กลับมาพบกับการรีวิวอาหารของ The Heat อีกครั้งนะครับ สำหรับใครที่อยู่ในซอยทรายทองก็คงได้ยินชื่อร้าน ย่างเลยชาบูจัง กันบ้าง เพราะขับรถเข้าซอยมาเรื่อยๆก็จะเห็นร้านตั้งเด่นเป็นสง่า ซึ่งก็มีไม่บ่อยนักที่ร้านแนวๆนี้จะมาตั้งอยู่ใจกลางซอยเลยแถมมาอยู่ใกล้บ้านผมเสียด้วย
ดังนั้นในฐานะนักกินอย่างผมจึงเป็นอะไรที่พลาดไม่ได้ ทว่าน่าเสียดายที่ร้านดังกล่าวนี้ปิดตัวลงไวกว่าที่คาดคิด ทราบเรื่องจากป้าบ้านข้างๆแกบอกว่า
เจ้าของเขาย้ายร้านไปแล้ว ดังนั้นในการรีวิวครั้งนี้จะนำมาลงเพื่อแชร์เป็นประสบการณ์ว่าครั้งหนึ่งเคยทานร้านนี้และรสชาติเป็นอย่างไรกันบ้างให้ผู้อ่าน
ได้ทราบเผื่อร้านนี้ไปเปิดใหม่อีกครั้งในที่ไหนสักแห่งจะได้ตามกันไปอุดหนุนนะครับ

สมัยเปิดทำการ ร้านนี้ตั้งอยู่ใน ซ.ติวานนท์ 45 โดยทางร้านจะมีโปรแบ่งเป็น 259 ที่กินได้เฉพาะชาบูหมูไก่เนื้อมาตรฐาน 339 กินของทะเลและชีสได้
และถ้าบวกเพิ่มอีก 60 บาท สามารถกินแบบย่างได้ ซึ่งในวันที่ผมไปกินนั้น ใคร่อยากโดนอาหารย่าง จึงต้องควักเงินจ่ายเบ็ดเสร็จ 399 บาท
ราคาถือว่าแรงระดับนึงนะ แต่ราคานี้รวมน้ำรีฟิลแล้วและไม่มีภาษีอะไรมากวนใจ เอาวะ ลุยเป็นลุย
(ปล.ภาพถ่ายหน้าร้านเป็นตอนกลางคืนเพราะ มาถ่ายหลังจากกินเสร็จออกจากร้านมาแล้ว)

ในเรตราคา 399 นี้ ก็จะสามารถสั่งกินได้หมดทั้งเมนูนี้เลย
(ขอติอย่าง ตรงเมนูกับในใบสั่งอาหาร มีบางรายการตกหล่นไปด้วย)

ที่จริงจ่าย 399 จะสามารถกินได้ทั้งปิ้งย่างและชาบู แบบ 2 อิน 1 แต่วันนั้นผมมาคนเดียวเสียด้วยเลยไม่ชัวร์ว่าจะรีวิวครบถ้วนรึไม่ เลยเอามาแต่
เตาย่างอย่างเดียวพอ เตาเป็นแบบพกพาใช้แก๊สกระป๋อง ก็ว่าละ ทำไมบวกเพิ่ม 60 ค่าแก๊สนิเอง...

ขาดไม่ได้กับวัตถุดิบคู่ปิ้งย่างกระทะร้อน เนยสำหรับทากระทะนั่นเอง

หลังจากสั่งไปแล้ว รอคอยประมาณ 5 นาทีเศษๆ เนื้อสดก็มาเสิร์ฟถึงโต๊ะ ด้วยถาดเสิร์ฟอันโต!! เอิ่ม...มารวบยอดยังงี้ รู้สึกงานจะเข้าผมให้แล้ว
จะรีวิวยังไงล่ะเนี่ย ไม่รู้อันไหนเป็นอันไหนเลยครับท่าน แถมถามพนักงานว่าอันไหนเป็นอันไหน ก็ไม่รู้อีกด้วย .... ดูเหมือนผมต้องรีวิวแบบรวมๆละมั้ง

รสชาติเนื้อที่มีมันแทรกเยอะๆนั้น (คาดว่าจะเป็นเนื้อติดมัน) ค่อนข้างอร่อย แถมหอมออริกาโน่ที่หมักมาด้วย
ส่วน เนื้อหมึก นั้นเหนียวนุ่ม เค็มและคาวหน่อยๆ
กุ้งแม่น้ำ เนื้อไม่แน่นแต่ก็ไม่ลุ่ยเกินไป มันตรงหัวเยอะใช้ได้ หอมมันเลยทีเดียวล่ะ

ของที่สั่งไปจริงๆมาเสิร์ฟแล้วค้าบ!! ถามว่า แล้วไอ้ถาดแรกมายังไงล่ะ เด็กเสิร์ฟตอบง่ายๆครับ "ผมเสิร์ฟผิดครับพี่"
อ่า.....งั้นก็ต้องเป็นหน้าที่ตูจัดการส่วนที่เกินมาสินะ ขอบใจที่แถมให้นะน้อง แต่อย่างน้อยๆก็รีวิวได้ง่ายขึ้นละนะทีนี้ ฮ่าๆๆ= =''

แอบถ่ายบรรยากาศด้านในร้านมาให้ชมสักหน่อย ตรงกลางมีโต๊ะวางจานชาม น้ำจิ้ม ผักใส่น้ำซุป และที่ตักน้ำไว้ให้บริการครบครัน
พูดถึงน้ำจิ้มสุกี้ของทีนี่ รสชาติแปลกว่าร้านอื่นๆในความคิดผม เพราะธรรมดา มันจะต้องออกเปรี้ยวๆเผ็ดๆ แต่ที่นี่มีความมันคล้ายกับถั่วผสมอยู่ด้วย
ก็นับว่าพอจิ้มกินกับเนื้อย่างได้อยู่

เอาละ มาเริ่มรีวิวกันเถอะ อันนี้คือ เนื้อส่วนโหนก มาทีก็เห็นความแห้งของเนื้อ ลองย่างดูเผื่อจะมีอะไรดีขึ้น
ย่างสุกก็ไม่ค่อยดีขึ้นนัก เนื้อกัดแล้วมีน้ำไหล ได้รสเนื้อจางๆเมื่อกลืน จานนี้ไม่ค่อยโอ

จานต่อมา เนื้อริบอาย ลายสวยดูมีชาติสกุลขึ้นเยอะ ได้รสชาติมันฉ่ำในปากตอนเคี้ยว แต่เนื้อก็ยังแห้งไปอยู่ดีนะ

มากันที่หมูกันบ้าง ดูสิจะล้างอายจากเนื้อได้ไหม นี่คือ เนื้อสันคอ ซึ่งมีความแน่นของเนื้อพอสมควร ตรงมันแข็งกรุบนิดๆ พอเคี้ยวอร่อยอยู่
แต่กลิ่นออกหืนๆไปหน่อย ก็ยังไม่ดีขึ้นมากเท่าไหร่นัก

เนื้อหมูสามชั้น อันนี้ค่อยกู้หน้าความอร่อยขึ้นมาหน่อย มันหวานอร่อย เนื้อแน่นและนุ่มระดับหนึ่ง

ปลาดอลลี่แบบย่าง เนื้อสัมผัสนิ่มลื่นดี กลิ่นปลาก็มีพอประมาณ แต่เตาที่นี่ดีอย่าง คือเวลาย่างปลา ไม่ติดกระทะมากนัก

มาลองเนื้อไก่ดูบ้าง อันนี้ ไก่หมักงาจีน ดูไม่ค่อยมีงาเสียเท่าไหร่ ยัดเข้าปากไป ก็นับว่าอร่อยอยู่นะ เนื้อนุ่มหอมน้ำมันงา

อันต่อมา ไก่เทอริยากิ รสชาติและหน้าตาดูธรรมดาๆ เหมือนไก่งาที่ไม่ได้หมักกับน้ำมันงานั่นแล

มาถาดนี้ เนื้อหมูหมักแบบเกาหลี มองตอนแรกนึกว่าวัว สีเข้มเชียว รสออกเค็มๆคล้ายหมูผัดซีอิ๊วที่เคยผัดกินที่บ้านเลย

หมูเด้งหมักสมุนไพร เนื้อร่วนๆเปรี้ยวไปหน่อย กลิ่นหอมของตะไคร้ช่วยได้พอสมควร ผมว่าอันนี้เหมาะกับกินแบบชาบูมากกว่า

ข้าวผัดกระเทียม สั่งมาแกล้มกับเนื้อ แต่ไม่ค่อยหอมเลย เม็ดข้าวก็แฉะนิดๆ แถมเม็ดใหญ่ยังกับข้าวโรงเรียน

สั่งกุ้งกับหมูสามชั้นมาเพิ่ม สองอย่างนี้อร่อยสุดในร้านละครับ

ดูมันอันมากล้นบนหัวของกุ้งย่างตัวนี้สิ!!

ไหนๆก็จ่ายเต็มราคาละ ลองชีสสักหน่อยละกัน หั่นมาเสียยังกับส้มตำเลย

เอามาย่างกับกระทะร้อนๆ กินเปล่าๆก็ อร่อยมันหนึบปากดีนะ

ยืดดีชะมัด จุ่ม(พัน)กินกับเนื้อย่างก็อร่อยไปอีกแบบ

เริ่มอิ่มแล้ว สั่งของหวานมาตบท้ายเสียหน่อย ไอศครีมนี่คิดเพิ่มต่างหากไม่รวมในบุฟเฟ่ต์นะครับ
ผมลองเอารส ทิรามิสุ มากินดู ได้รสชาติกาแฟเข้มข้น มันแบบครีมนิดๆ เหมือนกินทิรามิสุจริงๆเลย อร่อยใช้ได้นะ
รีวิวสรุป
รสชาติอาหาร : ***
คุณภาพของเนื้อวัว ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก หมูกับไก่ก็พอได้มาตรฐาน จะมีกุ้งแม่น้ำกับหมูสามชั้นแหละ ที่อร่อยเด่นกว่าอย่างอื่นๆ
ชีสช่วยทำให้อาหารกินได้เพลินๆ นับว่าผิดคาดพอสมควร เพราะร้านระดับนี้ส่วนมากเนื้อชีสจะไม่เนียนนักนะ
หม้ออร่อยสุดกิ๊ง (อาหารที่อร่อยมากที่สุดในการรีวิว) : หมูสามชั้น
เทียบภาพรวมแล้ว หมูชนะกุ้งไปแบบฉิวเฉียด นั่นก็เพราะคุณภาพความสดของเนื้อที่มีมากกว่า
จานนี้ไม่ว้าว (อาหารที่อร่อยน้อยที่สุดในการรีวิว) : เนื้อโหนก
เนื้อแห้งไม่พอ ยังให้ความรู้สึกแฉะๆเวลาเคี้ยวด้วย เหมือนเนื้อแช่แข็งมานานจนเสียความเป็นเนื้อไปยังงั้นแหละ
บรรยากาศในร้าน : ****
จัดได้ดีระดับนึง ในพื้นที่จำกัด ตกแต่งร้านได้น่านั่งดี ร้านอาจจะดูแคบไปหน่อย เพราะมีโต๊ะมาวางไว้ซะกลางร้านเลย
การบริการ : *** 1/2
เสิร์ฟผิด ก็หักไปแล้ว 1 ดาว อีกครึ่งดาวก็ความล่าช้าในการเสิร์ฟแหละ คือแรกๆเร็วนะ แต่มาจานหลังๆนี่ ต้องคอยตามบ่อยอยู่เหมือนกัน
ความหลากหลาย : ****
แม้ว่าโปรราคา 339 จะเพิ่มพวกของทะเลกับชีสเข้าไปแล้ว แต่ความหลากหลายของอาหารก็ยังมีน้อยไปอยู่ดีนะ
ราคา : ****1/2
ถ้าเทียบกับคุณภาพและชื่อชั้นของวัตถุดิบแล้ว นับว่าแพงมากทีเดียว ราคาแบบนี้กินหมูชาบูตามห้างได้เลย
ความคุ้มค่า : ***1/2
สืบเนื่องจากราคา ถ้ากินแบบเต็มๆ ทั้งชาบูและปิ้งย่าง 399 คงจะไม่คุ้ม แต่ถ้ามานั่งเอื่อยเฉื่อยลายชายจกแต่ชาบู ก็น่าจะไหวอยู่ล่ะ
ภาพรวม : ***1/2
และนั่นก็คือการรีวิวอาหารของร้าน ย่างเลยชาบูจัง ที่ปัจจุบันนี้ได้ปิดตัวลงไปชั่วคราว(ในเพจหลักเขาว่าอย่างนั้น)และกำลังหาที่ทางในการเปิดร้านใหม่
ซึ่งทางผู้จัดการเขาจะเปิดกลับมาในรูปแบบไหนนั้น ก็ต้องคอยดูกันไปล่ะครับ ถ้ากลับมาอีกก็ขอให้ปรับคุณภาพเนื้อสดให้ดีขึ้นกว่านี้หน่อยท่าจะดีนะ
ระหว่างนี้เราๆท่านๆก็ไปแวะกิน ร้านชาบูปิ้งย่างร้านอื่นที่ผุดงอกขึ้นมากันมากมาย ตามธรรมเนียมแหละครับ ร้านเก่าไปร้านใหม่ก็มา ไม่ขาดสาย
สำหรับร้านต่อไปที่ผมจะไปกินและรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้ชมนั้นจะเป็นร้านไหน ก็คอยติดตามกันนะครับ วันนี้ขอตัวไปก่อนละจ้า
[CR] BufFeast Review : "ย่างเลยชาบูจัง" บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างแถวบ้านที่กลายเป็นอดีต
ดังนั้นในฐานะนักกินอย่างผมจึงเป็นอะไรที่พลาดไม่ได้ ทว่าน่าเสียดายที่ร้านดังกล่าวนี้ปิดตัวลงไวกว่าที่คาดคิด ทราบเรื่องจากป้าบ้านข้างๆแกบอกว่า
เจ้าของเขาย้ายร้านไปแล้ว ดังนั้นในการรีวิวครั้งนี้จะนำมาลงเพื่อแชร์เป็นประสบการณ์ว่าครั้งหนึ่งเคยทานร้านนี้และรสชาติเป็นอย่างไรกันบ้างให้ผู้อ่าน
ได้ทราบเผื่อร้านนี้ไปเปิดใหม่อีกครั้งในที่ไหนสักแห่งจะได้ตามกันไปอุดหนุนนะครับ
สมัยเปิดทำการ ร้านนี้ตั้งอยู่ใน ซ.ติวานนท์ 45 โดยทางร้านจะมีโปรแบ่งเป็น 259 ที่กินได้เฉพาะชาบูหมูไก่เนื้อมาตรฐาน 339 กินของทะเลและชีสได้
และถ้าบวกเพิ่มอีก 60 บาท สามารถกินแบบย่างได้ ซึ่งในวันที่ผมไปกินนั้น ใคร่อยากโดนอาหารย่าง จึงต้องควักเงินจ่ายเบ็ดเสร็จ 399 บาท
ราคาถือว่าแรงระดับนึงนะ แต่ราคานี้รวมน้ำรีฟิลแล้วและไม่มีภาษีอะไรมากวนใจ เอาวะ ลุยเป็นลุย
(ปล.ภาพถ่ายหน้าร้านเป็นตอนกลางคืนเพราะ มาถ่ายหลังจากกินเสร็จออกจากร้านมาแล้ว)
(ขอติอย่าง ตรงเมนูกับในใบสั่งอาหาร มีบางรายการตกหล่นไปด้วย)
ที่จริงจ่าย 399 จะสามารถกินได้ทั้งปิ้งย่างและชาบู แบบ 2 อิน 1 แต่วันนั้นผมมาคนเดียวเสียด้วยเลยไม่ชัวร์ว่าจะรีวิวครบถ้วนรึไม่ เลยเอามาแต่
เตาย่างอย่างเดียวพอ เตาเป็นแบบพกพาใช้แก๊สกระป๋อง ก็ว่าละ ทำไมบวกเพิ่ม 60 ค่าแก๊สนิเอง...
ขาดไม่ได้กับวัตถุดิบคู่ปิ้งย่างกระทะร้อน เนยสำหรับทากระทะนั่นเอง
หลังจากสั่งไปแล้ว รอคอยประมาณ 5 นาทีเศษๆ เนื้อสดก็มาเสิร์ฟถึงโต๊ะ ด้วยถาดเสิร์ฟอันโต!! เอิ่ม...มารวบยอดยังงี้ รู้สึกงานจะเข้าผมให้แล้ว
จะรีวิวยังไงล่ะเนี่ย ไม่รู้อันไหนเป็นอันไหนเลยครับท่าน แถมถามพนักงานว่าอันไหนเป็นอันไหน ก็ไม่รู้อีกด้วย .... ดูเหมือนผมต้องรีวิวแบบรวมๆละมั้ง
ส่วน เนื้อหมึก นั้นเหนียวนุ่ม เค็มและคาวหน่อยๆ
กุ้งแม่น้ำ เนื้อไม่แน่นแต่ก็ไม่ลุ่ยเกินไป มันตรงหัวเยอะใช้ได้ หอมมันเลยทีเดียวล่ะ
ของที่สั่งไปจริงๆมาเสิร์ฟแล้วค้าบ!! ถามว่า แล้วไอ้ถาดแรกมายังไงล่ะ เด็กเสิร์ฟตอบง่ายๆครับ "ผมเสิร์ฟผิดครับพี่"
อ่า.....งั้นก็ต้องเป็นหน้าที่ตูจัดการส่วนที่เกินมาสินะ ขอบใจที่แถมให้นะน้อง แต่อย่างน้อยๆก็รีวิวได้ง่ายขึ้นละนะทีนี้ ฮ่าๆๆ= =''
แอบถ่ายบรรยากาศด้านในร้านมาให้ชมสักหน่อย ตรงกลางมีโต๊ะวางจานชาม น้ำจิ้ม ผักใส่น้ำซุป และที่ตักน้ำไว้ให้บริการครบครัน
พูดถึงน้ำจิ้มสุกี้ของทีนี่ รสชาติแปลกว่าร้านอื่นๆในความคิดผม เพราะธรรมดา มันจะต้องออกเปรี้ยวๆเผ็ดๆ แต่ที่นี่มีความมันคล้ายกับถั่วผสมอยู่ด้วย
ก็นับว่าพอจิ้มกินกับเนื้อย่างได้อยู่
เอาละ มาเริ่มรีวิวกันเถอะ อันนี้คือ เนื้อส่วนโหนก มาทีก็เห็นความแห้งของเนื้อ ลองย่างดูเผื่อจะมีอะไรดีขึ้น
ย่างสุกก็ไม่ค่อยดีขึ้นนัก เนื้อกัดแล้วมีน้ำไหล ได้รสเนื้อจางๆเมื่อกลืน จานนี้ไม่ค่อยโอ
จานต่อมา เนื้อริบอาย ลายสวยดูมีชาติสกุลขึ้นเยอะ ได้รสชาติมันฉ่ำในปากตอนเคี้ยว แต่เนื้อก็ยังแห้งไปอยู่ดีนะ
มากันที่หมูกันบ้าง ดูสิจะล้างอายจากเนื้อได้ไหม นี่คือ เนื้อสันคอ ซึ่งมีความแน่นของเนื้อพอสมควร ตรงมันแข็งกรุบนิดๆ พอเคี้ยวอร่อยอยู่
แต่กลิ่นออกหืนๆไปหน่อย ก็ยังไม่ดีขึ้นมากเท่าไหร่นัก
เนื้อหมูสามชั้น อันนี้ค่อยกู้หน้าความอร่อยขึ้นมาหน่อย มันหวานอร่อย เนื้อแน่นและนุ่มระดับหนึ่ง
ปลาดอลลี่แบบย่าง เนื้อสัมผัสนิ่มลื่นดี กลิ่นปลาก็มีพอประมาณ แต่เตาที่นี่ดีอย่าง คือเวลาย่างปลา ไม่ติดกระทะมากนัก
มาลองเนื้อไก่ดูบ้าง อันนี้ ไก่หมักงาจีน ดูไม่ค่อยมีงาเสียเท่าไหร่ ยัดเข้าปากไป ก็นับว่าอร่อยอยู่นะ เนื้อนุ่มหอมน้ำมันงา
อันต่อมา ไก่เทอริยากิ รสชาติและหน้าตาดูธรรมดาๆ เหมือนไก่งาที่ไม่ได้หมักกับน้ำมันงานั่นแล
มาถาดนี้ เนื้อหมูหมักแบบเกาหลี มองตอนแรกนึกว่าวัว สีเข้มเชียว รสออกเค็มๆคล้ายหมูผัดซีอิ๊วที่เคยผัดกินที่บ้านเลย
หมูเด้งหมักสมุนไพร เนื้อร่วนๆเปรี้ยวไปหน่อย กลิ่นหอมของตะไคร้ช่วยได้พอสมควร ผมว่าอันนี้เหมาะกับกินแบบชาบูมากกว่า
ข้าวผัดกระเทียม สั่งมาแกล้มกับเนื้อ แต่ไม่ค่อยหอมเลย เม็ดข้าวก็แฉะนิดๆ แถมเม็ดใหญ่ยังกับข้าวโรงเรียน
สั่งกุ้งกับหมูสามชั้นมาเพิ่ม สองอย่างนี้อร่อยสุดในร้านละครับ
ดูมันอันมากล้นบนหัวของกุ้งย่างตัวนี้สิ!!
ไหนๆก็จ่ายเต็มราคาละ ลองชีสสักหน่อยละกัน หั่นมาเสียยังกับส้มตำเลย
เอามาย่างกับกระทะร้อนๆ กินเปล่าๆก็ อร่อยมันหนึบปากดีนะ
ยืดดีชะมัด จุ่ม(พัน)กินกับเนื้อย่างก็อร่อยไปอีกแบบ
เริ่มอิ่มแล้ว สั่งของหวานมาตบท้ายเสียหน่อย ไอศครีมนี่คิดเพิ่มต่างหากไม่รวมในบุฟเฟ่ต์นะครับ
ผมลองเอารส ทิรามิสุ มากินดู ได้รสชาติกาแฟเข้มข้น มันแบบครีมนิดๆ เหมือนกินทิรามิสุจริงๆเลย อร่อยใช้ได้นะ
รีวิวสรุป
รสชาติอาหาร : ***
คุณภาพของเนื้อวัว ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก หมูกับไก่ก็พอได้มาตรฐาน จะมีกุ้งแม่น้ำกับหมูสามชั้นแหละ ที่อร่อยเด่นกว่าอย่างอื่นๆ
ชีสช่วยทำให้อาหารกินได้เพลินๆ นับว่าผิดคาดพอสมควร เพราะร้านระดับนี้ส่วนมากเนื้อชีสจะไม่เนียนนักนะ
หม้ออร่อยสุดกิ๊ง (อาหารที่อร่อยมากที่สุดในการรีวิว) : หมูสามชั้น
เทียบภาพรวมแล้ว หมูชนะกุ้งไปแบบฉิวเฉียด นั่นก็เพราะคุณภาพความสดของเนื้อที่มีมากกว่า
จานนี้ไม่ว้าว (อาหารที่อร่อยน้อยที่สุดในการรีวิว) : เนื้อโหนก
เนื้อแห้งไม่พอ ยังให้ความรู้สึกแฉะๆเวลาเคี้ยวด้วย เหมือนเนื้อแช่แข็งมานานจนเสียความเป็นเนื้อไปยังงั้นแหละ
บรรยากาศในร้าน : ****
จัดได้ดีระดับนึง ในพื้นที่จำกัด ตกแต่งร้านได้น่านั่งดี ร้านอาจจะดูแคบไปหน่อย เพราะมีโต๊ะมาวางไว้ซะกลางร้านเลย
การบริการ : *** 1/2
เสิร์ฟผิด ก็หักไปแล้ว 1 ดาว อีกครึ่งดาวก็ความล่าช้าในการเสิร์ฟแหละ คือแรกๆเร็วนะ แต่มาจานหลังๆนี่ ต้องคอยตามบ่อยอยู่เหมือนกัน
ความหลากหลาย : ****
แม้ว่าโปรราคา 339 จะเพิ่มพวกของทะเลกับชีสเข้าไปแล้ว แต่ความหลากหลายของอาหารก็ยังมีน้อยไปอยู่ดีนะ
ราคา : ****1/2
ถ้าเทียบกับคุณภาพและชื่อชั้นของวัตถุดิบแล้ว นับว่าแพงมากทีเดียว ราคาแบบนี้กินหมูชาบูตามห้างได้เลย
ความคุ้มค่า : ***1/2
สืบเนื่องจากราคา ถ้ากินแบบเต็มๆ ทั้งชาบูและปิ้งย่าง 399 คงจะไม่คุ้ม แต่ถ้ามานั่งเอื่อยเฉื่อยลายชายจกแต่ชาบู ก็น่าจะไหวอยู่ล่ะ
ภาพรวม : ***1/2
และนั่นก็คือการรีวิวอาหารของร้าน ย่างเลยชาบูจัง ที่ปัจจุบันนี้ได้ปิดตัวลงไปชั่วคราว(ในเพจหลักเขาว่าอย่างนั้น)และกำลังหาที่ทางในการเปิดร้านใหม่
ซึ่งทางผู้จัดการเขาจะเปิดกลับมาในรูปแบบไหนนั้น ก็ต้องคอยดูกันไปล่ะครับ ถ้ากลับมาอีกก็ขอให้ปรับคุณภาพเนื้อสดให้ดีขึ้นกว่านี้หน่อยท่าจะดีนะ
ระหว่างนี้เราๆท่านๆก็ไปแวะกิน ร้านชาบูปิ้งย่างร้านอื่นที่ผุดงอกขึ้นมากันมากมาย ตามธรรมเนียมแหละครับ ร้านเก่าไปร้านใหม่ก็มา ไม่ขาดสาย
สำหรับร้านต่อไปที่ผมจะไปกินและรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้ชมนั้นจะเป็นร้านไหน ก็คอยติดตามกันนะครับ วันนี้ขอตัวไปก่อนละจ้า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้