หาแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายจากครอบครัวเราเอง

สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผมในการเขียน ผิดๆถูกประการใดผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ...

โอเคเริ่มกันเลย!
"ออกกำลังกายไปทำไม? /ทำงานทุกวันนี้ก็เหนื่อยแล้วไม่มีเวลาไปออกกำลังกายหรอก.."
ประโยคเหล่านี้ผมเจอบ่อยมากพอๆกับ "เดือนนี้จะวิ่งแล้วนะ จะลดความอ้วนแล้วนะ จะเลิกกินนู่นนี่ที่ทำให้อ้วนแล้วนะ"
ตัวผมอายุ 23 ปี กำลังอยู่ในช่วงผลัดเปลี่ยนจากเป็นนักศึกษา เข้าช่วงทำงานแบบเต็มตัว ท้าวความก่อนว่าเมื่อก่อนผมออกกำลังกายวันละ3-5วัน (เล่นฟิตเนส) จนมากระทั่งขึ้นปี4 ผมต้องไปฝึกงานระยะเวลา 10 เดือน ประโยคที่ขีดเส้นใต้ข้างบนจึงเริ่มเกิดขึ้นกับตัวผมเอง จนเมื่อไหร่ไม่รู้ที่ตัวผมเริ่มกลายสภาพมาเป็นคนในรูปนี้

มีแฟน แฟนก็เรียกว่าไออ้วน จะไม่อ้วนได้ยังไงชวนกินแต่ ชาบู บุฟเฟต์ หมูกระทะ มีเพื่อนหลายกลุ่มก็ชวนกันปาร์ตี้ กินเบียร์ กินเหล้า เพี้ยนกิน
จนเลิกกันกับแฟนแล้วสิ่งที่หลงเหลือไว้ให้เราดูต่างหน้าตอนคบกันก็คือ เจ้าพุงน้อยๆของเราเนี่ยละ(น้ำหนักเพิ่มมาจาก 60 มาเป็น 68) อ่าวทีนี้ทำไงละ แม่ก็เริ่มทัก น้องเริ่มแอบถ่ายตอนเรานั่งพุงพลุ้ยลงไอจี ตายละหว่า......
จนมาวันนึงเฟสบุ๊คแจ้งเตือน วันนี้ในอดีต  เป็นรูปของเรากับป๊าออกกำลังกายด้วยกันแล้วถ่ายรูป สาเหตุที่เราชวนป๊าออกกำลังกายคืออะไรหว่า คือไม่อยากให้เขากินเหล้าเยอะๆ ไม่อยากเห็นเขาป่วย อยากให้เขาอยู่กับเรานานๆ แล้วไหงตอนนี้เรามาทำเองอะ 555 แรงบันดาลใจใหม่เกิดขึ้นจากรูปของเรากับป๊ารูปนั้น..
เราก็เลยนึกได้ว่า เอ้อ เมื่อก่อนเราก็ออกกำลังกายได้นี่หว่า เมื่อก่อนอยากเพิ่มน้ำหนักแทบตายมันก็ไม่ขึ้นตอนนี้ไงขึ้นแล้ว (ถึงจะขึ้นผิดทางก็เถอะ) ด้วยความอยากกลับไปเล่นแบบขีดสุด จึงเดินไปบอกป๊าว่า "ป๊า อยากกลับไปเล่นฟิตเนสอะ"
ป๊ามองด้วยความงงๆปนไม่เชื่อ เพราะใน10เดือนที่บอกมาเคยกลับไปเล่นฟิตเนสประมานเกือบเดือนแล้วเลิก
ป๊า : มันมีโปรโมชั่นสมัครสมาชิกอยู่ 'แต่จ่ายเองนะ' ทำงานแล้ว
เรา : ได้! เริ่มเลยพรุ่งนี้
วันแรกที่เรากลับมาเล่น ตอนยกไปประมาน 3 ท่า มีภูติDevil ตัวน้อยๆผุดขึ้นมาในหัว "กลับไปกินเบียร์เย็นๆดีกว่าปะ ข้าวขาหมูติดหนัง มาทำอะไรอยู่ตรงนี้อะ"
ซึ่งเราเล่นอยู่หน้ากระจกพอดี มองไปเห็นป๊าที่วิ่งอยู่บนลู่วิ่ง Angel ก็ผุดขึ้นตามมาในหัวว่า "นี่ไงแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากอยู่กับเขานานๆไม่ใช่หรอ"  จากนั้นมาเราเริ่มออกกำลังกายโดยทุกครั้งที่จะหมดกำลังใจ เราก็คิดว่าเราจะตามผู้ชายคนนี้ทันได้ยังไง? จะขึ้นไปออกกำลังกายเป็นบัดดี้กับเขาเหมือนเมื่อก่อนได้ยังไง? ปีนี้เขาก็ 52 ละนะ....
จากนั้นมาภายในระยะเวลา 1 เดือนก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงโดยเราก็ถ่ายรูปเก็บไว้เพื่อดูพัฒนาการตัวเอง เราเล่นโดยไม่มีคนเทรนให้ ไม่มีคนเซฟกว่าจะเข้าที่ก็เกือบ 2 อาทิตย์ จากมื้อเย็นที่เคยกิน ข้าวขาหมูพิเศษหนังเยอะ ผัดไทที่เขาขายพิเศษ40 เราไปสั่ง เอาพิเศษ 50 ก็เปลี่ยนมาเป็นอกไก่300-350 กรัม+สลัด เพี้ยนแข็งแรง

1เดือนผ่านไป สิ่งที่ได้กลับมาคือ 

นอกเหนือจากรูปร่างที่ค่อยๆดีขึ้น(เพียงเล็กน้อย)ของเรา ก็คือเราสามารถกลับมาเป็นบัดดี้ในการเล่นฟิตเนสกับเขาได้ จนคนในฟิตเนสคิดว่าพวกเราเป็น "พี่กับน้อง" มากกว่า "พ่อกับลูก"
ผมก็ยิ้มแหยๆ แต่ในใจก็คิดนะ "เขาไม่ใช่แค่พ่อผมหรอก เขาเป็นทั้งพี่ชาย และเพื่อนผมด้วย"

เราไม่ต้องบอกกับใครต่อใครหรอกครับว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง บอกตัวเองเนี่ยละ ตั้งใจแล้วต้องทำได้ดิ

สุดท้ายนี้ แรงบันดาลใจในการเริ่มดูแลตัวเองอาจจะอยู่ข้างๆตัวคุณก็ได้ครับ เป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังจะเริ่มออกกำลังกายและคนที่หันมาดูแลสุขภาพทุกคนครับ มาเปลี่ยนแปลงเป็นคนใหม่ด้วยกันเถอะ

ขอบคุณคร้าบเพี้ยนเย้ 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่