ฝันหวาน (Sweet Dream)29


.


               ท่าต่อไปท่าสุดท้ายเป็นท่าสเก็ตเตอร์ครับ ท่านี้จะเคลื่อนตัวเยอะนิดหน่อย และจะทำให้เผาผลาญไขมันได้มากยิ่งขึ้นครับ เหมือนเดิมตอนย่อตัวลงให้หายใจเข้า ตอนยืนขึ้นให้หายใจออก สลับกันแบบนี้ครับ ทำ 45 วินาที เริ่ม!

               ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด เริ่ม!

               พรนภาแชร์ยูทิ้วพ่วงเข้ากับทีวีแอลซีดีขนาดจอ 45 นิ้ว และกำลังออกกำลังกายตามเทรนเนอร์ในทีวี โดยมีเมธีนอนหนุนแขนตัวเองมองเธออยู่บนเตียงนอน เช่นเคย เธอสวมกางเกงและเสื้อสำหรับออกกำลังกาย ทว่าวันนี้เป็นชุดกางเกงขาสั้นรัดรูป และวันนี้ทำเซตลดต้นขาปั้นสะโพก เมื่อวานแพลงค์ไปแล้ว สลับกันไปมาในแต่ละวัน มันก็สนุกดี แม้จะเหนื่อยเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เพื่อความผอมเธอก็ทำมันได้

               พัดลมส่ายไปมาระบายความร้อนให้ร่างกาย เหงื่อไหลออกมาตามตัวเยอะมาก ทำให้เผาผลาญได้พอสมควร หลังจากออกกำลังกายจบ ก็ไปรับประทานข้าวกับเมธีเหมือนเดิม

                ถึงจะทำแล้วไปทานข้าวน้ำหนักของเธอก็ไม่ขึ้น แถมมีท่าทีลดลงเรื่อย ๆ อีก เธอก็ไม่เข้าใจตรงนี้เหมือนกัน แอบดีใจซะอีกที่น้ำหนักไม่ขึ้น จึงสบายใจในการกินมาก ๆ แต่ว่าต้องอยู่ภายใต้การออกกำลังกายแล้วเท่านั้น

                “เฮ้อ!! จบสักที ท่าไม้ตายเลยเนี่ย เหนื่อย!” พรนภาสบถออกมา หายใจหอบ พ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ นั่งเท้าแขนเอนหลังลงกับพื้น เหยียดขาไปด้านหน้า ท่าสุดท้ายของเซตนี้ออกแรงเยอะจริง ๆ หันไปมองเมธีบนเตียง ถอนหายใจพร้อมยิ้มให้ เห็นเมธีนอนหัวเราะเยาะเย้ยก็นึกหมั่นไส้นัก ชอบเยาะเย้ยดีนักเดี๋ยวอ้วนให้ดูเลยดีมั้ย ขึงตาใส่นิดหน่อย ที่เมธีหัวเราะเธอเบา ๆ

                “ปะ เสร็จแล้วไปอาบน้ำทานข้าวค่ะ ” เมธีบอกเธอ พร้อมปรายตามองเธอบนที่นอน หัวเราะหึหึในลำคอ รูปร่างทรวดทรงองเอวสัดส่วนของเธอได้หมด หุ่นนาฬิกาทราย ถึงจะตัวเล็กนิดหน่อย แต่ว่าพรนภาก็น่ารัก ปลุกความเป็นชายในตัวเขาอีกแล้ว ทว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา ต้องไปทานข้าวกันก่อน เขารอมาครึ่งชั่วโมงแล้ว

               เขาเองก็ไม่ได้ชอบผู้หญิงสูงมากนัก แม่ของลิพูลลูกชาย ก็สูงกว่าพรนภานิดเดียว เท่าพรนภากำลังดีสำหรับเขา คนอื่นอาจจะสอบผู้หญิงสูง ๆ ก็ตามยกเว้นเขา ที่ตอนนี้หลงภรรยาคนนี้หัวปักหัวปำ

               “ขออาบน้ำสามนาทีค่า” ส่งยิ้มให้คนบนเตียง แล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว พร้อมเดินเข้าห้องน้ำไป สักพักก็เดินออกมา วันนี้ต้องทำตัวให้อาบน้ำเร็วหน่อย กลัวบางคนจะโมโหหิวตาย และเดินมาแต่งตัวหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง

                สายตาของเธอปะทะเข้ากับสายตาของเมธีมองผ่านกระจก เขากำลังจ้องเธออยู่ ทำให้อดหัวเราะไม่ได้ อีกแล้วพี่เมธี พรนภาหันหน้าไปหัวเราะให้กับเขา

                “จะอ่านกินนภาอะไรนักหนาเนี่ย ฮะ! คุณเมธี ฮ่วย! กินอยู่เป็นประจำ” พร้อมหัวเราะ ทั้งเมธีเองก็ขำพอใจมาก

               “รีบเลย ทานข้าวกันค่ะ”

               “เสร็จแล้ว” ทำเสียงอ่อนเสียงหวาน ทำท่าทำทางไร้เดียงสาให้กับสามี พร้อมเดินไปในครัว ที่โต๊ะอาหาร ได้ทานข้าวกันสักที

              “อ่ะ ทานเยอะ ๆ ค่ะ จะได้โตเร็ว ๆ และจะได้อ้วน ๆ “

                “บู้ย! จะได้อ้วน ๆ ว่าหนิ ฮื่อ นภาไม่อ้วนหรอกจะบอกให้” พูดจบตักข้าวเข้าปากอวดเมธี

                  “จะทำให้เหนื่อยทำไมคะ ก็มานั่งทานข้าวอยู่ดี” พี่เมธีไม่รู้อะไรบ้างเลย ก็เพราะไม่อยากให้เหงา นั่งทานข้าวคนเดียวไง ถ้าอยู่คนเดียวมีเหรอเธอจะทานข้าวเย็น เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย ถึงได้พูดว่าเธอออกกำลังกายไม่มีประโยชน์

                “แต่น้ำหนักนภาไม่ขึ้นนะคะ ถ้านภาไม่ออกกำลังกายสิ มีหวังเค้าตุ้ยนุ้ยแน่”

                เมธีปรายตามอง ยิ้มก่อนจะพูด “ตุ้ยนุ้ยสิคะ พี่ชอบ เต็มไม้เต็มมือดี กอดเต็มไม้เต็มมืออ่ะ”

               “ไม่เอาอ่ะ เค้าไม่อยากอ้วน” หน้าบึ้งมองค้อนให้กับเค้า พรนภางอนได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ที่มีเขาอยู่ด้วย และก็ไม่เคยโดนต่อว่าเลยสักครั้ง พี่เมธีน่ารักกับเธอที่สุด พูดจบก็ตักข้าวเข้าปากไปอีกคำ

                “โอเคค่ะ อ่ะทานเยอะ ๆ “ เมธีตักกับข้าวใส่จานให้เธอ พร้อมตักให้ตัวเองด้วย

               “พี่เมธีแหละทานเยอะ ๆ จะได้โตไว ๆ “ ชอบเล่นมุกนี้เสมอบนโต๊ะอาหาร หรือเวลาทานอะไรด้วยกัน และทราบด้วยว่าเขาจะตอบกลับมาอย่างไร

                “พี่อ่ะโตแล้วค่ะ โตจนจะแก่แล้ว เมื่อไหร่จะได้เป็นป่ะป๊ากับเค้าสักที” พรนภาหัวเราะ เพราะเดาถูกว่าเมธีต้องตอบแบบนี้แน่นอน เป็นมุกที่พวกเธอเล่นกันอยู่เป็นประจำ

                “เอ๋า! ใจร้อนจัง เดี๋ยวก็มาค่ะ ห้าสิบพอดี อิอิ “ ยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู คนอะไรอายุเยอะแล้วยังน่ารักอีก ใครบอกพี่เมธีเนี๊ยบโหดเธอจะเถียงเลย“อีกเรื่อง ไม่เห็นแก่เลย แก่ตรงไหน ว่าแต่หงอกก็ขึ้นแล้วนะคะ ว่าง ๆ ต้องจัดการย้อมผมให้แล้วล่ะ ฮา” ไม่เพียงพูด โน้มตัวเอื้อมแขนไปดึงผมของเขาด้วย ไม่มีหรอกผมหงอกที่ว่า เธอแค่แกล้งหยอกเล่นเฉย ๆ คราวนี้หัวเราะลั่นห้องครัวกันเลยทั้งสองคน

               “พุ้นน่ะ ห้าสิบพอดีว่าซั่น เค้าแก่แล้วนะตัวเอง” ทำหน้าตาอ้อนวอน หลับตาพริบ ๆ ออดอ้อนช่างน่าเอ็นดูยิ่งนัก คนแก่อ้อนก็น่ารักดีนะ

               “แหม! เด็กทำก็น่ารักอยู่นะคะ ฮา แต่ว่าแล้วทำไมอ่ะ นภายังไม่เห็นแคร์เลย คนหกสิบเค้ายังมีลูกกันเยอะแยะ แต่แบบเสี่ยงหน่อย เสียงดาวน์”

                “นิสัย ปาก! แล้วนภาอยากได้แบบนั้นเหรอ” เอ้า! ทีนี้มาเป็นจริงจัง บรรยากาศทานมื้อเย็นที่แสนมีความสุข ชักจะอึมครึมแล้วนะเนี่ย แล้วพี่เมธีจะมาว่าเธอทำไม คนทำเป็นตัวเองมั้ยอ่ะ มองค้อนพูดในใจพร้อมถอนหายใจแบบเซ็ง ๆ

                “เอ้า! แล้วพี่เมธีจะบ่นนภาทำไม ก็ปล่อยมาตั้งนานแล้วมั้ย ยาคุมก็เลิกกินไปตั้งนานแล้ว พี่เมธีจะมาบ่นทำไม ฮ่วย ใครที่ต้องไปปรึกษาหมอ ฮ่วย” ตอบกลับห้วน ๆ ทำหน้าบึ้งใส่ งอนให้เข็ดซะเลย

                “เอ๋า ตัวเองเค้าแค่พูดเล่นแหมะ ถามเฉย ๆ อ่ะทาน อย่าพึ่งอิ่มนะ พึ่งจะทานไปเมื่อกี้” เมื่อเริ่มรู้ว่าจะมีบางคนงอน เขาก็เปลี่ยนท่าทีทันที ก็แค่พูดเล่น ๆ เท่านั้นเอง ผู้หญิงนี่อะไรก็ไม่รู้ แต่ไม่ว่าเธอจะเป็นแบบไหนเขาก็รัก และพร้อมจะปรับปรุงเมื่อเธอไม่ชอบใจ

                “ฮื่อ อิ่มแล้ว” แกล้งต่อให้เข็ด
   
               “เอ๋าตัวเองแหมะ พี่ขอโทษค่ะ ทานข้าวต่อเหอะ ยังไม่อิ่มเลย ชวนพูดอะไรก็ไม่รู้ไอ้บักหนิแหมะ เอ้อนี่กลับบ้านเราอ่ะไม่ทันงานกาชาดเลย รู้ยัง! เขาจะจัดงานอยู่นะ แต่เลื่อนวัน” เฉไฉเปลี่ยนเรื่องคุย พรนภามองหน้า เขาฉีกยิ้มให้ จะไม่ให้บรรยากาศที่แสนดีอบอุ่นเมื่อสักครู่หายไปเด็ดขาด

               “หืย!!” มองค้อนเข้าให้ ก่อนจะปรับเปลี่ยนสีหน้า กลับมายิ้มให้กับพี่เมธีสุดที่รักของเธอเหมือนเดิม

                บรรยากาศภายในห้องครัวเล็ก ๆ เต็มไปด้วยความสุขของเธอกับเขา กับข้าวไม่กี่เมนู มันก็อร่อยสุดแสนจะบรรยาย และความรักที่มีให้กัน ความรักที่เธอมอบให้เขา และความรักจากเขาที่เธอได้รับไม่เคยลดน้อยลงเลย อยากขอบคุณพรหมลิขิตที่สุด ที่ทำให้เธอกับเขาได้มาเจอกัน

                “พี่เมธี นภาอยากกินข้าวเหนียวกับหมกปลาซิวแบบนี้” ไม่พูดเฉยยื่นหน้าจอให้เมธีดู น่าอร่อย นานแล้วที่ไม่ได้กินกับข้าวแบบนี้ “กลับบ้านหาซื้อมาทำมั้ย ไม่อยากกินปลาที่นี่อ่ะ”

                “พี่ทำไม่เป็นค่ะ” พูดจบทำหน้าตาจริงจังมาก ทำเอาเธอหัวเราะอีกรอบ นึกตลกอุตส่าห์อยากกินสามีก็ทำไม่เป็น เกิดมาตั้งนานทำไมถึงทำไม่เป็นอีก “หาซื้อสำเร็จตั้วคะจะไปยากอะไร แค่หมกปลาซิว”

                “ก็อยากให้พี่เมธีทำอ่ะ”

                “เอ้า ก็เค้าทำไม่เป็นอ่ะ”

               สุดท้ายก็ทานข้าวไปด้วย เถียงกันเรื่องหมกปลาซิวกับข้าวอิสานไปด้วย พรนภาบอกขั้นตอนการทำแก่เขาทุกอย่าง ใส่อะไรบ้าง คัดใบตองแบบไหน สรุปใครทำเป็นใครทำไม่เป็นกันแน่ก็ไม่รู้

               แต่ถึงจะเถียงกัน ก็ไม่เคยทะเลาะกันสักครั้ง เถียงกันด้วยรอยยิ้ม งอนด้วยความรัก แล้วก็แพ้พ่ายแก่การง้อของเขาทุกที

                หลังทานข้าวเสร็จ พวกเธอก็กลับมานอนเล่นบนเตียง ดูที เล่นโทรศัพท์เหมือนทุก ๆ วัน ก็แค่ห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ทว่ามันอบอุ่นไปด้วยความรัก และความห่วงใยของพวกเธอสองคนที่มอบให้แก่กัน

               เมธีนอนดูโทรศัพท์มือถือเรื่องงานของเขาอยู่ เหวี่ยงขาไปทางปลายเตียง ส่วนเธอก็เช่นกันนอนเล่นโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ทว่านอนหนุนตัวเขาแทนหมอน เหวี่ยงตัวไปอีกด้าน เปิดทีวีทิ้งไว้ให้เสียงทีวีกล่อมคลายความเงียบ พอง่วงค่อยเปลี่ยนท่านอนกลับมานอนให้ถูกที่ถูกทาง นอนกอดเขาหลับฝันดีทุกคืน

               “หลับไปพร้อมกันแบบนี้นะคะพี่เมธี” นึกในใจก่อนจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น และหลับไปพร้อมกับอ้อมกอดของเขาที่กอดเธอไว้เช่นกัน

จบบท
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่