม่มีหรอก! บอกว่ารถพี่หนุ่มกะยังว่า”

               “อย่าให้รู้นะ” ทำหน้าบึ้งชี้หน้าเขาอย่างตลก ๆ เดินดูรอบรถแล้วไม่มีรอยขูดจริง ๆ จากนั้นเขาก็เดินกอดคอเธอเข้าไปในห้างเซ็นทรัล

              ขณะนี้มีคนมาเดินห้างบางตา ถึงจะเป็นวันเสาร์ก็ตาม คนถือว่าน้อยมาก เธอประเมินด้วยสายตาตัวเอง เพราะนอกจากเซ็นทรัลแล้ว ก็ยังมีห้างใหญ่อยู่ใกล้ ๆ กัน เปิดติดกันชะมัด แย่งลูกค้ากันไปอีกสิ พวกเธอเดินดูเสื้อผ้าไปเรื่อย ๆ เธอพาเขาเดินดูเฉพาะโซนเสื้อผ้า อยากได้ มันสวยจริง ๆ งานแฟชั่นหลักร้อยนี่แหละ แต่ละร้านสวยมาก ๆ

              “มันมีโซนให้ถ่ายรูปด้วยนะน้อง ไปถ่ายรูปกันมั้ย เดี๋ยวพี่ถ่ายรูปให้ค่ะ มาครั้งแรกต้องเก็บภาพเป็นหลักฐานเด้ เดี๋ยวคนไม่เชื่อ ฮา” เขาพูด พร้อมพาเธอเดินไปยังมุมถ่ายรูปของห้าง

              “ทำไมรู้! มากับพี่หนุ่มจริงปะ” ทำงอนให้เสียเลย ทำไมทราบรายละเอียดดีนัก นี่ยังไม่รวมข้อหาแอบมาก่อนเธออีกนะ ถึงจะมาเรื่องงานก็เถอะ

              เขาเหมือนจะรู้ทันว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เดินเข้ามาโอบไหล่ ดมปอยผมของเธอเบา ๆ แบบไม่อายใครเลย เพราะที่นี่ก็ไม่มีคนมองอยู่แล้ว “พี่มาทำงานกับพี่หนุ่มจริง ๆ ค่ะ พี่เลยรู้ไงว่ามุมไหนเป็นมุมไหนอ่ะ มาก็ไม่ได้อะไรหรอก มาซื้อกาแฟแล้วก็กลับ จริง ๆ ตัวเอง เค้าสาบานเลยค่ะ น้องไม่เชื่อใจพี่เลยเหรอ พี่รักน้องมากขนาดไหนอ่ะ” เขาพูด ยังโอบไหล่ของเธอเอาไว้เหมือนเดิม พวกเธอหยุดยืนคุยกันเพราะเธอไม่ยอมเดินต่อ

              “เชื่อ! ฮ่วย” ตอบแบบหน้างอ อยากยิ้มกับสิ่งที่เขาบอกเมื่อครู่ ทว่ากลัวเสียฟอร์มที่วางไว้

               “โอเคค่ะ งั้นก็ไปถ่ายรูปกันปะ เดี๋ยวเค้าถ่ายรูปให้สวย ๆ เลย” แล้วเขาก็พาเธอเดินไปยังมุมนั่งเล่นของห้าง แล้วถ่ายรูปให้กับเธอ ก็ได้ไปหลายรูปพอสมควร  “ยิ้มก่อน! น้องนภาตัวเองยิ้มให้พี่ก่อนดิ หน้าบึ้งให้เค้าอะไรเนี่ย ก็มีแค่เมียคนเดียว รักเมียคนเดียว เมธีจะมีใครได้อีกคะ ทำให้หลงหัวปักหัวปำขนาดนี้” ยีผมของเธอเล่น ไม่สนใจสายตาของใครที่มองมาทั้งนั้น เขาแคร์เธอคนเดียว แคร์ความรู้สึกของเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น

               “ไปกินไอศกรีมกัน นภาอยากกินค่ะ” เธอพูดปนยิ้ม ถ่ายรูปจนพอใจแล้ว หายงอนแล้วด้วย เขาพูดมาขนาดนี้ เชื่อตั้งนานแล้ว

               “น้องเชื่อที่พี่พูดมั้ยคะ” เขาถาม แววตาจริงจังมาก ๆ

               “เชื่อค่ะ!”เธอตอบพร้อมเงยหน้ายิ้มให้กับเขา “จริง ๆ เค้าเชื่อพี่เมธี เชื่อใจพี่เมธีเสมอมาค่ะ ขอให้เป็นพี่หนุ่มจริงเห๊อ” เธอแกล้งพูด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่