คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
จะบอกว่าดีแล้วที่น้ำหนักดีดขึ้น น้ำหนักเกิน 100 kg ลงเร็วไป สภาพหนังปรับไม่ทันย้วยได้ ช่วงนี้ฝึกอยู่แบบรักษาน้ำหนักไปก่อน ออกกำลังหักล้าง ฝึกนับแคลลอรี่ อาหาร อะไรที่นับยากก็อย่าไปทานเยอะ ทานที่นับง่ายๆ
ถ้าระบบเผาผลาญพังก็ต้องสังเคราะห์แสงถึงจะเดินได้
ถ้าพัง เดินๆอยู่ไม่เผาผลาญสะดุดหกล้มละมั่งครับ
มันไม่มีพังหรอกครับ เป็นแค่ adaptive metabolism ครับ
ส่วน starvation mode เท่าที่อ่านในเวปฝรั่ง บ้างบอกว่าอดจนใกล้ตาย จะเกิดได้ บ้างก็ว่ามีโอกาสเกิด ไม่กี่เปอร์เซนต์ บ้างก็บอกว่าเป็นนิยาย ฟังหูไว้หูนะครับ
นักโภชนาฝรั่ง ทดลองกิน 300 แคล หลายเดือน ผมร่วง ความดันต่ำ เข้าโรงพยาบาลเกือบตาย คนไทยในกระทู้พันทิป อดอาหาร(อดหลายวัน) เดือนนึงลด 20 กิโล เข้าโรงพยาบาล น้ำหนักขึ้นสูงกว่าเดิม
การลดน้ำหนักทุกวิธี เป็นการขาดอาหารทั้งสิ้น มันขาดมันถึงต้องดึงที่สะสมมาใช้ อย่าปล่อยให้ขาดอาหาร จนขาดอาหารรุนแรง สังเกตน้ำหนักที่ลดแต่ละเดือน ลดมากขาดมาก
ถ้าเราไม่ทำเกิดขาดอาหารรุนแรง การทานน้อย จะเกิดแค่อัตราเผาผลาญจะปรับตัว ประสิทธิภาพต่ำลงบ้าง
เวลาอัตราการเผาผลาญปรับลง มันก็ค่อยๆปรับลง เวลาขึ้นมันก็ค่อยๆปรับขึ้นเช่นกัน ถ้าเข้าใจ ก็อย่าเปลี่ยนการกินเพิ่มอย่างรวดเร็วเป็นเวลานานๆครับ
ปรับการกินเพิ่ม ทีละสัปดาห์ เพิ่มสัปดาห์ละ 100-200 แคล ใช้การออกกำลังกาย กระตุ้นการเผาผลาญ และ หักล้าง ปรับจนกว่า การทานสูงกว่า BMR น้ำหนักใหม่
อีกวิธีหนึ่งที่ผมใช้ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ลดน้ำหนัก ผมทาน 800-1000 แคล 2 สัปดาห์ สัปดาห์แรก ลงเกือบ 2 โล สัปดาห์ต่อมา ดันกินมื้อเย็นมากไปหน่อยแล้วพยายามเฉลี่ยในวันถัดไป เกือบอาทิตย์น้ำหนักไม่ลง ผมปรับไปทาน 1200 แคล แต่ส่วนใหญ่จะเกิน 1200 แคล และ เลื่อน มื้อเย็นทานตอนบ่ายสาม เป็นการทานแบบ IF 16/8 ออกกำลังกายน้อยลงครึ่งหนึ่งปรากฏว่าน้ำหนักลงสัปดาห์ละ 1 กิโล
ผมลดเร็วเป็นช่วงๆ ช่วงที่โฟกัส 2-4 สัปดาห์จะลงเร็ว ช่วงที่เดินทาง หรือ ช่วงที่มีงานเลี้ยง ผมจะฝึกการทาน การ อยู่ แบบรักษาน้ำหนัก ทานเพิ่ม ออกกำลังหักล้าง ถือว่าเป็นการปรับฐานเป็นระยะๆ รอผิวหนังปรับสภาพไปด้วยกัน
การกินอยู่เพื่อลดน้ำหนัก กับ การกินอยู่เพื่อการรักษาน้ำหนัก ของผม จะบอกว่าต่างกันสิ้นเชิง ครับ ไม่จำเป็นต้องกินอยู่แบบลดน้ำหนักตลอดชีพ เพราะผมไม่เคยคิดลดน้ำหนักตลอดชีพ ครับ
การลดน้ำหนักอยู่ยากกว่าต้องวินัยสูงต้องให้เวลากับมันเพื่อโฟกัส
การรักษาน้ำหนัก คำนวนได้ ประมาณได้อาหารแต่ละอย่างชวนอ้วนทั้งนั้น แต่รู้ว่าจะกินอย่างไร ช่วงไหนมีงานเลี้ยง คิดล่วงหน้าเลยจะกินอะไรเท่าไหร่ เสาร์อาทิตย์ว่างออกกำลัง หักล้าง ครับ
ทั้งกิน และ ออกกำลังกายเป็นเรื่องสำคัญทั้งคู่
มีสติ อย่าเปลี่ยนแปลงการกินอย่างรวดเร็วเป็นเวลานานๆ อย่าตามใจปาก อย่ากินเหมือนในอดีต เพราะทั้งหมดนี้คือการกินแบบเพิ่มน้ำหนัก
สูตร BMR คร่าวๆ ของผู้ชาย ทำงานออฟฟิต = 12.84 x นน + 570 + 200 แคล แนะนำทานขั้นต่ำ 80% ของ BMR ที่ได้จากสูตร
หาความรู้ คำนวนแคลลอรี่อาหารเป็น รักการออกกำลังกาย มีสติ คุณจะคุมมันอยู่ครับ
ถ้าระบบเผาผลาญพังก็ต้องสังเคราะห์แสงถึงจะเดินได้
ถ้าพัง เดินๆอยู่ไม่เผาผลาญสะดุดหกล้มละมั่งครับ
มันไม่มีพังหรอกครับ เป็นแค่ adaptive metabolism ครับ
ส่วน starvation mode เท่าที่อ่านในเวปฝรั่ง บ้างบอกว่าอดจนใกล้ตาย จะเกิดได้ บ้างก็ว่ามีโอกาสเกิด ไม่กี่เปอร์เซนต์ บ้างก็บอกว่าเป็นนิยาย ฟังหูไว้หูนะครับ
นักโภชนาฝรั่ง ทดลองกิน 300 แคล หลายเดือน ผมร่วง ความดันต่ำ เข้าโรงพยาบาลเกือบตาย คนไทยในกระทู้พันทิป อดอาหาร(อดหลายวัน) เดือนนึงลด 20 กิโล เข้าโรงพยาบาล น้ำหนักขึ้นสูงกว่าเดิม
การลดน้ำหนักทุกวิธี เป็นการขาดอาหารทั้งสิ้น มันขาดมันถึงต้องดึงที่สะสมมาใช้ อย่าปล่อยให้ขาดอาหาร จนขาดอาหารรุนแรง สังเกตน้ำหนักที่ลดแต่ละเดือน ลดมากขาดมาก
ถ้าเราไม่ทำเกิดขาดอาหารรุนแรง การทานน้อย จะเกิดแค่อัตราเผาผลาญจะปรับตัว ประสิทธิภาพต่ำลงบ้าง
เวลาอัตราการเผาผลาญปรับลง มันก็ค่อยๆปรับลง เวลาขึ้นมันก็ค่อยๆปรับขึ้นเช่นกัน ถ้าเข้าใจ ก็อย่าเปลี่ยนการกินเพิ่มอย่างรวดเร็วเป็นเวลานานๆครับ
ปรับการกินเพิ่ม ทีละสัปดาห์ เพิ่มสัปดาห์ละ 100-200 แคล ใช้การออกกำลังกาย กระตุ้นการเผาผลาญ และ หักล้าง ปรับจนกว่า การทานสูงกว่า BMR น้ำหนักใหม่
อีกวิธีหนึ่งที่ผมใช้ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ลดน้ำหนัก ผมทาน 800-1000 แคล 2 สัปดาห์ สัปดาห์แรก ลงเกือบ 2 โล สัปดาห์ต่อมา ดันกินมื้อเย็นมากไปหน่อยแล้วพยายามเฉลี่ยในวันถัดไป เกือบอาทิตย์น้ำหนักไม่ลง ผมปรับไปทาน 1200 แคล แต่ส่วนใหญ่จะเกิน 1200 แคล และ เลื่อน มื้อเย็นทานตอนบ่ายสาม เป็นการทานแบบ IF 16/8 ออกกำลังกายน้อยลงครึ่งหนึ่งปรากฏว่าน้ำหนักลงสัปดาห์ละ 1 กิโล
ผมลดเร็วเป็นช่วงๆ ช่วงที่โฟกัส 2-4 สัปดาห์จะลงเร็ว ช่วงที่เดินทาง หรือ ช่วงที่มีงานเลี้ยง ผมจะฝึกการทาน การ อยู่ แบบรักษาน้ำหนัก ทานเพิ่ม ออกกำลังหักล้าง ถือว่าเป็นการปรับฐานเป็นระยะๆ รอผิวหนังปรับสภาพไปด้วยกัน
การกินอยู่เพื่อลดน้ำหนัก กับ การกินอยู่เพื่อการรักษาน้ำหนัก ของผม จะบอกว่าต่างกันสิ้นเชิง ครับ ไม่จำเป็นต้องกินอยู่แบบลดน้ำหนักตลอดชีพ เพราะผมไม่เคยคิดลดน้ำหนักตลอดชีพ ครับ
การลดน้ำหนักอยู่ยากกว่าต้องวินัยสูงต้องให้เวลากับมันเพื่อโฟกัส
การรักษาน้ำหนัก คำนวนได้ ประมาณได้อาหารแต่ละอย่างชวนอ้วนทั้งนั้น แต่รู้ว่าจะกินอย่างไร ช่วงไหนมีงานเลี้ยง คิดล่วงหน้าเลยจะกินอะไรเท่าไหร่ เสาร์อาทิตย์ว่างออกกำลัง หักล้าง ครับ
ทั้งกิน และ ออกกำลังกายเป็นเรื่องสำคัญทั้งคู่
มีสติ อย่าเปลี่ยนแปลงการกินอย่างรวดเร็วเป็นเวลานานๆ อย่าตามใจปาก อย่ากินเหมือนในอดีต เพราะทั้งหมดนี้คือการกินแบบเพิ่มน้ำหนัก
สูตร BMR คร่าวๆ ของผู้ชาย ทำงานออฟฟิต = 12.84 x นน + 570 + 200 แคล แนะนำทานขั้นต่ำ 80% ของ BMR ที่ได้จากสูตร
หาความรู้ คำนวนแคลลอรี่อาหารเป็น รักการออกกำลังกาย มีสติ คุณจะคุมมันอยู่ครับ
แสดงความคิดเห็น
ลดน้ำหนักมาได้สักระยะหนึ่ง แล้วน้ำหนักไม่ยอมลงอีก
1. ภาวะระบบเผาผลาญต่ำแก้ให้ถูกต้องอย่างไร ใช้ระยะเวลาเท่าใด
2. คือถ้าผมอยากลดให้เหลือ 90 กิโลกรัมภายใน 2 เดือนจะเป็นไปได้มั้ยครับ
ปล. ถ้าใครมีประสบการณ์ระบบเผาผลาญพัง เล่าให้ฟังหน่อยครับว่าผ่านมันมายังไง ขอบคุณมากครับ