ลูกไม้ลายสนธยา (กึ่งรีวิว) : เมื่อโลกของเรา ... ล่มสลาย

กาลผ่านไปนับร้อยปี ช่วงอายุขัยนั้นสำหรับมนุษย์แห่งชมพูทวีปนับว่ายืนยาว แต่ที่อุตรกุรุทวีปกลับนับว่าแสนสั้น แต่เมื่อเปรียบเทียบกันเหมหิรัญญ์ก็ยังคิดว่าเขามองเห็นโลกใบนี้มานานหนักหนา ผ่านหลายช่วงอายุขัย ผ่านหลายช่วงกาลเวลา ในฐานะผู้เฝ้าประตูกาล คิดว่าเห็นจนปรุโปร่ง แต่การเห็นกับการรู้และเข้าใจเป็นคนละอย่าง ความรักที่เขานึกว่ารู้ว่าเห็นหากไม่เคยได้สัมผัสและรู้สึก เมื่อได้เจอะเจอมันแล้วก็ไม่อาจจะถอนตัว ที่ผ่านมาเขาไม่ได้สมบูรณ์พร้อมอย่างที่คิด ที่นี่ชมพูทวีปแห่งนี้นั่นเองที่ทำให้เขาเติมเต็ม

ทุกอย่างดูสดใสสว่าง แต่สายตาที่เคยอยากรู้อยากเห็น สายตาเยือกเย็นมองโลกกว้างด้วยเหตุและผล กลับคับแคบลง โลกของเขาหมุนเวียนอยู่ที่คน ๆ หนึ่ง หลังจากคืนนั้น คืนที่จันทร์สลัวรางทอแสงทาบทับเงาร่างที่กอดกระหวัดซาบซ่านและลึกซึ้งจนแสงอรุณทอขอบฟ้า เขาก็เชื่อ และ มั่นใจอย่างง่าย ๆ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะผูกมัดทุกอย่างให้มั่นคงและไม่เปลี่ยนแปลง ถึงจะรู้ว่าใด ๆ ในโลกล้วนเปลี่ยนแปร ... แต่ไม่ใช่เขาและเดือนพัตรา  ค่ำคืนนั้นและอาจมีค่ำคืนต่อ ๆ มา สายใยแน่นเหนียวร้อยรัดถักทออย่างแน่นแฟ้น ไม่มีทางจะเป็นอื่นได้ จะเปลี่ยนเป็นอื่นได้อย่างไรยังมองไม่เห็นทาง เขารักเธอมากขนาดนี้ และ เธอก็รักเขามากขนาดนั้น ทุกข์ สุข ก็ผ่านพบกันมาหมดแล้ว

เขาวางชีวิตทั้งชีวิตไว้ที่เธอ
และเชื่อว่าเธอก็วางหัวใจทั้งดวงไว้ที่เขา


แต่ชีวิต ... ไม่ว่าจะแห่งหนใด มนุษย์ไม่ว่าจะเกิดขึ้น ณ ที่แห่งไหน เหตุปัจจัยก็ซับซ้อนเกินจะหยั่ง การยึดถือแต่ละฝ่ายเป็นโลกทั้งใบของกันและกัน โคจรรอบกัน และ ไม่ห่างจากกัน นำมาซึ่งสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นก็จริง แต่สายตาและหัวใจของทั้งสองฝ่ายก็แคบลง แคบลง จนสุดท้ายเป็นการทำร้ายซึ่งกัน เพราะมองเห็นเพียงกันและกัน เพราะคำนึงถึงกันและกันก่อนมองเห็นตัวเอง ทั้งเขาและเธอเพียรทำทุกอย่างเพื่อรักษา "โลก" ของกันไม่ให้แตกสลาย

เขารู้ว่าเธอเป็นห่วง แต่ก็รู้ว่าอาการของตัวเองหนักเต็มที แต่เพื่อรักษา "โลก" ของตัวเองเอาไว้ เขาจึงเพิกเฉยต่อสังขารที่เรื้อไข้ เพิกเฉยต่อความเจ็บปวด ต่อสติที่วูบไหว ต่อความผุพังทางกาย ที่ไม่อาจรอดพ้นจากสายตาของอีกฝ่ายที่เพียรเฝ้าสังเกต กระนั้นสิ่งที่ปรากฏต่อเดือนพัตราเข้าทำร้ายประหัตประหารความรู้สึกของเธอรุนแรง ความเจ็บปวดของเขาทำให้เธอโหยไห้ ร้อนรน กราดเกรี้ยว ที่ช่วยเหลืออะไรคนตรงหน้าไม่ได้ โลกของเธอเช่นกันกำลังจะแตกสลาย แล้วจะต้องทำอย่างไรเพื่อจะรักษามันเอาไว้

เรขรุจีบอกว่าเธอต้องแลกชีวิตเขากับความรัก ได้สิ ... ความรัก ขอเพียงแค่เขายังอยู่ ที่ไหนก็ได้ ก็เอาทุกอย่างจากฉันไป รอยยิ้ม ความสุข ความดี ศีลธรรม เอาไปให้หมด ยอมแม้แลกแม้กระทั่งน้ำตาและความเจ็บปวดของเหมหิรัญญ์หากมันจะทำให้เขามีชีวิตรอด พ้นจากโรคภัยและความทุรนทุราย ทุกครั้งที่ทำคือความทรมานเหลือแสน น้ำตา น้ำเสียงสั่นเครือ ความพัง ความแพ้ ทำให้เดือนพัตราเกือบทนไม่ไหว ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เธอต้องหันหลังวิ่งสุดฝีเท้า คือการโทษตัวเองของเขา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่เป็นเพราะเขาไม่ระมัดระวังใจ แต่ถึงอย่างไรเขาก็จะยังรักเธอ ผู้เดียว .... เสมอไป

ใครเล่าจะนึก .... หนทางการรักษา "โลก" ของเหมหิรัญญ์และเดือนพัตรา ด้วยสายตาที่มองเห็นเพียงกันและกัน พยายามทำเพื่อกัน โดยไม่นึกถึงตนเองว่าจะต้องรู้สึกอย่างไร ใครจะนึกว่าวิถีทางแบบนั้นสุดท้ายกลับกลายเป็นการยื่นมือประหัตประหารเชือดเนื้อเถือหนังกันและกันอย่างโหดร้ายที่สุด เขาผู้เพิกเฉยร่างกายสังขารเพื่อยื้อที่จะอยู่กับใครคนหนึ่ง การกระทำนั้นทำให้อีกฝ่ายเจ็บร้าวเหลือแสน เธอผู้เพิกเฉยกับความรู้สึกตัวเองผลักไสให้ใครคนหนึ่งกลับไปในที่ ๆ เขาจากมาเพื่อรักษาชีวิต กลับทำให้คน ๆ นั้นหัวใจสลายสิ้นด้วยความทุกข์ทน

โลกของเราล่มสลาย เพราะ เรามองเห็นเพียงกันและกัน
โลกของเราล่มสลาย เพราะ เราโคจรรอบกันและกัน
โลกของเราล่มสลาย เพราะ เรารักกันมากเกินไป


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


หากเคียงชิดใกล้แต่เธอต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อฉัน
ประโยชน์ที่ใดหากรักทำร้ายตัวเอง
หากเดินแนบกาย บีบคั้นจนล้มลงเจ็บด้วยกัน
ห่างเพียงนิดเดียว ให้รักเป็นสายลมผ่านระหว่างเรา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่