ฝันหวาน (Sweet Dream) 36


.

              ภายในห้องคอนโดเล็ก ๆ ทว่าถูกจัดเป็นสัดส่วนระเบียบเรียบร้อย สิ่งของเครื่องใช้ส่วนมากจะมาจากความชอบของพรนภาเป็นหลัก หลังเลิกงานจัดการเรื่องส่วนตัวของตนเองเรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่ทั้งสองคนจะมอบเวลาแห่งความสุขให้กัน เติมเต็มความรักให้กันและกัน จากที่เหน็ดเหนื่อยกับผู้คนรอบด้านกันมามากแล้ว

                 “อุ้ย ! ไหมไทยตอนหนุ่ม ๆ หล่ออ่ะ” พรนภาอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง รู้จักนักร้องท่านนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ

                เธอกำลังฟังเพลงลูกทุ่งของนักร้องท่านหนึ่งอยู่ พร้อมยื่นหน้าจอโทรศัพท์ให้เมธีดู หัวเราะชอบใจให้กับนักร้องท่านนั้นอย่างไม่เชื่อสายตา เมียงมองแบบทึ่งนี่คือคน ๆ เดียวกันกับคนปัจจุบันใช่ไหม เธอนึกในใจแล้วหัวเราะด้วยความเอ็นดูนักร้องท่านนั้น เธอชอบ ชอบมาก ๆ ด้วย

               พรนภานอนหนุนขาของเมธี มันนุ่มยิ่งกว่าหมอนเสียอีก เมธีก็ไม่ว่าหรือรำคาญอะไรเลยปล่อยให้หนุนได้ตามสบายใจ หันเท้าไปขอบเตียงอีกฝั่ง ส่วนเมธีนั้นนั่งเอนหลังพิงหัวเตียง เยียดขาไปหาปลายเตียงให้เธอได้หนุนได้เต็มที่ พรนภานอนเล่นโทรศัพท์มือถือ ส่วนเมธีนั่งเล่นเกมส์ฟุตบอลเช่นเคย ถึงอายุจะปูนนี้ก็ยังขาดเกมส์ไม่ได้

               ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาส่วนตัว เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของพวกเขาทั้งสองคน ขอเติมพลังแรงกายแรงใจซึ่งกันและกันสักหน่อย พรนภาเป็นยาชูกำลังชั้นดีของเขาไม่แพ้ลูกชายเลย กลับมาถึงห้องได้กอด ได้แกล้ง ได้สัมผัสนิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอใจ ก็หายเหนื่อยเป็นปิดทิ้ง ส่วนเมธีเองก็เช่นกันเป็นยาชูกกำลังใจให้เธอได้มากมาย เป็นคนที่ให้เธอออดอ้อนเอาแต่ใจได้เสมอทุกเวลา ทุกสถานที่

                “เออะ ! พี่เมธีศอกโดนหน้าผากเค้า ฮ่วย “ ขมวดคิ้ว เหลือบตาขึ้นไปมองแบบไม่พอใจ เล่นเกมส์ไม่ดูเลย ศอกทิ่มหน้าผากเธอรู้บ้างไหม อย่าให้ต้องเขวี้ยงจอยเกมส์ทิ้งลงขยะนะ มองด้วยสายตาไม่ชอบใจนัก

               “โทษ ๆ ค่ะ“ ขอโทษแบบไม่ได้รู้สึกผิด แถมยังหัวเราะเธออีก ทว่ามันก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากนัก “ไหนโดนตรงไหน โดนตรงนี้บ่ จุ๊บทีนึงก็หายล่ะ” ไม่พูดเฉยก้มลงมาจูบหน้าผากของเธอด้วย แค่นี้ภรรยาคราวลูกก็เสร็จเขาแล้ว หายโกรธไม่เหลืออะไรเลย หึหึ แอบยิ้มที่ทำได้สำเร็จทุกทีไป

               “ไหมไทยหล่อจริงนะ ตอนหนุ่ม ๆ ทั้งคู่เลยหนิ กับลูกแพร” นอนดูเพลงไปเรื่อย เธอชอบเพลงนี้มาก จังหวะมันเร้าใจ ดนตรีมันได้ ทำให้คิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ ที่ไปดูหมอลำกับเพื่อนอะไรแบบนี้

              แอบคิดถึงคนเก่าด้วย ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างนะ แต่ก็ช่างเถอะเลือกแล้ว คนปัจจุบันสำคัญกว่า เมธีดีต่อใจที่สุดสำหรับเธอ จะไม่เอาคนเก่ามาทำร้ายจิตใจคนใหม่เด็ดขาด เพราะคนนั้นทำร้ายเธอมามากพอแล้ว อย่าไปนึกถึงให้เสียสุขภาพจิตอีกเลย ต่างคนต่างไปน่ะถูกแล้ว

            ..ปลื้มใจจังเมื่อเจอแม่ฮ้างจังจั้งเต็มตา หล่อนนั้นหนาอายุอาวัยละไม่เกินซาวสอง หน้าตาท่าทางก็เท่ แถมมีเสน่ห์เป็นกอง เจ้าของเดิมที่เคยครอบครอง เขาปล่อยให้น้องมาได้ไงกัน เจ้าของคนเดิมเขาปล่อยให้น้องมาได้ไงกัน...

                เพลงของนักร้องท่านนี้ถูกเปิดฟังเรื่อย ๆ เธอยื่นโทรศัพท์ให้สามีดู “คนเสื้อดำน่ะ แต่ท่าเต้นก็ยังง็อกแง็กเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ฮา ปัจจุบันท่าจะง็อกแง็กหนักกว่าเดิมด้วยนะ” แซวนักร้องในดวงใจของตนเอง

                 “รู้แล้วค่า... “ ก้มหน้าลงจุมพิตหน้าผากของภรรยาอีกครั้ง เรื่อย ๆ เท่าที่ใจต้องการ “แล้วน้องรู้มั้ยว่าใครหล่อกว่าไหมไทย” พูดพร้อมส่งยิ้มให้ภรรยาสาวสวยอย่างมีเลศนัย เอ็นดูในแววตาของเธอที่ตามมุกไม่ทัน แววตาท่าทางสงสัยของเธอช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน เขาชอบเธอ ชอบมอง ชอบพรนภาในเวลาแบบนี้มาก ลูกไก่ในกำมือของเขา

                 ขณะนี้พวกตนกำลังใช้เวลาส่วนตัวด้วยกันในห้องนอนที่อบอุ่น หลังทานมื้อเย็นเสร็จ พรนภาก็ออกกำลังกายเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ไปจนถึงช่วงนิทราพวกเขาจะใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เติมเต็มความรักให้ซึ่งกันและกันมากที่สุด

                 “ใครอ่ะ” เธอถามออกไปตรง ๆ เพราะไม่ทราบจริง ๆ พร้อมดูนักร้องท่านนี้เต้นและร้องไปเรื่อย ๆ อยากสนุก ไม่ได้สนใจและฉุกคิดเลยว่าเมธีจะเล่นมุกอะไรมากับตนเอง

               “คนที่หล่อกว่าไหมไทยก็ แท่นแทนแท๊น... เมธีไง ! ฮา อึ้ง ! อึ้งใช่มั้ยล่ะ พี่หล่อกว่าไม่งั้นน้องนภาไม่รักพี่หรอก อิอิ  “ พูดจบหัวเราะให้ตัวเองอีก โน้มตัวก้มลงมาจูบริมฝีปากของเธอเบา ๆ  “อืมม์! รอให้เตะบอลจบก่อนเหอะ เสร็จแน่ !”

               พรนภาเม้มปากยิ้มหัวเราะหึหึในลำคอ วกเข้าหาตัวเองจนได้นะพี่เมธี ! ยิ้มให้เขา “เอาที่พี่เมธีสบายใจเหอะ นภาเข้าใจ ฮา “ สุดท้ายก็หัวเราะออกมาจนได้ คนอะไรชอบหลงตัวเองชะมัด ปรายตามองเขาก่อนจะหันมาสนใจนักร้องลูกทุ่งเหมือนเดิม “แล้วก็เสร็จอะไร ใครกันแน่ที่ต้องเสร็จแน่ ถ้าแมนยูแพ้อ่ะ ! หึหึ “

               “เอ้า ! “

                 “ไม่อ้งไม่เอ้าหรอก นู่นพี่เมธีเห็นโซฟานั้นมั้ย ถ้าแมนยูแพ้นะ โซฟาตัวนั้นจะเป็นที่นอนของพี่ในคืนนี้ “ กัดริมฝีปากนิดหน่อย ทำหน้าบึ้งมองค้อนให้กับเขา ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร

                “ก็มันเล่นอ่อนเองอ่ะ ลิพูลแข็งกว่าพี่ก็ผิดเหรอ” ทำสายตาละห้อย อ้อนวอนขอความเห็นใจจากภรรยาสุดที่รัก หลับตาพริบ ๆ เรียกร้องความเห็นใจจากเธอให้มากที่สุด “มันเป็นเกมส์น้อง !! นะ นะตัวเอง  แค่เกมส์ก็ให้เค้าชนะเหอะ พี่เตะทีมลิพูล ส่วนแมนยูมันเป็นเกมส์เค้าตั้งโปรแกรมเล่นเอง พี่บังคับทีมลิพูลอ่ะ”

                “ไม่... ผิด ! ทำไมพี่เมธีไม่เล่นทีมแมนยูล่ะ ทำไมเล่นลิเวอร์พูล” พรนภาเลิกสนใจเพลง ปิดยูทูปไว้พลิกตัวเปลี่ยนท่านอน ขยับมานอนพิงหัวเตียงเหมือนเขา ดูเขาเล่นเกมส์ด้วย

                “โห่ ! จริงจังขนาดนั้นเลยเหรอคะ ขนาดเลิกเล่นโทรศัพท์มานั่งดูพี่เล่นกันเลย อ่ะงั้นเล่นเอง” ยื่นจอยเกมส์ให้เธอ นึกตลกพรนภา อะไรจะจริงจังขนาดนั้น แต่เขาก็ชอบ ชอบที่เธอเป็นเธอแบบนี้ ชอบที่เธองอแงเอาแต่ใจแบบนี้เวลาอยู่ด้วยกันสองคน หันมามองหน้า ยกมือโน้มศีรษะของเธอให้เอียงมาซบไหล่ตัวเอง ทำท่าตบศีรษะเบา ๆ ก่อนจะผละมือไปเล่นเกมต่อ

               “ไม่ ! เค้าจะนั่งดูพี่เมธีเล่น ถ้าลิพูลชนะนะ หืม ! โดนแน่ “ แอบยิ้มนิดหน่อยโดยที่เขาก็ไม่ทันเห็น นั่งพิงหัวเตียงกอดอกดูสามีเล่นเกม แค่ขู่เขาเล่น ๆ เท่านั้นเอง เวลาเห็นเขายอมให้ทุกอย่างแล้วมีความสุข แม้เรื่องไร้สาระก็มีความสุข ที่เขาใส่ใจทุกความรู้สึกของเธอ

                 ...แสดงความเอาแต่ใจก็แค่ตอนอยู่กันสองคนเท่านั้น เวลาอยู่ข้างนอกก็ไม่เป็นแบบนี้ให้เขาขุ่นเคืองใจ หรืออายคนอื่น...

               “อยากโดนอ่ะ งั้นเล่นลิพูลชนะดีกว่า ฮา ตัวเองจะทำอะไรเค้า กลัวเด้วะ! อยากโดนด้วย !  ” หัวเราะลั่นห้องกันเลย นึกจะตลกก็ตลกขึ้นมาซะอย่างนั้น ทำเอาเธอก็เก็บอาการไม่อยู่เช่นกัน หัวเราะด้วยทั้งที่หน้าบึ้งอยู่นั่นแหละ

               “ไม่ได้ ! เห็นมั้ยหน้าห้องอ่ะ เอาดิ ! ไม่โซฟาตรงนั้นแล้วนะ “ มองค้อนเข้าให้ เอาสิกล้าหรือเปล่า ปรายตามองเยาะเย้ย เมธีเองก็รับมุกของเธอ ทำเป็นเบิกตากว้างตกใจ น่าตีจริง ๆ เลย คนอะไรทอแหลชะมัด แต่ก็รักนะ “อย่าให้ทีมรักนภาต้องแพ้ ! เชอะ “

               ทั้งสองคนพูดหยอกเล่นกันบนเตียงนอน หัวเราะให้กันและกันเสียงดัง โชคดีที่ห้องเก็บเสียง หากใครมาเห็นเข้าคงต้องส่ายหัวให้เป็นแน่ อีกคนคราวพ่อ อีกคนคราวลูก แต่นี่มันห้องนอนเตียงนอนของพวกเธอ จะแสดงความรักให้ซึ่งกันและกันออกมาแบบไหนก็ได้ และก็อายุไม่ได้กำหนดในเรื่องของความรัก เมธียอมเธอทุกอย่าง และเธอเองก็ยอมเขาทุกอย่างเช่นกัน

                  “งั้นเล่นแพ้ดีกว่า ! เตะเข้าประตูตัวเองแมร่งเลย หื้ย ! เจ็บใจว้อย ! “ ทำเป็นฟึดฟัดเธออย่างน่าขบขัน เล่นเกมล้มมวยตัวเอง เตะฟุตบอลเข้าประตูทีมของตัวเองไปสองครั้ง สรุปแพ้ไปเลย ทำตัวเป็นเด็กทั้งสองคน หัวเราะให้กัน “หมดกันเมธีโมฮาเม็ดซาร่า หมดกัน ! เตะเข้าประตูตัวเอง จบ ! พระเจ้า ! จบกัน หื้ย !” เมธีทำเป็นบ่นแบบน่าเสียดายที่ทำอะไรไม่ได้ ต้องเล่นเกมให้ทีมรักแพ้ และสมมุติว่าตัวเองเป็นนักเตะในดวงใจ

                เธอนอนหัวเราะเขาอย่างชอบใจ มันต้องแบบนี้สิสามีแห่งชาติ จะขัดใจภรรยาได้อย่างไร ยิ่งเห็นเมธีทำสายตาละห้อยยิ่งชอบใจแบบเด็ก ๆ

                 “มานี่ซิ ! เค้าเล่นแพ้แล้วนอนบนเตียงด้วยได้ยัง” เมธีวางจอยเกมส์ไว้ข้าง ๆ รุดเข้าหาตัวพรนภาอย่างรวดเร็ว บัดนี้ร่างเล็ก ๆ บอบบางของเธอได้อยู่ภายใต้อ้อมกอดของเขาเรียบร้อยแล้ว

                กรี๊ด !  “พี่เมธีจะทำอะไรอ่ะ ฮ่วย “ ขมวดคิ้วมองค้อนให้กับใบหน้าคมเข้มของเขาที่ห่างกันไม่ถึงคืบ “นภายังไม่พร้อมแหมะ “ ปากบอกยังไม่พร้อมทว่าดันอมยิ้มไว้ ทำให้เขาไม่ยอมปล่อยเธอไป ไม่พอเลื่อนใบหน้าเล่นซุกซนกับปากของเธอและในบางครั้งก็เลื่อนต่ำลงมาที่หน้าอก “พี่เมธีนภายังไม่พร้อม” ร้องห้ามอีกครั้งแต่ปนไปด้วยเสียงหัวเราะ

               ก่อนจะตอบเขาคลายอ้อมกอดออกจากตัวเธอให้หายใจสะดวกขึ้น ใช้มือทั้งสองข้างยันตัวเองขึ้นมานิดหน่อย ทว่าร่างกายยังนอนทับร่างของเธอเอาไว้อยู่อย่างนั้น “ก็จะถามว่าให้พี่นอนบนเตียงกับน้องได้ยังคะ ฮึ “

               “ได้แล้ว ! ได้ตั้งนานแล้ว ฮ่วย “ อมยิ้มเขินให้กับเขา “แต่ตอนนี้พี่เมธีช่วยลุกออกจากตัวของนภาก่อน หนัก !”

                
                 ไม่ต้องให้พูดพร่ำเพรื่อ เขาขยับตัวที่ทับร่างของเธอออก เปลี่ยนมานอนข้าง ๆ แทน แล้วยกศีรษะของเธอให้หนุนแขนตัวเอง ขณะนี่ยังไม่ดึกเท่าไหร่ ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องปิดไฟนอน ส่วนพรนภานั้นเปลี่ยนท่านอน เป็นนอนตะแคงหันหน้ามากอดตัวเขาเอาไว้ เป็นภาพที่เกิดขึ้นประจำทุกวัน กอดตัวพี่เมธีอุ่นนักแล

               “โควิดมาอีกแล้วค่ะ นภาวางแผนเอาไว้ว่าหยุดงานหลังสงกรานต์อยากไปทะเลอ่ะ จะพาเค้าไปได้มั้ย” พูดขณะที่นอนกอดตัวของเมธีเอาไว้อย่างนั้น ส่วนเมธีก็พลิกตัวมาสวมกอดเธอเอาไว้เช่นกัน พวกเธอทั้งสองคนนอนกอดกันกลมเกลียวบนเตียงนอนที่นุ่มละมุน

               “ไปทะเลไหนคะ พี่ต้องดูก่อน พี่ได้เขียนรายงานไทม์ไลน์ไปนู่นไปนี่อีกแล้วน่ะสิ แล้วน้องอยากไปไหนอ่ะ” เขาถามเธอ ก้มหน้าปรายตามองนิดหน่อย และสูดดมศีรษะของเธอเบา ๆ ได้กลิ่นยาสระผมอ่อน ๆ มันช่างหอมนัก หอมจนไม่อยากให้ใครเข้าใกล้มาดอมดมด้วย “นภาอยากไปที่ไหน”

               “อยากไปจันทร์ ฯ สิ้นเดือนเราไปจันทบุรีกันมั้ย ทะเลสวยนะคะ มีที่ให้เก็บภาพถ่ายรูปมากมายด้วย นภาไปศึกษามาแล้ว สวย !”

               “เดี๋ยว ! เดี๋ยวนะคะ” เขายันตัวขึ้นใช้มือค้ำที่นอนเอาไว้อีกครั้ง หันมองเธอแล้วก็หัวเราะเรื่อ “นภาศึกษาเอาไว้แล้วพะนะ ไปศึกษามาตั้งแต่ตอนน๊าย ! ฮา โถ่ ศึกษามากับพี่ออร์ดี้อ่ะดิ”

                 “โห่ เรื่องเที่ยวเนี่ยไว้ใจนภาเหอะ รับรองไม่ผิดหวัง สวยจริงสวยจังสมชื่อ นะ นะพี่เมธีนภาอยากไปเที่ยวอ่ะ สงกรานต์ก็ทำงานแทนที่จะได้กลับบ้าน บางคนพาเค้าอยู่ทำงานเฉยแทนที่จะได้กลับบ้าน” ทำหน้าบึ้งงอนใส่เขาจริงจังเลยคราวนี้

                 “ศึกษาไว้แล้วไม่เคยพลาดเลยใช่มั้ยคะ ดูก่อนค่ะ ไม่รับปาก” เขาหลีกเลี่ยงที่จะพูดปฏิเสธให้เธอเสียใจ เพราะทนเห็นเธอที่เขารักมากเสียใจไม่ได้ ทว่าเลือกตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ไปก่อน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่