ครับ ... ตามหัวข้อเลย วิ่งสะสมครบ 1,000 + km. แรก ในเวลา 1 ปี จากคนที่ไม่ชอบวิ่งเลย ได้อะไรมากกว่าที่คิด กระทู้แรกในชีวิต ขอรหัสจากภรรยา เรื่องราวดีๆ ที่อยากแบ่งปัน ไม่รู้ว่าอยู่หมวดไหน หลายเรื่องเกิน เผื่อเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังพยายามอยู่ตอนนี้ครับ
“คนที่มันอ้วนมาก แล้วมันลดน้ำหนักได้นะ พอทำอะไร มันมักมีโอกาสที่จะทำสำเร็จ” ประโยคจาก Director เจ้านายบริษัทฝรั่ง บริษัทแรกที่เริ่มชีวิตทำงาน ได้กล่าวไว้ในวงเหล้า แน่นอนตอนนั้น ไม่อิน เพราะทำงานใหม่ๆ ไม่ได้อ้วนมาก ใส่เสื้อเบอร์ M เอว 32” ก็พอได้อยู่ วลีนี้ไม่เกี่ยวกับเรา ชีวิตทำงานผู้แทนขายก็ได้ดำเนินต่อไป ต่อเนื่องเรื่อยๆ จนร่างกายก็ได้เปลี่ยนแปลงไปตามวิถีแห่งเสือ งานบริษัท ลูกค้า เพื่อนฝูง ทำงานเครียด เหนื่อย มีเงินเดือนใช้ดื่ม อาหาร คาวหวานจัดเต็ม จากผู้ชายไซส์ M กลายเป็นไซส์ L โดยปริยาย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะมีแฟนภรรยาที่เข้าใจ ตอนแต่งงานก็ตั้งใจอยู่นิด ลดได้ซัก 2 kg พอใส่สูทได้ ...
และจุดเปลี่ยนก็มาถึง กันยายน 2561 เมื่อตัวเองจำเป็นต้องเปลี่ยนไซส์กางเกง จากเดิม 32” ที่กลายเป็น 36” มานานและจาก 36” กำลังจะถูกเปลี่ยนเป็นอะไรก็ไม่รู้ .. นี่เราต้องเปลี่ยนไซส์กางเกงไปเรื่อยๆ หรือว่ะ คำถามในหัว มองดูกางเกงสีดำในตู้เสื้อผ้า กางเกงที่ใส่ไม่ได้ถูกพับเก็บไว้อย่างดี แล้วกำลังจะไปซื้อกางเกงใหม่อีก มันกี่บาทฟ่ะ ..ต้องลดน้ำหนักจริงจังแล้วว่ะ โอกาสนี้ล่ะ พิสูจน์ตัวเองหน่อย คำพูดของอดีต Director เริ่มลอยมา ประกอบกับกระแสพี่ตูนเริ่มดัง พรุ่งนี้เช้าลงไปวิ่งเลย ตีห้า ตามทฤษฎีการกระทำต่อเนื่อง 28 วัน สร้างนิสัยใหม่ ร่วมกับตื่นนอนตรงเวลาเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งหมด (อ่านหนังสือเยอะ ) ต้องตื่นเช้าลุกมาวิ่งนี้แร่ะ ง่ายดี ทำได้ เจ๋ง.. Just Do It !!!
วันแรก 28 กันยายน 2661 วิ่งครั้งแรก 2 -3 km. เหนื่อยสัด หอบ คือปกติก็เล่นกีฬานะ แต่เรื่องวิ่งนี่ไม่เอาเลย เป็นกีฬาน่าเบื่อ เล่นคนเดียว ไม่ได้คุยกับใคร เคยวิ่งบ้าง พบว่าทรมานสุดๆ แต่วันนี้ก็ลากได้ 40 นาที ภูมิใจที่ตัวเองเริ่มต้นได้ ตื่นเช้าได้ตามสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเอง ตีห้าโพสเฟสบุ๊ค อวดคนอื่น กรูตื่นมาวิ่งเฟ้ย เท่เปล่า !!! เป็นวิธีหากำลังใจ ดูสื่อ วิดีโอประโยชน์ของการวิ่ง นิ้วกลมนี่แร่ะตัวดี สร้างแรงบันดาลใจสุดๆ แน่นอนไม่หยุดเลย คือบังคับตัวเองตื่นนอนทุกวัน มันยังไม่อัตโนมัติไง ไปทำงานก็ง่วงสุดๆ เพื่อนบอกตาคล้ำนะ บอกเพื่อนไป กูตื่นมาวิ่งเว้ย เท่ห์สัด !! ซักพักเริ่มมั่นใจ ไปอวดรูปวิ่งให้รุ่นพี่สายวิ่งในบริษัท ผมสายวิ่งนะพี่ แล้ววิ่งได้ pace ไหนแล้ว รู่นพี่ถาม อะไรว่ะ pace ?!? ..วิ่ง 1 km. ใช้เวลาเท่าไร ตอบไปว่า 10 นาที อันนั้นเค้าเรียกเดิน Oh! เจ็บจิ๊ด แล้วต้องยังไงอ่ะ เค้าบอกเดี๋ยววิ่งให้ผ่าน 100 km. จะวิ่งได้เร็วขึ้น เอาซัก pace 7 นิดๆ น้ำหนักจะลงด้วย ตัวเบาขึ้น .. ครับๆ มีศัพย์เยอะเนาะ 55
หลังจากนั้น ก็วิ่งทุกวัน ทำต่อเนื่องได้ 28 วันจริงๆ ผลคือน้ำหนักลด 3 kg. ดีใจมาก มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย แต่ที่ภูมิใจกว่าคือการสัญญากับตัวเองว่าต้องตื่นมาวิ่งต่อเนื่องให้ได้ 28 วัน เราทำได้ !!! เราตื่นเช้าได้ ไม่เกิน 05.30 น. มาเกือบเดือน มีเหงื่อทุกเช้าก่อนไปทำงาน ปฎิเสธสิ่งที่ทำร้ายร่างกาย ของหวาน ของทอด มื้อส่วนเกิน ตื่นมาวิ่งขนาดนี้ ยังจะกินเข้าไปอีกหรอ ที่ทำมาเหนื่อยเปล่านะเฟ้ย เชรดด...กลายเป็นคนรักตัวเอง 555 ..จาก 28 วันกลายเป็น 120 วัน วิ่งสม่ำเสมอทุกเช้า 5 วันต่อสัปดาห์ พร้อมนาฬิกา Amafit pace 3,xxx บาท มี GPS คุ้มค่ามาก เพราะไม่กล้าซื้อ garmin แพง บวกรองเท้าไนกี้ลดราคา 2,xxx ก็ใช้ได้นะ ผ่านไป 4 เดือน น้ำหนักลด 6 kg เฟ้ย กางเกงหลวม เสื้อหลวม ใส่กางเกงตัวอดีตได้ว่ะ รูปร่างดีขึ้น ช่วงนี้มีแต่คนทักว่าผอม ซื้อเสื้อใหม่ไซส์ M ภูมิใจสุดๆ กลับมาเป็นผู้ชายไซส์ M แล้ว ในรอบ 5 ปี .. เยี่ยมม
แต่ในช่วง 4 เดือน ยอมรับว่ามีหลุดบ้าง ช่วงต้นปี จะมีงานเลี้ยงปีใหม่เยอะ หาเวลาวิ่งไม่ได้ และเริ่มเบื่อๆ จากธันวาคม 61 ทั้งเดือน วิ่งได้ 123 km. เดือนมกราคม 62 วิ่งได้ 63 km. กุมภาพันธ์ 62 วิ่งได้ 42 km. คือน้ำหนักมันลงแล้วไง ไม่ตื่นเต้นแล้ว ถ้าปล่อยไป ไม่รอด ต้องหาวิธีการ ?!? จำได้ว่าตอนกลับบ้านช่วงปีใหม่ มีเพื่อนสมัยมัธยมเริ่มมาวิ่งกัน 2-3 คน ตอนนั้นมันวิ่งไม่ถึง 5 km. เราก็โม้ใส่ กู 10 km. แล้วนะ มาๆ วิ่งด้วยกัน (ทำเป็นโปร 55) กลับมา กทม. งั้นตั้งกลุ่มเฟสบุ๊ควิ่งดีกว่า เอาไว้โอ้อวด ส่งการบ้าน สร้างแรงบันดาลใจให้กันและกัน จะได้สนุก กลุ่มนี้น่าจะเริ่มจากเพื่อนรุ่นเดียวกันกับรุ่นน้อง รวมกันได้ 10 คน ในเดือนกุมภาพันธ์ 62 ปัจจุบันกันยายน 62 มีสมาชิกหลากหลายอายุ 1x-5x ปี รวมกัน 87 คน แถมมีเสื้อวิ่งประจำกลุ่มลายภูไท ออกแบบกันเอง และไอ้ที่ชวนมันวิ่ง ไปโม้มัน ปัจจุบันมันไปซับ1 กันหมดแล้ววว เจ๋งสุดๆ !! ที่สุดกว่า เพื่อนนักวิ่งมือใหม่เข้ากลุ่มได้ 2-3 เดือน มันไปได้รางวัลอันดับ 3 วิ่ง 15 km. pace 4.46 -ยาบ้าใช่มั้ย !!!
ปัจจุบันผ่านเรื่องราวการวิ่งมา 1 ปี สะสมระยะ 1,0xx km. จากน้ำหนัก 79.5 kg. ปัจจุบัน 70.5 kg. วิ่ง Tempo pace 6.1x-6.3x HR avg 15x กำลังลงรายการวิ่ง Half Maraton 21.5 km. แรก เป้าหมายต่อไป จบ Full Maraton 42.195 km.ในปี 2563 และก็จะไปลองสายปีนป่ายภูเขา ไม่มีเป้าหมายเรื่องเวลาสถิติ วิ่งให้สนุกและมีความสุข ตอนนี้ได้ออกกำลังกายกับภรรยาร่วมกัน 1 ชั่งโมงนิด ก็ดีงามมากแล้ว (ภรรยา PB -12 km pace 6.28)
#บทเรียน จาก 1,000 km ถ้าคิดเป็นเวลาน่าจะ 7,000 นาที มันคงไม่ใช่การสะสมระยะทาง แต่มันเป็นการสะสมเรื่องราว ใน 7,000 นาทีต่างหาก ..พุงที่หายไป ไขมันที่ลดลง เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อและหัวใจมากขึ้น ตัวเบา สบาย ไม่เหนื่อยง่าย นอนหลับสนิท มันกลับมีนิสัยที่เพิ่มขึ้นอีก คือนิสัย #วินัย วินัยมันจะพาเราไปหาทุกอย่าง ปัจจุบันตื่นนอนไม่เกิน 05.30 น. วิ่ง อาบน้ำ ออกจากห้องไปทำงาน ทำอย่างนี้มา 1 ปี เริ่มทำงาน 9.00 โมง ด้วยมันสมองที่ Productive สุดๆ เพราะสมองมันเริ่มทำงาน คุยกับตัวเองตั้งแต่วิ่งแล้ว บวกกาแฟดำ 1 แก้ว แล่นสุดๆ
#สอง คือความมั่นใจและความภาคภูมิใจในตัวเอง การพาตัวเองออกจากเตียงนอน ในสภาวะร่างกายต้องการนอน มันเป็นอะไรที่ยากสุดๆ แต่เราก็ทำได้ แน่นอนไม่มีใครช่วยดึง #ใจเราเองต่างหากที่ดึงเราขึ้นไป ชนะอุปสรรคในใจ ภาษาหนังสือ เรียกว่า Small Win มันคือการต่อสู้กับตัวเอง แล้วชนะ ทำสำเร็จไปแล้ว 1 อย่าง ในการเริ่มต้นวันใหม่ มันจะส่งเสริมความมั่นใจเราไปทั้งวัน การทำแบบนี้ซ้ำๆ ทุกวัน สุดท้าอะไรที่ว่ายาก ก็กลายเป็นเรื่องง่าย ทัศนคติเชิงบวกเริ่มมา ไม่มีอะไรยากหรอก ถ้าเราตั้งใจ ทำได้หมดแร่ะ ..ฮึบๆ
#สาม คือมิตรภาพ สังเกตว่าสังคมนักวิ่งคือสังคมมิตรภาพ เรามักเห็นนักวิ่งเป็นคนอัธยาศัยดี ผูกมิตรได้รวดเร็ว ส่วนหนึ่งของ 7,000 นาที นอกจากการวิ่งคนเดียวคือการเจอมิตรผูกสัมพันธ์ จริงๆ ไม่ต้องวิ่งด้วยกันก็ได้นะ แค่นั่งคุยเรื่องวิ่ง ก็เหมือนรู้จักกันมานาน 555 ..ส่วนตัวไม่ค่อยเห็นคนเกลียดนักวิ่ง อารมณ์นักวิ่งจะมั่นคง ไม่โมโหง่าย ไม่มีอิจฉาริษยา (นอกจากเรื่องรองเท้าอุปกรณ์ ) เพราะนักวิ่งมีนิสัยเชื่อมั่นในพลังตัวเอง สร้างผลงานด้วยตัวเอง การยุ่งเรื่องคนอื่นเป็นเรื่องเสียเวลา เอาเวลาคุณภาพไปอยู่กับคนที่เรารัก พัฒนาตัวเอง สร้างสิ่งดีๆ ดีกว่า.
ย้อนกลับมาเรื่องคำพูดของ Director ความลับของการลดน้ำหนักมันคือเรื่องของความพยายามและวินัย ปลายทางคือตัวเลขน้ำหนัก ถ้าไม่ตั้งใจพอ ไม่มีทางแน่ อดอาหารก็อาจกลับมาอยู่ดี เพราะพื้นฐานจิตใจไม่มี เช่นกันกับนักกีฬาวิ่งระดับ Maraton ต้องฝึกฝน ตรากตำ มุ่งมั่นและวินัย ยกระดับจิตใจขึ้นมา ดังนั้นเมื่อมาตั้งใจวิ่งแล้ว ชีวิตเราจะเปลี่ยนไป #มันจะดึงดูดคนประเภทเดียวกันเข้ามาอีกหลายๆคน
#วิ่งแล้วชีวิตเปลี่ยน #รักใครให้ชวนมาวิ่ง #KwRunner
รีวิว วิ่งสะสมครบ 1,000 + km. แรก ในเวลา 1 ปี จากคนที่ไม่ชอบวิ่งเลย ได้อะไรมากกว่าที่คิด
“คนที่มันอ้วนมาก แล้วมันลดน้ำหนักได้นะ พอทำอะไร มันมักมีโอกาสที่จะทำสำเร็จ” ประโยคจาก Director เจ้านายบริษัทฝรั่ง บริษัทแรกที่เริ่มชีวิตทำงาน ได้กล่าวไว้ในวงเหล้า แน่นอนตอนนั้น ไม่อิน เพราะทำงานใหม่ๆ ไม่ได้อ้วนมาก ใส่เสื้อเบอร์ M เอว 32” ก็พอได้อยู่ วลีนี้ไม่เกี่ยวกับเรา ชีวิตทำงานผู้แทนขายก็ได้ดำเนินต่อไป ต่อเนื่องเรื่อยๆ จนร่างกายก็ได้เปลี่ยนแปลงไปตามวิถีแห่งเสือ งานบริษัท ลูกค้า เพื่อนฝูง ทำงานเครียด เหนื่อย มีเงินเดือนใช้ดื่ม อาหาร คาวหวานจัดเต็ม จากผู้ชายไซส์ M กลายเป็นไซส์ L โดยปริยาย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะมีแฟนภรรยาที่เข้าใจ ตอนแต่งงานก็ตั้งใจอยู่นิด ลดได้ซัก 2 kg พอใส่สูทได้ ...
และจุดเปลี่ยนก็มาถึง กันยายน 2561 เมื่อตัวเองจำเป็นต้องเปลี่ยนไซส์กางเกง จากเดิม 32” ที่กลายเป็น 36” มานานและจาก 36” กำลังจะถูกเปลี่ยนเป็นอะไรก็ไม่รู้ .. นี่เราต้องเปลี่ยนไซส์กางเกงไปเรื่อยๆ หรือว่ะ คำถามในหัว มองดูกางเกงสีดำในตู้เสื้อผ้า กางเกงที่ใส่ไม่ได้ถูกพับเก็บไว้อย่างดี แล้วกำลังจะไปซื้อกางเกงใหม่อีก มันกี่บาทฟ่ะ ..ต้องลดน้ำหนักจริงจังแล้วว่ะ โอกาสนี้ล่ะ พิสูจน์ตัวเองหน่อย คำพูดของอดีต Director เริ่มลอยมา ประกอบกับกระแสพี่ตูนเริ่มดัง พรุ่งนี้เช้าลงไปวิ่งเลย ตีห้า ตามทฤษฎีการกระทำต่อเนื่อง 28 วัน สร้างนิสัยใหม่ ร่วมกับตื่นนอนตรงเวลาเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งหมด (อ่านหนังสือเยอะ ) ต้องตื่นเช้าลุกมาวิ่งนี้แร่ะ ง่ายดี ทำได้ เจ๋ง.. Just Do It !!!
วันแรก 28 กันยายน 2661 วิ่งครั้งแรก 2 -3 km. เหนื่อยสัด หอบ คือปกติก็เล่นกีฬานะ แต่เรื่องวิ่งนี่ไม่เอาเลย เป็นกีฬาน่าเบื่อ เล่นคนเดียว ไม่ได้คุยกับใคร เคยวิ่งบ้าง พบว่าทรมานสุดๆ แต่วันนี้ก็ลากได้ 40 นาที ภูมิใจที่ตัวเองเริ่มต้นได้ ตื่นเช้าได้ตามสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเอง ตีห้าโพสเฟสบุ๊ค อวดคนอื่น กรูตื่นมาวิ่งเฟ้ย เท่เปล่า !!! เป็นวิธีหากำลังใจ ดูสื่อ วิดีโอประโยชน์ของการวิ่ง นิ้วกลมนี่แร่ะตัวดี สร้างแรงบันดาลใจสุดๆ แน่นอนไม่หยุดเลย คือบังคับตัวเองตื่นนอนทุกวัน มันยังไม่อัตโนมัติไง ไปทำงานก็ง่วงสุดๆ เพื่อนบอกตาคล้ำนะ บอกเพื่อนไป กูตื่นมาวิ่งเว้ย เท่ห์สัด !! ซักพักเริ่มมั่นใจ ไปอวดรูปวิ่งให้รุ่นพี่สายวิ่งในบริษัท ผมสายวิ่งนะพี่ แล้ววิ่งได้ pace ไหนแล้ว รู่นพี่ถาม อะไรว่ะ pace ?!? ..วิ่ง 1 km. ใช้เวลาเท่าไร ตอบไปว่า 10 นาที อันนั้นเค้าเรียกเดิน Oh! เจ็บจิ๊ด แล้วต้องยังไงอ่ะ เค้าบอกเดี๋ยววิ่งให้ผ่าน 100 km. จะวิ่งได้เร็วขึ้น เอาซัก pace 7 นิดๆ น้ำหนักจะลงด้วย ตัวเบาขึ้น .. ครับๆ มีศัพย์เยอะเนาะ 55
หลังจากนั้น ก็วิ่งทุกวัน ทำต่อเนื่องได้ 28 วันจริงๆ ผลคือน้ำหนักลด 3 kg. ดีใจมาก มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย แต่ที่ภูมิใจกว่าคือการสัญญากับตัวเองว่าต้องตื่นมาวิ่งต่อเนื่องให้ได้ 28 วัน เราทำได้ !!! เราตื่นเช้าได้ ไม่เกิน 05.30 น. มาเกือบเดือน มีเหงื่อทุกเช้าก่อนไปทำงาน ปฎิเสธสิ่งที่ทำร้ายร่างกาย ของหวาน ของทอด มื้อส่วนเกิน ตื่นมาวิ่งขนาดนี้ ยังจะกินเข้าไปอีกหรอ ที่ทำมาเหนื่อยเปล่านะเฟ้ย เชรดด...กลายเป็นคนรักตัวเอง 555 ..จาก 28 วันกลายเป็น 120 วัน วิ่งสม่ำเสมอทุกเช้า 5 วันต่อสัปดาห์ พร้อมนาฬิกา Amafit pace 3,xxx บาท มี GPS คุ้มค่ามาก เพราะไม่กล้าซื้อ garmin แพง บวกรองเท้าไนกี้ลดราคา 2,xxx ก็ใช้ได้นะ ผ่านไป 4 เดือน น้ำหนักลด 6 kg เฟ้ย กางเกงหลวม เสื้อหลวม ใส่กางเกงตัวอดีตได้ว่ะ รูปร่างดีขึ้น ช่วงนี้มีแต่คนทักว่าผอม ซื้อเสื้อใหม่ไซส์ M ภูมิใจสุดๆ กลับมาเป็นผู้ชายไซส์ M แล้ว ในรอบ 5 ปี .. เยี่ยมม
แต่ในช่วง 4 เดือน ยอมรับว่ามีหลุดบ้าง ช่วงต้นปี จะมีงานเลี้ยงปีใหม่เยอะ หาเวลาวิ่งไม่ได้ และเริ่มเบื่อๆ จากธันวาคม 61 ทั้งเดือน วิ่งได้ 123 km. เดือนมกราคม 62 วิ่งได้ 63 km. กุมภาพันธ์ 62 วิ่งได้ 42 km. คือน้ำหนักมันลงแล้วไง ไม่ตื่นเต้นแล้ว ถ้าปล่อยไป ไม่รอด ต้องหาวิธีการ ?!? จำได้ว่าตอนกลับบ้านช่วงปีใหม่ มีเพื่อนสมัยมัธยมเริ่มมาวิ่งกัน 2-3 คน ตอนนั้นมันวิ่งไม่ถึง 5 km. เราก็โม้ใส่ กู 10 km. แล้วนะ มาๆ วิ่งด้วยกัน (ทำเป็นโปร 55) กลับมา กทม. งั้นตั้งกลุ่มเฟสบุ๊ควิ่งดีกว่า เอาไว้โอ้อวด ส่งการบ้าน สร้างแรงบันดาลใจให้กันและกัน จะได้สนุก กลุ่มนี้น่าจะเริ่มจากเพื่อนรุ่นเดียวกันกับรุ่นน้อง รวมกันได้ 10 คน ในเดือนกุมภาพันธ์ 62 ปัจจุบันกันยายน 62 มีสมาชิกหลากหลายอายุ 1x-5x ปี รวมกัน 87 คน แถมมีเสื้อวิ่งประจำกลุ่มลายภูไท ออกแบบกันเอง และไอ้ที่ชวนมันวิ่ง ไปโม้มัน ปัจจุบันมันไปซับ1 กันหมดแล้ววว เจ๋งสุดๆ !! ที่สุดกว่า เพื่อนนักวิ่งมือใหม่เข้ากลุ่มได้ 2-3 เดือน มันไปได้รางวัลอันดับ 3 วิ่ง 15 km. pace 4.46 -ยาบ้าใช่มั้ย !!!
ปัจจุบันผ่านเรื่องราวการวิ่งมา 1 ปี สะสมระยะ 1,0xx km. จากน้ำหนัก 79.5 kg. ปัจจุบัน 70.5 kg. วิ่ง Tempo pace 6.1x-6.3x HR avg 15x กำลังลงรายการวิ่ง Half Maraton 21.5 km. แรก เป้าหมายต่อไป จบ Full Maraton 42.195 km.ในปี 2563 และก็จะไปลองสายปีนป่ายภูเขา ไม่มีเป้าหมายเรื่องเวลาสถิติ วิ่งให้สนุกและมีความสุข ตอนนี้ได้ออกกำลังกายกับภรรยาร่วมกัน 1 ชั่งโมงนิด ก็ดีงามมากแล้ว (ภรรยา PB -12 km pace 6.28)
#บทเรียน จาก 1,000 km ถ้าคิดเป็นเวลาน่าจะ 7,000 นาที มันคงไม่ใช่การสะสมระยะทาง แต่มันเป็นการสะสมเรื่องราว ใน 7,000 นาทีต่างหาก ..พุงที่หายไป ไขมันที่ลดลง เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อและหัวใจมากขึ้น ตัวเบา สบาย ไม่เหนื่อยง่าย นอนหลับสนิท มันกลับมีนิสัยที่เพิ่มขึ้นอีก คือนิสัย #วินัย วินัยมันจะพาเราไปหาทุกอย่าง ปัจจุบันตื่นนอนไม่เกิน 05.30 น. วิ่ง อาบน้ำ ออกจากห้องไปทำงาน ทำอย่างนี้มา 1 ปี เริ่มทำงาน 9.00 โมง ด้วยมันสมองที่ Productive สุดๆ เพราะสมองมันเริ่มทำงาน คุยกับตัวเองตั้งแต่วิ่งแล้ว บวกกาแฟดำ 1 แก้ว แล่นสุดๆ
#สอง คือความมั่นใจและความภาคภูมิใจในตัวเอง การพาตัวเองออกจากเตียงนอน ในสภาวะร่างกายต้องการนอน มันเป็นอะไรที่ยากสุดๆ แต่เราก็ทำได้ แน่นอนไม่มีใครช่วยดึง #ใจเราเองต่างหากที่ดึงเราขึ้นไป ชนะอุปสรรคในใจ ภาษาหนังสือ เรียกว่า Small Win มันคือการต่อสู้กับตัวเอง แล้วชนะ ทำสำเร็จไปแล้ว 1 อย่าง ในการเริ่มต้นวันใหม่ มันจะส่งเสริมความมั่นใจเราไปทั้งวัน การทำแบบนี้ซ้ำๆ ทุกวัน สุดท้าอะไรที่ว่ายาก ก็กลายเป็นเรื่องง่าย ทัศนคติเชิงบวกเริ่มมา ไม่มีอะไรยากหรอก ถ้าเราตั้งใจ ทำได้หมดแร่ะ ..ฮึบๆ
#สาม คือมิตรภาพ สังเกตว่าสังคมนักวิ่งคือสังคมมิตรภาพ เรามักเห็นนักวิ่งเป็นคนอัธยาศัยดี ผูกมิตรได้รวดเร็ว ส่วนหนึ่งของ 7,000 นาที นอกจากการวิ่งคนเดียวคือการเจอมิตรผูกสัมพันธ์ จริงๆ ไม่ต้องวิ่งด้วยกันก็ได้นะ แค่นั่งคุยเรื่องวิ่ง ก็เหมือนรู้จักกันมานาน 555 ..ส่วนตัวไม่ค่อยเห็นคนเกลียดนักวิ่ง อารมณ์นักวิ่งจะมั่นคง ไม่โมโหง่าย ไม่มีอิจฉาริษยา (นอกจากเรื่องรองเท้าอุปกรณ์ ) เพราะนักวิ่งมีนิสัยเชื่อมั่นในพลังตัวเอง สร้างผลงานด้วยตัวเอง การยุ่งเรื่องคนอื่นเป็นเรื่องเสียเวลา เอาเวลาคุณภาพไปอยู่กับคนที่เรารัก พัฒนาตัวเอง สร้างสิ่งดีๆ ดีกว่า.
ย้อนกลับมาเรื่องคำพูดของ Director ความลับของการลดน้ำหนักมันคือเรื่องของความพยายามและวินัย ปลายทางคือตัวเลขน้ำหนัก ถ้าไม่ตั้งใจพอ ไม่มีทางแน่ อดอาหารก็อาจกลับมาอยู่ดี เพราะพื้นฐานจิตใจไม่มี เช่นกันกับนักกีฬาวิ่งระดับ Maraton ต้องฝึกฝน ตรากตำ มุ่งมั่นและวินัย ยกระดับจิตใจขึ้นมา ดังนั้นเมื่อมาตั้งใจวิ่งแล้ว ชีวิตเราจะเปลี่ยนไป #มันจะดึงดูดคนประเภทเดียวกันเข้ามาอีกหลายๆคน
#วิ่งแล้วชีวิตเปลี่ยน #รักใครให้ชวนมาวิ่ง #KwRunner