Meritocracy (
merit, from Latin
mereō, and
-cracy, from Ancient Greek κράτος
kratos 'strength, power') is a political philosophy that holds that certain things, such as economic goods or power, should be vested in individuals on the basis of talent, effort, and achievement, rather than factors such as sexuality, race, gender, age, or wealth.[1] Advancement in such a system is based on performance, as measured through examination or demonstrated achievement. Although the concept of meritocracy has existed for centuries, the term itself was first created in 1958 by the sociologist Michael Young
คำนี้หมายถึงการคัดคนเข้าทำงานโดยวัดกันที่ความสามารถ ความเก่ง ทักษะมากกว่าจะเป็นด้านที่ว่าเป็นใคร มาจากไหน รู้จักใครบ้าง หรือระบบเส้นสายนี่เอง จริงๆแล้วคำนี้แม้ฝรั่งเรียกซะชื่อโก้แต่ระบบนี้มาจากเอเชียในจีนนี้เอง เริ่มตั้งแต่ยุคจีนเมื่อสองพันหกร้อยปีก่อน จะรับราชการก็ต้องมีการสอบจอหงวนนั่นแหละเหมือนที่เราดูในหนังจีน แนวคิดนี้ตั้งโดยขงจื้อ
จริงๆไม่ใช่เรื่องยากเลย สมมติจะรับคนมาปอกมะพร้าว เราก็ควรสอบว่าใครปอกมะพร้าวเร็วกว่าจะได้ทำงาน ผลดีก็คือปอกได้มาก ไม่ใช่ว่ารับเพราะรู้จักคนนั้นคนนี้หรือเปล่า เพราะการรู้จักคนนั้นคนนี้ไม่ได้เกี่ยวหรือจะการันตีว่าจะปอกมะพร้าวได้เร็วหรือเปล่า
จะรู้ว่าใครเก่งไหมก็ร้องสอบแข่งกัน เลือกคนเก่งที่สุด แต่การรีคุดคนของไทย จากบทเรียนที่ผ่านมาทำให้รู้ว่าไม่ใช่เรื่องของทักษะ แต่เป็นเรื่องของเส้นสาย นั่นก็เพราะว่าไทยไม่คุ้นชินกับคำว่า Meritocracy
แต่เปลี่ยนใหม่ดู นี่ไม่ใช่งานการปอกมะพร้าว แต่คืองานราชการ งานเอกชน งานที่ออกนโยบายมาบริหารประเทศ พัฒนาประเทศ ถ้างานปอกมะพร้าว ได้คนปอกไม่เก่งไปก็แค่ปอกช้า แต่นี่คืองานบริหารราชการ พัฒนาประเทศ พัฒนาบริษัท ถ้าไม่ใช้ระบบ
Meritocracy มันก็ไม่ใช่แค่ปอกมะพร้าวช้า แต่มันคือออกนโยบายผิดพลาด ทำผิดพลาด ส่งผลเสียต่อบริษัท ต่อประเทศมหาศาล
2600 ปีที่แล้วจีนมีการสอบวัดความสามารถเพื่อเข้าไปทำงาน ตอนนี้ คศ 2019 ไทยจะล้าหลังกว่าจีนเมื่อ 2600 ปีที่แล้วอีกหรือ
หรือระบบเส้นสาย patronage system มันกลายเป็นเรื่องปรกติที่ยอมรับได้กันแล้ว เพราะใครๆก็ทำกัน นั้นก็ต้องถามว่าถ้าคุณป่วยหนักคุณอยากได้หมอจากระบบไหนมารักษา หมอที่เป็นคนเก่งสอบได้คะแนนดี ความรู้แน่นมาจากระบบคัดเลือก Meritocracy หรือหมอที่มาจากระบบเด็กเส้นตั้งแต่เข้าเรียน มาจากระบบ patronage system ?
Meritocracy คำนี้ที่คนไทยขาดในการรับคนเข้าทำงาน
คำนี้หมายถึงการคัดคนเข้าทำงานโดยวัดกันที่ความสามารถ ความเก่ง ทักษะมากกว่าจะเป็นด้านที่ว่าเป็นใคร มาจากไหน รู้จักใครบ้าง หรือระบบเส้นสายนี่เอง จริงๆแล้วคำนี้แม้ฝรั่งเรียกซะชื่อโก้แต่ระบบนี้มาจากเอเชียในจีนนี้เอง เริ่มตั้งแต่ยุคจีนเมื่อสองพันหกร้อยปีก่อน จะรับราชการก็ต้องมีการสอบจอหงวนนั่นแหละเหมือนที่เราดูในหนังจีน แนวคิดนี้ตั้งโดยขงจื้อ
จริงๆไม่ใช่เรื่องยากเลย สมมติจะรับคนมาปอกมะพร้าว เราก็ควรสอบว่าใครปอกมะพร้าวเร็วกว่าจะได้ทำงาน ผลดีก็คือปอกได้มาก ไม่ใช่ว่ารับเพราะรู้จักคนนั้นคนนี้หรือเปล่า เพราะการรู้จักคนนั้นคนนี้ไม่ได้เกี่ยวหรือจะการันตีว่าจะปอกมะพร้าวได้เร็วหรือเปล่า
จะรู้ว่าใครเก่งไหมก็ร้องสอบแข่งกัน เลือกคนเก่งที่สุด แต่การรีคุดคนของไทย จากบทเรียนที่ผ่านมาทำให้รู้ว่าไม่ใช่เรื่องของทักษะ แต่เป็นเรื่องของเส้นสาย นั่นก็เพราะว่าไทยไม่คุ้นชินกับคำว่า Meritocracy
แต่เปลี่ยนใหม่ดู นี่ไม่ใช่งานการปอกมะพร้าว แต่คืองานราชการ งานเอกชน งานที่ออกนโยบายมาบริหารประเทศ พัฒนาประเทศ ถ้างานปอกมะพร้าว ได้คนปอกไม่เก่งไปก็แค่ปอกช้า แต่นี่คืองานบริหารราชการ พัฒนาประเทศ พัฒนาบริษัท ถ้าไม่ใช้ระบบ Meritocracy มันก็ไม่ใช่แค่ปอกมะพร้าวช้า แต่มันคือออกนโยบายผิดพลาด ทำผิดพลาด ส่งผลเสียต่อบริษัท ต่อประเทศมหาศาล
2600 ปีที่แล้วจีนมีการสอบวัดความสามารถเพื่อเข้าไปทำงาน ตอนนี้ คศ 2019 ไทยจะล้าหลังกว่าจีนเมื่อ 2600 ปีที่แล้วอีกหรือ
หรือระบบเส้นสาย patronage system มันกลายเป็นเรื่องปรกติที่ยอมรับได้กันแล้ว เพราะใครๆก็ทำกัน นั้นก็ต้องถามว่าถ้าคุณป่วยหนักคุณอยากได้หมอจากระบบไหนมารักษา หมอที่เป็นคนเก่งสอบได้คะแนนดี ความรู้แน่นมาจากระบบคัดเลือก Meritocracy หรือหมอที่มาจากระบบเด็กเส้นตั้งแต่เข้าเรียน มาจากระบบ patronage system ?