Nameta Nepal กลับมาสวัสดีกันอีกครั้งนะครับ หลังจากกระทู้ที่แล้ว https://pantip.com/topic/39538396 เราออกเดินทางไปยัง 4 เมืองหลัก เที่ยวชมสถานที่ที่น่าค้นหาในดินแดนที่โอบล้อมไปด้วยเทือกเขาน้อยใหญ่ แต่ความลับกลางหุบเขานั้นมีเรื่องเล่ามากมายเหลือเกิน กระทู้นี้ผมจะพาชาวบลูฯ เดินชิลล์ กินสตรีทฟุ้ดสไตล์เนปาลีกันบ้างละกันครับ ต้องบอกก่อนนะครับว่า ช่วงที่ผมไป5-10 ธันวาคมที่ผ่านมา หนาวเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน กลางคืนอยู่ที่เลขตัวเดียว อ้าปากที ฟันออกปากเลยทีเดียว เป็นทริปส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ไปในตัว รีวิวเดียวครบ จบทุกเรื่องคาวหวาน ผมไม่รู้จักทุกเมนูนะ ถ้าใครรู้เม้นต์บอกกันได้นะครับ เอาล่ะ ท้องเริ่มร้องจ๊อกๆ ได้เวลากระชับฮีต เทคตัวโปรด ออกสำรวจรอบๆ เมืองหาของกินเนปาล เมืองในฝันของใครหลายๆคน และเป็นอีกเมืองที่ผมอยากไปเช็คอินสักครั้งก่อนตาย พร้อมกันแล้วตามผมมาเลยครับ...
1.Pani Puri ปานิ ปูริ 
ผมเดินทางมาถึงกาฐมาณฑุก็บ่ายคล้อยเต็มทีแล้ว เข้าที่พักย่านทาเทลเอนหลังพอคลายความล้า ก่อนออกมาเดินเล่นแถวดูร์บาร์ สแควร์ เป็นย่านสำคัญทางประวัติศาสตร์ เปรียบกับบ้านเราก็แนวๆสนามหลวงล่ะครับ เดินๆอยู่เห็นคนมุงรถเข็นเจ้านี้ อยากรู้อยากเห็นและอยากกินเลยมุงกับเค้าบ้าง ในตู้กระจกนั้นเป็นแป้งทอดกลมๆคล้างลูกปิงปอง จากนั้นคนขายใช้นิ้วโป้งเจาะให้เป็นรู ไส้ข้างในมีเหมือนมันฝรั่ง ถั่ว มีเครื่องปรุงเครื่องเทศ หยอดน้ำขุ่นๆคล้ายๆอาจาด แปลกดี น่าสนแฮ่ะ กล้าๆกลัวๆอยู่นานกลัวท้องเสีย แต่อยากลอง เลยสั่งมาก่อน 2 อัน ราคาไม่แพงนะ อืมมม...อร๊อยยย ออกเปรี้ยว เค็ม เผ็ดนิดๆ สั่งเพิ่มอีกสอง ปานิ ปูริ ของทานเล่นเรียกน้ำย่อย มี 2 แบบ ที่ถ่ายมาเป็นแบบน้ำ อีกแบบเป็นแบบแห้ง Dry Pani Puri ไม่ทันได้ถ่ายมาให้ดู มันเป็นซอสสีออกแดงๆชมพูๆ ผมชอบแบบแห้งมากกว่าเพราะเคี้ยวแล้วได้รสของไส้ข้างใน แบบน้ำก็อร่อยแต่ผมว่ารสชาติมันเหมือนน้ำส้มสายชู แต่อร่อย
2.เนื้อควายทอด/ย่าง 
  
ถ้าไม่อยากไปไหนไกล แต่อยากเข้าถึงความเป็นเนปาลีครบทุกรสชาติ ต้องย่านดูร์บาร์ สแควร์ อีกฝั่นหนึ่งเป็นซอกเล็กๆแต่กลับคึกคักด้วยร้านห้องแถวเรียงราย เป็นแหล่งแฮงก์เอ้าต์ของชาวเมืองกาฎมาณฑุ กลิ่นเตะจมูกชวนให้เดินตามกลิ่น จนมาหยุดอยู่หน้าเตาถ่าน ที่เห็นทอดๆอยู่นั่นคือเนื้อควายนะครับ ด้วยความที่คนเนปาลไม่ทานเนื้อวัว ตามความเชื่อของคนฮินดู ผมแวะไปส่องๆอย่างสนใจ ทำทีถามสาวเนปาลนางหนึ่งที่เพิ่งซื้อไป เลยขอเธอลองชิมดู พอกินได้ด้วยความที่ราดซอสมากลิ่นเนื้อเลยเบาลง คือผมไม่ค่อยกินเนื้อวัวอยู่แล้ว เนื้อควายนี่ไม่เคยกินเลย ครั้งนี้ครั้งแรกนะ ถ้าใครไม่ชอบแบบทอด มีเนื้อควายย่างให้ได้ลองกันด้วย 
3.Shabalay กระหรี่ปั๊บเนปาล
เดินตัดมาอีกฝั่งผ่านลายขายของฝากมาจะเห็นไฟสีนีออนสะดุดตา เป็นเวิ้งฟุ้ดคอร์ด ถูกใจชาวแบคแพคเกอร์นักล่ะ ผมก็ไม่รอช้า เพราะหิ้งท้องมาทั้งวัน เข้าใจอารมณ์คนหิวไหมคุณ ช้างทั้งตัวก็กินได้หมดไม่หมดก็อีกเรื่องหนึ่ง ที่เห็นคือ ชาบาเลย์ แป้งสอดไส้ มีทั้งแบบเนื้อหรือแบบมังสาวิรัติ ผมเลือกเป็นไส้ไก่ กินกับซอสเผ็ด หน้าตารสชาติคล้ายกับกระหรี่ปั๊บสระบุรีเลยนะ แต่ใหญ่กว่า หอมเครื่องเทศข้างในมาก 
4.Momo โมโมเนื้อควายอร่อยสุด 
มาถึงไฮไลต์ของอาหาเนปาล ถ้ามาแล้วไม่ได้ทานเมนูนี้ ถือว่ามาไม่ถึงเนปาล โมโม หน้าตาเหมือนเกี้ยวซ่า ใช่...มันคือเกี้ยวซ่า เหมือนทุกอย่าง ที่แตกต่างและหากินที่ไหนไม่ได้ต้องมาที่เนปาลเท่านั้น คือ โมโมไส้เนื้อควาย วัฒนธรรมการกินของชาวเนปาลีผู้พันกับเมนูนี้มาก โดยจะทานโมโมกันในหลายรูปแบบ เป็นเมนูทานเล่นจิ้มซอสข้นก็ได้ แบบแห้งหรือแบบน้ำก็อร่อย ที่ผมสั่งมาเป็นโมโมไก่นะ ซอสแบบเดียวกันกับจิ้มซาบาเลย์เลย 
5.Papad น้ำพริกเนปาลกับเครื่องเคียง
ระหว่างทางไปโพคารา นั่งรถทัวร์ท่องเที่ยว กินลมชมวิวไป ไม่ทำให้อิ่มท้องได้ เที่ยงตรงรถจอดพักที่กลางเขา ให้นทท.ได้ทานข้าว ผมตื่นเต้นที่จะได้กินเมนูเนปาลอีก มื้อเที่ยงก็เป็นบุพเฟต์ข้าวราดแกงธรรมดา แต่สะดุดตาคือนำพริกผัด หรือ Papad กับเครื่องเคียงนี่แหละ มีผักสดต่างๆ พริก และแป้งกรอกอร่อยมาก ชอบเลย คล้ายๆน้ำพริกอ่องนะผมว่า
6.Chatpat ยำข้าวพองรสจัดจ้าน
ทานเมนูนี้ตอนนี้อยู่ที่เมืองโพคารา ออกมาเดินเล่นชมวิวยามเย็นรอบๆทะเลสาบเฟวา เรียกได้ว่าเป็นสายเลือดใหญ่ของคนเมืองนี้เลยก็ว่าได้ ตลอดทางแม่ค้าหาบเร่ ขายของกินเครื่องดื่มอยู่เป็นระยะ ที่เห็นขายเยอะสุด คือ ยำข้าวพองนี่แหละ พอดีมีหน่มน้อยสองคนสั่งพอดี ผมเลยถือโอกาสถามไถ่และลองชิมดูสองสามคำ นอกจากข้าวพองแล้วยังมีถั่วต่างๆ คลุกกับเครื่องเทศแบบอินเดียเนปาล ในกรวยกระดาษหนังสือพิมพ์ อินเทรนด์ลดโลกร้อน(อาจจะได้โรคมาแทน) อืม...อร่อยดีนะ เผ็ดเปรี้ยวดีทีเดียว 
7.Tali Set สไตล์เนปาล
ถ้าจะถามว่าอาหารอะไรที่บ่งบอกความเนปาลได้ดีที่สุด ก็ต้องตอบตรงนี้เลยว่า ทาลี เซ็ต สไตล์เนปาลครับ นทท.บางคนอาจแย้งว่าอินเดียก็มีทาลี ใช่ครับ อินเดียมี แต่อาหารที่จัดเรียงมาในถาดทรงกลมนี้ ต่างกัน มีให้เลือกทั้งแบบมังสาวิรัติ และ แบบมีเนื้อสัตว์ ผมเลือกอย่างหลัง เครื่องแกงจัดจ้าน สไตล์คนเนปาล ถ้าจะเปรียบเป็นต้มยำ ทาลีของอินเดียน่าจะเปรียบได้กับต้มยำน้ำข้น ของเนปาลเปรียบได้กับต้มยำน้ำใส มีความจัดจ้านในแบบเฉพาะของตนเอง แม้จะเป็นเมนูเดียวกันก็เถอะ     
8.ขอเรียกว่า ซาลาเปาทอด 

ตอนเช้าๆผมออกมาเดินดูสีสันยามเช้าที่ตลาด Indra Chowk ที่นี่มีสภากาแฟเหมือนประเทศอื่นๆเหมือนกัน แต่เครื่องดื่มร้อนจะเน้นชาหรือ Jai เสียมากกว่ากาแฟ มักจะมีร้านขายขนมปังทอดประกบข้างเสมอ ขาเดินกลับที่พัก ผมเลยแวะเจ้านี้ จดๆจ่องๆอยู่นาน ไม่รู้ว่าชื่อขนมอะไรเรียกไม่ถูก ได้แต่ชี้นิ้วเอา นัยยะว่าเอาอันนี้แหละ คนขายกุลีกุจอตักใส่ในกรวยกระดาษให้ นึกถึงถุงกระดาษกล้วยแขกบ้านเราสมัยก่อน ตั้งใจว่าจะเอามากินกับกาแฟ อืม...มันคือซาลาเปาทอดที่หาทานได้ตามรถเข็นปาท่องโก๋บ้านเรานี่เอง แต่บ้านเราจะออกหวานหน่อย บ้านเค้าค่อนข้างไม่มีรสชาติ(แต่ไม่ถึงกับจืดสนิท)    
9.Jelabe เจลาบี ขนมแห่งความหวัง
ของคาวแล้ว มาที่ของหวานกันบ้าง กาฐมาณฑุ ยิ่งมืดยิ่งคึกคัก ทั้งคนเดินและรถรา ถนนแคบๆทักษะการหลบหลีกต้องใช้วิทยายุทธค่อนข้างมากเลยทีเดียว ทันใดนั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นเมนูคุ้นตา ราวกับผมได้เจอเพื่อนเก่า ขนมหวานขดๆเป็นเกลียวนั่นคือ เจลาบี ถ้าใครเคยดูหนังฮอลลิวู้ดเรื่อง Lion จะทราบว่าทำไมถึงเป็นขนมแห่งความคิดถึง เล่าให้ฟังหน่อยละกัน คือตัวเอกของเรื่องคือ ซารู เด็กน้อยชาวอินเดียที่เกิดในชุมชนกองขยะเผลอหลับบนรถไฟ เกิดพลัดหลงกับพี่ชายจนไปอยู่ในสถานสงเคราะห์แล้วได้เข้าไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมป์ที่เมืองนอก ก่อนกลับมาตามหาอดีตของเค้า เจลาบีขนมแป้งเชื่อมน้ำตาลหวานเจี๊ยบ เป็นขนมคนยากราคาไม่แพงที่พี่ชายของซารูเคยซื้อให้น้องกินเป็นประจำเพราะไม่มีเงินซื้อขนมอื่น สำหรับคนรักขนมหวานไม่ควรพลาด หวานจนเบาหวานขึ้นเลยทีเดียว 
10.Juju Dhau จูจู เดาห์ ราชาแห่งโยเกิร์ต 
เมนูของหวานถัดมา ดูเผินๆเหมือนขนมถ้วยบ้านเรานะ แต่จริงๆมันคือ Juji Dhau ได้รับการขนานนามว่าเป็นราชาโยเกิร์ตเลยนะ ทำมาจากนมควายครับ เหมือนพุดดิ้งนมเน้อ หอมเปรี้ยวหวานมัน ครบรส ที่ต่างคือภาชนะดินเผา ที่ชาวบ้านทำเอง กับช้อนไม้สำหรับตัก ลดโลกร้อนได้ดีทีเดียว ถ้าใครอยากลองออริจินอลต้องมาที่เมืองพักตะปูร์เลยครับ เดินชมเมืองมรดกโลกเสร็จก็แวะนั่งทานโยเกิร์ตอร่อยๆต่อ ก็ได้บรรยากาศเที่ยวชิลล์ๆได้ดีเลยทีเดียว
11.Gulab Jamun กุหลาบ จามุนมีไส้
ปกติจะเห็นกุหลาบ จามุนปั่นเป็นลูกกลมๆ เจอตอนที่แวะถ่ายรูปที่เมืองปาทัน หน้าตาน่ากินเลยถามคนขาย เค้าบอกว่า คือ กุหลาบ จามุน ผมก็ย้ำไปว่า จริงเหรอ!?! เพราะไม่คุ้นแบบนี้ เค้าก็บอกนะว่า ใช่ ผมกะจะซื้อลองชิมสักชิ้น แต่ตอนนั้นเงินในกระเป๋าไม่มีสักรูปี เลยได้แค่ถ่ายมา เผื่อเพื่อนๆชาวบูลฯ เคยเห็น จะได้ช่วยยืนยันทีว่าชื่อขนมอะไรกันแน่ รสชาติแบบไหน 
12.Laksi โยเกิร์ตปั่นสไตล์เนปาล
     
 ถ้ามีโอกาสมีเดินช้อปปิ้งย่านตลาด Indra Chowk ยามเย็นๆ ไม่ควรพลาดที่จะลองเครื่องดื่มประจำเมืองเป็นโยเกิร์ตนมควายปั่น ใส่ผลไม้ด้วยก็ได้เรียก Lassi ความพิเศษของลัสซี่ที่นี่คือ จะโรยเม็ดธัญพืช ลูกเกด เป็นท็อปปิ้ง เราขอเพิ่มได้ เจ้าดังอยู่กลางตลาด หาไม่ยาก ไม่ก็สังเกตว่าจุดไหนคนมุงเยอะๆ มีเจ้าถิ่มอยู่สองเจ้า สีฟ้ากับสีแดง กันเรียกลูกค้าตรงมุมถนน เห็นเค้าว่าเจ้าสีฟ้าอร่อยกว่า แต่ผมลองเจ้าสีแดงก่อน สั่งแก้วใหญ่ไป เอาตรงๆเลยคือหวาน(มาก) เปรี้ยว กลิ่นหอมนมโดดเด่น มีเทคเจอร์ของเม็ดธัญพืช ลูกเกดหนืบๆ จากนั้นหันมาลองเจ้าสีฟ้าดูบ้าง สั่งแก้วเล็ก เอาตรงๆ คือ หวานมากเหมือนกัน แต่น้อยกว่าเจ้าสีแดง รสชาติแทบจะไม่ต่างกันเลย ท็อปปิ้งก็เหมือนกัน ผมให้ทั้งสองเจ้า เสมอกันนะ แล้วแต่คนชอบ ต้องลองๆ 
13.Beer Nepal  
สำหรับคอเบียร์ไม่ควรพลาดเลย วิวดี อากาศกำลังดี ฟิลมันใช่เลย เบียร์เย็นๆสักหน่อยเป็นไร ล่ำลือกันนักว่าเบียร์เนปาลละมุน ลื่นคอดี มีให้เลือกหลายยี่ห้อ จะสังเกตว่ายี่ห้อเบียร์จะตั้งชื่อให้อิงกับชื่อประเทศหรือภูมิประเทศที่เป็นลักษณะเด่น เช่น Everest Nepal Ice อะไรทำนองนี้ อย่างยี่ห้อ Namaste รสชาติจะนุ่มๆแนวๆช้างไลฟ์ ขมนิดหน่อย ลื่นคอ ดื่มได้เรื่อยๆ เป็นอีกหนึ่งเมนูหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ปิดท้ายทริปนี้ได้อย่างดีเลยทีเดียว