ฝันหวาน (Sweet Dream) 50

กระทู้สนทนา

.

               …ลาลาลาแล้วอ้ายกะไลลืม อ้ายลืมผุสาวคนเคยสบตา เฮ้ ! ก่อนเคยเลาะน้ำผุดฉ่ำอุรา อ้ายพานวลนางชื่นชมทุ่งลุยลาย ม่ะ ! ….

                  พรนภาร้องเพลงอย่างคนอารมณ์ดีออกมาจากห้องน้ำ เปิดเพลงในโทรศัพท์ไปพร้อมร้องคลอเคลียไปด้วย แถมยังออกท่าออกทางฟ้อนประกอบเพลงไปอย่างสนุก อาบน้ำหลังออกกำลังกายเสร็จ โดยมีสายตาของสามีคราวพ่อจ้องมองอยู่แบบไม่เข้าใจนัก ทว่าก็ไม่ได้ใส่ใจยังฮัมเพลงต่อด้วยความสุข

                 …เดินจูงมือบนสันเขื่อนจุฬาภรณ์ แดดอ่อน ๆ มีความสุขหลาย แต่มื้อนี้อ้ายเปลี่ยนแปรไป พ่อยอดดวงใจ ลวงรักรวนเร เฮ้ ! … ทำหน้าทะเล้นให้เมธีระหว่างที่ร้องเพลง ส่วนเจ้าตัวยิ้มเก้อมองเธอฟ้อนประกอบเพลงที่โซฟาด้วยรอยยิ้ม คงชอบล่ะสิ ! เดี๋ยวก็คงจะยิ้มไม่ออกถ้ารู้ความจริง

                 ….ปล่อยน้องอกตรม พังเพ ใจซมซานโซเซ อยู่กลางเมืองชุมแพ ม่ะ ! บ่าวภูเขียวใจดำ ตัดสัมพันธ์ บ่หันมาแล อ้ายเอ๋ย คือถิ่มกันง่ายคักแท้… เมธียิ้มมองเธอฟ้อนประกอบเพลงให้ดูอยู่อย่างนั้น

                   “อารมณ์ดีแท้เมียหนิ !” อดที่จะแซวมิได้ อารมณ์ดีเหลือเกิน มีเรื่องอะไรให้สบายใจหรืออย่างไร “อะไรเหรอคะที่ทำให้น้องอารมณ์ดีได้ขนาดนี้” เขาถาม ปรายตามองร่างบางที่กำลังออกท่าออกทางฟ้อนอย่างน่ารักให้ดู อมยิ้มกับความสุขของเธอในขณะนี้

                   “เฮ้ยหยะ… เฮ้ยหยะ…เฮ้ยหยา ฮา !” หัวเราะชอบใจมาก ไม่ตอบคำถามของสามี ฮัมเพลงเดินไปยังหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หยิบของบางอย่างขึ้นมาโชว์ให้สามีดู เป็นผลิตภัณฑ์สุขภัณฑ์ของผู้หญิงเอง เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมขนาดกะทัดรัดกวัดแกว่งไปมาประกอบเพลงที่กำลังเปิดในโทรศัพท์ในตอนนี้ ฉีกยิ้มกว้างให้สามี แกว่งโชว์อวดไปเลย

                    “เฮ้ยจริงดิ !” จากที่ยิ้มชอบใจกับร่างบางที่ฟ้อนไปมานั้น ตอนนี้หุบยิ้มหน้าบึ้งตึงให้กับภรรยาคราวลูกอย่างรวดเร็ว “ไม่จริง ! “

                     “จริง ! “ พยักหน้าพร้อมลากเสียงยาว ๆ หัวเราะร่วนชอบใจให้กับเขา นึกสะใจอยู่ไม่น้อย

                    “ไม่จริง !” เมธียังพยายามที่จะคัดค้าน แม้รู้ความจริงอยู่โทนโท่

                  “จริง… ฮา “ เธอย้ำเพื่อความชัดเจน ไม่พอจัดการใช้สุขภัณฑ์นั้นให้ดูต่อหน้าต่อตาเลย

                   “โถ่ ! ฝากไว้ก่อนเหอะ ชีวิตยังมีเดือนหน้าเสมอ ชิ !” หน้างอง้ำโดดขึ้นเตียง เปิดเกมบอลเล่นคนเดียว ทำเป็นไม่สนใจเธอ นึกเสียดายแต่ไม่เสียใจ อย่างที่เขาพูดออกไปว่าชีวิตยังมีเดือนหน้าเสมอนั่นแหละ ถึงเวลาก็คงมาเอง

                  “บอกแล้วว่ามันเคลื่อนเฉย ๆ ตัวของนภาเอง นภารู้ดีน่า” ยิ้มเยาะเย้ยแบบเห็นใจ ทำอย่างไรได้ล่ะ ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย

                   “ไม่ต้องมาพูดกับเค้าเลย เค้างอนแล้ว !” คนตรงหน้าค่อนขอดให้ ทำเป็นไม่สนใจเล่นเกมต่อ ทว่าเธอก็ไม่ถือสาเพราะถือว่าอยู่ในช่วงกำลังผิดหวังช้ำใจอยู่ ปล่อยให้งอนไปอย่างนั้นแหละ จากนั้นตนเองก็รีบแต่งตัวใจเสื้อผ้าให้เสร็จสรรพ

                   “เอ๋า… พี่เมธีจะมางอนนภาทำไม นภาไม่ได้ตั้งใจหนิ มันมาเองอ่ะ” ตอบสามีพร้อมเม้มปากยิ้ม เห็นใจก็เห็นใจ ตลกก็ตลก จะให้ทำอย่างไรล่ะ แต่งตัวใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยก็เดินมานั่งบนเตียงนอนด้วยคน นั่งขัดสมาธิกอดอกดูเมธีเล่นเกม “โอ๋… อย่างอนเค้าเลยนะตัวเอง อ่ะให้หอมแก้มทีนึง” เอียงแก้มให้สามีหอม ง้อสักหน่อย

                   คนโดยง้อหันมาอมยิ้มให้ นึกตลกปนเอ็นดูนัก มีหรือเขาจะกล้างอนภรรยาสุดที่รักคนนี้ เข้าใจและมีเหตุผลมากพอ เพียงแกล้งทำเฉย ๆ “หอมแล้วมีลูกมั้ยล่ะ ถ้ามีจะหอมอยู่”

                   “จะหอมไม่หอม !” ปรายตามองแบบขู่ไปในตัว

                  “หอมคร๊าบ ! ฮา “ สิ้นเสียงพูดก็ผละเข้าหอมแก้มของเธอไปฟอดใหญ่ พร้อมเสียงหัวเราะของพวกเธอสองคน “หืย ! เป็นเมนส์ซือ ๆ เด้อ” ทำฟึดฟัด กระฟัดกระเฟียดแบบตลก

                   “อด อิอิ” พรนภาพูดลอยหน้าลอยตา สะใจนัก ส่วนคนโดนเยาะเย้ยโยนค้อนวงใหญ่กลับมาให้ คนแก่งอนนี่ก็น่ารักดีนะ พอนึก ๆ แล้วก็ยิ้มให้

                    หลังจากเล่นพอหอมปากหอมคอกันแล้ว ต่างก็แยกย้ายคนละมุม เมธีเล่นเกมฟุตบอลอย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนเธอขยับขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงดูโซเชี่ยลไปเรื่อย

                    “ตกลงไปโคราชใช่มั้ยคะ” เมธีถาม สายตาและมือยังง่วนอยู่กับการเล่นเกม มือกดจอยเกมสายตาจ้องไปที่ทีวี ปากก็คุยกับเธอนั่งตรงปลายเตียง “ถ้าเพื่อนพี่ขอไปด้วยล่ะ”

                พอได้ยินว่าเพื่อนสามีจะไปด้วยจึงเลิกสนใจโทรศัพท์ เงยหน้ามองแผ่นหลังกว้างนั้น “ใครจะไปด้วยอ่ะพี่เมธี “ พูดเสียงเรียบ ไม่ได้หวงแต่ไม่ค่อยอยากให้ไปนัก “นภาชวนญาตินภาแล้วอ่ะ เพื่อนพี่เมธีใครจะไปด้วย” ไม่ได้รังเกียจเพียงเพราะไม่ค่อยถูกจริตกับแม่บ้านเพื่อนของสามีเท่าไหร่นัก จึงไม่ค่อยชอบไปไหนมาไหนกับคนพวกนี้ เธอชอบไปกันเพียงสองคนมากกว่า ทว่าก็ยกเว้นบางคน

                เขาหันมามองเธอเมื่อเธอพูดแบบนี้ “ทำไมคะ ! “

                  “ก็นภาบอกแล้วว่านภาไม่ชอบ พี่เมธีชวนเค้าทำไม” ขมวดคิ้วทำบึ้งตึงใส่

                   “เอ๋า ! เปล่าชวนเลย พี่ถามเฉย ๆ ค่ะ ก็พี่หนุ่มถามว่าวันหยุดจะไปไหนกัน พี่ก็บอกว่าน้องชวนไปโคราชแค่นั้นเอง พี่ก็ถามเผื่อเขาอยากไปด้วยไงกับพี่แหวนอ่ะ” เขารีบอธิบายยกใหญ่ ทราบดีว่าเธอคิดเช่นไรกับเพื่อนของตน ไม่ถามให้มากความและไม่ทำให้อึดอัดอยู่แล้ว

                  “อ่อ ! นึกว่าพี่เอสกับพี่ต้น ไม่ชอบ ! บอกเลยว่าไม่ชอบ ไม่อยากไปไหนมาไหนด้วย ไม่อยากไปเล่นด้วย ชิ “

                    “คร๊าบ ! รู้แล้วครับ” ตอบพร้อมหันมายิ้มให้ อะไรที่เธอคนนี้ไม่ชอบก็ไม่ทำให้ขุ่นเคืองอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ทำให้เสียเพื่อนด้วย

                   “นภาไม่ได้รังเกียจพี่ ๆ เค้านะคะ แต่นภาไม่ชอบแฟนเค้าเฉย ๆ  นภาบอกตรง พี่เมธีเข้าใจนภาใช่มั้ย” พูดต่อ อธิบายให้เข้าใจอีกที ไม่อยากให้เมธีคิดว่าไม่ชอบเพื่อน ๆ ของตน เธอรู้สึกไม่โอเคจริง ๆ จึงเลี่ยงที่จะไปพบปะกับคนพวกนั้นถ้าไม่จำเป็นหรือเลี่ยงไม่ได้เท่านั้นถึงจะไป “แฟนพี่ ๆ เค้าก็ไม่ได้อะไร แต่นภาไม่ชอบสายตาที่เค้ามอง ไม่ชอบเลย !”

                 “อือ พี่เข้าใจค่ะ พี่หนุ่มถามเฉย ๆ ” หันมาสนใจเกมต่อ

                  “พี่เมธีก็ชวนพี่หนุ่มดิ ห้องพักยังว่างอยู่ตั้งหลายหลัง แต่ไม่จองก็ได้ นอนด้วยกันเลย ค่อยไปเสียค่าที่นอนเพิ่มเอา “ พรนภาขยับลงมาจากหัวเตียง มานั่งปลายเตียงกับเขา แผ่นหลังกว้างได้รูปช่างน่ากอดยิ่งหนัก “กอดหน่อย” สุดท้ายก็อดที่จะกอดเมธีไม่ได้ สวมกอดพร้อมออกแรงรัดแน่น ๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว

                  “ไม่ได้ ! จะพักด้วยกันไม่ได้ค่ะ” เขารีบตอบทันควัน มือยังกดจอยเกมเรื่อย ๆ สายตาจ้องไปที่หน้าจอโทรศัพท์ ปล่อยให้เธอกอดรัดได้ตามสบาย

                   “ทำไมอ่ะ… ทำไมไม่ได้” ถามด้วยความสงสัย มือยังกอดเมธีอยู่ อบอุ่นใจที่สุด โน้มใบหน้ามาซบแผ่นหลังของเขาด้วย

                  “เอ๋าก็ไม่ได้ตั้วพี่จะทำลูกแหมะ น้องขุนเขาต้องมาแล้วเนี่ย” พูดกลั้วหัวเราะ หันมาหัวเราะให้เธอ

                  ทันทีที่พูดจบพรนภาก็รีบปล่อยอ้อมกอดออกจากตัวเขาทันที  “บู้ย ! พ่อใหญ่อันหนิบ่ยอมเสียเวลาเลยน้อ” พูดประชดพร้อมลุกจากเตียงเดินเข้าไปในครัว มีเสียงหัวเราะชอบใจของเมธีดังตามหลังมา

                   ภายในคอนโดเล็ก ๆ พวกเธอใช้เวลาสร้างความสุขด้วยกัน จากที่ออกไปสร้างความสุขให้คนข้างนอกมามากมายแล้ว ณ ตอนนี้เป็นเวลาของพวกเธอที่จะให้เวลาแก่กันและกัน

                   ไม่นานพรนภาก็เดินกลับออกมาจากในครัว พร้อมถุงเงาะถือออกมานั่งทานที่โซฟา ส่วนเมธีก็ยังคงยุ่งอยู่กับการเตะฟุตบอลในเกมอยู่อย่างนั้น ตนเองก็ปล่อยให้เล่นไป ผ่อนคลายจากที่ทำงานเครียดมาตลอดทั้งวัน นาทีนี้อยากทำอะไรก็ทำ ปรายตามองสามีจะห้าสิบอยู่รอมร่อยังติดเกมเหมือนเด็ก ๆ ไปได้ ทว่าก็น่ารักดี

                    “แกะให้ด้วยค่ะ “ เขาขอเงาะกับเธอ เธอก็แกะให้โดยไม่บ่น ปลอกเปลือกยื่นให้

                     “พี่เมธี พี่เมธีรู้มั้ยว่าทำไมรจนาถึงเลือกเงาะ” จู่ ๆ ก็นึกมุกตลกขึ้นมาได้ แถมยังได้จังหวะกำลังทานเงาะอยู่พอดี เล่นสักหน่อย

                   “เพราะว่าทุเรียนมันแพงไง ฮา ” ตอบพร้อมหัวเราะให้เธอด้วย ไม่ได้จะเล่นมุกเพียงตอบขำ ๆ ไป ทว่ากลับโดนโยนค้อนให้เสียอย่างนั้น

                   “เอ้าพี่เมธี ! ทำไมพี่เมธีต้องตอบแบบนี้ด้วยอ่ะ ทำไมไม่ตอบว่าไม่รู้อ่ะ ฮ่วย” หน้างอให้สามีแบบเด็ก ๆ ทำบึ้งตึงให้ ส่วนเจ้าตัวหัวเราะร่วนด้วยความพอใจ

                 ถึงเธอจะทำตัวงอนงี่เง่าแบบไม่มีเหตุผลเช่นนี้ก็ยังน่าเอ็นดูในสายตาของเขา ไม่เคยโดนต่อว่า ๆ ทำตัวไม่มีเหตุผลสักครั้ง “ไม่อยากคุยกับพี่เมธีแล้ว ไม่ต้องกินด้วย อยากกินมาแกะเอง ฮ่วย” หน้างอทำบึ้งตึงให้

                   เมธีหัวเราะไม่หยุด ทั้งตลกทั้งเอ็นดูกับภรรยาคราวลูกคนนี้นัก ขนาดนี้ก็ยังน่ารักเสมอ “เอ้าแล้วน้องจะพูดว่าไงเอ๋า เค ๆ พี่ไม่รู้ค่ะ พี่ไม่รู้แล้วไงต่อ”

                   “ไม่ต้อง ! ฮ่วย… ไม่เล่นแล้ว หมดเวลา “ ยังทำหน้างอไม่หาย

                 “เอ๋า… เล่นใหม่ ๆ เร็ว ถามใหม่เร็วน้องนภา ทำไมรจนาถึงเลือกเงาะ พี่ไม่รู้ค่ะ ทำไมคะ” พยายามที่จะเล่นต่อเพื่อง้อเธอ

                 “ไม่ต้อง ! ไม่เล่น” ตอบห้วน ๆ กลับไป พร้อมหันหลังให้เมธี ทว่าแอบยิ้มไม่ให้เจ้าตัวเห็น

                  ทันใดนั้นเมธีเลิกเล่นเกมลุกเดินมานั่งที่โซฟาด้วย เธอต้องทำหน้านิ่ง ๆ ไว้ “เอ๋าพี่ก็ไม่รู้ว่ามันจะถูกน้อ พี่ก็ตอบไปว่าทุเรียนมันแพง ไม่รู้ว่ามันจะถูกอ่ะ “ ออดอ้อน ออเซาะเธอทางด้านหลัง สวมกอดง้อเธอให้หายงอน “บักห่าหนิจะแมนเก่ง จะแมนเดาแม่น เดาถืกเลยเมียกะเลยเครียดซ้ำ” บ่นตัวเองพร้อมหัวเราะด้วยความตลก

                 พรนภานั่งหันหลังให้ พอเมธีพูดแบบนั้นก็อดขำไม่ได้เช่นกัน ตลกที่เมธีบ่นตัวเอง ไป ๆ มา ๆ ก็หัวเราะ ไม่เคยงอนพี่เมธีได้สำเร็จเลย เจ้าตัวสวมกอดเพราะง้อได้สำเร็จ

                  “ถ้าเมนส์ไม่มานะเสร็จแน่ !” พูดขณะกอดเธอจากด้านหลัง อบอุ่นอีกแล้ว อ้อมกอดของเขาคนนี้อบอุ่นทุกเวลาเสมอ

                    “เอ่อพี่เมธี อย่าพึ่งไปฉีดวัคซีนนะ “ นึกอะไรขึ้นมาได้อีก หันกลับมาคุยกับเขา จ้องมองใบหน้าเกลี้ยงเกลาได้รูปนั้นให้สายตาประสานกัน “ที่ทำงานเขาบังคับยัง ไม่ต้องไปฉีดนะ ตายมานภาหาผัวใหม่เลยนะบอกให้”

                 “หืย ! คำเว้าคำจานั่น ยังค่ะ” โดนเมธีค่อนขอดให้

                 “ถ้ามีใครบังคับก็ไม่ต้องฉีดไม่กลัวนะ บอกไปเลยว่าเมียไม่ให้ฉีด จบ ! ให้มันรู้ไปเลยว่าใครใหญ่ ฮา “ พูดกลั้วหัวเราะ

                   “คร๊าบ ! ฮา “ พูดกลั้วยิ้มเช่นกัน พร้อมจูบไปที่ริมฝีปากของเธอด้วย พวกเธอนั่งหันหน้าเข้าหากันบนโซฟา นั่งติดกันแทบหายใจรดต้นคอ

                   “โอย… พี่เมธีอ่ะ “ เมื่อโดนจูบจึงเอ็ดเข้าให้ นั่งคุยกันดี ๆ ไม่ได้หรืออย่างไร “รอของดี ๆ กว่านี้ก่อน ถ้าเขาถามก็บอกว่ารอวัคซีนทางเลือกเด้อ บริษัทนภาก็ให้ฉีด แต่นภาไม่ฉีดอ่ะ จะรอวัคซีนทางเลือก ดีที่เขาไม่บังคับค่ะ”

                    “ครับ ! พี่เชื่อเมียครับ ฮา ไหนลองถามใหม่หน่อยเร็ว ๆ ทำไมรจนาถึงเลือกเงาะอ่ะ เร็ว” แล้วก็วกมาเล่นมุกนี้ใหม่ พวกเธอนั่งคุยกันบนโซฟาที่วางเยื้องกับเตียงนอนนิดหน่อย เล่นกันเหมือนเด็ก ๆ ลดอายุของกันและกันลงมา

                     หลังทานมื้อเย็นเสร็จ ช่วงนี้ยังหัวค่ำอยู่ ยังไม่ถึงเวลานอน เป็นเวลาที่พวกเธอสองคนจะเติมเต็มความรักให้แก่กันและกันที่สุด…

                …ไม่ต้องถามว่ายังรักกันอยู่หรือเปล่า ไม่ต้องถามว่ารักมากแค่ไหน เพราะทุกการกระทำของกันและกันมันคือคำตอบในทุกคำถาม…


จบบท…

เพลงที่พรนภาร้องในเรื่องค่ะ

https://vt.tiktok.com/ZGJBdXqKA/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่