คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
จะกิน คีโตเจนิค ต้องศึกษาให้มากๆ เพราะมันเป็นสร้างสมดุลใหม่
ผมทานไป 8 วัน ซึ่งอยู่ระหว่างร่างกายกำลังปรับตัว จะมีคีโตฟลู อาการคีโตฟลูต้องศึกษาครับ กรณีของผมมันมีอะไรบางอย่างกวนใจที่หัวใจ ช่วงวันที่ 7-8 คิดแล้วไม่สบายใจเลยเลิกครับ
ไขมันไตรกลีเซอร ลดลงจาก 270 เป็น 104
ไขมัน HDL 36 ก่อนกินไม่ได้ตรวจค่านี้แต่คิดว่าคงอยู่40
เหตุที่ลดลงเพราะร่างกายเอาไปใช้กำจัด ไตรกลีเซอไรด์ด้วย ครับ
ไขมัน LDL จาก 120 เป็น 155
รุ่นพี่ผม ทานประมาณ 4 เดือน หุ่นเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน หน้าตอบ เอวเล็กลง ลดน้ำหนักไม่น่าต่ำกว่า 15 กิโล
ค่าเลือดที่ตรวจมา HDL 55 (ไม่ได้ออกกำลังกาย) LDL 135 ไตรกลีเซอร์ 84
เท่าที่ศึกษา กินไป 3-4 เดือน HDL สูงขึ้น และ LDL จะต่ำลง แต่ช่วงเดือนแรก LDL อาจจะสวิงขึ้นเท่าตัวได้ในเวลา 3 วัน
รุ่นพี่ผมที่เป็นหมอ เล่าให้ฟัง มันมีความเสี่ยง เรื่องตับ ไต เสื่อม และ ภาวะเลือดเป็นกรด อาจจะทำให้ โปรแตทเซียมในเลือดสูง ซึ่งทำให้หัวใจบีบตัวยากขึ้น ซึ่งเขาแนะนำผม ว่าของผมไม่ควรไปยุ่งเนื่องจาก หัวใจบีบตัวต่ำอยู่แล้ว ไม่แข็งแรงเท่าคนปกติ เลี่ยงไว้ดีกว่า
ผมไม่แน่ใจโดนขู่เรื่องภาวะโยโย่ กันมากรึเปล่า เพราะเห็นคนที่ลดความอ้วนสำเร็จมากมาย คือบางครั้งฟังๆ เหมือน โจมตี เอาคนทำไม่สำเร็จที่ ซึ่งส่วนน้อยมา โจมตี เหมือนบอกออกกำลังหัวใจวายตาย แปลว่าออกกำลังกายไม่ดี
ภาวะโยโย่ คือ ภาวะที่การเผาผลาญต่ำ อาจจะการโหยแป้ง หลังจากที่ลดน้ำหนักถึงเป้า ควรควบคุมอาหารต่อ โดย กินมากกว่า BRM มาตราฐาน และ ใช้การออกกำลังกายหักล้าง ใช้เวลา 2-3 เดือนให้ร่างกายปรับสมดุลเข้าสู่ปกติ มันเหมือนรักษาโรค เป็นโรคเข้าโปรแกรมรักษา ต้องควบคุม พอให้แล้ว ค่อยๆปรับร่างกายเข้าสู่ภาวะปกติ
ไขมันไตรกลีเซอไรด์เกิดจากกินแป้งมากเกินไป ส่วนที่เกินเปลี่ยนเป็นไขมัน ลดการกินข้าวและแป้ง
เรื่องความดันสามารถรักษาโดยไม่ใช้ยาได้
ผักสด กินสด หรือ ปั่นผักสดผสมผลไม้ กินพร้อมกาก ทำได้ทำ ถ้าปลูกผักเองได้ยิ่งดี เป็นงานอดิเรกคลายเครียดได้ดี ครับ
ข้าวหรือ แป้ง จำเป็นต้องมี เพราะใช้ควบคู่กับการดึงพลังงานไขมันสะสมมาใช้ แต่กินมากไปมันจะเหลือแล้วเปลี่ยนไขมัน ไขมันเอาออกยาก กินมากก็เพิ่มความยาก
ข้าว หรือ แป้ง รวม 1.5 ทัพพีต่อมื้อ ทานเฉพาะมื้อเช้าและเที่ยง
โปรตีน เลือกทาน ไข่ขาว ปลา อกไก่ น่องไก่ มื้อเย็นควรมีโปรตีนบ้าง เวลานอนร่างกายจะเอาโปรตีนไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และ สร้างกล้ามเนื้อ
ไขมัน เลือกทานไขมันดี ปลา ไข่แดงวันละ ไม่เกิน 1 ฟอง น้ำมันมะกอก ถั่วแอลมอนล์
การออกกำลังกายที่ดึงเอาออกไขมันที่สะสมมาใช้มากที่สุดคือการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ เดินเร็ว หรือ วิ่งช้า ๆแบบต่อเนื่องไม่หยุด ลากยาว 60 -150 นาที นาทีที่ 31 เป็นต้นไป ร่างกายจะใช้พลังงานจากไขมันที่สะสมเป็นส่วนใหญ่ และ ใช้ไกลโคลเจนที่ได้จากแป้ง บางส่วน
ถ้าไกลโคลเจนหมด ออกเกิน 150 นาที ร่างกายจะเริ่มดึงโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้
แบ่งเวลา บางวัน เล่นเวท หรือ weight body ได้ด้วยก็ดี
ฟังคลิปครับ จะได้เข้าใจในรายละเอียด
https://m.youtube.com/watch?v=E6y7YpHufps&t=21s
https://m.youtube.com/watch?v=DqtiqbOK7vo&t=8s
https://m.youtube.com/watch?feature=youtu.be&v=KdW2VZz1goA
https://m.youtube.com/watch?feature=youtu.be&v=xA8v5vxKixs
https://m.youtube.com/watch?v=pY2zMSTKAcI
https://youtu.be/GXqo0b_fo8Y
ดูทุกคลิปในลิงค์ข้างล่าง
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2141409179464458&id=1665726367032744
ผมทานไป 8 วัน ซึ่งอยู่ระหว่างร่างกายกำลังปรับตัว จะมีคีโตฟลู อาการคีโตฟลูต้องศึกษาครับ กรณีของผมมันมีอะไรบางอย่างกวนใจที่หัวใจ ช่วงวันที่ 7-8 คิดแล้วไม่สบายใจเลยเลิกครับ
ไขมันไตรกลีเซอร ลดลงจาก 270 เป็น 104
ไขมัน HDL 36 ก่อนกินไม่ได้ตรวจค่านี้แต่คิดว่าคงอยู่40
เหตุที่ลดลงเพราะร่างกายเอาไปใช้กำจัด ไตรกลีเซอไรด์ด้วย ครับ
ไขมัน LDL จาก 120 เป็น 155
รุ่นพี่ผม ทานประมาณ 4 เดือน หุ่นเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน หน้าตอบ เอวเล็กลง ลดน้ำหนักไม่น่าต่ำกว่า 15 กิโล
ค่าเลือดที่ตรวจมา HDL 55 (ไม่ได้ออกกำลังกาย) LDL 135 ไตรกลีเซอร์ 84
เท่าที่ศึกษา กินไป 3-4 เดือน HDL สูงขึ้น และ LDL จะต่ำลง แต่ช่วงเดือนแรก LDL อาจจะสวิงขึ้นเท่าตัวได้ในเวลา 3 วัน
รุ่นพี่ผมที่เป็นหมอ เล่าให้ฟัง มันมีความเสี่ยง เรื่องตับ ไต เสื่อม และ ภาวะเลือดเป็นกรด อาจจะทำให้ โปรแตทเซียมในเลือดสูง ซึ่งทำให้หัวใจบีบตัวยากขึ้น ซึ่งเขาแนะนำผม ว่าของผมไม่ควรไปยุ่งเนื่องจาก หัวใจบีบตัวต่ำอยู่แล้ว ไม่แข็งแรงเท่าคนปกติ เลี่ยงไว้ดีกว่า
ผมไม่แน่ใจโดนขู่เรื่องภาวะโยโย่ กันมากรึเปล่า เพราะเห็นคนที่ลดความอ้วนสำเร็จมากมาย คือบางครั้งฟังๆ เหมือน โจมตี เอาคนทำไม่สำเร็จที่ ซึ่งส่วนน้อยมา โจมตี เหมือนบอกออกกำลังหัวใจวายตาย แปลว่าออกกำลังกายไม่ดี
ภาวะโยโย่ คือ ภาวะที่การเผาผลาญต่ำ อาจจะการโหยแป้ง หลังจากที่ลดน้ำหนักถึงเป้า ควรควบคุมอาหารต่อ โดย กินมากกว่า BRM มาตราฐาน และ ใช้การออกกำลังกายหักล้าง ใช้เวลา 2-3 เดือนให้ร่างกายปรับสมดุลเข้าสู่ปกติ มันเหมือนรักษาโรค เป็นโรคเข้าโปรแกรมรักษา ต้องควบคุม พอให้แล้ว ค่อยๆปรับร่างกายเข้าสู่ภาวะปกติ
ไขมันไตรกลีเซอไรด์เกิดจากกินแป้งมากเกินไป ส่วนที่เกินเปลี่ยนเป็นไขมัน ลดการกินข้าวและแป้ง
เรื่องความดันสามารถรักษาโดยไม่ใช้ยาได้
ผักสด กินสด หรือ ปั่นผักสดผสมผลไม้ กินพร้อมกาก ทำได้ทำ ถ้าปลูกผักเองได้ยิ่งดี เป็นงานอดิเรกคลายเครียดได้ดี ครับ
ข้าวหรือ แป้ง จำเป็นต้องมี เพราะใช้ควบคู่กับการดึงพลังงานไขมันสะสมมาใช้ แต่กินมากไปมันจะเหลือแล้วเปลี่ยนไขมัน ไขมันเอาออกยาก กินมากก็เพิ่มความยาก
ข้าว หรือ แป้ง รวม 1.5 ทัพพีต่อมื้อ ทานเฉพาะมื้อเช้าและเที่ยง
โปรตีน เลือกทาน ไข่ขาว ปลา อกไก่ น่องไก่ มื้อเย็นควรมีโปรตีนบ้าง เวลานอนร่างกายจะเอาโปรตีนไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และ สร้างกล้ามเนื้อ
ไขมัน เลือกทานไขมันดี ปลา ไข่แดงวันละ ไม่เกิน 1 ฟอง น้ำมันมะกอก ถั่วแอลมอนล์
การออกกำลังกายที่ดึงเอาออกไขมันที่สะสมมาใช้มากที่สุดคือการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ เดินเร็ว หรือ วิ่งช้า ๆแบบต่อเนื่องไม่หยุด ลากยาว 60 -150 นาที นาทีที่ 31 เป็นต้นไป ร่างกายจะใช้พลังงานจากไขมันที่สะสมเป็นส่วนใหญ่ และ ใช้ไกลโคลเจนที่ได้จากแป้ง บางส่วน
ถ้าไกลโคลเจนหมด ออกเกิน 150 นาที ร่างกายจะเริ่มดึงโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้
แบ่งเวลา บางวัน เล่นเวท หรือ weight body ได้ด้วยก็ดี
ฟังคลิปครับ จะได้เข้าใจในรายละเอียด
https://m.youtube.com/watch?v=E6y7YpHufps&t=21s
https://m.youtube.com/watch?v=DqtiqbOK7vo&t=8s
https://m.youtube.com/watch?feature=youtu.be&v=KdW2VZz1goA
https://m.youtube.com/watch?feature=youtu.be&v=xA8v5vxKixs
https://m.youtube.com/watch?v=pY2zMSTKAcI
https://youtu.be/GXqo0b_fo8Y
ดูทุกคลิปในลิงค์ข้างล่าง
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2141409179464458&id=1665726367032744
แสดงความคิดเห็น
สูตรลดน้ำหนักด้วยการทานไขมัน(คีโตไดเอ็ท) สงสัยครับ ?
1.คนที่ไปตรวจเลือดแล้วพบว่ามีค่าไขมันในเลือดสูง , ค่าไตรกลีเซอร์ไรด์สูง , ค่าคลอเลสเตอรัลสูง แบบนี้ทานคีโตได้รึเปล่าครับ?
2.คนที่เป็นโรคความดันสูง (ทานยาลดความดัน) ทานคีโตได้มั๊ยครับ?
3.ทานคีโตต้องทานกี่เดือนครับ? ถ้านน.ลดลงจนเราพอใจแล้ว เมื่อเลิกทานคีโต แล้วกลับไปทานอาหารปกติ(มีคาร์โบไฮเดรต) จะเกิดภาวะโยโย่เอฟเฟคมั๊ยครับ (อันนี้ผมกลัวที่สุด)
ขอบคุณครับ