ช่วงนี้ภาคใต้เริ่มมีฝนประปราย แถมอากาศก็ยังร้อนจัด เป็นสภาพอากาศร้อนชื้นที่พอเหมาะสำหรับ “เห็ดเหม็ด” มากๆ 

เห็ดเหม็ดเป็นเห็ดป่าค่ะ มีถิ่นกำเนิดในภาคใต้บ้านเรานี้เอง เท่าที่รู้ยังไม่เคยเห็นใครสามารถเพาะเลี้ยงเห็ดชนิดนี้เลย
ก็เลยต้องรอฤดูกาลเท่านั้น ซึ่งจะมีแค่ช่วงเดียวของปีคือประมาณเดือนเมษา หลังจากผ่านช่วงแล้งมานาน แล้วอยู่ๆฝนตกสัก 3-4 วัน
พื้นดินในป่าก็จะชื้นพอเหมาะพอดีให้เห็ดขึ้นค่ะ

นอกจากจะขึ้นยากแล้ว ราคาก็แพงและยังหาซื้อยากด้วยค่ะ ต้องเข้าไปเก็บในป่า
ชาวบ้านทั่วไปเขาก็ไปเก็บมาแกงกินกันเอง น้อยมากที่จะเห็นคนเอามาวางขาย 

ครั้งนี้เราได้มาจากคุณแม่ของเพื่อน แกเก็บมาได้มากอยู่ ทานกันไม่หมด ก็แบ่งแจกจ่ายคนรู้จักกันค่ะ
เราโชคดีมากที่ได้รับแจกกับเขาด้วย ขอบคุณคุณแม่และคุณเพื่อนจริงๆค่ะ 😊

วัตถุดิบจากธรรมชาติ เก็บเกี่ยวตามฤดูกาล มีเหลือก็แบ่งปันกัน เป็นวิถีชีวิตเรียบง่ายแบบชนบทแท้ๆเลย

เมนูยอดฮิตสำหรับเห็ดเหม็ดก็คือ “แกงกะทิใส่สับปะรด” ค่ะ …เกริ่นยาวไปละ เริ่มทำเลยดีกว่า

<:><:><:><:><:><:><:><:><:><:><:><:><:><:><:><:><:><:><:><:>

ส่วนผสม

เห็ดเหม็ด (น่าจะประมาณ ครึ่งกิโลมั้งนะ กะด้วยสายตาค่ะ)
หมูสามชั้น 3-4 ขีด 
สับปะรด 1 ลูก กลางๆ
พริกแกงกะทิ 10 บาท
กะปิ 2 ชต.
กะทิ ครึ่งกิโล (ของเราใช้กะทิคั้นเองค่ะ)
ใบมะกรูด

ปรุงรสด้วย เกลือ น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ

ห็ดเหม็ดจากคุณแม่เพื่อน ต้มมาเรียบร้อยแล้ว เลยไม่มีภาพเห็ดสดให้ชมนะคะ 😊

เห็ดนี้มีรสขมติดลิ้น คล้ายๆขมแบบมะระค่ะ ต้องเอามาต้มน้ำทิ้งก่อน 1-2 ครั้ง แล้วแต่ว่าชอบขมมากน้อย ต้มเสร็จแล้วเห็ดจะเป็นเมือกลื่นๆเล็กน้อยที่ผิว รสสัมผัสกรุบๆคล้ายเห็ดหูหนู และขมอ่อนๆค่ะ จะเอาไปจิ้มน้ำพริกหรือทำแกงก็ได้

เตรียมหมูสามชั้นกับสับปะรดค่ะ

จากนั้นตั้งหม้อใส่หัวกะทิ ผัดกับพริกแกง กะปิสักครู่ ใส่หมู สับปะรด และหางกะทิตามลงไป ต้มให้เดือด แล้วใส่เห็ดลงไปค่ะ (ไม่ได้เคี่ยวกะทิจนแตกมันนะคะ พอดีใส่หมูสามชั้น เลยไม่อยากให้น้ำแกงมันมาก เดี๋ยวจะเลี่ยนค่ะ)
ใส่หัวกะทิที่แบ่งไว้ โรยหน้าไปหน่อย ใบมะกรูดฉีกๆใส่ลงไปค่ะ

จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือ น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามชอบค่ะ ค่อยๆใส่เครื่องปรุงสลับกับชิมไปด้วยนะคะ เดี๋ยวรสเข้มเกินแล้วจะแก้ยากค่ะ
เสร็จแล้วค่ะ ทำง่ายมากๆ แกงกะทิเห็ดเหม็ดของเรา หอมกรุ่นกะทิกับเครื่องแกง
ตักข้าวร้อนๆมาเลยค่ะ

กินคู่กับอะไรดีนะ …กุนเชียงละกัน


อุ๊ย! แมวมอง อิๆๆ

อ้อ! เห็ดนี้จะมีความแปลกอีกอย่าง คือพอทานเสร็จแล้วดื่มน้ำตาม จะมีรสขมเกิดขึ้นในปากด้วยค่ะ 

เพราะได้ทานกันปีละครั้ง เลยแกงหม้อใหญ่ๆไปเลย กินกันไปยาวๆจ้า~



ขอบคุณที่เข้ามาชมนะคะ แนะนำ ติชมกันได้เต็มที่เลย
สวัสดีค่ะ