ฝันหวาน (Sweet Dream) 23



.

               “พี่เมธี นภาเป็นโควิดหรือเปล่าหนิ ครั่นเนื้อครั่นตัวจัง ทำไมตัวร้อน ปวดขา! เจ็บคีงแหมปวดเนื้อปวดตัว แต่ตอนวัดอุณหภูมิมันบอก อุณหภูมิปกติค่ะเฉย!”

               ช่วงเที่ยงของวัน พรนภาแชทคุยไลน์กับเมธีปกติ และจากเหตุการณ์วันนั้นวันแรกไม่เท่าไหร่ วันที่สองไข้ขึ้นตัวร้อนเฉยเลย เธอต้องกินยาลดไข้ในช่วงเช้าก่อนมาทำงาน

               “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ปวดตัวน่ะสิ เพิ่นถือคีงไข่สั่นแล่ว ฮา” เมธียังถือเป็นเรื่องตลก พร้อมส่งหัวเราะมาให้เธอไปอีก “ทานยายังคะ ต้องไปซ่อนเอาขวัญบ่หนิ” ตามด้วยเลขห้าหลายตัวตอบกลับมา

               “ทานแล้ว ไม่รู้เพราะเรื่องเมื่อวาน หรือเพราะทำงานติดต่อกันหลายวันก็ไม่รู้ เกือบจะสองอาทิตย์ละยังไม่ได้หยุดเลย” พรนภาบ่น เพลียมากก็ยังต้องมาทำงาน “หยุด!”

               “หยุดอะไรคะ นภาจะหยุดแล้วเหรอ ไม่รอหยุดพร้อมพี่อ่ะ”

               “ป่าวไม่ใช่แบบนั้น ก็นภาบ่นเหนื่อยนึกว่าพี่เมธีจะบอกให้ออกจากงาน นภายืนยันเลยว่าไม่ลาออกค่ะ”

               “โถ! พี่ตามใจหนูเลยค่ะ แล้วแต่หนูเลย เย็นนี้เจอกันนะคะ คิดถึงจังเมื่อไหร่จะเลิกงานเนี่ย” แล้วก็ส่งรูปหัวใจโต ๆให้เธอ พักเที่ยงต้องคุยกันทุกวัน แม้เลิกงานไปจะนอนด้วยกันทุกคืนก็ตาม มันคิดถึงนี่! “ทำงานก่อนนะคะ เลิกงานจะกอดให้หายไข้เลยคอยดู”

               พรนภาไม่ตอบส่งสติกเกอร์ให้แทน แล้วกลับมาทำงานต่อ ใจลอยไปถึงหนึ่งทุ่มตรง อยากเลิกงานกลับบ้านแล้ว เมื่อไหร่จะถึงหนึ่งทุ่มสักทีเธอเพลียมาก

               และแล้วก็ถึงเวลาที่รอคอย พรนภาได้เลิกงานสักที มองไปที่ตลาดรู้สึกเข็ดขยาดแปลก ๆ ไม่อยากจะเฉียดเข้าไปใกล้เลยสักนิด ถ้าไม่จำเป็นเธอจะไม่ไปอีก เบะปากมองบนให้เล็กน้อยก่อนจะเดินทางกลับบ้าน

               “มาถึงช้าจังพี่คิดถึง ไหนตัวร้อนแค่ไหนขอเอาปากพิสูจน์ดูหน่อยซิ” เมธีเปิดประตูห้องให้เธอ หอมหน้าผากไปหนึ่งที “ไม่ร้อนเท่าไหร่” ก่อนจะรับกระเป๋าทำงานของเธอไปเก็บและเดินเข้าห้องไปพร้อมกัน “วันนี้ไม่ต้องออกกำลังกายนะคะ พี่ทำข้าวต้มรอแล้ว “

               “ทำได้! สควอสได้ ไม่ต้องแพลงค์” เธอยืนยันที่จะทำเช่นเดิม เพราะท่าสคลอสไม่ต้องใช้เข่า อีกอย่างจะแพลงค์ก็ได้ มีท่าใช้เข่าท่าเดียวเอง ก็ไม่ต้องทำท่านั้นก็ได้

                “ไหนบอกไม่สบาย” เมธีปรายตามองเธอ มีความรู้สึกว่าพรนภาคนพูดยาก ก็ยังพูดยากเหมือนเดิม และอยากกอดอยากอ้อนเต็มทนแล้ว วันนี้คิดถึงชะมัด

               “ทานยาแล้วไง มันก็ค่อยยังชั่วแล้ว และมันก็หายแล้ว มันแบบไข้ไม่สุดอ่ะ จะร้อนจัดก็ไม่จัด จะหายก็ไม่หาย เป็นไข้แบบญี่ปุ่นอ่ะ” เธออธิบายอาการตัวเองให้เมธีฟัง

               “อะไรคะไข้แบบญี่ปุ่น” เมธีไม่ทันมุกของเธอเอาเสียเลย พรนภาพร้อมหัวเราะคิกคักชอบใจพอประมาณ ก่อนจะตอบ

               “เป็นแบบคาราคาซังไง กรี๊ด!  ฮา” พูดจบก็ขำตัวเอง เล่นมุกเองขำเอง เมธีมองด้วยแววตาเอื่อมระอาเธอสัมผัสได้ และหัวเราะหน่อย ๆ “แต่ปวดขา ปวดแบบบอกไม่ถูก”

                  “ก็นั่นแหละไม่ต้องทำ พี่สั่งห้ามไม่ต้องทำก็คือไม่ต้องทำ” แววตาจริงจังจ้องมองมาที่เธอ แววตานี้อีกแล้ว มันเหมือนมีมนต์สะกดและเธอก็ไม่กล้าขัดคำสั่งด้วย

               “เอ๋า พี่เมธี ฮ่วย” พรนภามองเขา ขมวดคิ้วหน้าบึ้งงอนเข้าให้ ทำให้เมธีต้องปรับสีหน้าและอารมณ์ใหม่ เมื่อสักครู่เขาเผลอตัวทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

                “เอ๋าน้องนภา พี่เป็นห่วงน้องไง หิวข้าวมั้ยข้าวต้มพร้อมมากค่ะ เชิญด้านนี้เลยค่ะ” เมธีเฉไฉแก้ตัวหาทางหนีทีไล่ได้ทัน ผลักเธอให้เดินเข้ามาในครัว ให้เธอนั่งรอที่โต๊ะเดี๋ยวเขาหามาเสิร์ฟเอง

               จะกี่วันกี่เดือนกี่ปีเมธีก็คือเมธีคนเดิมคนนี้ไม่เคยเปลี่ยนเลย พรนภาแอบมองและแอบยิ้มให้กับเขาอีกแล้ว นึกขอบคุณเขาที่ทำทุกอย่างให้ตนเองขนาดนี้ อีกทั้งเมื่อวานที่นั่งวินมารับกลับบ้านด้วย

               “ขอบคุณนะคะ” มองและยิ้มให้คนตรงหน้า

               “สำหรับคุณแม่ ป่ะป๊าทำให้ได้เสมอค่ะ”

               “แหนะ บอกว่าอย่าพึ่งเรียกไง มันเป็นเคล็ด” พรนภาเงยหน้ามอง ทำหน้าขึงขังจริงจังให้กับเขาที่พูดไม่เคยจำสักที เธอนั่งทานข้าวต้มกับเมธีทั้งยังไม่เปลี่ยนชุดทำงานออก นึกขอบใจเขาและนึกขอบคุณอะไรก็ตามทีนำพาเธอมาเจอกับเขา ผู้ชายที่แสนดีคนนี้ คนที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่ตรงหน้าเธอนี้

              “มองพี่ทำไมคะ แอบมองพี่อีกแล้ว” คราวนี้เขาจับได้คาหนังคาเขา เงยหน้าจ้องมองเธอเช่นกัน

              “เปล่าค่ะ “ พูดจบก็ก้มหน้าก้มตาทานข้าวต้มแก้เขินไป เงยหน้าขึ้นมาก็เจอใบหน้าและรอยยิ้มที่จ้องมองเธออยู่เข้าอย่างจัง “พี่เมธีอ่ะ แกล้งนภาทำไม ฮ่วย” อ้อมยิ้มเขินหน้าแดงไปหมด

               “พี่ก็มองคนที่พี่รักบ้างไง นภายังแอบมองพี่เลย ขอบคุณน้องนะคะที่รับในความเป็นพี่ได้”

                เธอไม่ตอบเพียงฉีกยิ้มกว้าง ๆ เป็นคำตอบให้แทน ทำตัวไร้เดียงสาให้กับสามีคราวพ่อ และแสดงออกอย่างไรก็ได้ที่อยู่กับเขา ไม่เคยต่อว่าเลยสักคำ ในทุก ๆ วัน ทุก ๆ คืนเธอมีความสุขในชีวิตที่สุด ขอบคุณโลกที่เหวี่ยงเขาและเธอมาเจอกัน ถึงแม้ก่อนหน้านั่นพวกเธอจะเจอมรสุมอะไรมาก็ตาม ทว่าฟ้าหลังฝนตอนนี้มันสวยงามมากจริง ๆ

               “ยื่นขามาค่ะ พี่ฉีดสเปรย์ยาให้” บนเตียงนอนที่ปูด้วยผ้าปูสีชมพูที่เธอชอบ เมธีขึ้นมานั่งบนเตียงด้วย สั่งให้เธอยื่นขามาเขาจะทายาให้

               “มันหายปวดแล้วนา ยังจะฉีดอีกเหรอ” พรนภาพูดออดอ้อนสามีวัยสี่สิบปลาย

               “ไหนลองเรียกเสี่ยซิ”

               “เสียเมธีขา” ก๊าก! พวกเธอสองคนหัวเราะลั่นห้อง เล่นกันได้ตลอดเวลาที่อยากเล่น พรนภาเองก็ทำให้เขาได้เป็นตัวของตัวเอง ได้ทำอะไรเป็นเด็ก ๆ ย้อนวัยไปอีก มันก็มีความสุขดี

              “พอ ๆ ยื่นขามาจะทายาแล้ว หือ ยังไม่หายเขียวเลย แต่หายปวดแล้วใช่มั้ยคะ” พูดไปเขย่าสเปรย์ไปด้วย

               “ยื่นขาไปตรงไหน ต้องพาดไว้ตรงนี้มั้ย ฮา” พร้อมชี้ไปที่บ่าของเขา พูดแล้วก็หัวเราะกลบเกลื่อน ไม่เพียงเธอที่หัวเราะ เมธีเองก็เช่นกัน

               “ใจเย็นดิ เค้ายังไม่พร้อมเลยตัวเอง หืม! เอาเลยมั้ยนะ” ทำท่าทางจริงจัง ทำสายตามีเลศนัย ยกมือขึ้นมาลูกปากลูบคางตัวเอง

                “หยุดเลย! “ พรนภาร้องห้ามก่อน ก่อนที่จะไม่ได้ทายานวด

               “นั่นไงแล้วก็ไม่ใจ”

               ทั้งเธอและเขาต่างสนุกไปกับการพูดล้อเล่นของกันและกัน อยู่กับเมธีไม่ค่อยมีเรื่องให้งอนเท่าไหร่ ต่างกับคนก่อน เพราะเขาผ่านอะไรมาก่อนเธอ รู้จักรับมือ อีกอย่างเธอเองก็ปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ได้บทเรียนจากคนก่อน เอาสิ่งที่เคยผิดพลาดจากที่ผ่านมา มาปรับปรุงแก้ไขตัวเอง จึงทำให้พวกเธอสองคนไม่ค่อยทะเลาะกันมากนัก

               พูดจบก็ฉีดสเปรย์ยาลงบนหัวเข่าให้เธอ สัมผัสของสเปรย์ที่ฉีดลงบนเข่าเย็นสบายมาก ไม่ระคายเคืองเลยสักนิด ทำให้แอบมองอีกแล้ว เมธีตอนนี้กับเมธีตอนเช้าก่อนไปทำงานช่างแตกต่างกันเหลือเกิน และก็ยิ้มให้กับเขา

               “ขอบคุณนะคะพี่เมธี” พรนภานอนหนุนแขนของเขาในท่าเดิมทุกวัน หลังจากสเปรย์แห้งแล้ว พรนภานอนดูเขาเล่นเกมฟุตบอลที่เชื่อมต่อกับทีวี“ขอบคุณที่รักนภานะคะ”

               เขาก้มหน้าลงมาหอมศีรษะของเธอเบา ๆ ก่อนจะหันไปตั้งใจเล่นเกม “พี่ขออีกเกมนะคะ แล้วจะนอนกอดทั้งคืนเลย”

             เธอพยักหน้าและหลับไปในที่สุด

จบบท...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่