การทำสัญญาซื้อขายบ้านมากกว่าราคาซื้อขายจริง เพื่อให้กู้เงินจากธนาคารใด้มากๆ มีความผิดไหมคะ

สวัสดีค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า ดิฉันเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกับแม่ แต่บ้านเป็นชื่อแม่ เมื่อปลายปี2560 ดิฉันใด้เขียนใบมอบอำนาจให้แม่ทำสัญญาจะขายที่ดินแทน ในราคา หนึ่งล้านบาท แต่หนึ่งปีผ่านไปก็ไม่ใด้ขาย และเมื่ออาทิตย์ที่แล้วคนที่เคยบอกว่าจะซื้อ ติดต่อมาหาแม่ บอกว่าเขาทำเรื่องกู้ธนาคารผ่านแล้ว และต้องการวางมัดจำเพื่อให้ธนาคารอนุมัติเงินกู้ ซึ่งตัวดิฉันอยู่ต่างประเทศ  คิดว่าจะโอนเงินไปเพื่อซื้อส่วนอีกครึ่งจากแม่ แต่สายเกินไปค่ะ แม่ใช้ใบมอบอำนาจที่ดิฉันเคยเขียนไว้เมื่อปีกว่าไปทำสัญญาว่าจะขายที่ดิน โดยมีเงินวางมัดจำเพียงห้าพันบาท เพราะผู้ซื้อไม่มีเงินวางมัดจำมากกว่านี้  และ ตกลงจะซื้อขายกันในราคาหนึ่งล้าน แต่ในใบสัญญาเขียนว่า ล้านแปดแสน  โดยแม่บอกว่า หากธนาคารจ่ายเช็คมาแล้ว ทางเราต้องคืนเงินให้ผูซื้อไป 8แสน...ดิฉันจะต้องซื้อตั๋วเครื่อบิน บินกลับไปในวันโอน หากผู้ซื้อถอนตัวออก เงินมัดจำเพียงห้าพันยังไม่ใด้1/4ของค่าเครื่องบินเลย ดิฉันอยากยกเลิกสัญญา แต่แม่กลัวเสียคำพูดที่ตกลงเขาไว้
  ดิฉันจึงมีข้อข้องใจอยากถามผู้รู้ดังนี้ค่ะ
-หนังสือมอบอำนาจจะมีอายุเพียงหกเดือนใช่ไหมคะ แต่ทำไมทางธนาคารยังรับ
-ในหนังสือมอบอำนาจ ดิฉันระบุชัดเจนว่าขายในราคาหนึ่งล้าน แต่สัญญาที่ทำขี้นมาเขียนว่าล้านแปดแสน  แสดงว่าธนาคารไม่ใด้สนใจหนังสือมอบอำนาจใช่ ไหมคะ
-โดยปกติแล้ว เขาวางมัดจำกันกี่เปอร์เซ็นต์ ของราคาที่จะซื้อขาย
-การทำหนังสือสัญญาขายในราคาที่สูงกว่าราคาที่ตกลงจ่ายกันจริงๆ แบบนี้ เป็นการสมคบคิดกันหลอกลวงแบงค์หรือเปล่า  แล้วจะมีผลอะไรตามมาไม๊คะ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 25
" แม่เห็นว่าผู้อซื้อมีหนังสือจากทางธนาคารมาให้ดูว่ามีเขาสามารถกู้เงินในจำนวณนั้นใด้ "
หนังสืออะไรครับ
ปกติธนาคารไม่มีหน้าที่ ที่จะไปออกหนังสือรับรองใคร ว่าจะกู้ได้หรือไม่ กู้ได้เท่าใหร่
ที่ว่าผู้ซื้อไปติดต่อธนาคารแล้วกู้ได้ล้านแปด แน่ใจได้อย่างใรว่าธนาคารจะอนุมัติ
ตามขั้นตอนแล้ว ผู้ซื้อไปขอสินเชื่อกับธนาคารโดยแจ้งความประสงค์ว่าจะซื้อที่ดิน
ธนาคารก็จะขอเอกสารประกอบเป็นหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย สำเนาโฉนด ฯลฯ
เพื่อควบคุมการใช้เงินกู้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ว่ามีการซื้อขายที่ดินตามโฉนดที่แจ้งจริง
ที่คุณทำหนังสือมอบอำนาจให้ขาย เนื่องจากที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ร่วม ในขั้นตอนการพิจารณาสินเชื่อ
ธนาคารไม่ได้ให้ความสำคัญ เพราะถ้าคุณไม่ยอมขาย ธนาคารก้ไม่เสียหายอะไร
ส่วนสัญญาจะซื้อจะขาย เป็นความผูกพันธ์ระหว่างผู้ซื้อ ผู้ขาย เท่านั้น ธนาคารไม่เกี่ยว
คุณต้องไปดูในสัญญาว่าระบุอะไรไว้บ้าง เช่น เงินมัดจำ ระยะเวลาความผูกพันธ์ในสัญญา
ถ้าผู้ซื้อผิดสัญญา ไม่โอนภายในระยะเวลาที่ระบุไว้ คุณก็ริบเงินมัดจำ สัญญาสิ้นสุดความผูกพันธ์
ส่านราคาซื้อขายจริง หนึ่งล้าน แต่ระบุ ล้านแปด คูณก็ไม่ต้องกังวล ถ้าธนาคารอนุมัติวงเงินให้ผู้กู้ได้ล้านแปดจริง
ก็แสดงว่า คูณขายได้ในราคาต่ำกว่าความเป็นจริง ไม่ต้องกลัวว่าธนาคารจะเสียเปรียบ
ถ้าให้ผมเดา ผู้ซื้อน่าจะเป็นพวกนายหน้า โดยทำสัญญาจะซื้อจะขาย ให้มีระยะเวลาผูกพันธ์กันนาน ๆ
และวางเงินมัดจำน้อย ๆ ระบุราคาให้เกินกว่าราคาที่ซื้อขายกันจริง ถ้าเขาขายได้ ก็ได้ส่วนต่างแปดแสน
ถ้าขายไม่ได้ก็เสียห้าพัน (หนังสือที่ธนาคารออกให้ ข้างต้น ไม่น่าจะมีจริง)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่