ว่าด้วยอาการที่ตัณหา (เครื่องนำไปสู่ภพใหม่)อายตนะ 6 เจริญขึ้น

กระทู้คำถาม
ภิกษุ ท. !  บุคคล เมื่อไม่รู้ไม่เห็น ซึ่ง จักษุ ตามที่เป็นจริง,  
เมื่อไม่รู้ไม่เห็น ซึ่ง รูป ทั้งหลาย ตามที่เป็นจริง,  
เมื่อไม่รู้ไม่เห็น ซึ่ง จักขุวิญญาณ ตามที่เป็นจริง,  
เมื่อไม่รู้ไม่เห็น ซึ่ง จักขุสัมผัส ตามที่เป็นจริง,
เมื่อไม่รู้ไม่เห็น ซึ่ง เวทนา อันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย  
อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม ตามที่เป็นจริง แล้ว ;  
เขาย่อมกำหนัดในจักษุ,  กำหนัดในรูปทั้งหลาย, กำหนัดในจักขุวิญญาณ,  
กำหนัดในจักขุสัมผัส,  และกำหนัดในเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย
อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม.  
เมื่อบุคคลนั้น กำหนัดแล้ว ติดพันแล้ว ลุ่มหลงแล้ว จ้องมองต่ออัสสาทะอยู่,  
ปัญจุปาทานขันธ์ทั้งหลาย ย่อมถึงซึ่งความก่อเกิดต่อไป ;  
และตัณหาของเขาอันเป็น เครื่องนำไปสู่ภพใหม่  อันประกอบอยู่ด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิน  
เป็นเครื่องทำให้เพลินอย่างยิ่งในอารมณ์นั้น ๆ นั้นย่อมเจริญถึงที่สุด แก่เขาแล้ว ;  ความกระวนกระวาย (ทรถ)  
แม้ทางกาย  ย่อมเจริญถึงที่สุดแก่เขา ,  ความกระวนกระวาย  แม้ทางจิต ย่อมเจริญถึงที่สุด แก่เขา ;  
ความแผดเผา (สนฺตาป)  แม้ทางกาย  ย่อมเจริญถึงที่สุด  แก่เขา,  ความแผดเผา  
แม้ทางจิต  ย่อมเจริญถึงที่สุด แก่เขา ;  ความเร่าร้อน (ปริฬาห)  แม้ทางกาย  ย่อมเจริญถึงที่สุดแก่เขา,  
ความเร่าร้อน  แม้ทางจิต  ย่อมเจริญถึงที่สุด  แก่เขา. บุคคลนั้น  ย่อมเสวยซึ่งความทุกข์อันเป็นไปทางกาย ด้วย,  
ซึ่งความทุกข์อันเป็นไปทางจิตด้วย.

            (ในกรณีแห่งหมวด  โสตะ ฆานะ ชิวหา กาย และมโน ก็ได้ตรัสไว้โดยทำนองเดียวกัน).
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่