สวัสดีค่ะ ชาวพันทิปทุกท่าน
วันนี้เราจะมาแชร์เกี่ยวกับธุรกิจที่ทำจนสามารถสร้างตัวได้ให้ฟังกันค่ะ
เริ่มจากเราอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี แล้วก็เริ่มหาธุรกิจที่คิดว่าอยากจะทำ แต่ยังไม่มีในจังหวัดนี้
ส่วนตัวเราชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวมาก ๆ ทริปนึงเราเดินทางไปเที่ยวในจังหวัดระนอง ซึ่งมีร้านติ่มซำตามสไตล์ทางภาคใต้ชื่อร้าน 'ระนองโอชา' ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมากินกันเยอะมาก ๆ
หลังจากนั้นพอกลับมาที่สุพรรณเราก็คิดว่าน่าจะมีร้านอาหาร แบบสไตล์ทางภาคใต้หรือร้านอาหารเช้าติ่มซำแบบแต่เตี๊ยมในสุพรรณบุรีบ้าง
จนกระทั่ง ธุรกิจที่สามีเราทำเกิดซบเซาจึงมีความคิดว่าจะทำร้านอะไรที่ยังไม่มี ในสุพรรณ ก็เลยเกิดเป็นความคิดว่าจะทำร้านติ่มซำ แบบทางภาคใต้ขึ้นมา
ในขณะนั้นยังไม่มีร้านแบบนี้ที่ให้เลือกติ่มซำกันเองจากในตู้แช่ ในโซนภาคกลาง ยกเว้นในจังหวัดชลบุรีค่ะ ซึ่งถามว่าจะขายได้ไหมก็ยังไม่มีคำตอบว่าจะขายได้ แล้วก็เสี่ยงมากๆ
เพราะร้านรูปแบบนี้เป็นร้านและวัฒนธรรมการกินที่คนสุพรรณไม่คุ้นเคย แต่ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้จริงไหมคะ
สิ่งที่น่ากลัวอีกอย่างคือธุรกิจร้านอาหารในสุพรรณบุรี มักจะเปิดๆปิดๆ เปิดแล้วไม่ค่อยอยู่ยืนระยะยาว ด้วยสุพรรณเองก็เป็นเมืองรอง ไม่ได้มีนักท่องเที่ยวเข้ามา เยอะเท่ากับเมืองหลัก นี่จึงเป็นอีกหนึ่งหินก้อนใหญ่ที่เราต้องวางแผนการตลาดให้ดี
โดยเริ่มจากการทำเมนูง่ายๆอย่างไข่กระทะ กาแฟโบราณ แล้วก็ติ่มซำ เล็กน้อยให้คนได้มาเลือก ในช่วงแรกมีแค่ขนมจีบซาลาเปาเองค่ะ
กระแสตอบรับในช่วงเปิดร้านก็ดีอย่างไม่น่าเชื่อด้วยความที่ รูปแบบร้านเช่นนี้ไม่เคยมีมาก่อนในจังหวัดสุพรรณบุรี ก็มีลูกค้าเยอะมากๆ จนแทบทำไม่ทัน
หลังจากนั้นเราก็ฝึกฝีมือในการทำอาหารตระเวนชิมร้านเด็ดร้านดัง มีที่ไหนเราไปชิมมาหมด
รวมถึงไปเรียนทำอาหารเพิ่มเติม ขยันออกเมนูใหม่ให้คนไม่เบื่อ
รวมถึงสร้างเมนูใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อนอย่างเช่นเผือกทองคำที่จากเดิมจะใช้เมล็ดฟักทองในการ ชุบกับตัวเผือกกวนแต่ทางร้านเราเปลี่ยนแปลงมาใช้อัลมอนด์สไลด์ให้เข้ากับยุคสมัยและถูกปากคนกินมากยิ่งขึ้น
รวมถึงบักกุ๊ดเต๋ซึ่งเป็นซุปที่ ในนิยมทานคู่กับติ่มซำทางภาคใต้ เราปรับรสชาติให้เข้ากับลิ้นคนสุพรรณ รวมถึงเพิ่มเอาเนื้อสัตว์อย่าง บักกุ๊ตเต๋เนื้อวัวเข้ามาเป็นตัวเลือก ทำให้คนที่ชื่นชอบเนื้อสัตว์ที่หลากหลายถูกใจมากๆ
ตอนคิดเมนูเราพิถีพิถันและใส่ใจมากๆค่ะ ในช่วง 1-3 ปีแรกเราเข้าร้านเพื่อมาเฝ้าร้านและดูความเรียบร้อยด้วยตัวเองทุกวัน
ทำให้ร้านเราเป็นร้านที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในโซเชียล ในระยะเวลาเพียงไม่นาน คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดสุพรรณ ก็ชื่นชอบมากินอาหารเช้าที่ร้านเรา จนกลายเป็นวัฒนธรรมการกินอาหารเช้าแบบใหม่ในจังหวัดสุพรรณบุรี
โกปี๊ หลังโรงไม้ ร้านอาหารเช้าในสุพรรณบุรี เริ่มจากสิ่งที่ยังไม่มี สู่ธุรกิจรายได้เกือบ 10 ล้านบาทใน 1 ปี
วันนี้เราจะมาแชร์เกี่ยวกับธุรกิจที่ทำจนสามารถสร้างตัวได้ให้ฟังกันค่ะ
เริ่มจากเราอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี แล้วก็เริ่มหาธุรกิจที่คิดว่าอยากจะทำ แต่ยังไม่มีในจังหวัดนี้
ส่วนตัวเราชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวมาก ๆ ทริปนึงเราเดินทางไปเที่ยวในจังหวัดระนอง ซึ่งมีร้านติ่มซำตามสไตล์ทางภาคใต้ชื่อร้าน 'ระนองโอชา' ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมากินกันเยอะมาก ๆ
หลังจากนั้นพอกลับมาที่สุพรรณเราก็คิดว่าน่าจะมีร้านอาหาร แบบสไตล์ทางภาคใต้หรือร้านอาหารเช้าติ่มซำแบบแต่เตี๊ยมในสุพรรณบุรีบ้าง
จนกระทั่ง ธุรกิจที่สามีเราทำเกิดซบเซาจึงมีความคิดว่าจะทำร้านอะไรที่ยังไม่มี ในสุพรรณ ก็เลยเกิดเป็นความคิดว่าจะทำร้านติ่มซำ แบบทางภาคใต้ขึ้นมา
ในขณะนั้นยังไม่มีร้านแบบนี้ที่ให้เลือกติ่มซำกันเองจากในตู้แช่ ในโซนภาคกลาง ยกเว้นในจังหวัดชลบุรีค่ะ ซึ่งถามว่าจะขายได้ไหมก็ยังไม่มีคำตอบว่าจะขายได้ แล้วก็เสี่ยงมากๆ
เพราะร้านรูปแบบนี้เป็นร้านและวัฒนธรรมการกินที่คนสุพรรณไม่คุ้นเคย แต่ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้จริงไหมคะ
สิ่งที่น่ากลัวอีกอย่างคือธุรกิจร้านอาหารในสุพรรณบุรี มักจะเปิดๆปิดๆ เปิดแล้วไม่ค่อยอยู่ยืนระยะยาว ด้วยสุพรรณเองก็เป็นเมืองรอง ไม่ได้มีนักท่องเที่ยวเข้ามา เยอะเท่ากับเมืองหลัก นี่จึงเป็นอีกหนึ่งหินก้อนใหญ่ที่เราต้องวางแผนการตลาดให้ดี
โดยเริ่มจากการทำเมนูง่ายๆอย่างไข่กระทะ กาแฟโบราณ แล้วก็ติ่มซำ เล็กน้อยให้คนได้มาเลือก ในช่วงแรกมีแค่ขนมจีบซาลาเปาเองค่ะ
กระแสตอบรับในช่วงเปิดร้านก็ดีอย่างไม่น่าเชื่อด้วยความที่ รูปแบบร้านเช่นนี้ไม่เคยมีมาก่อนในจังหวัดสุพรรณบุรี ก็มีลูกค้าเยอะมากๆ จนแทบทำไม่ทัน
หลังจากนั้นเราก็ฝึกฝีมือในการทำอาหารตระเวนชิมร้านเด็ดร้านดัง มีที่ไหนเราไปชิมมาหมด
รวมถึงไปเรียนทำอาหารเพิ่มเติม ขยันออกเมนูใหม่ให้คนไม่เบื่อ
รวมถึงสร้างเมนูใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อนอย่างเช่นเผือกทองคำที่จากเดิมจะใช้เมล็ดฟักทองในการ ชุบกับตัวเผือกกวนแต่ทางร้านเราเปลี่ยนแปลงมาใช้อัลมอนด์สไลด์ให้เข้ากับยุคสมัยและถูกปากคนกินมากยิ่งขึ้น
รวมถึงบักกุ๊ดเต๋ซึ่งเป็นซุปที่ ในนิยมทานคู่กับติ่มซำทางภาคใต้ เราปรับรสชาติให้เข้ากับลิ้นคนสุพรรณ รวมถึงเพิ่มเอาเนื้อสัตว์อย่าง บักกุ๊ตเต๋เนื้อวัวเข้ามาเป็นตัวเลือก ทำให้คนที่ชื่นชอบเนื้อสัตว์ที่หลากหลายถูกใจมากๆ
ตอนคิดเมนูเราพิถีพิถันและใส่ใจมากๆค่ะ ในช่วง 1-3 ปีแรกเราเข้าร้านเพื่อมาเฝ้าร้านและดูความเรียบร้อยด้วยตัวเองทุกวัน
ทำให้ร้านเราเป็นร้านที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในโซเชียล ในระยะเวลาเพียงไม่นาน คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดสุพรรณ ก็ชื่นชอบมากินอาหารเช้าที่ร้านเรา จนกลายเป็นวัฒนธรรมการกินอาหารเช้าแบบใหม่ในจังหวัดสุพรรณบุรี