หลังจากนั้น หลังจากวันที่โลกของเขาและเธอล่มสลาย ไม่มีวันไหนเลยที่มีความสุข ในอุตรกุรุทวีปสรรพสิ่งงดงามดังภาพฝัน หากเหมหิรัญญ์ก็ยังคงหยุดยืนตรงหน้าประตูกาล น้ำตายังคงรินไหลไม่หยุด ร่างกายคืนสภาพและหายดี พลกำลัง ฤทธานุภาพที่เคยมีกลับคืนมาอีกครั้ง รอบกายเรืองรองด้วยรัศมีงดงามดังที่เคยเป็น ดูเหมือนทั่วสรรพางค์กายของเหมหิรัญญ์มีแต่ดีขึ้น และ ดีขึ้น แต่พรรคพวกเพื่อนพ้องก็รู้ว่าภายในจิตใจไม่ได้สดชื่นงดงามดังทัศนียภาพรอบตัว ไม่ได้ไม่เป็นไรเหมือนที่เจ้าตัวพยายามเพียรแสดงออก โลกของเขาผู้นั้นล่มสลายไปแล้ว ที่เหลือก็คือเปลือกกลวงว่างเปล่า เวลาผันผ่าน กาลเวลาเดินต่อไปข้างหน้า แต่จิตใจกลับหยุดนิ่งอยู่กับที่
เช่นเดียวกับเธอ ... เดือนพัตราตัดสินใจไปแล้ว และ การตัดสินใจนั้นทำให้โลกของเธอสลายลง ทุกวันคือการฝืนทน คือการเสแสร้างแสดงหน้ากระจกบานใหญ่ ที่เธอคิดว่าเขาจะต้องมองอยู่ ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่ง หลอกอะไรไม่ร้ายกาจเท่าหลอกตัวเอง ความร้าวรานนั้นยังติดตา ความร้าวรานของเขาเมื่อยามเธอบอกว่า เธอ .... ไม่รัก เธอเคยนึกก่อนหน้านั้น โลกใบนี้จะเอาอะไรไปจากเธอก็ได้ เอาไปให้หมด ขอเพียงเขามีชีวิตอยู่ แต่สุดท้ายมันก็ยากเหลือเกินที่จะทำใจ กับการที่ตื่นขึ้นมา กับการที่ทุกลมหายใจเข้าออกก็คิดถึงเขาทุกครั้ง
หลังจากเกิดเรื่องปลาทูถามเธอว่า สรุปแล้ว "รัก" ดีหรือไม่ดี จากวันที่พบเจอกันเป็นต้นมา ทุกอย่างเคยดี จนกระทั่งเขาและเธอค่อย ๆ ลดขอบเขตของสายตาเหลือเพียงแค่กันและกัน คำถามนั้นตำใจยิ่งนัก เพราะเดือนพัตราเองก็เริ่มตระหนัก ในส่วนของความรัก ... เธออาจไม่ต่างอะไรกับคุณศิถี รักเกินนักมักทำลาย รักของศิถีนำไปสู่ความไม่รู้ผิดถูก นำไปสู่ความทะยานอยาก หายนะและความตาย ส่วนรักของเธอแม้ไม่เลวร้ายขนาดนั้น แต่สัมพันธ์ก็ล่มสลายลง เมื่อสิ่งที่นึกว่าทนไหวเกิดทนไม่ไหวขึ้นมา มันจึงนำพาให้เธอกลับไปสู่อุตรกุรุทวีปอีกครั้ง
อย่างน้อย ... ถึงมันไม่อาจแก้ไขสิ่งที่เธอได้กระทำลงไป การกระทำที่ใช้คำว่า "รัก" ทำลายผู้ชายคนหนึ่งซึ่งรักเธอยิ่งกว่าชีวิต ที่สุดแล้วความจริงก็คือความจริง เธอกับเขาอาจอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ควรทำเหมือนว่าเขาและเธอไม่มีเยื่อใยต่อกัน ความรักเป็นอะไรได้หลายอย่าง แต่ความรักไม่ใช่เครื่องมือที่จะใช้ประหัตประหารกัน โลกที่ไม่มีเขาช่างเจ็บปวดนัก เมื่อเขาจากไปจริง ๆ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันจะอยู่ได้อย่างไร
ซึ่งสิ่งนั้นก็เป็นเฉกเช่นที่เหมหิรัญญ์เรียนรู้ ปฏิเสธอะไรก็ไม่เท่าปฏิเสธตัวเอง ตัวเขาเองก็เหมือนสายน้ำ สายน้ำไหลไปแล้วก็ไม่อาจทวนกลับได้ เปรียบกับการที่กลับมาใช้ชีวิตในอุตรกุรุทวีป เหมหิรัญญ์ไม่อาจทำใจให้มีความสุขได้ดังเดิม เขารู้จักความรักเข้าเสียแล้ว มันให้รสหวานล้ำ และ ทำให้เจ็บเจียนตาย แต่มันก็เป็นสิ่งที่มีความหมาย และ ทำให้เขาเป็นคนเต็มคน หากเป็นเช่นนั้นก็ยอมรับความจริงเสียไม่ดีหรอกหรือ
ที่ไหนมีเธอที่นั่นงดงามเสมอ
ที่ไหนมีเขาที่นั่นก็เป็นโลกของเธอเสมอ
เขาว่า "โลก" หมุนได้ด้วยความรัก ใช่ .... ในนามของความรัก รักที่ทำให้ผู้หญิงเหวี่ยงวีนคนหนึ่งกลับตัวเป็นผู้เป็นคน รักที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งละทิ้งความปรารถนาของตนเพื่อใครอีกคน และ ท้ายที่สุดรักพัดพาเหมหิรัญญ์ให้ละทิ้งสภาวะอันเป็นทิพย์มาสู่ชมพูทวีป รักที่ทำให้ชมพูทวีปได้คนอีกอีกสองคนที่ตั้งใจมั่นจะส่งต่อความดีเพื่อสักวันหนึ่ง ดินแดนทั้งสี่จะเชื่อมโยงกันได้ในอีกวาระหนึ่ง รักที่ทำให้ทั้งเขาและเธอก้าวข้ามผ่านทุกข์ดีร้ายจนปลงใจเป็นคู่ชีวิต
เธอเพียงคนเดียวและเพียงเธอ
เพียงเธอที่รอ
ฉันจะขอภาวนาต่อหน้าฟ้าอันแสนไกล
นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไรสถานใด
เกิดชาติไหนฉันมีเธอ
มีเธอเพียงคนเดียว
ป.ล. เริ่มด้วย cocktail ก็จบด้วย cocktail
ลูกไม้ลายสนธยา (กึ่งรีวิว) final : ในนามของความรัก
เช่นเดียวกับเธอ ... เดือนพัตราตัดสินใจไปแล้ว และ การตัดสินใจนั้นทำให้โลกของเธอสลายลง ทุกวันคือการฝืนทน คือการเสแสร้างแสดงหน้ากระจกบานใหญ่ ที่เธอคิดว่าเขาจะต้องมองอยู่ ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่ง หลอกอะไรไม่ร้ายกาจเท่าหลอกตัวเอง ความร้าวรานนั้นยังติดตา ความร้าวรานของเขาเมื่อยามเธอบอกว่า เธอ .... ไม่รัก เธอเคยนึกก่อนหน้านั้น โลกใบนี้จะเอาอะไรไปจากเธอก็ได้ เอาไปให้หมด ขอเพียงเขามีชีวิตอยู่ แต่สุดท้ายมันก็ยากเหลือเกินที่จะทำใจ กับการที่ตื่นขึ้นมา กับการที่ทุกลมหายใจเข้าออกก็คิดถึงเขาทุกครั้ง
หลังจากเกิดเรื่องปลาทูถามเธอว่า สรุปแล้ว "รัก" ดีหรือไม่ดี จากวันที่พบเจอกันเป็นต้นมา ทุกอย่างเคยดี จนกระทั่งเขาและเธอค่อย ๆ ลดขอบเขตของสายตาเหลือเพียงแค่กันและกัน คำถามนั้นตำใจยิ่งนัก เพราะเดือนพัตราเองก็เริ่มตระหนัก ในส่วนของความรัก ... เธออาจไม่ต่างอะไรกับคุณศิถี รักเกินนักมักทำลาย รักของศิถีนำไปสู่ความไม่รู้ผิดถูก นำไปสู่ความทะยานอยาก หายนะและความตาย ส่วนรักของเธอแม้ไม่เลวร้ายขนาดนั้น แต่สัมพันธ์ก็ล่มสลายลง เมื่อสิ่งที่นึกว่าทนไหวเกิดทนไม่ไหวขึ้นมา มันจึงนำพาให้เธอกลับไปสู่อุตรกุรุทวีปอีกครั้ง
อย่างน้อย ... ถึงมันไม่อาจแก้ไขสิ่งที่เธอได้กระทำลงไป การกระทำที่ใช้คำว่า "รัก" ทำลายผู้ชายคนหนึ่งซึ่งรักเธอยิ่งกว่าชีวิต ที่สุดแล้วความจริงก็คือความจริง เธอกับเขาอาจอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ควรทำเหมือนว่าเขาและเธอไม่มีเยื่อใยต่อกัน ความรักเป็นอะไรได้หลายอย่าง แต่ความรักไม่ใช่เครื่องมือที่จะใช้ประหัตประหารกัน โลกที่ไม่มีเขาช่างเจ็บปวดนัก เมื่อเขาจากไปจริง ๆ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันจะอยู่ได้อย่างไร
ซึ่งสิ่งนั้นก็เป็นเฉกเช่นที่เหมหิรัญญ์เรียนรู้ ปฏิเสธอะไรก็ไม่เท่าปฏิเสธตัวเอง ตัวเขาเองก็เหมือนสายน้ำ สายน้ำไหลไปแล้วก็ไม่อาจทวนกลับได้ เปรียบกับการที่กลับมาใช้ชีวิตในอุตรกุรุทวีป เหมหิรัญญ์ไม่อาจทำใจให้มีความสุขได้ดังเดิม เขารู้จักความรักเข้าเสียแล้ว มันให้รสหวานล้ำ และ ทำให้เจ็บเจียนตาย แต่มันก็เป็นสิ่งที่มีความหมาย และ ทำให้เขาเป็นคนเต็มคน หากเป็นเช่นนั้นก็ยอมรับความจริงเสียไม่ดีหรอกหรือ
ที่ไหนมีเขาที่นั่นก็เป็นโลกของเธอเสมอ
เขาว่า "โลก" หมุนได้ด้วยความรัก ใช่ .... ในนามของความรัก รักที่ทำให้ผู้หญิงเหวี่ยงวีนคนหนึ่งกลับตัวเป็นผู้เป็นคน รักที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งละทิ้งความปรารถนาของตนเพื่อใครอีกคน และ ท้ายที่สุดรักพัดพาเหมหิรัญญ์ให้ละทิ้งสภาวะอันเป็นทิพย์มาสู่ชมพูทวีป รักที่ทำให้ชมพูทวีปได้คนอีกอีกสองคนที่ตั้งใจมั่นจะส่งต่อความดีเพื่อสักวันหนึ่ง ดินแดนทั้งสี่จะเชื่อมโยงกันได้ในอีกวาระหนึ่ง รักที่ทำให้ทั้งเขาและเธอก้าวข้ามผ่านทุกข์ดีร้ายจนปลงใจเป็นคู่ชีวิต
เพียงเธอที่รอ
ฉันจะขอภาวนาต่อหน้าฟ้าอันแสนไกล
นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไรสถานใด
เกิดชาติไหนฉันมีเธอ
มีเธอเพียงคนเดียว
ป.ล. เริ่มด้วย cocktail ก็จบด้วย cocktail