ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า 2 เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดกับผมจริงๆ สําหรับประสบการณ์รับเด็กเส้นเข้าทํางานที่เเท้ทรู
เรื่องเเรก
เป็นการรับสมัครงานตําเเหน่ง พนักงานธุรการ ของ อบต .เเห่งหนึ่ง เเถวบ้านผมเอง ซึ่งมีคนสมัครประประมาณ30 คนได้ จะสอบสองรอบคือ ข้อเขียน(กา) เเละรอบสอง สัมภาษณ์ หลังจากประกาศผลรอบเเรกเสร็จก็เหลือคนที่ต้องเข้าสอบรอบสอง
(สัมภาษณ์ ) เหลือประมาณ 3 คน ซึ่งคนที่ผ่านเข้ามารอบสอง คนเเรกก็คือ คนที่สมัครลําดับที่1 ขณะนั่งรอกรรมการ เพื่อสอบสัมภาษณ์รอบสอง ผมเห็นคนที่สมัครลําดับที่1 คุยกับ จนท .อบต อย่างสนิทสนม ผมรู้เลยว่าคนนี้เเหละที่จะได้ เพราะผมสืบมาเเล้วว่า คนที่สมัครลําดับที่1 เขาเคยทํางานที่ อบต นี้มาก่อน เเละหลังประกาศผลรอบสอง ก็เป็นไปตามคาด คนที่สมัครลําดับที่1 เเละสอบสัมภาษณ์ลําดับที่1 ได้ เข้าทํางาน
เรื่องที่สอง
เป็นการสอบเข้าทํางานในตําเเหน่งข้าราชการ ของ รพ.รัฐ เเห่งหนึ่ง
ซึ่งมีผู้สมัครจํานวน 5 คน เเละ3 ใน5 คนนั้น ก็คือคนที่ทํางานใน รพ. นั้นอยู่เเล้ว ลําดับการสมัคร คือ 1 2 เเละ5 (ตําเเหน่ง น่าจะพนง.ราชการหรือไม่ก็ลูกจ้างชั่วคราวอยู่) วิธีการคัดเลือก คือการสอบสัมภาษณ์ เพียงอย่างเดียว เมื่อถึงวันสัมภาษณ์ 3/5 คนนั้น ใส่ชุดกาวน์ มาสอบสัมภาษณ์ด้วย ( น่าจะให้กรรมการรู้ว่า ทํางานอยู่ที่รพ. นี้อยู่เเล้ว) หลังจากผลสัมภาษณ์ออกมา ก็ตามคาด คนสมัครลําดับที่1 2 5 ได้ลําดับที่ 1 2 เเละ3 คนที่ได้ที่1 ก็คือคนสมัครคนที่1 นั้นเเหละ
ผมเลยเข้าใจเเล้วว่าต่อให้คุณโครตเก่ง หรือ ฉลาดเเค่ไหน สุดท้ายคุณก็เเพ้เด็กเส้นอยู่ดี
ผมอยากจะฝากไปถึงคนที่จะสอบเข้าทํางานในหน่วยงานรัฐ หรือเอกชนก็ดี ให้สังเกตุว่า ถ้าไม่ได้เป็นการรับสมัครจากส่วนกลาง ของหน่วยงาน คุณอย่าไปสมัครเลย เสียค่าสมัครเปล่าๆ เอาเวลาไปพัฒนาตัวเองหรือทํางานหาเงินอย่างอื่นดีกว่า เพราะประเทศไทยมันเป็นระบบอุปถัมป์ มาช้านานเเล้ว โดยเฉพาะหน่วยงานรัฐต่างๆ ที่รับสมัครเองภายในหน่วยงาน ไม่ผ่านส่วนกลาง
สุดท้ายสําหรับใครที่รู้ว่าคุณเข้าทํางานเพราะเส้นสาย ก็ของให้คุณรู้ไว้ว่า คุณไม่ได้เก่งกว่าคนอื่นหรอก เเค่คุณโชคดีกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง
เเละขอเป็นกําลังใจให้คนที่ถูกเด็กเส้นเเย่งงานทุกคนครับ ขอให้ได้งานดีๆ ที่คุณเเสดงความสามารถได้เต็มที่ ใครมีประสบการณ์เด็กเส้น ก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะครับ
มาเเชร์ประสบการณ์รับเด็กเส้นกัน
เรื่องเเรก
เป็นการรับสมัครงานตําเเหน่ง พนักงานธุรการ ของ อบต .เเห่งหนึ่ง เเถวบ้านผมเอง ซึ่งมีคนสมัครประประมาณ30 คนได้ จะสอบสองรอบคือ ข้อเขียน(กา) เเละรอบสอง สัมภาษณ์ หลังจากประกาศผลรอบเเรกเสร็จก็เหลือคนที่ต้องเข้าสอบรอบสอง
(สัมภาษณ์ ) เหลือประมาณ 3 คน ซึ่งคนที่ผ่านเข้ามารอบสอง คนเเรกก็คือ คนที่สมัครลําดับที่1 ขณะนั่งรอกรรมการ เพื่อสอบสัมภาษณ์รอบสอง ผมเห็นคนที่สมัครลําดับที่1 คุยกับ จนท .อบต อย่างสนิทสนม ผมรู้เลยว่าคนนี้เเหละที่จะได้ เพราะผมสืบมาเเล้วว่า คนที่สมัครลําดับที่1 เขาเคยทํางานที่ อบต นี้มาก่อน เเละหลังประกาศผลรอบสอง ก็เป็นไปตามคาด คนที่สมัครลําดับที่1 เเละสอบสัมภาษณ์ลําดับที่1 ได้ เข้าทํางาน
เรื่องที่สอง
เป็นการสอบเข้าทํางานในตําเเหน่งข้าราชการ ของ รพ.รัฐ เเห่งหนึ่ง
ซึ่งมีผู้สมัครจํานวน 5 คน เเละ3 ใน5 คนนั้น ก็คือคนที่ทํางานใน รพ. นั้นอยู่เเล้ว ลําดับการสมัคร คือ 1 2 เเละ5 (ตําเเหน่ง น่าจะพนง.ราชการหรือไม่ก็ลูกจ้างชั่วคราวอยู่) วิธีการคัดเลือก คือการสอบสัมภาษณ์ เพียงอย่างเดียว เมื่อถึงวันสัมภาษณ์ 3/5 คนนั้น ใส่ชุดกาวน์ มาสอบสัมภาษณ์ด้วย ( น่าจะให้กรรมการรู้ว่า ทํางานอยู่ที่รพ. นี้อยู่เเล้ว) หลังจากผลสัมภาษณ์ออกมา ก็ตามคาด คนสมัครลําดับที่1 2 5 ได้ลําดับที่ 1 2 เเละ3 คนที่ได้ที่1 ก็คือคนสมัครคนที่1 นั้นเเหละ
ผมเลยเข้าใจเเล้วว่าต่อให้คุณโครตเก่ง หรือ ฉลาดเเค่ไหน สุดท้ายคุณก็เเพ้เด็กเส้นอยู่ดี
ผมอยากจะฝากไปถึงคนที่จะสอบเข้าทํางานในหน่วยงานรัฐ หรือเอกชนก็ดี ให้สังเกตุว่า ถ้าไม่ได้เป็นการรับสมัครจากส่วนกลาง ของหน่วยงาน คุณอย่าไปสมัครเลย เสียค่าสมัครเปล่าๆ เอาเวลาไปพัฒนาตัวเองหรือทํางานหาเงินอย่างอื่นดีกว่า เพราะประเทศไทยมันเป็นระบบอุปถัมป์ มาช้านานเเล้ว โดยเฉพาะหน่วยงานรัฐต่างๆ ที่รับสมัครเองภายในหน่วยงาน ไม่ผ่านส่วนกลาง
สุดท้ายสําหรับใครที่รู้ว่าคุณเข้าทํางานเพราะเส้นสาย ก็ของให้คุณรู้ไว้ว่า คุณไม่ได้เก่งกว่าคนอื่นหรอก เเค่คุณโชคดีกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง
เเละขอเป็นกําลังใจให้คนที่ถูกเด็กเส้นเเย่งงานทุกคนครับ ขอให้ได้งานดีๆ ที่คุณเเสดงความสามารถได้เต็มที่ ใครมีประสบการณ์เด็กเส้น ก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะครับ