Dragon ข้าขอรั่ว! บทที่ 3+4

สำหรับตอนเก่า ตามลิ้งค์นี้ค่ะ
บทที่ 1+2

                                                                                                   บทที่ -3-

            “ท่านมังกรอยู่ลำพังไม่เหงาหรือขอรับ”

            คำถามที่ทำเอาข้าสะอึก เจ้าอ้วนกำลังนั่งกินพายแอปเปิ้ลที่มันบอกว่าเอามาให้ข้าอย่างเอร็ดอร่อย ข้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงอ้วน ตลอดเวลาที่มันนั่งคุยกับข้า มันกินพายไปแล้วไม่รู้กี่อัน และไม่มีทีท่าจะหยุดกิน

            “ข้าชอบอยู่ลำพัง” ข้าล้มตัวนอนเมินหน้าตอบ

            “ท่านมังกรตอบไม่ตรงคำถามนะขอรับ ข้าถามว่าเหงาหรือเปล่า ไม่ได้ถามว่าชอบไม่ชอบ”

            “อย่ามากวนประสาทข้าเจ้าอ้วน” 

            ข้าเชิดคอแยกเขี้ยวคำรามใส่ เจ้าอ้วนมักถามคำถามที่ข้าไม่อยากตอบอยู่เสมอ และนับวันมันจะยิ่งก้าวเข้ามาในโลกของข้ามากขึ้น จนข้าลืมไปแล้วว่าความสงบเวลาอยู่ลำพังเป็นอย่างไร

            เจ้าอ้วนฉีกยิ้มมองโลกแง่ดีตามปรกติ มันไม่เคยสนใจความโกรธหรือความรำคาญของข้าสักครั้ง

            “ถ้าท่านมังกรไม่อยากตอบ ข้าไม่ถามอีกก็ได้...ว่าแต่ท่านมังกรไม่คิดจะกินพายจริงๆ หรือขอรับ ท่านมังกรรู้รึเปล่าว่าข้าต้องตื่นเช้าแค่ไหนเพื่อมาอบพายให้ท่านน่ะ ข้าต้องนวดแป้ง คัดสรรวัตถุดิบ...”

            เจ้าอ้วนเริ่มพล่ามเรื่องของมันตามเคย ข้าไม่เคยสนใจเรื่องพวกนั้นเลย แต่พอมันเล่าข้าก็ต้องทนฟังไป เมื่อในถ้ำแห่งนี้ มีแค่ข้ากับมัน เจ้าอ้วนดูมีความสุขทุกครั้งที่ได้พล่ามเรื่องที่มันรู้ มันฉลาด ซึ่งทุกอย่างไม่พ้นเรื่องของกิน

             แปลกดี ทำไมข้าถึงยิ้มได้เมื่อเห็นมันมีความสุข

             “แล้วแกยังอยากเป็นอัศวินอยู่ไหม”

             ข้าแทรกคำถามที่อยากรู้ เจ้าอ้วนหยุดพล่ามเรื่องขนมปังแล้วก้มหน้าเล่นเศษพายในมือ ก่อนจะโยนเข้าปากเคี้ยวต้วม แก้มแดงเป็นมะเขือเทศ มันกำลังเขินหรือนี่ 

             “ข้ายังอยากเป็นอัศวินขอรับ ข้าสัญญากับตัวเองว่า ถ้าได้เป็นอัศวินเมื่อไหร่จะบอกรักนางขอรับ”

              เจ้าอ้วนลงไปนอนกลิ้งเขิน...ใครฟะโชคร้ายโดนเจ้าอ้วนชอบ

             “ท่านมังกรเคยชอบใครไหมขอรับ”

             เจ้าอ้วนลุกขึ้นมาใหม่ แม้จะทุลักทุเลไปบ้างจากพุงที่ขยายขึ้นด้วยพายจำนวนมาก แต่ก็ดันตัวเองนั่งได้

             อีกครั้งที่ข้าสะอึกกับการก้าวเข้ามาในโลกส่วนตัว

             “ก่อนจะถามข้า แกตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าจะเป็นอัศวินได้ยังไง เจ้าอ้วนแบบแกไม่มีทางเป็นอัศวินได้แน่นอน”

              เจ้าอ้วนสะอึกบ้าง แต่มันยังยิ้มได้อยู่ ข้าไม่เคยเข้าใจว่าทำไมมันถึงยิ้มได้เสมอ แม้จะเป็นยิ้มเศร้าๆ ก็ตาม

              “ทำไมแกไม่ลดความอ้วน”

              ข้าถามต่อ เจ้าอ้วนส่ายหน้า

             “มันเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้หรอกขอรับ คนทำขนมปังที่กินตลอดเวลาอย่างข้า จะไปผอมเพรียวอย่างอัศวินหนุ่มทั่วไปคงยาก”

              “ถ้าแกไม่ลองแล้วจะรู้ได้ไง”

              “ข้าเคยลองแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่อาจหยุดกินได้ขอรับ”

              “แล้วแกไม่รักหญิงผู้นั้นเรอะ ไม่อยากเป็นอัศวินเพื่อนางเรอะ”

              “อยากขอรับ”

              “ถ้างั้นก็สู้สิ แกมากวนประสาทข้าได้ทุกวัน ขยันขนขนมปังมาให้ข้าได้ ทำไมแค่ลดความอ้วนจะทำไม่ได้”

              “คือข้า...”

              “ไม่ต้องอ้ำอึ้งแล้ว ตั้งแต่พรุ่งนี้แกจะต้องลดความอ้วน ข้าจะช่วยแกลดเอง” แย่ล่ะ ทำไมข้าถึงหลุดปากพูดในเรื่องที่ต้องลำบากตัวเองด้วย

              “ท่านมังกรจะช่วยข้าจริงๆ หรือขอรับ”

              เจ้าอ้วนตาเป็นประกาย ข้าหน้าเสีย แต่พูดไปแล้ว คืนคำได้อย่างไร เชิดหน้าตอบไปซะ

              “แน่นอน ข้าจะทำให้แกผอมลง”

              “ถ้างั้นพรุ่งนี้ข้าจะรีบมาหาท่านแต่เช้าเลยขอรับ”

              “เออ ตอนนี้ก็รีบกลับไปซะ เก็บแรงให้ดี พรุ่งนี้ข้าเอาแกตายแน่”

              “ขอรับ แล้วข้าจะเอาขนมปังมาให้แทนคำขอบคุณนะขอรับ”

              “ไม่ต้องแล้ว!”

              ข้าตะโกนบอก หากแต่เจ้าอ้วนกลับหันหลังจากไปด้วยรอยยิ้มมองโลกแง่ดีเช่นเคย

              คำพูดข้าคงไม่เข้าหูมัน

              ...เอาเถอะยังดีกว่าเหงาคนเดียว



                                                                                                    บทที่ -4-

            ทำไมมนุษย์ถึงต้องมีข้อบังคับมากมาย ต้องดูดี ต้องอยู่ในกฏ ต้องทำโน่นทำนี่ แม้แต่หน้าตารูปร่างก็ยังถูกบังคับว่าต้องอยู่ในเกณฑ์หากต้องการคู่ 

            ไร้สาระ ไร้ประโยชน์ มนุษย์มองอะไรแต่ภายนอกเกินไป จิตใจสิสำคัญกว่าสิ่งไหน แต่เหตุผลนี้คงใช้ไม่ได้กับสิ่งที่กำลังอยู่เบื้องหน้าข้า 

            เจ้าอ้วนกำลังกินแหลก มันกินทุกอย่างที่ขวางหน้าแม้แต่ก้านผักแข็งๆ !

            “หยุดกินสิฟะ ข้าบอกให้แกอดอาหารจำไม่ได้หรือไง”

            การอดอาหารคือกฏข้อแรกที่ข้าบอกเจ้าอ้วนสำหรับการลดน้ำหนัก มันทำได้อยู่เพียงสามวัน ก่อนจะขนตะกร้าขนมปังปอนด์ที่เพิ่มพืชผักสวนครัวเข้าไปด้วยตามกฏข้อที่สองว่าต้องกินอาหารมีกากใยและวิตามินเพิ่มด้วย มานั่งเคี้ยวต้วมแบบไม่ลืมหูลืมตาในถ้ำข้า

            “ข้าจะเลิกลดน้ำหนักแล้วขอรับ นาง...นางกำลังจะแต่งงานกับอัศวินหน้าหล่อแล้วขอรับ”

            เจ้าอ้วนยังกินไม่หยุด ซ้ำยังเพิ่มความเร็วจนข้าชักไม่แน่ใจแล้วว่ากระเพาะมันกลายเป็นหลุมอากาศไปแล้วหรือไร 

            “แล้วแกไม่อยากเป็นอัศวินแล้วหรือไง คนนี้ไม่ได้ก็ไปหาคนอื่นเด้ เจ้าหญิงสวยๆ ยังมีอีกเยอะแยะ”

            “ไม่ขอรับ ข้ารักเดียวใจเดียว ถ้าไม่ใช่นาง ข้าจะไม่รักใครอื่นอีก ! ”

            เจ้าอ้วนกำลังบ้าหนัก เส้นเอ็นบนหน้าข้าเกร็งปูดด้วยความหงุดหงิด อุ้งเท้าตบหัวไปป๊าบ มันกลิ้งม้วนหน้าไปหลายตลบ ใบหน้าเปื้อนเศษขนมปังสกปรก เกรอะกรังด้วยคราบน้ำตาและน้ำมูกหนืด ร่างกายเปื้อนไปด้วยเศษดิน 

            ข้ารู้สึกดีใจกับนางผู้นั้น ดีแล้วที่นางเลือกคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าอ้วนโสโครกตัวนี้

            “แล้วแกจะทำอะไรต่อไป นั่งกินขนมปังไปทั้งชาติ ให้พุงย้อยๆ ของแกเดินแทนขาหรือไง” 

            “ข้าไม่รู้ขอรับ ตอนนี้ข้าไม่รู้อะไรแล้ว ทันทีที่ข้าได้ข่าวว่านางจะแต่งงาน สิ่งเดียวที่ข้านึกออกคือต้องมาหาท่านมังกรขอรับ”

            ข้าไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจกับคำตอบของเจ้าอ้วนดี มันยังกินและกิน แต่แววตาที่มันมองข้าเต็มไปด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ มันต้องการคำปลอบใจงั้นหรือ อย่าหวังสูงเลย ข้าก็แค่มังกรขี้หงุดหงิดเท่านั้น

            “นางหน้าตาเป็นไง นิสัยเป็นไง”

            ข้าทิ้งตัวนั่งบนขาหลัง ก้มมองเจ้าอ้วนจากที่สูง เวลานี้มันไม่ต่างจากเศษซากความน่าสมเพชที่สะสมมานับหมื่นปี บางทีสไลม์เหนียวหนืดยังดูดีมีค่ากว่าร้อยเท่า

            “ท่านมังกรอยากรู้ไปทำไมขอรับ นางจะแต่งงานแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะไปพูดถึง”

            “มันเรื่องของข้า ตอบมาซะ ถ้าไม่อยากโดนเตะออกนอกถ้ำตอนนี้”

            ข้ากอดอกพ่นลมหายใจกำมะถันแยกเขี้ยวใส่ เจ้าอ้วนไม่แสดงความกลัวสักนิด กลับยิ้มมองโลกแง่ดีที่ข้าหมั่นไส้ เห็นทีข้าต้องคิดวิธีขู่ใหม่

            “ท่านมังกรคงอยากให้ข้าระบายความในใจมากกว่านั่งกินแบบนี้ใช่ไหมขอรับ ท่านช่างใจดีกับข้าเสมอจริงๆ ก็ได้ขอรับข้าจะเล่าเรื่องของนางให้ท่านฟัง” 

             เจ้าอ้วนกำลังเข้าใจข้าผิด ข้าแค่อยากรู้เรื่องชาวบ้านเท่านั้น ไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งอะไรเลย เอาเหอะเมื่อมันคิดแบบนี้ ก็ปล่อยไป 

             เจ้าอ้วนเริ่มเล่าเรื่องนางผู้นั้น มันดูมีความสุขดีเมื่อได้เล่าถึงนาง ที่แท้ก็แค่เพื่อนสนิทวัยเด็กที่ยอมคุยกับคนอ้วนอย่างมัน และมักชมว่ามันเป็นคนใจดี

             มนุษย์ก็แบบนี้ มักหลงไปกับคำชมและความเชื่อใจ ข้ามั่นใจว่ามันคิดว่าตัวเองรักนาง เพียงเพราะไม่มีใครคนอื่นเข้ามาแล้วต่างหาก

            “ถ้าเกิดมีหญิงที่ยอมรับตัวแกอีก แกจะยอมลืมนางผู้นี้หรือไม่”

            ข้าลองเชิงถาม เจ้าอ้วนสะอึก...นั่นไงล่ะ  ลังเลสิท่า

           “ข้าคงไม่มีวันลืมนางหรอกขอรับ แต่ถ้ามีหญิงที่ยอมรับตัวข้าจริงๆ ข้าอาจจะคิดใหม่”

            เหอะ ก่อนหน้านี้ยังฟูมฟายรักเดียวใจเดียว ทีงี้มาคิดใหม่ มนุษย์หนอมนุษย์

           “ก่อนที่แกจะได้คิดใหม่ แกควรจะปรับปรุงตัวใหม่ก่อน”

           “ปรับปรุงตัวนี่หมายถึงลดน้ำหนักใช่ไหมขอรับ” 

           เจ้าอ้วนคิดของมันอีกแล้ว ข้ากำลังหมายถึงทั้งนิสัยความคิดและการกระทำทั้งหมดเฟ้ย! แต่เอาเหอะอธิบายไปมันคงไม่เข้าใจ ให้มันเรียนรู้เข้าใจเองแล้วกัน

          “อีกไม่นานจะเข้าฤดูหิมะ ข้าจะบินลงใต้หนีหนาว และแกต้องไปกับข้าด้วย”

          “ทำไมขอรับ ข้าไปไม่ได้หรอกขอรับ ข้ามีร้านขนมปังที่ต้องดูแล และข้า...ยังต้องไปงานแต่งงานของนางด้วย”

          หน้าสลดของเจ้าอ้วนดึงดูดอุ้งเท้าให้ตบหัวมันอีกครั้ง

          “ข้าไม่สนใจร้านขนมปังของแก และไม่สนใจงานแต่งงานเพื่อนวัยเด็กนั่นด้วย แกต้องไปกับข้า ข้าจะจับแกไปปรับปรุงตัวเสียใหม่ ข้าทนความงี่เง่าของแกมาพอแล้ว แกต้องเปลี่ยนไป มังกรแสนสง่าอย่างข้าต้องไม่มีลิ่วล้อทุเรศๆ เดินตาม แต่ต้องเป็นอัศวินร่างเพรียวทะมัดทะแมง เข้าใจไหม เจ้าอ้วน ! ”

         เจ้าอ้วนพยักหน้าหงึกๆ เหอะ ! ต้องให้ใช้ความรุนแรงถึงยอมฟัง 

         “ดี ถ้างั้นก็กลับบ้านไปเตรียมตัวซะ พรุ่งนี้ข้าจะออกเดินทางแต่เช้า ถ้าแกไม่มา ข้าจะไปตามถึงในเมือง จำไว้ซะ”

         “ขอรับท่านมังกร”

         เจ้าอ้วนฉีกยิ้มมองโลกแง่ดีรีบหันหลังกลับบ้าน หากแต่ไม่ลืมหิ้วตะกร้าขนมปังกลับไปด้วย 

        สังหรณ์บางอย่างสะกิดขึ้นในอก 

        เจ้าอ้วนกลับมาพร้อมอุปกรณ์ทำขนมปังในเช้าวันรุ่งขึ้น...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่