👉🏻ก่อนเข้ารีวิวเราขอแนะนำแฟนเพจ FB ของเราสักนิด เราเปิดขึ้นมาเพื่อรวบรวมร้านอาหารทั้งในและต่างประเทศมากมาย มาแบ่งปันกัน ฝากกดไลค์ กดแชร เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะค้าาา
📍 FB: ตามล่า Fine Dining
📌 IG: Fine Dining lover
และช่องทางใหม่ทาง Youtube : ตามล่า Fine Dining
🇹🇭 Karmakamet Conveyance - คามาคาเมต คอนเวยานซ์
🍴 Creative - อาหารเชิงความคิดสร้างสรรค์
🎗 รีวิววันนี้แอดมินขอนำเสนอห้องอาหารสุดสร้างสรรค์ที่ผนวกรวมงานศิลปะเข้ากับอาหารรสเลิศ Karmakamet Conveyance ได้ชื่อมาจากแบรนด์เครื่องหอมชื่อดังซึ่งแตกแบรนด์ออกมาทำห้องอาหาร Fine Dining ตัวร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 49 ห่างจากปากซอยไม่ถึง 50 เมตร พื้นที่ชั้นล่างถูกจัดให้เป็นห้องครัวส่วนห้องทานอาหารหลักลูกค้าต้องเดินขึ้นบันไดมาที่ชั้น 2 สิ่งแรกที่โดดเด่นสะดุดตาคือการออกแบบภายในซึ่งคุณเอท ณัทธร รักษ์ชนะ เจ้าของแบรนด์เครื่องหอม Karmakamet ได้นำเสนอออกมาภายใต้คอนเซป All is good! หมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างแม้จะไม่สมบูรณ์แบบแต่หากเราเปิดใจยอมรับก็จะสามารถมองเห็นถึงข้อดีซ่อนอยู่ บริเวณหน้าร้านเราจะเห็นทั้งเก้าอี้โซฟา โต๊ะ และโคมไฟที่ไม่สมบูรณ์แบบ ในขณะที่บนโต๊ะอาหารจะมีช้อน ส้อม รวมไปถึงเครื่องเทเบิ้ลแวร์ที่ดูแล้วเหมือนจะใช้งานไม่ได้วางเอาไว้ และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเราจะได้ใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในมื้ออาหารกันจริงๆทั้งยังใช้งานได้ดีเสียด้วย
🎗 อาหารที่นี่ควบคุมโดยเชฟส้ม จุฑามาศ เทียนแท้ และนำเสนอออกมาในรูปแบบ New Asian Cuisine สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้อาหารของ Karmakamet Conveyance แตกต่างจากร้านอื่นๆคือคอนเซปในการจัดเสิร์ฟ เชฟส้มนำเสนอ Tasting Menu รูปแบบเดียวโดยอาศัยประสบการการกินตั้งแต่วัยเด็กจวบจนถึงปัจจุบันมาเรียงร้อยเป็นอาหารจำนวน 10+1 คอร์สในราคาโปรโมชั่น 1,990++/p ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ที่สำคัญคือทุกคอร์สจะไม่มีคำอธิบายใดๆจากพนักงานทั้งสิ้น ! หลังจากวางแต่ละคอร์สลงบนโต๊ะเพื่อนๆจะได้ “ลิ้มลองรสชาติ” และได้ “ตีความ” อาหารแต่ละเมนูไปด้วยกันอย่างเปิดใจและไม่มีอคติ ยกตัวอย่างเช่น SUSHI คอร์สแรกที่เสิร์ฟมาดูหน้าตาคล้ายข้าวปั้นแต่พอหยิบทานไปกลับสัมผัสได้ถึงรสชาติจัดจ้านคล้ายข้าวยำของไทย หรือจะเป็น OYSTER ที่เสิร์ฟมาหน้าตาดูคล้ายอาหารฝรั่งเศสแต่พอยกเข้าปากก็จะรู้ทันที่ว่าจานนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหอยทอดบ้านเราแน่ๆ ตรงจุดนี้เองทำให้ลูกค้าสามารถโฟกัสไปที่รสชาติและส่งเสริมให้อาหารแต่ละจานมีความหมายในตัวเองมากยิ่งขึ้นตามที่เชฟส้มได้เคยเปรียบเปรยเอาไว้ว่าเป็น ”การฟังเพลงที่ไม่มีเนื้อร้องหรือการชมภาพศิลปะที่ไม่มีคำอธิบาย” นั่นเอง
🎗 เนื่องจาก “การตีความอาหาร” เป็นไฮไลท์สำคัญของที่นี่ดังนั้นเราจึงไม่ขอยกตัวอย่างเมนูเด็ดมาเล่าเพราะกลัวจะเป็นการสปอยล์เพื่อนๆที่ยังไม่เคยไปทาน อย่างไรก็ตามเราได้เขียนรายละเอียดคร่าวๆของอาหารแต่ละจานเอาไว้ในแคปชั่นเพจเพื่อให้เพื่อนๆพอทราบถึงคอนเซปคร่าวๆก่อนไป สำหรับใครที่ไม่อยากตีความให้ปวดหัวเราก็ขอรับประกันว่าการเพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศจำนวน 10 คอร์สก็คุ้มค่ามากๆแล้วกับราคาเพียง 1,990 บาทที่ตั้งเอาไว้ Karmakamet Conveyance ถือเป็นหนึ่งร้านอาหารเด็ดที่เราแนะนำเป็นอย่างมากให้เพื่อนๆเหล่า Foodies ที่มีใจรักอาหารเอเชี่ยนได้ลองตามไปลิ้มลองกัน
📃 THE APPRECIATION TASTING MENU (1,990++/p)
SUSHI
COOKIE
SOUP
DUMPLING
GREENS
RICE
OYSTER
NOODLES
PORK
-or-
LAMB
YOGURT
DESSERT
🏵 Score:
👍 ร้านอาหารสุดสร้างสรรค์ที่สามารถยกระดับเมนูพื้นบ้านออกมาได้แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร อาหารเมนูอาจถูกตีความออกมาได้แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของคนทาน
อาหาร : 13/20
ราคา : 🌟🌟🌟🌟
ความคุ้มค่า : 🌟🌟🌟🌟
เทคนิค : 🌟🌟
อัตลักษณ์ : 🌟🌟🌟
บรรยากาศ : 🌟🌟🌟🌟
บริการ : 🌟🌟🌟🌟
ความประทับใจโดยรวม : 14/20
📍 Visit: Jan 2021
🏠 Location: 1, 1/1 ซอย สุขุมวิท 49 แขวง คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
🚗 Parking: จอดได้ที่หน้าร้าน Pizza Massilia Sukhumvit 49 (มีค่าบริการ 50 บาท)
Operating Time: 18.00-21.00
💰 Price: 1,990++/p
📞 Tel: 02-004-3997
🧥 Dress Code: Smart Casual
🖥 Website:
https://www.karmakametconveyance.com/chefnote.php
🥰 ฝากเพื่อนๆช่วยกดไลค์และติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆ โดยเราตั้งใจนำเสนองานรีวิวร้านอาหาร Fine Dining ชั้นนำและห้องอาหารระดับ Michelin Guide ทั่วโลก
👍 Facebook: ”ตามล่า Fine Dining“ และ ”Pakiin by ตามล่า Fine Dining“
👍 Group “Fine Dining Lovers by ตามล่า Fine Dining”:
https://www.facebook.com/groups/3392372877497917/?ref=share
👍 Instagram: finedining_lovers
👍 Youtube: ตามล่า Fine Dining
#ThaiFood #IndianFood #FineDining #AroiBKK #Bangkok #ตามล่าFineDining

🇹🇭 Karmakamet Conveyance - คามาคาเมต คอนเวยานซ์
🍴 Creative - อาหารเชิงความคิดสร้างสรรค์

รีวิววันนี้แอดมินขอนำเสนอห้องอาหารสุดสร้างสรรค์ที่ผนวกรวมงานศิลปะเข้ากับอาหารรสเลิศ

Karmakamet Conveyance ได้ชื่อมาจากแบรนด์เครื่องหอมชื่อดังซึ่งแตกแบรนด์ออกมาทำห้องอาหาร Fine Dining

SUSHI
เริ่มต้นคำแรกด้วย “ซูชิ” สไตล์ไทย เชฟใช้ปลาค็อดรมควันแล่ออกมาเป็นชิ้นบางๆมีเนื้อสัมผัสนุ่มหนึบเข้ากันได้ดีกับข้าวยำรสชาติจัดจ้านที่รองอยู่ด้านล่าง อร่อยจนน่าตกใจเลยทีเดียว (14/20)

COOKIE
ถัดมาเป็น “คุกกี้” กรอบชิ้นจิ๋ว ตรงกลางสอดไส้สับปะรด มีกลิ่นหอมเครื่องเทศอินเดียชัดเจน ทานทั้งชิ้นในคำเดียวรสชาติไม่แรงจนเกินไป (13/20)

SOUP
สำหรับคอร์ส “ซุป” พนักงานจะมาเทน้ำซุปต่อหน้าเราบนโต๊ะ ในถ้วยมีเนื้อปลา ถั่วลิสง และขนมปังกรอบใส่ไว้อยู่ด้วย (13/20)

SOUP
ตัวซุปทำมาจากน้ำสต็อกกระดูกหมู มีกลิ่นหอมสมุนไพรเหมือนต้มยำบ้านเราชัดเจนแต่รสชาติไม่จัดจ้านเท่าจึงสามารถจิบได้เรื่อยๆ เมื่อดื่มเสร็จจึงทานเนื้อปลา ถั่วลิสงต้ม และขนมปังกรอบตามกันไปอีกที (13/20)

DUMPLING
หนึ่งในจานที่ดีที่สุดในค่ำคืนนี้แม้จะมีชื่อคอร์สว่า “เกี๊ยว” แต่เอาจริงๆนี่ก็คือขนมกุ้ยช่ายบ้านเราที่เชฟส้มนำมายกระดับให้อร่อยขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว แป้งด้านนอกกรอบ มีความหนึบ ไม่อมน้ำมัน ไส้ตรงกลางเข้ากันดีกับน้ำซีอิ๊วที่แอบซ่อนอยู่ด้านใน ซอสสีเหลืองคือ Chili vinegar ให้รสชาติเผ็ดเบาๆเข้ากันดีจนเราขอยกให้เป็นหนึ่งในขนมกุ้ยช่ายที่ดีที่สุดเท่าที่เคยทานมา (14/20)

GREENS
สลัดจานนี้มีชื่อว่า “กรีน” ประกอบด้วยผักใบเขียวหลายชนิด ด้านล่างรองด้วยมันแกวหั่น julienne มาเป็นชิ้นๆ ด้านบนเป็นคลอโรฟิลเดรสซิ่งให้รสออกเค็มนิดๆทั้งยังช่วยกลบความ Earthy ของผักต่างๆไปด้วยในตัว (13/20)

RICE
ถัดมาคือเมนู “ข้าว” ที่เชฟส้มได้นำเสิร์ฟมาดูคล้ายข้าวราดแกงบ้านเรา มีทั้งแกงไทยๆอย่างแกงส้มและแกงใส่มันฝรั่งอย่างอินเดีย ทุกแกงรสชาติจัดจ้านถึงเครื่อง ด้านบนคือไข่ตุ๋นและผงสีเขียวทำมาจากผักชี คอร์สนี้น่าจะถูกใจรสชอบรสเผ็ดเลยล่ะ (13/20)

OYSTER
เมนูคอร์สพิเศษที่เชฟส้มตั้งใจทำเลียนแบบเมนูจำพวกหอยทอดหรือออส่วนบ้านเราโดบการใช้ “หอยนางรม” เสิร์ฟมาสดๆกับแป้งเคี้ยวหนึบ ด้านบนเป็นถั่วเหลืองให้เนื้อสัมผัสที่แตกต่าง ตัดด้วยรสชาติจัดจ้านครบทั้งเปรี้ยวหวานและเผ็ดของซอสพริก ต่อให้ไม่บอกว่าคืออะไรก็รู้ว่าเป็นหอยทอด in one bite สร้างสรรค์มากๆ (14/20)

NOODLES
จานนี้เป็น “ก๋วยเตี๋ยว” แกงที่เชฟส้มใส่เครื่องเทศลงไปมากกว่า 50 ชนิด ความสุดยอดคือการใส้ส้มโอรสหวานมาเพื่อตัดความจัดจ้านของแกง ทั้งยังมีไข่ดาวให้ความกรอบ มัน และครีมมี่ อย่าลืมทานทุกองค์ประกอบพร้อมกัน ใครจะคิดว่าแกง ไข่ดาว และส้มโอทานด้วยกันแล้วจะอร่อยได้ขนาดนี้ (14/20)

PORK
สำหรับเมนคอร์สทางร้านจะมีให้เลือกสองอย่างเริ่มจาก “เนื้อหมู” เสิร์ฟมาในขนมปังหมั่นโถวชิ้นโต ด้านบนเป็นซอสรสชาติเปรี้ยวหวานชวนนึกถึงขนมปังหมูน้ำสลัดที่อร่อยมากขึ้นกว่าที่เราคุ้นเคยกันในร้านสะดวกซื้อ (12/20)

LAMB
อย่างไรก็ตาม เราอยากแนะนำให้ลอง “ซี่โครงแกะ” มากกว่า เชฟส้มย่างมากจนนุ่ม ทานกับข้าวหมกหรือ Biryani ที่รองอยู่ด้านล่าง ตัวซอสทำจากแกงสไตล์อินเดียมีกลิ่นหอมเครื่องเทศชัดเจน ข้างกันคือ Banana ball เป็นชิ้นกล้วยนุ่มๆ ทานแต่ละองค์ประกอบสลับกันไปมาได้เลย (13/20)

YOGURT
ล้างปากก่อนเข้าสู่ของหวานด้วย “โยเกิร์ต” ที่เชฟนำมาทำเป็นกรานิต้า หอม รสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆ (13/20)

DESSERT
สุดท้ายคือ “ขนมหวาน” ในหนึ่งจานมีหลากหลายองค์ประกอบมากๆ เริ่มจากด้านล่างเป็นไอศกรีมน้ำผึ้ง ครีมใบเตย บิสกิตกรอบ ถั่ว และบริยอชมะพร้าวด้านบน แต่ละครั้งที่ตักทานจะได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละองค์ประกอบที่ตักได้ (13/20)

ขอแนะนำให้ปิดท้ายมื้ออาหารด้วยชาของ Mariage Frères สักกาซึ่งสามารถเสิร์ฟได้พอสำหรับ 2-3 คน

อาหารที่นี่ควบคุมโดยเชฟส้ม จุฑามาศ เทียนแท้ และนำเสนอออกมาในรูปแบบ New Asian Cuisine ต้องยอมรับว่าเรารู้สึกประหลาดใจมากเมื่อทราบว่าเส้นทางชีวิตของเชฟจบการศึกษาทางด้าน Lithography หรือศิลปะการพิมพ์หินจากประเทศอินเดียทั้งยังเคยเดินทางไปจัดแสดงนิทรรศการงานศิลป์ทั้งในกรุง New York และ San Francisco แต่ด้วยใจรักเกี่ยวกับอาหารมาตั้งแต่เด็กทำให้เชฟส้มเปลี่ยนเส้นทางชีวิตมาเดินทางสายอาหารโดยเริ่มจากการเป็นพนักงานขัดล้างจานและอุปกรณ์ในครัวและเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากร้านอาหารหลายแห่งในประเทศสหรัฐอเมริกาก่อนที่จะกลับมารับงานเป็นเชฟเต็มตัวในกรุงเทพ เชียงใหม่ และเกาะสมุย ประเทศไทย

เพื่อนๆทุกคนจะได้ภาพสเก็ตช์จากเจ้าของร้านคุณเอท ณัทธร รักษ์ชนะ ที่ตั้งใจวาดขึ้นมาสำหรับ THE APPRECIATION TASTING MENU โดยเฉพาะ
[CR] 🇹🇭 Karmakamet Conveyance - ทุกสิ่งทุกอย่างแม้ไม่สมบูรณ์แบบแต่หากเราเปิดใจยอมรับก็จะสามารถมองเห็นข้อดีที่ซ่อนอยู่
📍 FB: ตามล่า Fine Dining
📌 IG: Fine Dining lover
และช่องทางใหม่ทาง Youtube : ตามล่า Fine Dining
🇹🇭 Karmakamet Conveyance - คามาคาเมต คอนเวยานซ์
🍴 Creative - อาหารเชิงความคิดสร้างสรรค์
🎗 รีวิววันนี้แอดมินขอนำเสนอห้องอาหารสุดสร้างสรรค์ที่ผนวกรวมงานศิลปะเข้ากับอาหารรสเลิศ Karmakamet Conveyance ได้ชื่อมาจากแบรนด์เครื่องหอมชื่อดังซึ่งแตกแบรนด์ออกมาทำห้องอาหาร Fine Dining ตัวร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 49 ห่างจากปากซอยไม่ถึง 50 เมตร พื้นที่ชั้นล่างถูกจัดให้เป็นห้องครัวส่วนห้องทานอาหารหลักลูกค้าต้องเดินขึ้นบันไดมาที่ชั้น 2 สิ่งแรกที่โดดเด่นสะดุดตาคือการออกแบบภายในซึ่งคุณเอท ณัทธร รักษ์ชนะ เจ้าของแบรนด์เครื่องหอม Karmakamet ได้นำเสนอออกมาภายใต้คอนเซป All is good! หมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างแม้จะไม่สมบูรณ์แบบแต่หากเราเปิดใจยอมรับก็จะสามารถมองเห็นถึงข้อดีซ่อนอยู่ บริเวณหน้าร้านเราจะเห็นทั้งเก้าอี้โซฟา โต๊ะ และโคมไฟที่ไม่สมบูรณ์แบบ ในขณะที่บนโต๊ะอาหารจะมีช้อน ส้อม รวมไปถึงเครื่องเทเบิ้ลแวร์ที่ดูแล้วเหมือนจะใช้งานไม่ได้วางเอาไว้ และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเราจะได้ใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในมื้ออาหารกันจริงๆทั้งยังใช้งานได้ดีเสียด้วย
🎗 อาหารที่นี่ควบคุมโดยเชฟส้ม จุฑามาศ เทียนแท้ และนำเสนอออกมาในรูปแบบ New Asian Cuisine สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้อาหารของ Karmakamet Conveyance แตกต่างจากร้านอื่นๆคือคอนเซปในการจัดเสิร์ฟ เชฟส้มนำเสนอ Tasting Menu รูปแบบเดียวโดยอาศัยประสบการการกินตั้งแต่วัยเด็กจวบจนถึงปัจจุบันมาเรียงร้อยเป็นอาหารจำนวน 10+1 คอร์สในราคาโปรโมชั่น 1,990++/p ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ที่สำคัญคือทุกคอร์สจะไม่มีคำอธิบายใดๆจากพนักงานทั้งสิ้น ! หลังจากวางแต่ละคอร์สลงบนโต๊ะเพื่อนๆจะได้ “ลิ้มลองรสชาติ” และได้ “ตีความ” อาหารแต่ละเมนูไปด้วยกันอย่างเปิดใจและไม่มีอคติ ยกตัวอย่างเช่น SUSHI คอร์สแรกที่เสิร์ฟมาดูหน้าตาคล้ายข้าวปั้นแต่พอหยิบทานไปกลับสัมผัสได้ถึงรสชาติจัดจ้านคล้ายข้าวยำของไทย หรือจะเป็น OYSTER ที่เสิร์ฟมาหน้าตาดูคล้ายอาหารฝรั่งเศสแต่พอยกเข้าปากก็จะรู้ทันที่ว่าจานนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหอยทอดบ้านเราแน่ๆ ตรงจุดนี้เองทำให้ลูกค้าสามารถโฟกัสไปที่รสชาติและส่งเสริมให้อาหารแต่ละจานมีความหมายในตัวเองมากยิ่งขึ้นตามที่เชฟส้มได้เคยเปรียบเปรยเอาไว้ว่าเป็น ”การฟังเพลงที่ไม่มีเนื้อร้องหรือการชมภาพศิลปะที่ไม่มีคำอธิบาย” นั่นเอง
🎗 เนื่องจาก “การตีความอาหาร” เป็นไฮไลท์สำคัญของที่นี่ดังนั้นเราจึงไม่ขอยกตัวอย่างเมนูเด็ดมาเล่าเพราะกลัวจะเป็นการสปอยล์เพื่อนๆที่ยังไม่เคยไปทาน อย่างไรก็ตามเราได้เขียนรายละเอียดคร่าวๆของอาหารแต่ละจานเอาไว้ในแคปชั่นเพจเพื่อให้เพื่อนๆพอทราบถึงคอนเซปคร่าวๆก่อนไป สำหรับใครที่ไม่อยากตีความให้ปวดหัวเราก็ขอรับประกันว่าการเพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศจำนวน 10 คอร์สก็คุ้มค่ามากๆแล้วกับราคาเพียง 1,990 บาทที่ตั้งเอาไว้ Karmakamet Conveyance ถือเป็นหนึ่งร้านอาหารเด็ดที่เราแนะนำเป็นอย่างมากให้เพื่อนๆเหล่า Foodies ที่มีใจรักอาหารเอเชี่ยนได้ลองตามไปลิ้มลองกัน
📃 THE APPRECIATION TASTING MENU (1,990++/p)
SUSHI
COOKIE
SOUP
DUMPLING
GREENS
RICE
OYSTER
NOODLES
PORK
-or-
LAMB
YOGURT
DESSERT
🏵 Score:
👍 ร้านอาหารสุดสร้างสรรค์ที่สามารถยกระดับเมนูพื้นบ้านออกมาได้แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร อาหารเมนูอาจถูกตีความออกมาได้แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของคนทาน
อาหาร : 13/20
ราคา : 🌟🌟🌟🌟
ความคุ้มค่า : 🌟🌟🌟🌟
เทคนิค : 🌟🌟
อัตลักษณ์ : 🌟🌟🌟
บรรยากาศ : 🌟🌟🌟🌟
บริการ : 🌟🌟🌟🌟
ความประทับใจโดยรวม : 14/20
📍 Visit: Jan 2021
🏠 Location: 1, 1/1 ซอย สุขุมวิท 49 แขวง คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
🚗 Parking: จอดได้ที่หน้าร้าน Pizza Massilia Sukhumvit 49 (มีค่าบริการ 50 บาท)
Operating Time: 18.00-21.00
💰 Price: 1,990++/p
📞 Tel: 02-004-3997
🧥 Dress Code: Smart Casual
🖥 Website: https://www.karmakametconveyance.com/chefnote.php
🥰 ฝากเพื่อนๆช่วยกดไลค์และติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆ โดยเราตั้งใจนำเสนองานรีวิวร้านอาหาร Fine Dining ชั้นนำและห้องอาหารระดับ Michelin Guide ทั่วโลก
👍 Facebook: ”ตามล่า Fine Dining“ และ ”Pakiin by ตามล่า Fine Dining“
👍 Group “Fine Dining Lovers by ตามล่า Fine Dining”: https://www.facebook.com/groups/3392372877497917/?ref=share
👍 Instagram: finedining_lovers
👍 Youtube: ตามล่า Fine Dining
#ThaiFood #IndianFood #FineDining #AroiBKK #Bangkok #ตามล่าFineDining
🇹🇭 Karmakamet Conveyance - คามาคาเมต คอนเวยานซ์
🍴 Creative - อาหารเชิงความคิดสร้างสรรค์
รีวิววันนี้แอดมินขอนำเสนอห้องอาหารสุดสร้างสรรค์ที่ผนวกรวมงานศิลปะเข้ากับอาหารรสเลิศ
Karmakamet Conveyance ได้ชื่อมาจากแบรนด์เครื่องหอมชื่อดังซึ่งแตกแบรนด์ออกมาทำห้องอาหาร Fine Dining
SUSHI
เริ่มต้นคำแรกด้วย “ซูชิ” สไตล์ไทย เชฟใช้ปลาค็อดรมควันแล่ออกมาเป็นชิ้นบางๆมีเนื้อสัมผัสนุ่มหนึบเข้ากันได้ดีกับข้าวยำรสชาติจัดจ้านที่รองอยู่ด้านล่าง อร่อยจนน่าตกใจเลยทีเดียว (14/20)
COOKIE
ถัดมาเป็น “คุกกี้” กรอบชิ้นจิ๋ว ตรงกลางสอดไส้สับปะรด มีกลิ่นหอมเครื่องเทศอินเดียชัดเจน ทานทั้งชิ้นในคำเดียวรสชาติไม่แรงจนเกินไป (13/20)
SOUP
สำหรับคอร์ส “ซุป” พนักงานจะมาเทน้ำซุปต่อหน้าเราบนโต๊ะ ในถ้วยมีเนื้อปลา ถั่วลิสง และขนมปังกรอบใส่ไว้อยู่ด้วย (13/20)
SOUP
ตัวซุปทำมาจากน้ำสต็อกกระดูกหมู มีกลิ่นหอมสมุนไพรเหมือนต้มยำบ้านเราชัดเจนแต่รสชาติไม่จัดจ้านเท่าจึงสามารถจิบได้เรื่อยๆ เมื่อดื่มเสร็จจึงทานเนื้อปลา ถั่วลิสงต้ม และขนมปังกรอบตามกันไปอีกที (13/20)
DUMPLING
หนึ่งในจานที่ดีที่สุดในค่ำคืนนี้แม้จะมีชื่อคอร์สว่า “เกี๊ยว” แต่เอาจริงๆนี่ก็คือขนมกุ้ยช่ายบ้านเราที่เชฟส้มนำมายกระดับให้อร่อยขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว แป้งด้านนอกกรอบ มีความหนึบ ไม่อมน้ำมัน ไส้ตรงกลางเข้ากันดีกับน้ำซีอิ๊วที่แอบซ่อนอยู่ด้านใน ซอสสีเหลืองคือ Chili vinegar ให้รสชาติเผ็ดเบาๆเข้ากันดีจนเราขอยกให้เป็นหนึ่งในขนมกุ้ยช่ายที่ดีที่สุดเท่าที่เคยทานมา (14/20)
GREENS
สลัดจานนี้มีชื่อว่า “กรีน” ประกอบด้วยผักใบเขียวหลายชนิด ด้านล่างรองด้วยมันแกวหั่น julienne มาเป็นชิ้นๆ ด้านบนเป็นคลอโรฟิลเดรสซิ่งให้รสออกเค็มนิดๆทั้งยังช่วยกลบความ Earthy ของผักต่างๆไปด้วยในตัว (13/20)
RICE
ถัดมาคือเมนู “ข้าว” ที่เชฟส้มได้นำเสิร์ฟมาดูคล้ายข้าวราดแกงบ้านเรา มีทั้งแกงไทยๆอย่างแกงส้มและแกงใส่มันฝรั่งอย่างอินเดีย ทุกแกงรสชาติจัดจ้านถึงเครื่อง ด้านบนคือไข่ตุ๋นและผงสีเขียวทำมาจากผักชี คอร์สนี้น่าจะถูกใจรสชอบรสเผ็ดเลยล่ะ (13/20)
OYSTER
เมนูคอร์สพิเศษที่เชฟส้มตั้งใจทำเลียนแบบเมนูจำพวกหอยทอดหรือออส่วนบ้านเราโดบการใช้ “หอยนางรม” เสิร์ฟมาสดๆกับแป้งเคี้ยวหนึบ ด้านบนเป็นถั่วเหลืองให้เนื้อสัมผัสที่แตกต่าง ตัดด้วยรสชาติจัดจ้านครบทั้งเปรี้ยวหวานและเผ็ดของซอสพริก ต่อให้ไม่บอกว่าคืออะไรก็รู้ว่าเป็นหอยทอด in one bite สร้างสรรค์มากๆ (14/20)
NOODLES
จานนี้เป็น “ก๋วยเตี๋ยว” แกงที่เชฟส้มใส่เครื่องเทศลงไปมากกว่า 50 ชนิด ความสุดยอดคือการใส้ส้มโอรสหวานมาเพื่อตัดความจัดจ้านของแกง ทั้งยังมีไข่ดาวให้ความกรอบ มัน และครีมมี่ อย่าลืมทานทุกองค์ประกอบพร้อมกัน ใครจะคิดว่าแกง ไข่ดาว และส้มโอทานด้วยกันแล้วจะอร่อยได้ขนาดนี้ (14/20)
PORK
สำหรับเมนคอร์สทางร้านจะมีให้เลือกสองอย่างเริ่มจาก “เนื้อหมู” เสิร์ฟมาในขนมปังหมั่นโถวชิ้นโต ด้านบนเป็นซอสรสชาติเปรี้ยวหวานชวนนึกถึงขนมปังหมูน้ำสลัดที่อร่อยมากขึ้นกว่าที่เราคุ้นเคยกันในร้านสะดวกซื้อ (12/20)
LAMB
อย่างไรก็ตาม เราอยากแนะนำให้ลอง “ซี่โครงแกะ” มากกว่า เชฟส้มย่างมากจนนุ่ม ทานกับข้าวหมกหรือ Biryani ที่รองอยู่ด้านล่าง ตัวซอสทำจากแกงสไตล์อินเดียมีกลิ่นหอมเครื่องเทศชัดเจน ข้างกันคือ Banana ball เป็นชิ้นกล้วยนุ่มๆ ทานแต่ละองค์ประกอบสลับกันไปมาได้เลย (13/20)
YOGURT
ล้างปากก่อนเข้าสู่ของหวานด้วย “โยเกิร์ต” ที่เชฟนำมาทำเป็นกรานิต้า หอม รสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆ (13/20)
DESSERT
สุดท้ายคือ “ขนมหวาน” ในหนึ่งจานมีหลากหลายองค์ประกอบมากๆ เริ่มจากด้านล่างเป็นไอศกรีมน้ำผึ้ง ครีมใบเตย บิสกิตกรอบ ถั่ว และบริยอชมะพร้าวด้านบน แต่ละครั้งที่ตักทานจะได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละองค์ประกอบที่ตักได้ (13/20)
ขอแนะนำให้ปิดท้ายมื้ออาหารด้วยชาของ Mariage Frères สักกาซึ่งสามารถเสิร์ฟได้พอสำหรับ 2-3 คน
อาหารที่นี่ควบคุมโดยเชฟส้ม จุฑามาศ เทียนแท้ และนำเสนอออกมาในรูปแบบ New Asian Cuisine ต้องยอมรับว่าเรารู้สึกประหลาดใจมากเมื่อทราบว่าเส้นทางชีวิตของเชฟจบการศึกษาทางด้าน Lithography หรือศิลปะการพิมพ์หินจากประเทศอินเดียทั้งยังเคยเดินทางไปจัดแสดงนิทรรศการงานศิลป์ทั้งในกรุง New York และ San Francisco แต่ด้วยใจรักเกี่ยวกับอาหารมาตั้งแต่เด็กทำให้เชฟส้มเปลี่ยนเส้นทางชีวิตมาเดินทางสายอาหารโดยเริ่มจากการเป็นพนักงานขัดล้างจานและอุปกรณ์ในครัวและเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากร้านอาหารหลายแห่งในประเทศสหรัฐอเมริกาก่อนที่จะกลับมารับงานเป็นเชฟเต็มตัวในกรุงเทพ เชียงใหม่ และเกาะสมุย ประเทศไทย
เพื่อนๆทุกคนจะได้ภาพสเก็ตช์จากเจ้าของร้านคุณเอท ณัทธร รักษ์ชนะ ที่ตั้งใจวาดขึ้นมาสำหรับ THE APPRECIATION TASTING MENU โดยเฉพาะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้