กระทู้นี้อาจจะยาวนะคะ แต่อยากเพื่อนๆช่วยออกความเห็นหน่อยนะคะ เรื่องเริ่มต้นที่ ตั้งแต่เด็ก ตอนประถม เราก็เริ่มเก็บเงินด้วยตัวเองแล้วค่ะ อาจจะไม่ได้เยอะ วันละ 5-10 บาท เพื่อที่จะซื้อขนม ซื้อของเล่นตามประสาเด็ก เราเข้าใจมาเสมอว่าครอบครัวเราไม่ได้มีเงินเยอะ ไม่ได้ร่ำรวย มีพออยู่พอกิน เราก็เข้าใจตรงจุดนั้น ไม่เคยเรียกร้องอะไร จนเราเข้ามัธยมต้น เราก็เก็บเงินมากขึ้น ไม่ได้หวัง จะซื้ออะไร แต่อยากมีเงินออมไว้เวลาเราลำบาก รึอยากเรียนพิเศษ เราก็สอบได้เกรดดีมาตลอด ไม่เคยตก ไม่เคยทำตัวเหลวไหล แต่พ่อแม่ก็ไม่เคยจะให้อะไรเราเป็นรางวัลเลย บางทีมันก็แอบน้อยใจ แต่เราไม่เคยทำตัวมีปัญหา และเราก็เข้าใจค่ะ จนมามัธยมปลาย เราสอบเข้าห้องเรียนพิเศษได้ค่ะ เราไม่เคยเรียนพิเศษเพิ่มเติม ส่วนมากจะตั้งใจเรียนในห้องให้ได้เยอะๆมากกว่า เพราะเราเห็นพ่อแม่เราลำบาก ไม่อยากต้องให้เสียเงินเพิ่มตรงจุดนี้ เพราะค่ากิจกรรม ค่าเทอมก็แพงมากอยู่แล้ว แต่เราก็สอบได้คะแนนดีมาตลอด เวลาเราเห็นเพื่อนไปเรียนกัน รึไปกินของอร่อยๆ เราก็ได้แต่อดทนและบอกตัวเองว่ามันไม่ได้จำเป็นกับเราขนาดนั้น แค่กินข้าวจานละ 30-40 ก็อิ่มพอแล้ว แต่เรื่องที่เราอยากจะพูดก็คือ เราเก็บเงิน ตั้งแต่ ม.3 ค่ะ เพื่อที่จะซื้อโทรศัพท์ รุ่น Iphone จนตอนนี้เราอยู่ม.5 เราว่าเราสู้ไม่ไหว เพราะมันค่อนข้างแพง เลยเปลี่ยนมาเป็น sumsung ราคา 4-5 พันบาท เพื่อที่จะได้ใช้งานได้ เพราะเครื่องเก่าใกล้พัง เราใช้ตั้งแต่ ม.1 เคยขอพ่อแม่ไปแล้ว แต่ท่านก็ไม่สนับสนุนค่ะ เราก็เข้าใจ ยอมรับ และเก็บเงินเอง จนวันนี้เราเก็บเงินครบ เเละเราก็ไปซื้อค่ะ พอมาบอกพ่อแม่ ท่านก็ไม่พอใจ และไม่เข้าใจว่าเราจะซื้อไปทำไม เปลืองเงินเปล่าๆ เราโคตรเสียใจเลยค่ะ ทั้งๆที่เราเก็บเงินเอง แต่กลับกัน พี่สาวเราขอโทรศัพท์ใหม่ มอเตอไซค์ใหม่ ท่านก็ซื้อให้ ราคาเป็นหมื่น แต่กับเรา ท่านไม่เข้าใจ แถมยังบอกว่าเราไปเอาเงินคนอื่นมาซื้อ ไปเอาของเพื่อนมาใช้ แต่เงินที่เราเก็บมันก็มาจากการเก็บวันละ 5 บาท 10 บาท ไม่ได้มาก เราไม่เคยขอเงินท่านเพิ่มนะคะ เก็บได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น เงินจ่ายค่างานกลุ่ม งานกิจกรรม ก็เป็นเงินเก็บเรา เราไม่เคยขอส่วนนี้เพิ่ม บางทีเราก็อยากให้เขาเข้าใจเราบ้าง เหมือนที่เราเข้าใจเขามาตลอด
เก็บเงินซื้อของที่อยากได้เอง แต่คนในครอบครัวไม่เข้าใจ ควรทำยังไงคะ?