23 ส.ค. 2562 ถึง 22 พ.ค. 2563 … กับการตามทวง “ความรับผิดชอบ” จาก บ. กรงไทย อาซา

สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ ทุกคน ที่ทำประกันสุขภาพแล้ว และที่กำลังคิดจะทำ
วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องราวตลอด 9 เดือน ตั้งแต่วันพบหมอ ร้องเรียนผ่านคปภ. จนกระทั่ง วันที่ได้เช็คค่าสินไหมค่ะ

จุดประสงค์ คือ เพื่อให้คนที่ไม่เคยทำประกันมาก่อน หรือทำแล้วมีปัญหา ได้รู้จัก คปภ. และ รู้ว่าการเก็บหลักฐานเป็นเรื่องสำคัญมาก

กระทู้นี้คงจะยาว เพราะเรื่องมันยาววว 
หากเราใช้คำในเชิงสรุป เช่น โยนกันไปโยนกันมา ก็ต้องมีคำถามอีกว่าโยนอะไรยังไง 
เพราะฉะนั้น ว่ากันตามเหตุการณ์ที่เราประสบมาซึ่งเป็นข้อเท็จจริง น่าจะดีกว่า 
(หากใครสงสัยว่า มีอะไรผิดเกณฑ์รึเปล่า ถึงโดนปฏิเสธ รบกวนอ่านให้ละเอียดก่อนนะคะ ^^)
และถ้าอ่านจบแล้ว ก็อยากจะขอให้เพื่อน ๆ ช่วยแนะนำบริษัทนี้ค่ะว่า มีข้อควรปรับปรุงตรงไหน อย่างไรบ้าง

Edited เพิ่ม : สรุปอย่างกระชับ คือ สิ่งที่ทำให้ได้สินไหมช้า มีหลายปัจจัย แต่จุดที่เราต้องการแบ่งปัน คือ การขอความช่วยเหลือจาก คปภ.
และ การให้สังคมรู้ว่า บริษัทโกงเราแล้ว ยังโกหก คปภ. ต่อก็ได้ด้วย ... อยากให้เพื่อน ๆ ต่อสู้เพื่อความถูกต้องค่ะ 
และขอขอบคุณ ความคิดเห็นที่ 12 อย่างมากค่ะ

เอาล่ะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

พออายุพ้น 35 ความกังวลว่าจะป่วยแบบต้องนอนโรงพยาบาลก็มากขึ้นตามความเสี่ยง 
เราเลยตัดสินใจทำประกันสุขภาพกับบริษัทแห่งหนึ่ง สมมติว่าชื่อ กรงไทย อาซา 
โดยเลือกแผนที่คิดว่าคุ้มสำหรับเรา สมมติชื่อแผน สีทอง โดยมีผลประโยชน์รวมสูงสุดต่อปี 10 ล้านบาท 
ส่วนความคุ้มครองกรณีรักษาแบบคนไข้นอก (OPD) อยู่ที่ 50,000 บาท
กรมธรรม์มีผลตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. 2562 แต่ตัวเล่มใช้เวลาเป็นเดือน 

แผนที่เราทำ ไม่รวมเรื่องรักษาสายตา ตรงนี้เราไม่แน่ใจว่าหมายถึงอะไร รวมถึงโรคตา / อุบัติเหตุที่อาจมีผลต่อการมองเห็นด้วยรึเปล่า
ก็ถามคุณพลไว้ก่อนว่าจะเบิกได้ไหม เพราะการทำประกันมักจะมี ดอกจันทน์ (*) เสมอ คุณพลบอกว่าเบิกได้ เพราะถือว่าเป็นการเจ็บป่วย