[SR] รีวิวห้องอาหาร Amaya โรงแรม Amari WaterGate บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดสุดคุ้มคืนวันศุกร์ 1500++ มา 2 จ่ายแค่ 1 !

วันนี้เราได้รับการรับเชิญพิเศษจาก PR ของห้องอาหาร Amaya โรงแรม Amari WaterGate ให้เข้ามารีวิวกับเทศกาลอาหาร Sailor's Seafood Showdown บุฟเฟ่ต์จัดเต็มซีฟู๊ดสุดคุ้ม ทุกคืนวันศุกร์เวลา 18.00 น. ถึง 22:30 น.(ทานได้4.30 ชม.) ในราคา1,500++ โปรโมชั่นพิเศษมา 2 จ่ายแค่ 1 เท่านั้น โดยโปรโมชั่นนี้มีถึงแค่สิ้นเดือนตุลาคมปี 2562 นี้เท่านั้น ส่วนอาหารซีฟู้ดจะสด/ใหญ่/จัดเต็มแค่ไหนเราไปดูที่ไลน์อาหารด้านในกันเลยครับ 

ห้องอาหารของที่โรงแรมนี้ค่อนข้างใหญ่โต (ทั้งชั้น 3 นี้ถือว่าเป็นห้องอาหาร Amaya เกือบทั้งหมด) มีการประ ดับตกแต่งแต่ละมุมสวยงามแตกต่างกัน มากับเพื่อนฝูงหรือครอบครัวก็สามารถเลือกโต๊ะนั่งได้ตามสะดวกเลยครับ

เลี้ยวขวาเข้าห้องอาหารมา ก็จะพบกับโซนแรกเป็นอาหารจีนและไทย โดยไฮไลท์ของมุมนี้คือผัดไทย ที่ผัดสดจานต่อจาน มีแต่เมนูผัดไทยกุ้งสดเส้นจันทร์ (ใครอยากทานผัดไทยใส่เนื้อกุ้งแม่น้ำ/ปูอลาสก้า ก็สามารถแกะเอาเฉพาะเนื้อให้เชฟทำพิเศษได้) และอาหารพร้อมทานอีกเพียบ มีอะไรให้ทานบ้าง ? เดี๋ยวเรามาเปิดหม้อไล่ดูกันไปเลย

เริ่มกันด้วยโซนซุปและอาหารจีน โดยซุปที่นี่มีให้เลือกทั้งหมด 2 เมนูคือซุปกระเพาะปลา(ที่ใส่กระเพาะปลามาเต็มแน่นหม้อ)และซุปต้มยำกุ้งแม่น้ำ ถัดมาจะเป็นฮะเก๋ากุ้งนึ่งร้อนๆและซาลาเปาอีก 3 ไส้ (หมูแดง/หมูสับและครีม)

อาหารทานเล่นยังมีอีกเพียบทั้ง ข้าวผัดไข่/เนื้อผัดเสฉวน(ใส่พริกและเครื่องสมุนไพรจีนฉุนเผ็ดอร่อย)/คะน้าเจี๋ยนน้ำมันหอย (ที่มีความคล้ายกับราดหน้าใส่เห็ดฟางและไข่ น้ำข้นไม่มีเส้น)/ปลาทอดสามรสสไตล์ไทย(รสเปรี้ยวหวานอมเห็ดหอมเครื่องสมุนไพร)/ปลาหมึกผัดไข่เค็ม/แกงมัสมั่นไก่(อร่อยเข้มข้นทานกับข้าวสวยยิ่งเข้ากันสุดๆ)/แคบหมูกรอบ/ปลากรอบแบบหวานทอด(เอาไว้ทานกับน้ำพริกที่อยู่ข้างๆกัน)/น้ำพริกหลนไก่/น้ำพริกหนุ่ม(พร้อมผักต้ม)/ไก่แช่เหล้า(ทานกับพริกเผาสไตล์จีน)/ลาบเป็ด/ยำซีฟู้ดรวมเครื่องแน่น/สุดท้ายเป็นเมนูส้มตำที่เรานั้นสามารถสั่งเชฟตำให้เราทานได้ (ใครจะดัดแปลงเป็นเมนูตำทะเลก็สามารถแกะเนื้อกุ้ง/เนื้อปูมาให้ทำได้เช่นเดียวกันนะครับ) 

โซนต่อมาเป็นสเต็กย่างร้อนและอาหารฝรั่งพร้อมทาน โดยเราสามารถนำใบสั่งอาหารที่เป็นเลขที่โต๊ะของเรายื่นให้กับเชฟและสั่งสเต็กต่างๆตรงนี้ได้เลยทันที มีให้เลือกทั้งหมูสันนอก/เนื้อวัวส่วน Sirloin/ปลาแซลมอน/หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์/ปลาหมึก/กั้งกระดาน/กุ้งแม่น้ำ พร้อมกับซอสสำหรับการกับสเต็กที่หลากหลาย โดยเชฟจะย่างให้ทานสดๆจากมุมนี้ (บางเมนูเท่านั้นนะ) บางเมนูก็ย่างไว้ให้พร้อมทานแล้ว จะมีอะไรบ้างที่ตักได้เลย ? ไปดูกันครับ

เริ่มจากปาปาดัมหรือข้าวเกรียบอินเดีย(ทำไมเอามาวางไว้ตรงนี้ ? เหลือบไปมองข้างๆมีอาหารอินเดียอยู่เดี๋ยวเราค่อยไปดูกันครับ) ในหม้อที่เรียงกันด้านหน้าโซนสเต็กจะเป็นเมนูพร้อมทานอย่าง สเต็กปลาแซลมอน/กั้งกระดานเผา / ปลาหมึกเผา / หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ย่างเนย/ ผักรวมย่าง / ซุปฟักทองและขนมปังหลากชนิด สำหรับทานกับซุปฟักทองหรือทาเนยทานเปล่าๆก็ได้ ส่วนเมนูที่เป็นเนื้อชิ้นใหญ่ตัดแบ่งเป็นจานๆ วันนี้มีเป็นไก่อบตัวขนาดปานกลาง สามารถเลือกส่วนได้ว่าจะทานตรงส่วนไหน พร้อมกับน้ำจิ้ม 4 แบบ (บาร์บีคิว/พริกไทยดำ/เนยกระเทียม/ซอสเห็ด) อบมาหนังกรอบเนื้อข้างในชุ่มฉ่ำควันหอมฉุย (แต่เราไม่ได้ตักมาทานเพราะเก็บท้องไว้กินอย่างอื่นดีกว่า)

โซนต่อมาเป็นสารพัดเมนูปู ที่เรียกว่าเป็นไฮไลท์ของห้องอาหารนี้ มีให้เลือกทั้งปูม้า/ปูดำหรือปูเนื้อ/ปูนิ่มทอด/ข้าวผัดปู/กุ้งและปลาย่างสไตล์อินเดีย (สำหรับทานกับข้าวเกรียบอินเดียเมื่อกี้) โดยสามารถสั่งให้นำเนื้อปูไปย่างถ่าน หรือทำเมนูพิเศษอย่างผัดซอสพริกไทยดำ/ผัดซอสพริกสไตล์สิงคโปร์/หรือผัดผงกะหรี่ โดยจะเลือกใช้ปูชนิดใดจากตรงนี้ก็ได้ (วันนี้ผมเลือกเป็นปูนิ่มทั้งหมดครับ เพราะทานง่ายดี) เมื่อเราสั่งปุ๊บ เชฟก็จะผัดให้เราสดๆจานต่อจาน(ยืนรอรับได้เลย) รสชาติซอสค่อนข้างเข้มข้น แนะนำว่าให้ทานกับข้าวสวยจะดีกว่า ไม่งั้นจะรู้สึกเค็มเกินไปนะจ๊ะ

ต่อกันด้วยโซนที่อลังการที่สุดและถือว่าเป็นไฮไลท์ใหญ่ของห้องอาหารนี้ นั่นก็คือ Seafood On Ice ที่มีให้เลือกทานตั้งแต่ปลาหมึกขาว / กุ้งขาว / กั้งกระดาน / ปูม้า / กุ้งลายเสือ / หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ / หอยแมลงภู่ชิลี / ปูอลาสก้า / ปูเนื้อหรือปูดำ / หอยตลับ / หอยหลอด / หอยหวาน รวมไปถึงหอยนางรมแปซิฟิก(ตัวอวบใหญ่เนื้อเยอะเต็มฝา) ใครอยากทานซีฟู๊ดเมนูอะไรก็ตักได้เต็มที่ (ยกเว้นกุ้งล็อบสเตอร์ที่วางอยู่ 1 ตัวตรงนั้นนะครับ เป็น การประดับเอาไว้เฉยๆ แต่จะมีให้ทานอยู่ในบุฟเฟ่ต์คนละครึ่งตัว ส่วนเงื่อนไขเป็นอย่างไรเดี๋ยวค่อยตามไปดูกันครับ)

กลับหลังหันมาก็จะพบกับโซนชีสก้อนและสลัด โดยโซนชีสของที่นี่ต้องบอกเลยว่าอลังการงานสร้าง มีให้เลือกหลากหลายชนิด พร้อมกับผลไม้แห้งและเครื่องเคียงอีกหลาย ใครที่เป็นสายชีสมาที่นี่ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ต่อกันด้วยโซนสลัดที่รวมถึงเมนู Cold Cut ด้วย (แซลมอนรมควัน / โบโลน่าไก่ / Beef Pastrami) สลัดสำหรับพร้อมทาน 3 ชนิด (Apple Salad / Couscous / Seafood Salad) ตามด้วยเครื่องและผักสดๆ สำหรับปรุงรสสลัดต่างๆได้ตามใจ (มีน้ำสลัดให้เลือกถึง 4 แบบ) ใครอยากทานอะไรมาก-น้อย จับใส่ชามแล้วคลุกผสมเองเลยครับผม 

ครั้งก่อนหน้านี้เรามาบุฟเฟ่ต์ Sunday Brunch ที่ห้องอาหารนี้ จำได้ว่าโซนอาหารญี่ปุ่นของที่นี่มีให้เลือกแค่ ซูชิโรลหลากสีสันเพียงอย่างเดียว แต่ตอนนี้เขามีการพัฒนาแล้ว เพราะมีให้เลือกทานทั้งซาชิมิ(แซลมอน/ซาบะดอง/ปูอัด/ไข่หวาน/กระพง และซูชิต่างๆที่หลายหน้ามากขึ้น ทั้งซูชิหน้าปลาแซลมอนซูชิ/ซูชิหน้าปลาซาบะดอง/ข้าวห่อสาหร่าย/California Roll และซูชิกุ้งต้ม ถึงแม้ว่าจะไม่ได้จัดเต็มแบบห้องอาหารอื่นๆ แต่ก็ถือว่าพัฒนามากขึ้นครับ

โซนของคาวหมดไปแล้ว เริ่มเข้าสู่โซนผลไม้และของหวานกันบ้าง โดยผลไม้ที่นี่ก็คล้ายกับหลายโรงแรมทั่วไปแต่ที่แตกต่างเลยก็คือมีเงาะปอกเปลือกพร้อมทาน(ใครที่เจอเสี้ยนตรงเม็ดเงาะที่นี่หมดปัญหา)และราสเบอรี่สดวางไว้ให้เป็นถาดทานได้ไม่อั้น (ประโยชน์จากราสเบอร์รี่มีเยอะมาก วางไว้ให้แบบนี้ดีงามสุดๆ) ถัดมาหน่อยก็จะเป็นซุ้มขนมหวานที่มีให้เลือกตั้งแต่น้ำแข็งใสพร้อมน้ำเชื่อมและท๊อบปิ้งต่างๆ / ขนมไทยหลากหลายชนิด / แพนนาคอตต้าในตู้เย็น / เค้กต่างๆและฟองดูช็อกโกแลต ส่วนไอศครีมของที่นี่ก็มีให้เลือกทั้งหมด 4 รสชาติได้แก่ รสเสาวรส/ไอศครีมนมแต่เป็นสีดำชาโคล/ไอศครีมคาราเมล/และไอศครีมมะม่วงแบบSorbet จะตักใส่ถ้วยหรือโคนก็ได้ ข้างๆกันเป็นขนมชิ้นเล็กๆและท็อปปิ้งสำหรับแต่งหน้าไอศครีม ปิดท้ายด้วยขนมไทยหม้อร้อน วันนี้มีให้ทานเป็นกล้วยบวชชี/มันเชื่อม ขนมหวานเสิร์ฟร้อนสไตล์ฝรั่งอย่างเค้กช็อกโกแลต นอกจากนี้ยังมีลอดช่องเย็นๆ/ขนมขาไก่ให้ทานอีกด้วย

****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ ******
ชื่อสินค้า:   เทศกาล Sailor's Seafood Showdown ห้องอาหาร Amaya โรงแรม Amari WaterGate
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่