เพิ่งจะมี.
เมื่อเกิดเวทนาในปฏิจจสมุปบาท
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! บุคคล เมื่อไม่รู้ไม่เห็น ซึ่งจักษุ ตามที่เป็นจริง,
เมื่อไม่รู้ไม่เห็น ซึ่งรูปทั้งหลาย ตามที่เป็นจริง,
เมื่อไม่รู้ไม่เห็น ซึ่งจักขุวิญญาณ ตามที่เป็นจริง,
เมื่อไม่รู้ไม่เห็น ซึ่งจักขุสัมผัส ตามที่เป็นจริง,
เมื่อไม่รู้ไม่เห็น ซึ่งเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย (อวิชชา)
อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม ตามที่เป็นจริง แล้ว;
เขาย่อมกำหนัดในจักษุ, กำหนัดในรูปทั้งหลาย, กำหนัดในจักขุวิญญาณ, กำหนัดในจักขุสัมผัส,
และกำหนัดในเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย อันเป็นสุขก็ตาม
เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม
เมื่อบุคคลนั้นกำหนัดแล้ว ติดพันแล้ว ลุ่มหลงแล้ว จ้องมองต่ออัสสาทะอยู่, 👀
ปัญจุปาทานขันธ์ทั้งหลาย ย่อมถึงซึ่งความก่อเกิดต่อไป; 🧓🏼👵🏼.....💀💀...
และตัณหาของเขาอันเป็นเครื่องนำไปสู่ภพใหม่ อันประกอบอยู่ด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิน เป็นเครื่องทำให้เพลินอย่างยิ่งในอารมณ์นั้น ๆ ย่อมเจริญถึงที่สุด แก่เขา; ความกระวนกระวาย (ทรถ) แม้ทางกาย ย่อมเจริญถึงที่สุด แก่เขา,
ความกระวนกระวาย แม้ทางจิตย่อมเจริญถึงที่สุด แก่เขา; ความแผดเผา (สนฺตาป) แม้ทางกาย ย่อมเจริญถึงที่สุด แก่เขา,
ความแผดเผา แม้ทางจิต ย่อมเจริญถึงที่สุด แก่เขา; ความเร่าร้อน (ปริฬาห) แม้ทางกายย่อมเจริญถึงที่สุด แก่เขา,
ความเร่าร้อน แม้ทางจิต ย่อมเจริญถึงที่สุด แก่เขา, บุคคลนั้นย่อมเสวยซึ่งความทุกข์อันเป็นไป ทางกาย ด้วย, ซึ่งความทุกข์อันเป็นไปทางจิตด้วย.
....
.:ฯลฯ (โสตะ มานะ ชิาหา กายะ เช่นเดียวกัน)
.! บุคคล เมื่อไม่รู้ไม่เห็น ซึ่งมโน ...ในธัมมารมณ์ทั้งหลาย, ....ฯลฯ
ตามที่เป็นจริง,...ฯลฯ...ฯลฯ..บุคคลนั้น ย่อมเสวยซึ่งความทุกข์อันเป็นไปทางกายด้วย, ซึ่งความทุกข์อันเป็นไปทางจิตด้วย. (คืออวิชชาผ้สสะ).
.
.ป.ล
เมื่อไม่รู้ไม่เห็นแก่.ทุกข์ หรือยังไม่รู้จักตัวทุกข์เสียแล้ว ว่า" "เหตุใด? (เช่น ขันธมาร ....เป็นต้น) 👂👃🏿👅👥💔
...อะไรเป็นเครื่องก่อเกิดฯ. ภพจึงมีฯ(เช่น ใครฯตดวะ่ ีชาต🍠🥜...หรือปลาเน่าฯ 1เป็นต้น.)
แล้วอยากจะหลุดพ้นไปเพื่ออะไรเล่า (เช่น คนป่วยต้องการหมอผ่าตัดนั้นแหล.่) 👁 ชื่อว่า (เรา)ตถาคต. 🛣
- อุปริ.ม. ๑๔/๕๒๑/๘๒๖, ต.
.
be like:-
....
"Those who are healthy have no need for a physician, but those who are sick do.
- Mt 9:12
ว่าด้วย ปัญจุปาทานขันธ์.....
เมื่อเกิดเวทนาในปฏิจจสมุปบาท
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! บุคคล เมื่อไม่รู้ไม่เห็น ซึ่งจักษุ ตามที่เป็นจริง,
เมื่อไม่รู้ไม่เห็น ซึ่งรูปทั้งหลาย ตามที่เป็นจริง,
เมื่อไม่รู้ไม่เห็น ซึ่งจักขุวิญญาณ ตามที่เป็นจริง,
เมื่อไม่รู้ไม่เห็น ซึ่งจักขุสัมผัส ตามที่เป็นจริง,
เมื่อไม่รู้ไม่เห็น ซึ่งเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย (อวิชชา)
อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม ตามที่เป็นจริง แล้ว;
เขาย่อมกำหนัดในจักษุ, กำหนัดในรูปทั้งหลาย, กำหนัดในจักขุวิญญาณ, กำหนัดในจักขุสัมผัส,
และกำหนัดในเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย อันเป็นสุขก็ตาม
เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม
เมื่อบุคคลนั้นกำหนัดแล้ว ติดพันแล้ว ลุ่มหลงแล้ว จ้องมองต่ออัสสาทะอยู่, 👀
ปัญจุปาทานขันธ์ทั้งหลาย ย่อมถึงซึ่งความก่อเกิดต่อไป; 🧓🏼👵🏼.....💀💀...
และตัณหาของเขาอันเป็นเครื่องนำไปสู่ภพใหม่ อันประกอบอยู่ด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิน เป็นเครื่องทำให้เพลินอย่างยิ่งในอารมณ์นั้น ๆ ย่อมเจริญถึงที่สุด แก่เขา; ความกระวนกระวาย (ทรถ) แม้ทางกาย ย่อมเจริญถึงที่สุด แก่เขา,
ความกระวนกระวาย แม้ทางจิตย่อมเจริญถึงที่สุด แก่เขา; ความแผดเผา (สนฺตาป) แม้ทางกาย ย่อมเจริญถึงที่สุด แก่เขา,
ความแผดเผา แม้ทางจิต ย่อมเจริญถึงที่สุด แก่เขา; ความเร่าร้อน (ปริฬาห) แม้ทางกายย่อมเจริญถึงที่สุด แก่เขา,
ความเร่าร้อน แม้ทางจิต ย่อมเจริญถึงที่สุด แก่เขา, บุคคลนั้นย่อมเสวยซึ่งความทุกข์อันเป็นไป ทางกาย ด้วย, ซึ่งความทุกข์อันเป็นไปทางจิตด้วย.
....
.:ฯลฯ (โสตะ มานะ ชิาหา กายะ เช่นเดียวกัน)
.! บุคคล เมื่อไม่รู้ไม่เห็น ซึ่งมโน ...ในธัมมารมณ์ทั้งหลาย, ....ฯลฯ
ตามที่เป็นจริง,...ฯลฯ...ฯลฯ..บุคคลนั้น ย่อมเสวยซึ่งความทุกข์อันเป็นไปทางกายด้วย, ซึ่งความทุกข์อันเป็นไปทางจิตด้วย. (คืออวิชชาผ้สสะ).
.
.ป.ล
เมื่อไม่รู้ไม่เห็นแก่.ทุกข์ หรือยังไม่รู้จักตัวทุกข์เสียแล้ว ว่า" "เหตุใด? (เช่น ขันธมาร ....เป็นต้น) 👂👃🏿👅👥💔
...อะไรเป็นเครื่องก่อเกิดฯ. ภพจึงมีฯ(เช่น ใครฯตดวะ่ ีชาต🍠🥜...หรือปลาเน่าฯ 1เป็นต้น.)
แล้วอยากจะหลุดพ้นไปเพื่ออะไรเล่า (เช่น คนป่วยต้องการหมอผ่าตัดนั้นแหล.่) 👁 ชื่อว่า (เรา)ตถาคต. 🛣
- อุปริ.ม. ๑๔/๕๒๑/๘๒๖, ต.
.
be like:-
....
"Those who are healthy have no need for a physician, but those who are sick do.
- Mt 9:12