จขกท. เริ่มวิ่งมาครบ 6 เดือนเมื่อวานนี้ อยากมารีวิว ว่าผ่านอะไรมาบ้าง และได้อะไรกลับมาบ้าง หลังจากแบกร่างออกไปวิ่ง
เริ่มต้นของแรงบันดาลใจในการวิ่ง เกิดจากหนังสือ คิดแบบยิว ทำแบบญี่ปุ่น จขกท.ชอบอ่านหนังสือแนวนี้อยู่แล้ว
ในหนังสือเล่มนี้ เศรษฐีชาวยิว ได้บอกกับนักศึกษาชาวญี่ปุ่นประมาณว่า คนเราใช้เงินที่หามาได้ ไปช็อปปิ้ง ไปเที่ยว เพื่อจะสนองความต้องการที่ขาดไป หรือเพื่อคลายความเครียดที่เกิดจากการทำงานหาเงินของบุคคลนั้น ทั้งๆที่ที่จริงแล้ว มีหลายสิ่ง หลายอย่าง ที่ทำได้โดยไม่ต้องใช้เงิน หนึ่งในนั้น คือการก้าวขาออกไปวิ่ง พออ่านถึงตรงนี้เลยตัดสินใจออกวิ่ง ได้ฤกษ์งามยามดี คือวันเกิดตัวเอง
จขกท.สูง 160 ซม. น้ำหนักบวมมาที่ 55 กก. ณ วันที่เริ่มวิ่ง ก็ไม่ได้อ้วนมากมาย แต่รอบเอวหนามาก รอบเอวประมาณ 29.5 นิ้ว สะโพก 37 นิ้ว (ไม่รู้ตัวว่าอ้วน เพราะปกติ ใส่ชุดเดรส เอวจั๊มตลอด มารู้ตัวอีกที วันที่ยัดยีนส์เก่าๆไม่ลง 55)
ออกวิ่ง คิดในใจตอนแรก ก็แค่ก้าวขาไปวิ่งๆไง คงไม่อะไรหรอก การวิ่งเป็นอะไรที่ไม่เคยชอบเลย ไปวันแรก จับเวลา 30 นาที คิดในใจว่าแค่นี้พอ แป๊บเดียว วิ่งไปวิ่งมา โหยยยย เหนื่อยมาก เหนื่อยจริงๆ ทำไมเวลามันผ่านไปช้าจังเนี่ย สุดท้าย วิ่งได้ 10 นาที ไม่ไหว ที่เหลือเดินเอา เดี๋ยวเสียความตั้งใจ วันต่อๆมา ลากร่างออกไปวิ่ง วิ่ง 3 วัน พัก 1 วัน ช่วงแรกๆ ในหัวนี่คิดตลอดเวลา 3วันยังว๊า 555
วิ่งเสร็จ กลับมาเวทต่อ30นาที และควบคุมอาหารร่วมด้วย ไม่ได้คลีนจ๋า แต่ลดแป้ง งดน้ำหวาน งดวิปครีม งดเติมเครื่องปรุง
-ครบ7วันมาชั่งน้ำหนัก อืม..ไม่ลด
-1 เดือนผ่านไป เริ่มวิ่งได้ทนขึ้น เพิ่มเวลาเป็น 40 นาที แต่มาชั่งน้ำหนัก ก็ยังไม่ลด แต่เรารู้สึกตัวว่า มันเฟิร์มขึ้นนะ
พอช่วงนี้แหละ-3เดือน รู้สึกท้อ และขี้เกียจมาก เพื่อนในกลุ่ม เริ่มแซว ไปวิ่งทุกวัน ผอมยังล่ะ แล้วก็หัวเราะคิกคัก โคตรเหนื่อย โคตรท้อเลย วิ่งไป ขี้เกียจไป แต่ก็พยายามลากร่างกายตัวเองออกไปวิ่ง เพิ่มเวลาวิ่งเป็น 50 นาที เลยหาเพื่อนที่ใช้แอปNike run แอดเป็นเพื่อน รู้สึกกระตุ้นตัวเองได้ดีขึ้น มีแรงออกไปวิ่ง เดี๋ยวได้เป็นที่บ๊วยของกลุ่ม ช่วงนี้ไม่ชั่งน้ำหนักเลย แต่รู้สึกว่าเราผอมลงหน่อยนึงแล้วนะ
-เข้าเดือนที่ 4-ปัจจุบัน เพิ่มเวลาเป็น 60 นาที ช่วงนี้เริ่มเสพติดการวิ่ง รู้สึกดี หลังจากเหงื่อออกเยอะๆ ช่วงนี้ไม่สนแล้วว่า น้ำหนักจะลดหรือเปล่า วันไหนไม่ได้ไปวิ่ง ก็ต้องเล่นเวทอยู่ที่บ้าน ให้เหงื่อออก
ตอนนี้ ใส่เสื้อผ้าเก่าๆได้แล้ว เพื่อนของสามีในกลุ่มที่เคยหัวเราะคิกคัก ก็เริ่มเข้ามาชม ว่าหุ่นตอนนี้ดีมากเลย เฟิร์มมาก ช่วยแนะนำวิธีหน่อย ^^
สิ่งที่ได้รับกลับมาหลังจากหอบร่างกายออกไปวิ่ง
1.สุขภาพ ปกติทานยาแก้แพ้ทุกวัน ป่วยบ่อย ตอนนี้ไม่ค่อยได้ทานยาแล้ว ร่างกายแข็งแรงขึ้นมาก
2.ความดัน ปกติความดันต่ำ หน้ามืดบ่อย ตอนนี้อาการนั้นไม่มีแล้ว
3.อัตราการเต้นของหัวใจ Resting Heart Rate จาก 78 ตอนนี้ 59 BPM
4.ไขมันดีจาก 38 ตอนนี้ 78 mg/dl
5.น้ำหนักชั่งเมื่อวาน เหลือ 51.5 กก. จาก 55 กก.
6.รอบเอว เหลือ 25.5 นิ้ว จาก 29.5 นิ้ว
7.มีเพื่อนใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ คนที่ไปเจอ ส่วนใหญ่จะเป็นวัยกลางคน และรักสุขภาพ ตอนนี้กลายเป็นมีเพื่อนน่ารักๆเพิ่มมาเยอะเลย เราย้ายตามสามีมาอยู่ที่นี่ ไม่มีเพื่อน ปกติชีวิตจะมีแค่ลูกและครอบครัว ตอนนี้เลยมีเพื่อนเพิ่มขึ้น เป็นผลพลอยได้ที่ดีมากๆ
8.สร้างความมั่นใจเพิ่มขึ้น
สุดท้ายนี้ อยากให้กำลังใจทุกคนที่เริ่มวิ่งหรือเริ่มออกกำลังกายค่ะ ช่วงแรกๆอาจจะไม่เห็นผล หรือเห็นผลน้อยมาก
และอาจจะมีคำพูดของบางคนที่เข้ามาทำให้รู้สึกท้อ แต่อย่าเพิ่งถอดใจ การออกกำลังกายมันก็เหมือนเป็นการลงทุนระยะยาว ผลที่ได้ใช้เวลานานหน่อยแต่มั่นคงกว่า อย่าพึ่งท้อกับตัวเลขบนตาชั่ง ทำสม่ำเสมอ ทำซ้ำๆ เห็นผลแน่นอน แล้วจะรู้สึกภูมิใจกับผลที่ได้รับค่ะ ^^
วิ่งครบ 6 เดือน ได้อะไรบ้าง มาดูกัน
เริ่มต้นของแรงบันดาลใจในการวิ่ง เกิดจากหนังสือ คิดแบบยิว ทำแบบญี่ปุ่น จขกท.ชอบอ่านหนังสือแนวนี้อยู่แล้ว
ในหนังสือเล่มนี้ เศรษฐีชาวยิว ได้บอกกับนักศึกษาชาวญี่ปุ่นประมาณว่า คนเราใช้เงินที่หามาได้ ไปช็อปปิ้ง ไปเที่ยว เพื่อจะสนองความต้องการที่ขาดไป หรือเพื่อคลายความเครียดที่เกิดจากการทำงานหาเงินของบุคคลนั้น ทั้งๆที่ที่จริงแล้ว มีหลายสิ่ง หลายอย่าง ที่ทำได้โดยไม่ต้องใช้เงิน หนึ่งในนั้น คือการก้าวขาออกไปวิ่ง พออ่านถึงตรงนี้เลยตัดสินใจออกวิ่ง ได้ฤกษ์งามยามดี คือวันเกิดตัวเอง
จขกท.สูง 160 ซม. น้ำหนักบวมมาที่ 55 กก. ณ วันที่เริ่มวิ่ง ก็ไม่ได้อ้วนมากมาย แต่รอบเอวหนามาก รอบเอวประมาณ 29.5 นิ้ว สะโพก 37 นิ้ว (ไม่รู้ตัวว่าอ้วน เพราะปกติ ใส่ชุดเดรส เอวจั๊มตลอด มารู้ตัวอีกที วันที่ยัดยีนส์เก่าๆไม่ลง 55)
ออกวิ่ง คิดในใจตอนแรก ก็แค่ก้าวขาไปวิ่งๆไง คงไม่อะไรหรอก การวิ่งเป็นอะไรที่ไม่เคยชอบเลย ไปวันแรก จับเวลา 30 นาที คิดในใจว่าแค่นี้พอ แป๊บเดียว วิ่งไปวิ่งมา โหยยยย เหนื่อยมาก เหนื่อยจริงๆ ทำไมเวลามันผ่านไปช้าจังเนี่ย สุดท้าย วิ่งได้ 10 นาที ไม่ไหว ที่เหลือเดินเอา เดี๋ยวเสียความตั้งใจ วันต่อๆมา ลากร่างออกไปวิ่ง วิ่ง 3 วัน พัก 1 วัน ช่วงแรกๆ ในหัวนี่คิดตลอดเวลา 3วันยังว๊า 555
วิ่งเสร็จ กลับมาเวทต่อ30นาที และควบคุมอาหารร่วมด้วย ไม่ได้คลีนจ๋า แต่ลดแป้ง งดน้ำหวาน งดวิปครีม งดเติมเครื่องปรุง
-ครบ7วันมาชั่งน้ำหนัก อืม..ไม่ลด
-1 เดือนผ่านไป เริ่มวิ่งได้ทนขึ้น เพิ่มเวลาเป็น 40 นาที แต่มาชั่งน้ำหนัก ก็ยังไม่ลด แต่เรารู้สึกตัวว่า มันเฟิร์มขึ้นนะ
พอช่วงนี้แหละ-3เดือน รู้สึกท้อ และขี้เกียจมาก เพื่อนในกลุ่ม เริ่มแซว ไปวิ่งทุกวัน ผอมยังล่ะ แล้วก็หัวเราะคิกคัก โคตรเหนื่อย โคตรท้อเลย วิ่งไป ขี้เกียจไป แต่ก็พยายามลากร่างกายตัวเองออกไปวิ่ง เพิ่มเวลาวิ่งเป็น 50 นาที เลยหาเพื่อนที่ใช้แอปNike run แอดเป็นเพื่อน รู้สึกกระตุ้นตัวเองได้ดีขึ้น มีแรงออกไปวิ่ง เดี๋ยวได้เป็นที่บ๊วยของกลุ่ม ช่วงนี้ไม่ชั่งน้ำหนักเลย แต่รู้สึกว่าเราผอมลงหน่อยนึงแล้วนะ
-เข้าเดือนที่ 4-ปัจจุบัน เพิ่มเวลาเป็น 60 นาที ช่วงนี้เริ่มเสพติดการวิ่ง รู้สึกดี หลังจากเหงื่อออกเยอะๆ ช่วงนี้ไม่สนแล้วว่า น้ำหนักจะลดหรือเปล่า วันไหนไม่ได้ไปวิ่ง ก็ต้องเล่นเวทอยู่ที่บ้าน ให้เหงื่อออก
ตอนนี้ ใส่เสื้อผ้าเก่าๆได้แล้ว เพื่อนของสามีในกลุ่มที่เคยหัวเราะคิกคัก ก็เริ่มเข้ามาชม ว่าหุ่นตอนนี้ดีมากเลย เฟิร์มมาก ช่วยแนะนำวิธีหน่อย ^^
สิ่งที่ได้รับกลับมาหลังจากหอบร่างกายออกไปวิ่ง
1.สุขภาพ ปกติทานยาแก้แพ้ทุกวัน ป่วยบ่อย ตอนนี้ไม่ค่อยได้ทานยาแล้ว ร่างกายแข็งแรงขึ้นมาก
2.ความดัน ปกติความดันต่ำ หน้ามืดบ่อย ตอนนี้อาการนั้นไม่มีแล้ว
3.อัตราการเต้นของหัวใจ Resting Heart Rate จาก 78 ตอนนี้ 59 BPM
4.ไขมันดีจาก 38 ตอนนี้ 78 mg/dl
5.น้ำหนักชั่งเมื่อวาน เหลือ 51.5 กก. จาก 55 กก.
6.รอบเอว เหลือ 25.5 นิ้ว จาก 29.5 นิ้ว
7.มีเพื่อนใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ คนที่ไปเจอ ส่วนใหญ่จะเป็นวัยกลางคน และรักสุขภาพ ตอนนี้กลายเป็นมีเพื่อนน่ารักๆเพิ่มมาเยอะเลย เราย้ายตามสามีมาอยู่ที่นี่ ไม่มีเพื่อน ปกติชีวิตจะมีแค่ลูกและครอบครัว ตอนนี้เลยมีเพื่อนเพิ่มขึ้น เป็นผลพลอยได้ที่ดีมากๆ
8.สร้างความมั่นใจเพิ่มขึ้น
สุดท้ายนี้ อยากให้กำลังใจทุกคนที่เริ่มวิ่งหรือเริ่มออกกำลังกายค่ะ ช่วงแรกๆอาจจะไม่เห็นผล หรือเห็นผลน้อยมาก
และอาจจะมีคำพูดของบางคนที่เข้ามาทำให้รู้สึกท้อ แต่อย่าเพิ่งถอดใจ การออกกำลังกายมันก็เหมือนเป็นการลงทุนระยะยาว ผลที่ได้ใช้เวลานานหน่อยแต่มั่นคงกว่า อย่าพึ่งท้อกับตัวเลขบนตาชั่ง ทำสม่ำเสมอ ทำซ้ำๆ เห็นผลแน่นอน แล้วจะรู้สึกภูมิใจกับผลที่ได้รับค่ะ ^^