วันนี้ครัวคุณต๋อยได้นำเสนอเกี่ยวกับเมนูบักกุ๊ดเต๋ ซึ่งผมมาสะดุดเอาตรงประวัติของบักกุ๊ดเต๋ที่คุณไตรภพเล่า ว่ามีคนชื่อเต๋เป็นคนคิดค้นขึ้นมาให้คนงานที่ป่วยได้กิน โดยต้มพวกสมุนไพรต่าง ๆ แล้วใส่กระดูกหมูลงไป ทีแรกผมก็นึกว่าเป็นมุก แต่ตอนหลังเขายืนยันหลายรอบว่าที่พูดมาเป็นเรื่องจริง แถมยังพูดถึงเจ้าของร้านที่มาในวันนี้ว่าได้เจอกับหลานของคนชื่อเต๋และได้สูตรมา
ไปหาดูในวิกิพีเดีย ถ้าจะมีที่พอเข้าเค้าก็แค่แพร่หลายเข้าไปในมลายูโดยคนงานชาวจีนจากกวางตุ้ง เฉาซาน หรือฝูเจี้ยน แค่นั้น แต่เรื่องคนชื่อเต๋อะไรนี่ไม่มีเลย
อีกทั้งเมื่อดูจากตัวอักษรภาษาจีน (จริง ๆ ผมก็ไม่ได้เรียนภาษาจีนหรอก แต่เรียนภาษาญี่ปุ่น และมีตัวอักษรคันจิ หรือก็คือตัวอักษรจีนนั่นแหละที่มีความหมายเหมือนหรือคล้ายกับภาษาจีน) ที่ว่า 肉骨茶 จะเห็นได้ว่า ประกอบขึ้นมาจากตัวอักษร 3 ตัว 肉 คือเนื้อ 骨 คือกระดูก 茶 คือชา แปลรวม ๆ คือชาเนื้อและกระดูก ก็เหมือนจะสื่อว่าเป็นชาที่มีการต้มแล้วใส่เนื้อหมูกับกระดูกหมูลงไป ไม่เกี่ยวอะไรกับเต๋ที่คุณไตรภพเล่า
ถ้าเขาจะเล่นเป็นมุกขำ ๆ เฉย ๆ ก็ไม่ว่าอะไร แต่นี่พอเอามาเล่าแล้วยืนยันว่าเป็นความจริง มันดูไม่โอเคเลย เดี๋ยวคนจำไปผิด ๆ
ตกลงประวัติของบักกุ๊ดเต๋ในวันนี้มันคือเรื่องจริงใช่หรือไม่
ไปหาดูในวิกิพีเดีย ถ้าจะมีที่พอเข้าเค้าก็แค่แพร่หลายเข้าไปในมลายูโดยคนงานชาวจีนจากกวางตุ้ง เฉาซาน หรือฝูเจี้ยน แค่นั้น แต่เรื่องคนชื่อเต๋อะไรนี่ไม่มีเลย
อีกทั้งเมื่อดูจากตัวอักษรภาษาจีน (จริง ๆ ผมก็ไม่ได้เรียนภาษาจีนหรอก แต่เรียนภาษาญี่ปุ่น และมีตัวอักษรคันจิ หรือก็คือตัวอักษรจีนนั่นแหละที่มีความหมายเหมือนหรือคล้ายกับภาษาจีน) ที่ว่า 肉骨茶 จะเห็นได้ว่า ประกอบขึ้นมาจากตัวอักษร 3 ตัว 肉 คือเนื้อ 骨 คือกระดูก 茶 คือชา แปลรวม ๆ คือชาเนื้อและกระดูก ก็เหมือนจะสื่อว่าเป็นชาที่มีการต้มแล้วใส่เนื้อหมูกับกระดูกหมูลงไป ไม่เกี่ยวอะไรกับเต๋ที่คุณไตรภพเล่า